สามารถอ่านต้นฉบับของ Web comic Wake Up, Girls! Eternal senses ได้ฟรีที่
http://www.comic-clear.jp/comic.aspx?c=72
เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ก.ย. ทาง avex pictures ได้ปล่อย PV ล่าสุดของ Wake Up, Girls! Shinshou ออกมาแล้วนะครับ
ท่านใดยังไม่ได้ดูก็สามารถดูได้ที่กระทู้นี้
https://pantip.com/topic/36853879
ย้อนอ่าน Spoil ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/36739512
ย้อนอ่าน Spoil ตอนที่ 2
https://pantip.com/topic/36835270
---------------------------------------------
ในตอนที่ 3 ก็เริ่มต้นกันด้วยรายการวะกุบัง รายการทีวีของ Wake Up, Girls! โดยเฉพาะ
ในช่วงแรกทุกคนก็ตื่นเต้นจนพูดได้ไม่ลื่นไหลนัก แต่มายุก็นึกถึงสมัยที่อยู่ I-1 ตอนที่คุยกับชิโฮะเรื่องแบบนี้
ว่าให้ลองคุยถึงเรื่องที่สนใจ
หลังจากนั้นบทสนทนาก็เริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ถึงรายการตอนแรกจะยังออกมาได้ไม่ดีนักแต่ทางผู้กำกับรายการเองก็เปิดให้เมมเบอร์สามารถเสนอไอเดียของตัวเองเข้ามา
เพื่อนำไปใส่ในรายการได้
ในหน้านี้เองก็มีการวาดซีนจากรายการวะกุบังที่เคยฉายจริงๆไว้ด้วย
ภาพนี้มาจากรายการวะกุบังตอนที่ 6
เนื้อหาหลักในตอนนั้นเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
และอุปกรณ์ตัวนี้ก็คือ Metal shower ใช้สำหรับนวดหัว ให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
แต่ดูเหมือนว่าพอใช้แล้วจะทำให้รู้สึกขนลุกกันมากกว่า
ยกเว้นไอจังคนเดียวที่บอกว่ารู้สึกดี
ช่วงมินามิ โตะ นานามิ โนะ เฮยะ
หรือ ห้องของมินามิกับนานามิ
เป็นช่วงที่ทั้งสองคนจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองชอบ
อันนี้มาจากตอนที่ 4-5
เป็นช่วงทดสอบร่างกายของเมมเบอร์ทั้ง 6 คน โดยที่มีไอจังเป็นผู้ทำการจดบันทึก
ในภาพนี้คือการทดสอบความยืดหยุ่นของร่างกายส่วนบนครับ ไอจังก็ชอบแกล้งไม่ยอมวัดสักที
ทุกคนรู้สึกสบายใจ และเป็นตัวของตัวเองกับการที่ได้กลับมาทำงานที่บ้านเกิด
ต่างจากตอนที่ต้องทำงานในโตเกียวซึ่งเป็นที่ที่ไม่คุ้นเคย
ผู้จัดการมัตสีดะบอกว่าจะจัดอีเวนต์รวบยอดของทั้งแฟนคลับและทั้งรายการวะกุบัง
โดยประธานทังเกะก็บอกให้รวบรวมไอเดียมาว่าจะจัดอีเวนต์กันอย่างไร
อยากทำอะไรกันบ้าง แต่งบก็มีไม่มากนัก จัดเป็นงานใหญ่คงไม่ได้
แต่ถึงอย่างนนั้นทุกคนก็คิดไม่ออกว่าอยากจะทำอะไร
มีอะไรบ้างที่ตัวเองทำได้และไม่ได้
ขณะนั้นเองชิโฮะที่มาออกรายการ S Station (ล้อมาจาก Music Station นั่นแหละ)
ก็ถูกถามว่าในงานเทศกาลไอดอลปีนี้คิดจะเอาคืนคู่แข่งอย่าง Wake Up, Girls! หรือไม่
ชิโฮะก็บอกว่าคู่แข่งของพวกเรามีแต่ I-1 club เท่านั้น
โยชิโนะรู้ตัวดีว่าหากเทียบกับ I-1 แล้ว I-1 ถือว่าทำผลงานออกมาได้คุณภาพสูงลิบ
ส่วน Next Storm ของชิโฮะเองก็ไม่ว่าจะด้านไหนๆก็ให้ความรู้สึกเป็นมืออาชีพ
นั่นเป็นเพราะพวกชิโฮะออกไอเดียทำเรื่องต่างๆด้วยตัวเอง
แถมทางนี้ยังจะติดปัญหาเรื่องงบที่มีจำกัดอีก แค่จัดไลฟ์ก็แทบจะไม่พอแล้ว
(ก่อนหน้านี้ก็มีงานมาติดต่อมาเยอะอยู่ แต่ประธานปฏิเสธหมดเพื่อเอาเวลาไปจัดรายการวะกุบังแทน รายได้เลยหดลงไปด้วย)
มายุเลยเสนอว่าให้ลองลดเสกลงานลง เพลงก็เอาเป็นเมดเล่ย์ (ร้องหลายเพลงต่อเนื่องกัน แต่ว่าจะร้องไม่เต็มเพลง)
แล้วก็ลองทำสินค้าแบบแฮนด์เมดไปขายดู
ส่วนเรื่องชุดก็ไม่น่าใช้ชุดเดิมๆที่แสดง ตรงนี้มิยุเลยขอเสนอไอเดียดีๆเข้ามา
นั่นก็คือให้ใส่ชุดนักเรียน! (อีกแล้ว!)
