ขอความรู้เเนวทางสู้คดีครับ เป็นเรื่องของเพื่อนสนิทผม เหตุการณ์คือ
เพื่อนขับรถยนต์ออกมาจากไร่เป็นทางเล็กๆขึ้นถนนคอนกรีตในหมู่บ้านเพื่อจะเลี้ยวขวา ห่างจากจุดที่ทางจากไร่มาบรรจบถนนทางขวาเป็นทางโค้งมุมอับ รถกระบะเพื่อนผมเลี้ยวขวาขึ้นมาจนครบ4ล้อหัวรถอยู่เลนซ้ายเเล้วเเต่กระบะยังอยู่ทางเลนขวา มีรถมอเตอร์ไซค์ขับมาด้วยความเร็วออกจากโค้งอยู่ทางเลนขวาของผู้ขี่เเละเบรคไม่ทันชนเข้ากับรถเพื่อนบริเวณประตูคนขับ
คนเจ็บถูกส่งโรงพยาบาลเพื่อนผมได้ดำเนินการค่าใช้จ่ายจาก พรบ.เเละให้เงินส่วนตัวจำนวนไม่มากเวลาไปเยี่ยมเนื่องจากตัวเองก็ไม่ค่อยจะมี ตกลงกับภรรยาคนเจ็บไว้ที่โรงพักลงบันทึกประจำวันไว้ว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาตามวงเงินของ พรบ.รถยนต์เเละซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ให้
ต่อมาญาติคนเจ็บเรียกร้องเงินที่เกินมาจากที่ตกลงลงบันทึกประจำวันไว้ โดยขอเรียกเงินอีก30,000 บาท ผมได้โทรคุยเเทนขอเจรจาลดให้เป็น15,000 บาท เนื่องจากเพื่อนผมไม่มีเงินเเละเเนวทางเห็นว่าคนเจ็บก็ประมาท ทางภรรยาคนเจ็บที่ผมคุยด้วยไม่ยอมรับเเละโบ้ยให้ไปคุยกับพ่อคนเจ็บ จึงไม่ได้คุยกันอีก
ต่อมาทางครอบครัวคนเจ็บเเจ้งความเอาเรื่องโดยเรียกค่าเสียหายเป็น 150,000 บาท วันที่ไปคุยกันตำรวจได้นำภาพที่ถ่ายไว้จากที่เกิดเหตุ เเละพูดในเเนวทางที่ว่าจะสู้เหรอในเมื่อมันชัดเจน(จากรูปที่ตำรวจถ่ายมา ดูไม่รู้เรื่องเลย เห็นเเค่จุดที่รถล้ม ไม่มีภาพเเนวกว้างให้เห็นว่าเป็นมุมอับ) ผมได้พุดต่อหน้าตำรวจ คนเจ็บ ญาติคนเจ็บว่า เเบบนี้มันประมาทร่วมไม่ใช่เหรอทำไมมาเรียกร้อง ทางญาติคนเจ็บได้โวยวายทันทีว่าเป็นเพราะเพื่อนผมประมาทไม่ใช่ลูกเค้าประมาท เเละตำรวจดูท่าทางคือเข้าข้างคนเจ็บ ผมจึงตัดบทไม่ให้คุยอะไรกันเเล้วให้ฟ้องไป ตำรวจจึงตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทกับเพื่อนผม เเละทางญาติคนเจ็บจะฟ้องเเพ่งเอาเงิน150,000 บาท
ตำรวจได้ให้ญาติคนเจ็บกลับไป เเละทำการสอบสวนเพื่อนผม เพื่อนได้ให้การตามความจริงว่า เมื่อขับรถขึ้นมาบนถนนเเล้วคนเจ็บขี่มาด้วยความเร็วพ้นโค้งมาชน ตำรวจได้ถามว่า"น้องคิดเหรอว่าให้การเเบบนี้จะมีประโยชน์อะไร" ผมเริ่มมีอารมณ์กับท่าทีของตำรวจ จึงบอกไปว่า"พี่พิมพ์ตามคำให้การไปล่ะกัน ไปสู้กันในศาล"
หลังเกิดเหตุเพื่อนผมได้ไปเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาล เเต่เจอญาติที่จะคุยเเต่เรื่องเงิน เพื่อนผมจึงเลี่ยงๆไม่ไปอีก เเละข้อนี้โดนญาติคนเจ็บเอามาพูดต่อหน้าตำรวจว่าเพื่อนผมไม่มีน้ำใจที่จะไปดู
