วิเคราะห์ความพ่ายแพ้หงส์แดง... Jackie คนับ

คลิปประกอบความพ่ายแพ้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



         บื๊กแมตช์คู่นี้ ได้รับความสนใจไปทั่วโลกแถมเล่นเร็วอีกต่างหาก....เชื่อว่าแฟนบอลไม่ผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ 45 นาทีแรก มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย

        โดยสถิติแล้วแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอ ลิเวอร์พูลในบ้านล่าสุด 8 นัด ชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 1

         เกมคู่นี้ได้ทดสอบกึ๊นของโค้ชสองฝั่ง และตัวผู้เล่นอย่างว่าเมื่อต้องเจอทีมในเกรดเดียวกันจะออกมาแบบไหนและอย่างไร

        คู่นี้คือทีมในกลุ่มทอป 6 ของลีก แมนฯซิตี้ ทีมลุ้นแชมป์และเต็ง 1 ส่วนลิเวอร์พูลเต็ง 4

         ก่อนเกม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องจัดทีมตามสภาพแนวรับด้วยเมื่อ กอมปะนี ไม่พร้อมลงสนามเจ็บน่อง ทำให้เขาต้องปรับกองหลังเป็น 3 หลังจากนัดชนะบอร์นมัธใช้หลัง 4 มานัดนี้ปรับตามสภาพและเข้ากับแทกติกเกมรุกหงส์​แดงด้วย

        จอห์น สโตน, ออตาเมนดี และ ดานิโล มายืนเซนเตอร์ 3 คน วิงแบกสองข้าง เมนดี้ และ วอล์คเกอร์ กลางใช้ แฟร์นานดินโญ , เควิน เดอ บรอยน์ และ ดาบิด ซิลบา ใช้หน้าคู่เลย กุน กับ เชซุส เป็นระบบ 3-3-2-2 หรือ 3-5-2

     ส่วน คลอปป์ ใช้ระบบเดิม 4-3-3 แนวรับเปลี่ยน เดยัน ลอฟเรน พัก แล้วใช้ รักนา คลาวาน แทน ประตู มินโญเลต์ เหมือนเดิม ส่วนกลางและหน้าชุดขาประจำ

     เกม 20 นาทีแรก ทรงๆ สูสี ออกเบียด รอจังหวะ

     นัดนี้ต้อง ชม เป๊ป บุกไม่ได้ไม่รีบ รอดักจังหวะ กลางคุมพื้นที่ บีบได้บางจังหวะ ส่วนหงส์ ก็ถอนมาต่ำในบางจังหวะ รอพลาดแล้วใช้หน้าที่มีความเร็วโจมตี ซึ่งได้ผล ทาง ซาลาห์ สร้างความปั่นป่วน ทั้งเรียกฟาวล์ และพาบอลเข้าเขตโทษได้

     แต่......สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นคือ การเปิดบอลเข้าในทำไม่ดี

    ขณะที่แมนฯซิตี้ รอจังหวะอยู่นั้น พวกเขาได้โอกาส จากจังหวะที่หงส์แดงแย่งบอลตรงกลางไม่ได้ บอลถึงเท้า เควิน เดอ บรอยน์ จอมแอสสิสต์ แห่งพรีเมียร์ลีกตัวจริง ปล่อยให้ กุน อเกรโร เดี่ยว จังหวะนั้น คลาวาน ห้อยต่ำ  หลังดันขึ้นหมดแล้ว

    กุน เดี่ยว ก็เรียบร้อย 1-0 นาทีที่ 24

     จากนั้นหงส์มีโอกาสจาก ซาลาห์ ได้บอลทั่ มาเน จ่ายหลุดเดี่ยว แต่ ซาลาห์ยิง ไม่ผ่านมือ เอแดร์สัน เอง

     สิ่งที่เกิดขึ้นใน 30 นาทีแรกคือ กองหลังสองฝั่งหลวมพอกัน ขึ้นกับการใช้ประโยชน์จากตรงนี้ ซึ่ง แมนฯซิตี้ทำได้ หงส์ ทำไม่ได้ในการจบสกอร์ อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ "แดนกลาง" ฝั่งแมนฯซิตี้ มีตัวทำลายเกม 1 คน ตัวเชื่อมเกมรุก 2 เป็นตัวสร้างสรรค์เกมทั้งคู่เลย คือ ซิลบา กับ เดอ บรอยน์

     หงส์แดง กลางสามคนไม่มีตัวสร้างสรรค์เกม มีตัวทำลายเกมคู่แข่งสามคน แต่ใน 30 นาทีแรกไม่สามารถทำลายเกมแดนกลางเรือใบได้ พอเสียบอล...บอลถึงกองหลังทันที

     จุดเปลี่ยนที่สำคัญมาถึงนาทีที่ 37 เมื่อ มาเน เดี่ยวถึงหน้าเขตโทษ เอแดร์สัน ออกมานอกเขตพยายามโหม่ง มาเน ยกเท้าจะเล่นบอลแต่กลายเป็นถีบคอ เอแดร์สัน ผู้ตัดสิน จอน มอสส์ ไม่ลังเลใจ แจกใบแดง

