Selamat malam ค่าทุกคน ช่วงหลังๆมานี้หลายๆคนก็มักจะเห็นรีวิวการเดินทางในประเทศอินโดนีเซียมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นโบรโม บันดุง ยอกยาการ์ตา บาหลี ลอมบอค จนทำให้ประเทศอินโดนีเซียได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนนั้นก็ใฝ่ฝันที่จะไปเยี่ยมเยียนซักครั้งในชีวิต แล้วเราก็เชื่อหลายๆคนก็ได้วางแพลนที่จะไปเที่ยวอินโดนีเซียเร็วๆนี้อีกด้วย ! วันนี้เราก็เลยอยากจะมารีวิวแอปพลิเคชั่นที่เรียกได้ว่าเราใช้บ่อยที่สุดตอนที่เราอยู่อินโดนีเซียเลยก็ว่าได้ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะคะ
และแอปพลิเคชั่นที่เรากำลังจะมาเล่าให้ฟังก็คืออออออออออ Go-Jek ค่ะ ชื่อ Go-Jek นี้มาจากการเล่นคำค่ะ ระหว่างคำว่า Go และ ojek ที่แปลว่ามอเตอร์ไซรับจ้าง (พี่วินนั่นเองค่ะ) เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆคนไหนไปตามเมืองต่างๆในประเทศอินโดแล้วเห็นคนขับมอเตอร์ไซใส่เสื้อแจ็คเกตสีเขียวๆ ที่มองแล้วไม่ใช่ Grab หรือว่าไปซื้ออาหารตามร้านต่างๆแล้วเห็นคนใส่แจ็คเกตสีเขียวยืนรออาหารมากมายก็จะได้หายสงสัยค่ะ เพราะพวกเค้าเหล่านี้คือสมาชิก Go-Jek นั่นเองงง โดยแอปนี้สามารถดาวโหลดได้ทั้งทาง Appstore และ Android จ้า
ส่วนวิธีการใช้งานนั้นก็เรียกได้ว่าคล้ายๆกับ Uber และ Grab เลย สำหรับคนที่เคยใช้แอปเหล่านี้แล้วก็คงจะไม่มีปัญหาในการใช้งานเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่าการใช้งานนั้นคล้ายกันเลย และนี่คือหน้าตาของแอป Go-Jek ค่ะ

และพอเราเข้ามาก็จะเจอแบบนี้ อันดับแรกต้องลงทะเบียนด้วยเบอร์อินโดก่อนค่ะ ไม่ยากเลยแค่ช้เบใอร์อินโดเท่านั้นค่ะ มีหลายอย่างมากในแอปเดียวแต่เราจะพูดถึงการใช้ go-ride และ go-car นะคะ ถ้าเดินทางคนเดียวชิลๆก็ go-ride (มอเตอร์ไซ) หรือถ้าไปกับเพื่อนหลายคนก็นั่ง Go-car (รถยนต์) ค่ะ คุ้มกว่ามากๆ โดยปกติแล้วรถยนต์ส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็น Avanza ค่ะ นั่งได้หลายคน แต่ขอแนะนำว่าอย่าเกิน 4 คนจะดีที่สุดค่ะเพราะบางคันถึงจะเป็น Avanza แต่คนขับให้ไปแค่ 4 คนค่ะ แล้วก็เผื่อเจอรถคันเล็กๆด้วย เกิน 4 คนนี่คนขับจะปาดเหงื่อหน่อยอ่ะค่ะ แหะๆ