หลายๆคนรู้สึกเขินที่ต้องกลับมาใส่ชุดนักเรียนอีกเพราะส่วนใหญ่เรียนจบกันแล้ว
โดยเฉพาะคายะ ขอย้ำว่าปีนี้อายุ 22 แล้ว
ส่วนมินามิกับนานามิถึงจะยังเรียน ม.ปลายอยู่ แต่ก็เอาชุดตอน ม.ต้นมาใส่
ตรงนี้มีเหตุผลอยู่ก็คืออีเวนต์นี้จัดขึ้นที่สวนโคโตได เวทีแรกที่ Wake Up, Girls! ได้ทำการแสดงเดบิวต์ไลฟ์เพลง Tachiagare!
ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ ปี 2013 (ภาค Shichinin no Idol) และการใส่ชุดนักเรียนครั้งนี้ก็เป็นเหมือนการใส่เสื้อผ้าชุดเดียวกับตอนที่เดบิวต์นั่นเอง
ทางโอตะ คุนิโยชิ ชายเพียงคนเดียวในกลุ่มวะกุเนอร์ที่ได้ดูไลฟ์ในตำนานครั้งนั้นก็จำได้ดี
และเห็นด้วยว่าการจัดอีเวนต์ฉลองชัยชนะไม่มีที่ไหนจะเหมาะไปกว่าที่นี่อีกแล้ว
แต่ทันใดนั้นเองระหว่างอีเวนต์ไฮทัช (ต่างจากงานจับมือ อันนี้เป็นการยกฝ่ามือมือขึ้นมาแตะกับฝ่ามือไอดอล)
ก็มีเด็กน้อยร้องไห้อยู่ มินามิก็เลยเอาหัวเสือมาใส่แล้วบอกว่าถ้าไม่เป็นเด็กดีเดี๋ยวจับกินนะ
โอตะเห็นว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว
แต่การรับมือเด็กๆที่ร้องไห้ได้แบบนี้ทำให้เห็นว่าวะกุจังได้เติบโตขึ้นมากแล้วจริงๆ
คายะก็บอกว่าไอดอลน่ะต่อให้มีเด็กมาร้องไห้ต่อหน้าไม่ว่าจะ 1 หรือ 2 คน
ก็ต้องสามารถส่งรอยยิ้มออกไปได้
ทางฝั่งรันกะ โอโตเมะเสียดายที่ไม่ได้ไปอีเวนต์นี้ เพราะตอนแรกคิดว่าแค่ Talk อีเวนต์ธรรมดา
แต่กลับมีทั้งมินิไลฟ์ และไฮทัช
เจ้าตัวก็เลยตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะเป็นแฟนคลับ จะได้รู้ข้อมูลข่าวสารมากขึ้นกว่านี้
(เหมือนแอบบอกอ้อมๆกับคนอ่านว่าลองสมัคร Official Fan club WUGLOVE ดูสิ จะได้รับของสมนาคุณและสิทธิพิเศษมากขึ้น 555)
และก็ขอให้ทั้งสองคนช่วยสนับสนุนด้วย
อายุมิและอิสึกะตอบรับไปอย่าง งงๆ
บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของรันกะจากการที่แต่เดิมแค่คุยกันเรื่องไอดอลเท่านั้น
มาเป็นการที่อยากเป็นไอดอลขึ้นมาเองก็ได้
จอบตอนที่ 3
ตอนต่อไปมาวันที่ 22 กันยายนครับ
คิดว่าคงออกมาจบก่อนอนิเมฉายพอดีมั้ง เนื่องจากซีรี่ย์นี้เขียนมาเพื่อปูเนื้อเรื่องสู่อนิเมภาคใหม่
[Spoil มังงะ] Wake Up, Girls! Eternal senses 3rd. Track - เรื่องที่พวกเราสามารถทำได้
http://www.comic-clear.jp/comic.aspx?c=72
เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ก.ย. ทาง avex pictures ได้ปล่อย PV ล่าสุดของ Wake Up, Girls! Shinshou ออกมาแล้วนะครับ
ท่านใดยังไม่ได้ดูก็สามารถดูได้ที่กระทู้นี้
https://pantip.com/topic/36853879
ย้อนอ่าน Spoil ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/36739512
ย้อนอ่าน Spoil ตอนที่ 2
https://pantip.com/topic/36835270
---------------------------------------------