     เล่นอันตราย...ผมว่าผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกครับ ต้องแจก

    เหลือ 10 คนปั่วป่วนอยู่แถมทดเวลา 8 นาที แล้วมาโดนจุดสลบหงส์แดงคือการป้องกันลูกกลางกาศไม่ดีเป็นต้นทุน เดอ บรอยน์ ครอสเข้าหัว เชซุส เป็น 2-0 จนจบครึ่งแรก     

    ครึ่งหลัง...เจอร์เก้น คลอปป์ แก้เกม หลังสาม ถอน ชาน ลงมา แล้วเปลี่ยน อเลกส์ ออกส์เลด แชมเบอร์เลน แทน ซาลาห์ เกมไม่มีอะไรต่างจากเดิมเพราะ เรือใบ เล่นง่ายสุดๆ    ลูก 3 เป็นจังหวะง่ายๆของ แฟร์นานดินโญ จ่ายทะลุเซนเตอร์ ที่มี ชาน ยืน กับ มาติป

    กุน เดี่ยว ก่อนไหลให้ เชซุส แปง่ายๆ

    เกม โอเวอร์ อย่างเป็นทางการ

    จากนั้นเกมไม่มีอะไรน่าสนใจ นอกจากจะลุ้นว่าเรือใบจะยิงลูก 4 มั้ย

    ประเด็นจากเกมนัดนี้คือสิ่งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงจุดบอดของหงส์แดงในหลายจุด

    ผมมองแบบนี้ครับ แดนกลางมีนักเตะที่เล่นเหมือนกัน 3 คน คือ จินี, เฮนโด และ ชาน ในวันที่ทำลายเกมแดนกลางคู่แข่งได้ก็ดีไป ทำไมได้ ตีบตัน การรุกเกิดยากเพราะไม่ใช่พวกสร้างสรรค์เกม แบบมี คิลเลอร์ พาส, จ่ายแม่น หาช่องทำดี

    ปีที่แล้ว คลอปป์ แก้ด้วยการถอน คูตินโญ ลงมาเล่นกลางรุกเพื่อต้องการเพิ่มตัวสร้างสรรค์ และทำลายเกม แต่ คูตี้ ก็ไม่ได้อยากอยู่กับทีมต่อไป ตรงนี้ต้องแก้กันต่อว่าจะยังไงดี สำหรับแดนกลาง

    กองหลัง....ผมว่าทุกคนคิดเหมือนผมนะครับ

    การจัดระเบียบเกมรับไม่ดีมาตั้งนานละ ไม่มีการซื้อตัวใหม่มาเสริม ซึ่งก็ต้องใช้ตัวเดิมๆ คลาวาน (นึกว่าเล่นบอลวีไอพี), ลอฟเรน กับ มาติป พอไปได้ แต่เจอกองหน้าคลาสเอ ก็เรียบร้อยแล้ว

    แนวรุก...ฝากความหวังได้ดีสุด เร็ว ปรี๊ด ปร๊าด แข็งแกร่ง น่ากลัวสุดแล้วสำหรับลิเวอร์พูล แต่....แนวรุก 3 คนข้างหน้าไม่มีตัวปิดบัญชี ที่เด็ด ทีขาด ไม่มีหน้าเป้า หรือเบอร์ 9 แท้ๆ มีพวกคล่อง เร็ว

    ถึงจังหวะทีเด็ดทีขาด...มันไม่โป้ง ปิดบัญชี แต่ผมให้ผ่านเพราะถือว่าคือจุดแข็ง แค่ปรับเรื่องเด็ดขาดเท่านั้น

      ผมคิดว่า กองหลังกับแดนกลางเกมล่าสุดแสดงให้เห็นว่ายังไม่ดีเพียงพอ

    มันจะมีคำกล่าวที่ว่า เกมรุก ชนะในเกม ทำให้ได้ 3 แต้ม

    การป้องกัน ทำให้ทีมได้แชมป์

    แม้ลิเวอร์พูลไม่ใช่ทีมเต็งแชมป์ แต่ถ้าไม่ปรับกองหลังและแดนกลางให้มัน รัดกุม โดยเฉพาะเกมรับอันหละหลวมพลาดง่ายๆ

    มันคือปัญหาเดิมๆที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเลย

    คิดดูนะครับแมนฯซิตี้ เคยสอยลิเวอร์พูลมากกว่า 4-0 ในลีกเป็นครั้งแรกนับจากปี 1937 !!!!





ปล. 1 ขอขอบพระคุณ "Jackie ผมไม่ตลกด้วย" และ "เวปไซต์ siamsport" มา ณ ที่นี้
ปล. 2 เพื่อให้เพื่อนๆ ได้อ่านบทความอย่างสบายใจ ผมจึงขอแจ้งว่าผมได้คัดลอกต้นฉบับมาแบบเน้นๆ ไม่มีใส่สีตีไข่ลงไปแม้แต่นิดเดียว... ส่วนภาพและคลิปประกอบนั้นติดลิขสิทธิ์จากทาง siamsport ผมจึงต้องหามาเองคนับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่