เรื่องการตกลงค่าเสียหายที่ลงบันทึกประจำวันไว้ วันที่ไปเจรจากันเรื่องญาติคนเจ็บฟ้อง ผมได้ทักกับตำรวจว่าก็ตกลงกันเเล้วเรียบร้อย เงินจำนวนนี้คือที่เรียกร้องนอกเหนือไม่ใช่หรือ ตำรวจเจ้าของคดีเหมือนจะเพิ่งเห็น เลยก้มอ่านบันทึกดังกล่าว ทางผมได้ขอคัดลอกมา เเต่ตำรวจบอกให้ไม่ได้ในวันนี้
หลักฐานของตำรวจมี รูปถ่ายที่เกิดเหตุเเบบไม่ชัดเจนคือมีเเค่รูปถ่ายรถยนต์ที่ถูกชนเเละจุดที่มอเตอร์ไซค์ล้ม
หลักฐานของฝ่ายเพื่อนผมมี พยานบุคคลที่เปิดร้านค้าอยู่ตรงโค้งนั้น เเละผมได้จำลองเหตุการณ์ถ่ายภาพมุมมองคนขับออกจากไร่ เเละมุมมองจากคนขี่รถเข้าโค้งเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า หากคนเจ็บขี่รถมาที่ความเร็ว40-50 กม.ต่อ ชม.ตามที่ให้การ ยังไงก็จะไม่หลุดออกไปเลนขวาของผู้ขี่เเละจะเบรคทันเเน่นอน ทั้งมีพยานในหมู่บ้านที่บอกเล่าว่า ปกติคนเจ็บขี่รถเร็วเมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็มีเหตุขี่ชนกัน
ผมขอรบกวนผู้รู้ครับว่าเเนวทางที่เพื่อนผมจะใช้ต่อสู้ควรมีอะไรเพิ่มเติม ขออภัยที่ผมไม่สามารถลงรูปได้ตอนนี้ผมลงมาทำงานอยู่ในทะเลไม่สามารถนำรูปเข้าคอมพิวเตอร์ได้ ขอบคุณครับ
เพิ่มเติมอาการคนเจ็บ บาดเจ็บขั้นสาหัส ใบหน้าทิ่มเข้าไปกับซี่ของลูกกรงกระบะรถ ตอนนี้แผลหายเเต่อาการไม่เป็นปกติเหมือนเดิมต้องบล๊อกคอไว้ครับ
ขอคำปรึกษาเเนวทางการสู้คดีขับรถโดยประมาททั้งที่มันควรจะเป็นประมาทร่วม
เพื่อนขับรถยนต์ออกมาจากไร่เป็นทางเล็กๆขึ้นถนนคอนกรีตในหมู่บ้านเพื่อจะเลี้ยวขวา ห่างจากจุดที่ทางจากไร่มาบรรจบถนนทางขวาเป็นทางโค้งมุมอับ รถกระบะเพื่อนผมเลี้ยวขวาขึ้นมาจนครบ4ล้อหัวรถอยู่เลนซ้ายเเล้วเเต่กระบะยังอยู่ทางเลนขวา มีรถมอเตอร์ไซค์ขับมาด้วยความเร็วออกจากโค้งอยู่ทางเลนขวาของผู้ขี่เเละเบรคไม่ทันชนเข้ากับรถเพื่อนบริเวณประตูคนขับ
คนเจ็บถูกส่งโรงพยาบาลเพื่อนผมได้ดำเนินการค่าใช้จ่ายจาก พรบ.เเละให้เงินส่วนตัวจำนวนไม่มากเวลาไปเยี่ยมเนื่องจากตัวเองก็ไม่ค่อยจะมี ตกลงกับภรรยาคนเจ็บไว้ที่โรงพักลงบันทึกประจำวันไว้ว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาตามวงเงินของ พรบ.รถยนต์เเละซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ให้
ต่อมาญาติคนเจ็บเรียกร้องเงินที่เกินมาจากที่ตกลงลงบันทึกประจำวันไว้ โดยขอเรียกเงินอีก30,000 บาท ผมได้โทรคุยเเทนขอเจรจาลดให้เป็น15,000 บาท เนื่องจากเพื่อนผมไม่มีเงินเเละเเนวทางเห็นว่าคนเจ็บก็ประมาท ทางภรรยาคนเจ็บที่ผมคุยด้วยไม่ยอมรับเเละโบ้ยให้ไปคุยกับพ่อคนเจ็บ จึงไม่ได้คุยกันอีก