หลังจากนั้นเราก็ปักหมุดค่ะว่าจะให้รถมารับเราที่ไหน และจะให้รถไปส่งเราที่ไหน ตรงนี้ต้องระวังให้มากๆนะคะ ให้เชคดูในแผนที่ดีๆว่าที่อยู่ที่เรากรอกนั้นถูกต้องตามที่เราอยากไปหรือปล่าว เพราะร้านหรือโรงแรมบางที่มีหลายสาขาค่ะ อาจเกิดการผิดพลาดได้ ทางที่ดีจำแผนที่หรือชื่อถนนแล้วเชคให้มั่นใจดีกว่าค่ะ โดยหน้าบอกจุดหมายปลายทางก็จะมี GPS แบบพวก google map เลยค่ะ จะมีจุดฟ้าๆ (มันเรียกว่าอะไรนะคะเราไม่รู้อ่า) ที่จะบอกว่าตอนนี้เราอยู่ไหน อันนี้ต้องดูดีๆนะคะว่าหมุดที่เราปักให้รถมารับนั้นตรงกับจุดฟ้าๆไหม เพราะเคยมีกรณีเพื่อนปักหมุดผิดค่ะ เราก็บอกเค้าว่ารออยู่หน้า รถก็บอกว่าอยู่ข้างหน้าเหมือนกัน สรุปคือ อยู่ข้างหน้าห้างเดียวกันแต่คนละสาขาค่ะ 555555 พอหลังจากเราใส่ข้อมูลที่รับ-ส่ง เรียบร้อยแล้ว แอปพลิเคชั่นก็จะคำนวนค่าใช้จ่ายค่ะ โดยจะถูกหรือแพงนั้นก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาว่าช่วงนั้นการจราจรเป็นไง ถ้ารถติดหรือช่วงเวลาพีคไทม์ราคาก็จะสูงขึ้นค่ะ หลังจากนั้นเราก็กด order เลยค่ะ

จากในรูปที่เห็นนี่เราออเดอร์ Go-Ride นะคะ ในระยะทาง 8 กม เราต้องจ่ายประมาณ 50 บาท ( ปกติอยู่กรุงเทพนั่งไปเรียนแค่ 2 กิโลก็ 50 บาทแล้วค่ะ แง) แต่ถ้าเราจ่ายโดยใช้ Go-Pay เราจะจ่ายแค่ 12,000 รูเปีย ก็คือประมาณ 35 บาทเท่านั้นค่ะ ! 8 กิโล 35 บาท !
แทบไม่ต้องรอให้ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำก็จะมีคนขับรถรับออเดอร์เราไปค่ะ และจะขึ้นข้อมูลคนขับให้เราเห็นค่ะไม่ว่าจะเป็น ชื่อคนขับ ยี่ห้อรถ ทะเบียน รวมไปถึงเวลาว่าอีกกี่นาทีคนขับจะเดินทางมาถึงค่ะ
****และตอนนี้แหละค่ะที่เป็นปัญหาเดียวในการใช้ Go-Jek ของเรา พอคนขับรับออเดอร์เราปุ๊บ ! เค้าก็จะโทรหาเราปั๊บ ! จุดประสงค์ก็คือจะเมคชัวว่าจะมารับเราที่ไหน, ให้เรารอที่ไหน หรือว่ารถอาจอยู่ไม่ไกลให้เราเดินไปที่รถ หรือบอกข้อมูลเกี่ยวกับรถเช่นรถสีอะไร จะถึงภายในกี่นาที ค่ะ และที่เราบอกว่าขั้นตอนนี้จะเป็นปัญหาก็เพราะว่า คำถามที่คนขับจะถามเราแน่นอนค่ะว่า เป็นภาษาอินโดนีเซียทั้งหมด !!! และวิธีที่เราใช้บ่อยที่สุดก็คือออออ เล็งคนอินโดใกล้ๆไว้ก่อนค่ะ เช่นพนักงานโรงแรม หรือคนที่ีรอรถแถวนั้นเหมือนกัน หลังจากที่คนขับโทรมา เราก็วานให้เค้าช่วยคุยให้ค่ะ 5555 