ในตอนที่ 3 ก็เริ่มต้นกันด้วยรายการวะกุบัง รายการทีวีของ Wake Up, Girls! โดยเฉพาะ
ในช่วงแรกทุกคนก็ตื่นเต้นจนพูดได้ไม่ลื่นไหลนัก แต่มายุก็นึกถึงสมัยที่อยู่ I-1 ตอนที่คุยกับชิโฮะเรื่องแบบนี้
ว่าให้ลองคุยถึงเรื่องที่สนใจ
หลังจากนั้นบทสนทนาก็เริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ถึงรายการตอนแรกจะยังออกมาได้ไม่ดีนักแต่ทางผู้กำกับรายการเองก็เปิดให้เมมเบอร์สามารถเสนอไอเดียของตัวเองเข้ามา
เพื่อนำไปใส่ในรายการได้
ในหน้านี้เองก็มีการวาดซีนจากรายการวะกุบังที่เคยฉายจริงๆไว้ด้วย
ภาพนี้มาจากรายการวะกุบังตอนที่ 6
เนื้อหาหลักในตอนนั้นเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
และอุปกรณ์ตัวนี้ก็คือ Metal shower ใช้สำหรับนวดหัว ให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
แต่ดูเหมือนว่าพอใช้แล้วจะทำให้รู้สึกขนลุกกันมากกว่า
ยกเว้นไอจังคนเดียวที่บอกว่ารู้สึกดี
ช่วงมินามิ โตะ นานามิ โนะ เฮยะ
หรือ ห้องของมินามิกับนานามิ
เป็นช่วงที่ทั้งสองคนจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองชอบ
อันนี้มาจากตอนที่ 4-5
เป็นช่วงทดสอบร่างกายของเมมเบอร์ทั้ง 6 คน โดยที่มีไอจังเป็นผู้ทำการจดบันทึก
ในภาพนี้คือการทดสอบความยืดหยุ่นของร่างกายส่วนบนครับ ไอจังก็ชอบแกล้งไม่ยอมวัดสักที
ทุกคนรู้สึกสบายใจ และเป็นตัวของตัวเองกับการที่ได้กลับมาทำงานที่บ้านเกิด
ต่างจากตอนที่ต้องทำงานในโตเกียวซึ่งเป็นที่ที่ไม่คุ้นเคย
ผู้จัดการมัตสีดะบอกว่าจะจัดอีเวนต์รวบยอดของทั้งแฟนคลับและทั้งรายการวะกุบัง
โดยประธานทังเกะก็บอกให้รวบรวมไอเดียมาว่าจะจัดอีเวนต์กันอย่างไร
อยากทำอะไรกันบ้าง แต่งบก็มีไม่มากนัก จัดเป็นงานใหญ่คงไม่ได้
แต่ถึงอย่างนนั้นทุกคนก็คิดไม่ออกว่าอยากจะทำอะไร
มีอะไรบ้างที่ตัวเองทำได้และไม่ได้
ขณะนั้นเองชิโฮะที่มาออกรายการ S Station (ล้อมาจาก Music Station นั่นแหละ)
ก็ถูกถามว่าในงานเทศกาลไอดอลปีนี้คิดจะเอาคืนคู่แข่งอย่าง Wake Up, Girls! หรือไม่
ชิโฮะก็บอกว่าคู่แข่งของพวกเรามีแต่ I-1 club เท่านั้น
โยชิโนะรู้ตัวดีว่าหากเทียบกับ I-1 แล้ว I-1 ถือว่าทำผลงานออกมาได้คุณภาพสูงลิบ
ส่วน Next Storm ของชิโฮะเองก็ไม่ว่าจะด้านไหนๆก็ให้ความรู้สึกเป็นมืออาชีพ
นั่นเป็นเพราะพวกชิโฮะออกไอเดียทำเรื่องต่างๆด้วยตัวเอง
แถมทางนี้ยังจะติดปัญหาเรื่องงบที่มีจำกัดอีก แค่จัดไลฟ์ก็แทบจะไม่พอแล้ว
(ก่อนหน้านี้ก็มีงานมาติดต่อมาเยอะอยู่ แต่ประธานปฏิเสธหมดเพื่อเอาเวลาไปจัดรายการวะกุบังแทน รายได้เลยหดลงไปด้วย)
มายุเลยเสนอว่าให้ลองลดเสกลงานลง เพลงก็เอาเป็นเมดเล่ย์ (ร้องหลายเพลงต่อเนื่องกัน แต่ว่าจะร้องไม่เต็มเพลง)
แล้วก็ลองทำสินค้าแบบแฮนด์เมดไปขายดู
ส่วนเรื่องชุดก็ไม่น่าใช้ชุดเดิมๆที่แสดง ตรงนี้มิยุเลยขอเสนอไอเดียดีๆเข้ามา
นั่นก็คือให้ใส่ชุดนักเรียน! (อีกแล้ว!)