ต่อมาทางครอบครัวคนเจ็บเเจ้งความเอาเรื่องโดยเรียกค่าเสียหายเป็น 150,000 บาท วันที่ไปคุยกันตำรวจได้นำภาพที่ถ่ายไว้จากที่เกิดเหตุ เเละพูดในเเนวทางที่ว่าจะสู้เหรอในเมื่อมันชัดเจน(จากรูปที่ตำรวจถ่ายมา ดูไม่รู้เรื่องเลย เห็นเเค่จุดที่รถล้ม ไม่มีภาพเเนวกว้างให้เห็นว่าเป็นมุมอับ) ผมได้พุดต่อหน้าตำรวจ คนเจ็บ ญาติคนเจ็บว่า เเบบนี้มันประมาทร่วมไม่ใช่เหรอทำไมมาเรียกร้อง ทางญาติคนเจ็บได้โวยวายทันทีว่าเป็นเพราะเพื่อนผมประมาทไม่ใช่ลูกเค้าประมาท เเละตำรวจดูท่าทางคือเข้าข้างคนเจ็บ ผมจึงตัดบทไม่ให้คุยอะไรกันเเล้วให้ฟ้องไป ตำรวจจึงตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทกับเพื่อนผม เเละทางญาติคนเจ็บจะฟ้องเเพ่งเอาเงิน150,000 บาท
ตำรวจได้ให้ญาติคนเจ็บกลับไป เเละทำการสอบสวนเพื่อนผม เพื่อนได้ให้การตามความจริงว่า เมื่อขับรถขึ้นมาบนถนนเเล้วคนเจ็บขี่มาด้วยความเร็วพ้นโค้งมาชน ตำรวจได้ถามว่า"น้องคิดเหรอว่าให้การเเบบนี้จะมีประโยชน์อะไร" ผมเริ่มมีอารมณ์กับท่าทีของตำรวจ จึงบอกไปว่า"พี่พิมพ์ตามคำให้การไปล่ะกัน ไปสู้กันในศาล"
หลังเกิดเหตุเพื่อนผมได้ไปเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาล เเต่เจอญาติที่จะคุยเเต่เรื่องเงิน เพื่อนผมจึงเลี่ยงๆไม่ไปอีก เเละข้อนี้โดนญาติคนเจ็บเอามาพูดต่อหน้าตำรวจว่าเพื่อนผมไม่มีน้ำใจที่จะไปดู
เรื่องการตกลงค่าเสียหายที่ลงบันทึกประจำวันไว้ วันที่ไปเจรจากันเรื่องญาติคนเจ็บฟ้อง ผมได้ทักกับตำรวจว่าก็ตกลงกันเเล้วเรียบร้อย เงินจำนวนนี้คือที่เรียกร้องนอกเหนือไม่ใช่หรือ ตำรวจเจ้าของคดีเหมือนจะเพิ่งเห็น เลยก้มอ่านบันทึกดังกล่าว ทางผมได้ขอคัดลอกมา เเต่ตำรวจบอกให้ไม่ได้ในวันนี้
หลักฐานของตำรวจมี รูปถ่ายที่เกิดเหตุเเบบไม่ชัดเจนคือมีเเค่รูปถ่ายรถยนต์ที่ถูกชนเเละจุดที่มอเตอร์ไซค์ล้ม
หลักฐานของฝ่ายเพื่อนผมมี พยานบุคคลที่เปิดร้านค้าอยู่ตรงโค้งนั้น เเละผมได้จำลองเหตุการณ์ถ่ายภาพมุมมองคนขับออกจากไร่ เเละมุมมองจากคนขี่รถเข้าโค้งเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า หากคนเจ็บขี่รถมาที่ความเร็ว40-50 กม.ต่อ ชม.ตามที่ให้การ ยังไงก็จะไม่หลุดออกไปเลนขวาของผู้ขี่เเละจะเบรคทันเเน่นอน ทั้งมีพยานในหมู่บ้านที่บอกเล่าว่า ปกติคนเจ็บขี่รถเร็วเมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็มีเหตุขี่ชนกัน
ผมขอรบกวนผู้รู้ครับว่าเเนวทางที่เพื่อนผมจะใช้ต่อสู้ควรมีอะไรเพิ่มเติม ขออภัยที่ผมไม่สามารถลงรูปได้ตอนนี้ผมลงมาทำงานอยู่ในทะเลไม่สามารถนำรูปเข้าคอมพิวเตอร์ได้ ขอบคุณครับ
เพิ่มเติมอาการคนเจ็บ บาดเจ็บขั้นสาหัส ใบหน้าทิ่มเข้าไปกับซี่ของลูกกรงกระบะรถ ตอนนี้แผลหายเเต่อาการไม่เป็นปกติเหมือนเดิมต้องบล๊อกคอไว้ครับ