แต่ก็มีหลายครั้งที่ตรงนั้นไม่มีใครเลยมีแค่เรา ช่วงหลังๆมาเราก็เลยเปลี่ยนชื่อของเราใน Go-Jek เป็นภาษาอินโดซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “เราไม่ใช่คนอินโดนีเซีย รบกวนพูดช้าๆหน่อยค่ะ” ได้ผลค่ะ หลังจากเราเปลี่ยนชื่อคำถามที่ได้รับมาก็จะช้าลงมาในระดับที่พอฟังรู้เรื่อง (เราเรียนภาษาอินโดนีเซียอยู่ค่ะเลยพอฟังออกบ้าง) รอดแล้วค่ะ 55555
ถ้าเราออเดอร์มอเตอร์ไซไป พอคนขับมาถึงเค้าก็จะถามเราค่ะว่า pakai masker? หรือว่าใส่ผ้าปิดปากไหม อันนี้แล้วแต่เราค่ะ ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ หลังจากนั้นเค้าก็จะยื่นหมวกกันน็อคสีเขียวมาให้เราใส่ค่ะ อันนี้เป็นอะไรที่เราประทับใจมากๆ ไม่ต้องคอยขอทุกครั้งเหมือนพี่วินที่ไทย ที่นี่ยื่นหมวกกันน็อคให้ทุกครั้งเลยค่ะ ต้องใส่นะ เพื่อความปลอดภัยค่ะ หลังจากนั้นพี่คนขับก็จะพาเราไปยังจุดหมายปลายทางค่ะ ส่วน Go-Car บางคันนั้นพอรู้ว่าเราเป็นคนต่างชาติโดยเฉพาะคนไทยก็จะชวนคุยใหญ่เลยค่ะ ส่วนมากจะเป็นเรื่องหนัง กับ พัทยา เรื่ององค์บากนี่ดังมากๆ พอถึงที่หมายเราก็ต้องให้คะแนนคนขับผ่านแอปพลิเคชั่นค่ะ

สำหรับ Go-Pay การเติมง่ายมากค่ะ คือเราสามารถเติมกับคนขับที่เรานั่งไปด้วยได้เลย โดยขั้นต่ำคือ 20,000 รูเปียค่ะ เราแนะนำว่าถ้าใครคิดว่าจะได้เดินทางด้วย Go-Jek บ่อยๆก็เติมไว้เลยก็ดีนะคะ ประหยัดได้เยอะเลย
นอกจากนี้ยังมี Go-Food ที่เราสามารถสั่งของกินผ่านแอปนี้ได้เหมือนกัน ค่าส่งเริ่มต้นประมาณ 10,000 รูเปียค่ะ สบายมากๆ และยังมีอย่างอื่นอีกเยอะมาก ทั้ง Go-mart,Go-Send,Go-Tix,Go-Glam ฯลฯ
จบแล้วค่ะการรีวิวประสบการณ์การใช้ Go-Jek ของเราอาจจะยาวไปหน่อย(น้ำทั้งนั้น) 555 แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซียนะคะ การเดินทางที่ง่ายขึ้นก็ช่วยให้เราพบเจอกับสิ่งใหม่ๆได้เร็วขึ้นด้วย ในบางพื้นที่อาจยังมีไม่มากนะคะ ตอนนี้มีประมาณ 50 เมืองค่ะ แต่ในจากาตาร์และยอกยามีแน่นอน ปีที่แล้วเราเคยลองหาที่บาหลีก็มีไม่เยอะค่ะ แต่ปีนี้อาจมีเยอะขึ้นแล้ว ยังไงก็ลองใช้ดูน้า ราคาไม่แพง แถมได้คุยกับคนท้องที่ด้วยยย สนุกค่า
ขอให้ทุกคนเที่ยวอินโดนีเซียให้สนุกนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ! Terima kasih !
