ความแตกต่างในการเล่นเกมรับ ของทีมท้ายตารางเจลีกกับทีมทั่วๆไปในไทยลีก

ตลอดเวลา 90 นาที ในกรณีที่ทีมอยู่ในจังหวะการเล่นเกมรับและอีกฝ่ายเป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้ามา

ทีมไทยลีก จะเล่นเกมรับแบบไม่ค่อยกระตือรือร้น เน้นคุมโซนในแดนตัวเองมากจนเกินไป ยืนห่างคู่แข่งมากเกินไป คือไม่เคลื่อนตัวบีบพื้นที่กองหลังคู่แข่งแบบกดดันกันทั่วสนาม (ไม่รู้ว่าด้วยแท็คติคที่กลัวเหนื่อย เซฟแรง ความฟิตไม่ถึง หรือว่าขี้เกียจ) ทำให้คู่แข่งต่อบอลจากแดนหลังไปแดนกลางค่อนข้างง่ายดาย โดยจะถอยไปเรื่อยๆไม่เข้าแย่งบอลทันที จนถึงเขตแดนหลัง  มักจะเข้าตัดบอลเมื่อคู่แข่งเอาบอลมาถึงกองหลังแล้ว หรือบางทีแม้แต่กองหลังเองก็ยังไม่เข้าหาบอลอีกจะถอยไปเรื่อยๆ บางทีถอยหนีบอลจนคู่ต่อสู้ได้โอกาสยิง โดยเฉพาะเมื่อโดนคู่แข่งเลี้ยงจี้เข้าหาตัว ทำให้เวลาเล่นเกมรับไปกองกันอยู่หน้าปากประตูเต็มไปหมด และทัศนคติในการแย่งบอลหรือเข้าแท็คเคิ้ลมีปัญหา

ทีมเจลีก จะเล่นเกมรับกันตั้งแต่แดนหน้า แดนกลาง และแดนหลัง ถ้าไปดูซัปโปโรเล่น ทุกตำแหน่งพร้อมที่จะเล่นเกมรับหมด คือ เคลื่อนที่กดดันกองหลังคู่แข่ง และเคลื่อนที่ปิดการจ่ายบอล อ่านทางการจ่ายบอลของกองหลังไปยังกองกลางตลอดเวลา และจะเข้าแย่งบอลกันแบบถึงเนื้อถึงตัวตั้งแต่กองหน้ากองกลาง ไม่ต้องรอให้บอลไปถึงกองหลังแบบไทยลีก เพราะฉะนั้นการจ่ายบอลจากกองหลังไปกองกลางของทีมเจลีกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ต้องระมัดระวังและแม่นยำจริงๆ ผู้เล่นญี่ปุ่นทุกตำแหน่งพร้อมที่จะเข้าแย่งบอลหรือแท็คเคิ้ล

เวลาไปเจอทีมชั้นนำ ในเจลีก ทีมจากไทยจึงมักมีปัญหา และเล่นไม่ได้ง่ายเหมือนกับทีมในไทยลีก

หรือเอาง่ายๆ ชุด 23 ปีที่เราแพ้ญี่ปุ่น 0 4 นั้น ถ้าลองไปหาดู เกิดจากการกดดันในการเล่นเกมรับของญี่ปุ่นกันตั้งแต่กองหน้ายันกองหลัง
ทำให้เราเสียบอลจากการจ่ายบอลจากหลังไปกลางบ่อย เพราะทีมในลีกเราไม่เล่นเกมรับกดดันกันตั้งแต่กองกลางยันกองหน้าแบบในเจลีก
แสดงถึงการเล่นเกมรับของเราทั้งระบบมีปัญหามาก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ตัวอย่าง ประตูแรกกลางญี่ปุ่นหมายเลข 3 จ่ายบอลง่ายๆแบบที่แดนกลางเราไม่ได้กดดันอะไรเขาเลย ทั้งๆที่ผู้เล่นกองกลางทีมไทยก็อยู่ใกล้เบอร์ 3 นั้น
มากถ้าสไลด์บอล หรือ แท็คเคิ้ล น่าจะพอขวางการจ่ายบอลได้

หรือถ้าจะเอาแบบสั้นๆก็แบบท่านนี้อธิบายไว้นั่นล่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่