จะอยู่ทำงานต่อหรือลาออกดี

จขกท. อายุ 28 ปี ทำงาน it support บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมาได้ 3 ปีกว่าๆแล้ว โดยส่วนตัวไม่ได้จบสาย IT มาครับ จบวิศวะอิเล็กทรอนิกส์ เลยไม่มีพื้นฐานทางด้านไอทีเลยก็ว่าได้ ถามว่ามีความสุขในงานที่ทำมั้ย ขอตอบว่ามีครับ ได้ซ่อม PC Notebook แกะนั่นนี่ ลง Windows ลองลงโปรแกรมอะไรเล่นใหม่ๆ แต่ถ้าเป็นความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานแล้วล่ะก็ขอบอกว่า แย่มากๆเลยครับ คนในทีมส่วนใหญ่เป็นคนนิ่งถึงนิ่งมากที่สุด เป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่ค่อยช่วยเหลือคนในทีม วันๆไม่มีใครในทีมคุยกันเลย ปีนึงคุยกันนับคำได้ ตอนเราเข้ามาใหม่ๆก็ไม่ค่อยสอนงานอะไรเลย เหมือนกลัวว่าถ้าเรารู้ระบบงานและทำแทนเค้าได้หมด เค้าก็จะถูกจ้างออกไป ไม่มีหนทางทำกิน บวกกับอายุ 40 กว่ากันแล้วด้วย หน้าที่ที่ทำทุกวันนี้ยอมรับครับว่าทำได้น้อยมากจริงๆ วันๆทำแค่ซ่อมคอม แก้ปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับคอม ดูงาน Asset แล้วก็ดูแลระบบเมล์นิดหน่อยแค่นั้นเอง แต่ก็ทำมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราเป็นตัวหลักในการทำงานของทีม user ส่วนมากจะมาติดต่องานกับเราเพราะเราคุยง่ายกว่าพี่ๆในทีม ก็เลยค่อนข้างที่จะมีผลงานให้นายจ้างเห็น ส่วนโบนัสและการปรับเงินเดือน เราก็จะได้เยอะสุด แต่ด้วยฐานเงินเดือนที่น้อย ต่อให้ได้ % สูง ก็ยังปรับขึ้นไม่มาก พี่ในทีมที่เค้าได้เงินเดือนกัน เค้าได้เท่ากับค่าแรงเรา 2-3 เดือน ทั้งๆที่หน้าที่ก็ไม่ต่างกัน แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรในช่วงแรกๆ ก็ทำงานไปเรื่อยๆตามประสา จนเข้าช่วงอายุงานปีที่ 3 เรารู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป งานที่เราเคยทำทั้งหมดเองส่วนมาก ก็ถูก assign ไปให้พี่ในทีมคนอื่นๆแทบหมด เหลือแต่งานซ่อมนิดๆหน่อยๆ บางวัน บางอาทิตย์ไม่มีงานเข้ามาให้เราทำเลย เราก็ได้แต่นั่งเปิดคอมเล่นเน็ตไป สิทธิ์ต่างๆที่เราเคยเข้าระบบหรืออะไรต่างๆ ก็เริ่มจะถูกโยนไปให้พี่ๆในทีมคนอื่นๆทำผิด และล่าสุดก็มีการปลดพนักงานบางส่วนออกไปเยอะเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะให้ต่างประเทศมาเทคโอเวอร์บริษัทหรือเปล่า เราเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตั้งแต่เริ่มรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนของระบบงานของเราก็ตั้งแต่ มกรา 2560 เป็นต้นมา

ช่วงแรกๆที่มีการเปลี่ยนแปลง ก็มีการโยนงานทางฝั่ง infra มาให้ทีม it support ดูเพิ่ม ซึ่งเรายอมรับว่าไม่ได้มีความถนัดหรือชอบเลยสักนิด เบื้องต้นได้ลองศึกษาดูแล้ว ก็พบว่าอยากทำงานสาย support มากกว่า ก็เลยไม่ค่อยให้ความสนใจ แต่ก็เริ่มถูกบังคับมากขึ้นจากนายจ้าง ให้ทั้งทีมไปทำการอบรมกับพี่คนนึงในแผนก ที่สอนใครไม่ค่อยจะรู้เรื่อง คุยงานกันบางทีก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง สุดท้ายคนในทีมไม่มีใครรับความรู้ได้เลยสักคนเลยเลิกอบรมไป ความจริงเราเองก็เริ่มรู้สึกไม่ดีมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่บอก ก็เริ่มหางานใหม่มาตั้งแต่ตอนนั้น ปัจจุบันผ่านมา 9 เดือนแล้ว ตระเวนหาทั้งงานเอกชนและราชการ ยังไม่ได้งานใหม่เลยสักที่ ส่วนงานราชการก็ไปสอบขึ้นบัญชีไว้หน่วยงานหนึ่ง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกเรียกบรรจุเมื่อไหร่

ไปๆมาๆเริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับงานที่ทำมากจริงๆ บวกกับสภาพแวดล้อม เหมือนถูกบีบให้ลาออกจากงานเองจากนายจ้าง ก็มีข่าวเงียบมาเหมือนกันว่าเค้าจะยุบคนในทีมเราออกคนนึง เอางบไปทำสายงาน Programmer ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าคนที่จะถูกบีบคือเราหรือเปล่า เหนื่อยและลำบากใจมากจริงๆ วันๆไม่อยากไปทำงานเลย แต่ด้วยภาระทางบ้านที่ยังต้องส่งหนี้สินแทนพ่อแม่ ก็จำต้องทำไป เพราะถ้าเราลาออกมาสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ไม่มีเงินให้ทางบ้าน แล้วก็จะทะเลาะกับพ่อแม่ทุกวันในช่วงว่างงาน เนื่องจากพ่อแม่เราไม่ชอบให้ใครอยู่ว่างๆ ชอบว่าชอบชวนทะเลาะ อีกใจก็คิดว่าถ้าคิดแล้วไม่ไหวทำแล้วไม่มีความสุขจริงๆ ก็กะว่าจะทำเรื่องลาออกมาสักที ตั้งเป้าไว้ว่าจะลาออกหลังได้โบนัส คือเดือนมีนาคม ซึ่งก็เป็นระยะเวลาที่ต้องอดทนอีกนานมากพอสมควร อีกใจก็อยากจะลาออกสิ้นปีนี้ไม่รอโบนัส แล้วก็ค่อยหางานใหม่ ขืนรอได้งานใหม่แล้วค่อยลาออก ความสุขในชีวิตก็โดนสูบไปทุกทีๆ ไหนจะถูกบังคับให้หน้าที่ที่ไม่ใช่ ไหนจะต้องทำงานกับคนในทีมที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์อะไรเลย มันทำให้รู้สึกอึดอัดจริงๆ ไม่รู้จะอยู่ต่อหรือลาออกเลยดี อยากขอคำปรึกษาครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่