[CR] เที่ยวอินโดทั้งสะดวกและสบาย เพราะมีแอป Go-Jek
และแอปพลิเคชั่นที่เรากำลังจะมาเล่าให้ฟังก็คืออออออออออ Go-Jek ค่ะ ชื่อ Go-Jek นี้มาจากการเล่นคำค่ะ ระหว่างคำว่า Go และ ojek ที่แปลว่ามอเตอร์ไซรับจ้าง (พี่วินนั่นเองค่ะ) เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆคนไหนไปตามเมืองต่างๆในประเทศอินโดแล้วเห็นคนขับมอเตอร์ไซใส่เสื้อแจ็คเกตสีเขียวๆ ที่มองแล้วไม่ใช่ Grab หรือว่าไปซื้ออาหารตามร้านต่างๆแล้วเห็นคนใส่แจ็คเกตสีเขียวยืนรออาหารมากมายก็จะได้หายสงสัยค่ะ เพราะพวกเค้าเหล่านี้คือสมาชิก Go-Jek นั่นเองงง โดยแอปนี้สามารถดาวโหลดได้ทั้งทาง Appstore และ Android จ้า
ส่วนวิธีการใช้งานนั้นก็เรียกได้ว่าคล้ายๆกับ Uber และ Grab เลย สำหรับคนที่เคยใช้แอปเหล่านี้แล้วก็คงจะไม่มีปัญหาในการใช้งานเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่าการใช้งานนั้นคล้ายกันเลย และนี่คือหน้าตาของแอป Go-Jek ค่ะ
หลังจากนั้นเราก็ปักหมุดค่ะว่าจะให้รถมารับเราที่ไหน และจะให้รถไปส่งเราที่ไหน ตรงนี้ต้องระวังให้มากๆนะคะ ให้เชคดูในแผนที่ดีๆว่าที่อยู่ที่เรากรอกนั้นถูกต้องตามที่เราอยากไปหรือปล่าว เพราะร้านหรือโรงแรมบางที่มีหลายสาขาค่ะ อาจเกิดการผิดพลาดได้ ทางที่ดีจำแผนที่หรือชื่อถนนแล้วเชคให้มั่นใจดีกว่าค่ะ โดยหน้าบอกจุดหมายปลายทางก็จะมี GPS แบบพวก google map เลยค่ะ จะมีจุดฟ้าๆ (มันเรียกว่าอะไรนะคะเราไม่รู้อ่า) ที่จะบอกว่าตอนนี้เราอยู่ไหน อันนี้ต้องดูดีๆนะคะว่าหมุดที่เราปักให้รถมารับนั้นตรงกับจุดฟ้าๆไหม เพราะเคยมีกรณีเพื่อนปักหมุดผิดค่ะ เราก็บอกเค้าว่ารออยู่หน้า รถก็บอกว่าอยู่ข้างหน้าเหมือนกัน สรุปคือ อยู่ข้างหน้าห้างเดียวกันแต่คนละสาขาค่ะ 555555 พอหลังจากเราใส่ข้อมูลที่รับ-ส่ง เรียบร้อยแล้ว แอปพลิเคชั่นก็จะคำนวนค่าใช้จ่ายค่ะ โดยจะถูกหรือแพงนั้นก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาว่าช่วงนั้นการจราจรเป็นไง ถ้ารถติดหรือช่วงเวลาพีคไทม์ราคาก็จะสูงขึ้นค่ะ หลังจากนั้นเราก็กด order เลยค่ะ
จากในรูปที่เห็นนี่เราออเดอร์ Go-Ride นะคะ ในระยะทาง 8 กม เราต้องจ่ายประมาณ 50 บาท ( ปกติอยู่กรุงเทพนั่งไปเรียนแค่ 2 กิโลก็ 50 บาทแล้วค่ะ แง) แต่ถ้าเราจ่ายโดยใช้ Go-Pay เราจะจ่ายแค่ 12,000 รูเปีย ก็คือประมาณ 35 บาทเท่านั้นค่ะ ! 8 กิโล 35 บาท !
แทบไม่ต้องรอให้ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำก็จะมีคนขับรถรับออเดอร์เราไปค่ะ และจะขึ้นข้อมูลคนขับให้เราเห็นค่ะไม่ว่าจะเป็น ชื่อคนขับ ยี่ห้อรถ ทะเบียน รวมไปถึงเวลาว่าอีกกี่นาทีคนขับจะเดินทางมาถึงค่ะ