หลายๆคนรู้สึกเขินที่ต้องกลับมาใส่ชุดนักเรียนอีกเพราะส่วนใหญ่เรียนจบกันแล้ว
โดยเฉพาะคายะ ขอย้ำว่าปีนี้อายุ 22 แล้ว
ส่วนมินามิกับนานามิถึงจะยังเรียน ม.ปลายอยู่ แต่ก็เอาชุดตอน ม.ต้นมาใส่
ตรงนี้มีเหตุผลอยู่ก็คืออีเวนต์นี้จัดขึ้นที่สวนโคโตได เวทีแรกที่ Wake Up, Girls! ได้ทำการแสดงเดบิวต์ไลฟ์เพลง Tachiagare!
ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ ปี 2013 (ภาค Shichinin no Idol) และการใส่ชุดนักเรียนครั้งนี้ก็เป็นเหมือนการใส่เสื้อผ้าชุดเดียวกับตอนที่เดบิวต์นั่นเอง
ทางโอตะ คุนิโยชิ ชายเพียงคนเดียวในกลุ่มวะกุเนอร์ที่ได้ดูไลฟ์ในตำนานครั้งนั้นก็จำได้ดี
และเห็นด้วยว่าการจัดอีเวนต์ฉลองชัยชนะไม่มีที่ไหนจะเหมาะไปกว่าที่นี่อีกแล้ว
แต่ทันใดนั้นเองระหว่างอีเวนต์ไฮทัช (ต่างจากงานจับมือ อันนี้เป็นการยกฝ่ามือมือขึ้นมาแตะกับฝ่ามือไอดอล)
ก็มีเด็กน้อยร้องไห้อยู่ มินามิก็เลยเอาหัวเสือมาใส่แล้วบอกว่าถ้าไม่เป็นเด็กดีเดี๋ยวจับกินนะ
โอตะเห็นว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว
แต่การรับมือเด็กๆที่ร้องไห้ได้แบบนี้ทำให้เห็นว่าวะกุจังได้เติบโตขึ้นมากแล้วจริงๆ
คายะก็บอกว่าไอดอลน่ะต่อให้มีเด็กมาร้องไห้ต่อหน้าไม่ว่าจะ 1 หรือ 2 คน
ก็ต้องสามารถส่งรอยยิ้มออกไปได้
ทางฝั่งรันกะ โอโตเมะเสียดายที่ไม่ได้ไปอีเวนต์นี้ เพราะตอนแรกคิดว่าแค่ Talk อีเวนต์ธรรมดา
แต่กลับมีทั้งมินิไลฟ์ และไฮทัช
เจ้าตัวก็เลยตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะเป็นแฟนคลับ จะได้รู้ข้อมูลข่าวสารมากขึ้นกว่านี้
(เหมือนแอบบอกอ้อมๆกับคนอ่านว่าลองสมัคร Official Fan club WUGLOVE ดูสิ จะได้รับของสมนาคุณและสิทธิพิเศษมากขึ้น 555)
และก็ขอให้ทั้งสองคนช่วยสนับสนุนด้วย
อายุมิและอิสึกะตอบรับไปอย่าง งงๆ
บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของรันกะจากการที่แต่เดิมแค่คุยกันเรื่องไอดอลเท่านั้น
มาเป็นการที่อยากเป็นไอดอลขึ้นมาเองก็ได้
จอบตอนที่ 3
ตอนต่อไปมาวันที่ 22 กันยายนครับ
คิดว่าคงออกมาจบก่อนอนิเมฉายพอดีมั้ง เนื่องจากซีรี่ย์นี้เขียนมาเพื่อปูเนื้อเรื่องสู่อนิเมภาคใหม่