****และตอนนี้แหละค่ะที่เป็นปัญหาเดียวในการใช้ Go-Jek ของเรา พอคนขับรับออเดอร์เราปุ๊บ ! เค้าก็จะโทรหาเราปั๊บ ! จุดประสงค์ก็คือจะเมคชัวว่าจะมารับเราที่ไหน, ให้เรารอที่ไหน หรือว่ารถอาจอยู่ไม่ไกลให้เราเดินไปที่รถ หรือบอกข้อมูลเกี่ยวกับรถเช่นรถสีอะไร จะถึงภายในกี่นาที ค่ะ และที่เราบอกว่าขั้นตอนนี้จะเป็นปัญหาก็เพราะว่า คำถามที่คนขับจะถามเราแน่นอนค่ะว่า เป็นภาษาอินโดนีเซียทั้งหมด !!! และวิธีที่เราใช้บ่อยที่สุดก็คือออออ เล็งคนอินโดใกล้ๆไว้ก่อนค่ะ เช่นพนักงานโรงแรม หรือคนที่ีรอรถแถวนั้นเหมือนกัน หลังจากที่คนขับโทรมา เราก็วานให้เค้าช่วยคุยให้ค่ะ 5555 แต่ก็มีหลายครั้งที่ตรงนั้นไม่มีใครเลยมีแค่เรา ช่วงหลังๆมาเราก็เลยเปลี่ยนชื่อของเราใน Go-Jek เป็นภาษาอินโดซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “เราไม่ใช่คนอินโดนีเซีย รบกวนพูดช้าๆหน่อยค่ะ” ได้ผลค่ะ หลังจากเราเปลี่ยนชื่อคำถามที่ได้รับมาก็จะช้าลงมาในระดับที่พอฟังรู้เรื่อง (เราเรียนภาษาอินโดนีเซียอยู่ค่ะเลยพอฟังออกบ้าง) รอดแล้วค่ะ 55555
ถ้าเราออเดอร์มอเตอร์ไซไป พอคนขับมาถึงเค้าก็จะถามเราค่ะว่า pakai masker? หรือว่าใส่ผ้าปิดปากไหม อันนี้แล้วแต่เราค่ะ ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ หลังจากนั้นเค้าก็จะยื่นหมวกกันน็อคสีเขียวมาให้เราใส่ค่ะ อันนี้เป็นอะไรที่เราประทับใจมากๆ ไม่ต้องคอยขอทุกครั้งเหมือนพี่วินที่ไทย ที่นี่ยื่นหมวกกันน็อคให้ทุกครั้งเลยค่ะ ต้องใส่นะ เพื่อความปลอดภัยค่ะ หลังจากนั้นพี่คนขับก็จะพาเราไปยังจุดหมายปลายทางค่ะ ส่วน Go-Car บางคันนั้นพอรู้ว่าเราเป็นคนต่างชาติโดยเฉพาะคนไทยก็จะชวนคุยใหญ่เลยค่ะ ส่วนมากจะเป็นเรื่องหนัง กับ พัทยา เรื่ององค์บากนี่ดังมากๆ พอถึงที่หมายเราก็ต้องให้คะแนนคนขับผ่านแอปพลิเคชั่นค่ะ
สำหรับ Go-Pay การเติมง่ายมากค่ะ คือเราสามารถเติมกับคนขับที่เรานั่งไปด้วยได้เลย โดยขั้นต่ำคือ 20,000 รูเปียค่ะ เราแนะนำว่าถ้าใครคิดว่าจะได้เดินทางด้วย Go-Jek บ่อยๆก็เติมไว้เลยก็ดีนะคะ ประหยัดได้เยอะเลย
นอกจากนี้ยังมี Go-Food ที่เราสามารถสั่งของกินผ่านแอปนี้ได้เหมือนกัน ค่าส่งเริ่มต้นประมาณ 10,000 รูเปียค่ะ สบายมากๆ และยังมีอย่างอื่นอีกเยอะมาก ทั้ง Go-mart,Go-Send,Go-Tix,Go-Glam ฯลฯ
จบแล้วค่ะการรีวิวประสบการณ์การใช้ Go-Jek ของเราอาจจะยาวไปหน่อย(น้ำทั้งนั้น) 555 แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซียนะคะ การเดินทางที่ง่ายขึ้นก็ช่วยให้เราพบเจอกับสิ่งใหม่ๆได้เร็วขึ้นด้วย ในบางพื้นที่อาจยังมีไม่มากนะคะ ตอนนี้มีประมาณ 50 เมืองค่ะ แต่ในจากาตาร์และยอกยามีแน่นอน ปีที่แล้วเราเคยลองหาที่บาหลีก็มีไม่เยอะค่ะ แต่ปีนี้อาจมีเยอะขึ้นแล้ว ยังไงก็ลองใช้ดูน้า ราคาไม่แพง แถมได้คุยกับคนท้องที่ด้วยยย สนุกค่า
ขอให้ทุกคนเที่ยวอินโดนีเซียให้สนุกนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ! Terima kasih !