เหนโหล่วววว หลังจากไปอ่าวมะนาวรอบนั้น เราก็ไม่ได้เข้ามาพันทิพนานเลย เมื่อต้นเดือนพึ่งตัดสินใจลงใต้ไปสามเกาะ ไปกับเพื่อนที่มาจากแคนาดา เราเริ่มตั้งแต่ข้าวสาร ไปเกาะสมุย จากนั้นก็ไปเกาะพงัน แล้วก็ไปต่อที่เกาะเต่า ก็อย่างที่หัวข้อบอกนั่นแหละ เราใช้เวลาตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน แล้วก็กลับวันที่ 9 ถึงกรุงเทพตอนตี 1 สิบห้านาทีที่ข้าวสาร 6 วัน แล้วก็ใช้งบทั้งหมด 5245 บาท
มาดูกันเล้ยย
1000 แรกใช้ไปกับค่ารถทัวร์ บริษัท ไทยศรีราม บังเอิญเจอที่ข้าวสาร เพราะตอนแรกกะว่าจะไปขึ้นบขส.อยู่แล้ว เท่าที่ถาม บขส.ก็ประมาณ 500 บาท แล้วก็ต้องต่อค่าเรือไปอีก 300 กว่าบาท แล้วก็ค่ารถต่อไปที่โรงแรมอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้งี้ เลยตัดสินใจไปกับไทยศรีราม ใน 1000 นี้ก็คือเริ่มตั้งแต่รถทัวร์ไปท่าเรือเกาะสมุย แถมข้าวต้มที่ชุมพรให้ตอนเที่ยงคืนด้วย แต่เพื่อนเรานางไม่ชอบ อาจจะเป็นเพราะข้าวไม่ร้อน แล้วก็บริการไม่ค่อยประทับใจมั้ง แต่โดยส่วนตัว เราแฮปปี้นะ กับข้าวเค้าก็อร่อย มีไข่เค็มกับถั่วแค่นี้เราก็แฮปปี้แล้ว อิอิ แล้วก็เรือจากท่าเรือไปเกาะสมุย แล้วก็รถต่อจากเกาะสมุยไปที่โรงแรม อยากจะบอกว่าคุ้มมากกกกก เวลาเดินทางจากข้าวสารก็ประมาณ 12 ชั่วโมง รถออกจากข้าวสาร สองทุ่มครึ่ง ถึงท่าเรือก็ประมาณ 8 โมงครึ่งพอดี นั่งหลับแล้วหลับอีก ปวดคอ

เอ้อแล้วบนรถทัวร์ยังมีลุงเดินเอาน้ำกับโอรีโอ้มาให้ด้วยนะ นี่คือประทับใจมาก เพราะเป็นสาวกโอรีโอ้ 555555 ทีนี้ก็ใช้เวลาจากท่าเรือไปถึงเกาะสมุยก็ประมาณ 30 นาที แล้วก็ใช้เวลา 28 นาทีจากเกาะสมุยไปโรงแรม แล้วเราก็นอนพักอาบน้ำกัน โรงแรมที่เราพักที่เกะสมุยชื่อว่า Lamai Central Beach มีแอร์ ตู้เย็นเล็กๆ ที่ทำน้ำอุ่น ปลั๊กไฟทั่วห้อง ทีวี เคเบิล คืนละ 595 บาท ค่าโรงแรมนี่เพื่อนจ่าย 5555 จากนั้นก็ไปเช่ารถแมงกะไซ เราเช่าแค่ 200 บาทเองนะ ต่อวัน แต่ค่ามอไซนี่เราจ่าย ดังนั้นเราจะคำนวณให้คร่าวๆละกันนะ
<1000ค่ารถถึงโรงแรมในเกาะสมุย+595ค่าที่พักโรงแรม 1 คืน+200ค่ามอไซที่เกาะสมุย=1795 บาท>
กิจกรรมที่เราไปทำที่เกาะสมุยหลังจากเช่ารถมอไซก็คือ ขับรถตากแดดประมาณชม.นึง -.- แดดโคตรร้อนเลย
เอาใหม่ๆ กิจกรรมที่เราไปทำหลังจากเช่ารถมอไซก็คือไปหาข้าวกิน แต่ด้วยความที่มันก็ค่อนข้างแพง เลยจบที่แซนด์วิชในแฟมิลี่มาร์ท แล้วก็เบอร์เกอร์ติ๊งต๊องอันละสิบบาทอันนึงเหนียวๆ แล้วก็ไปที่หาดชื่อว่าหาดบ่อพุด ความสวยของหาดก็ประมาณนี้




ตอนเราไปถึง เพื่อนเรานางก็ไปจวกข้าวโพดย่างกับไก่ย่างมา แล้วก็ปอเปี๊ย รวมๆแล้วก็150 บาทนะ ถ้าจำไม่ผิด

ต่อไปเพื่อนเรานางก็ไปสอยเก้าอี้ที่นั่งมา ลุงเดินมาขายอันละ 600 บาท นางก็ต่อจนถึง 400 อะ แต่ก็ดีนะ เก้าอี้อันนี้แบบไม่ต้องเป่า แค่โกยลม แล้วก็ม้วนๆๆ มันก็จะพองแล้วก็นั่งได้เลย พอจะเก็บก็เอาลมออกแล้วก็ม้วนเก็บ


ด้วยความที่พื่อนเรา นางไม่อยากเสียตังนั่งเช่าเก้าอี้ เลยซื้ออันนี้ เพราะกะว่าจะเอาไปใช้ที่ Full moon Party ด้วย แต่ในความคิดเราคือ ซื้อไปทำไม 5555 นั่งทรายเอาก็ได้ แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนจะคิดนะจ้ะ จุ้บๆ
หลังจากไปถ่ายรูปเล่นที่หาดบ่อพุดแล้ว เราก็แวะไปบิ๊กซีแป้บนึง เพราะมันร้อนมั่กๆๆ ก็ไปหาน้ำเปล่ากิน จากนั้นเราก็ไปที่น้ำตกหน้าเมือง มันมีน้ำตกหน้าเมือง 1 2 3 เลยนะ แต่ตอนเราไป เราไปที่ 2 มั้ง เพราะเราไปก็สี่โมงครึ่งละ มันปิดห้าครึ่ง แต่เราก็อยู่เกินนะ 55555 ค่าเข้ามัน 50 บาทต่อ 1 คน เอาหางตั๋วไปแลกน้ำฟรีได้ ใช้เวลาเดินขึ้นไปประมาณ 30 นาที ทางชันมากกๆๆๆๆๆ เราเอาผ้าใบบางๆไป แบบเกือบลื่น ก่อนจะไปเนี่ยต้องหารองเท้าดีๆเลยนะ เอาที่แบบกันลื่นไปเลย เบาๆ แล้วก็แห้งง่ายๆด้วยอะ ที่เรารู้จักก็มีของ Kalenji อันนี้เบาๆนิ่มๆ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงนะถ้าตัวดีๆ โดยส่วนตัวเราชอบ แล้วก็ของ Quechua อันนี้เท่าที่รู้มาเป็นรองเท้าเดินป่าโดยเฉพาะ กะว่าถ้าจะไปไหนรอบหน้าจะต้องเสียสละเงินเพื่อรองเท้าสองยี่ห้อนี้ละ
<50 ค่าเข้าน้ำตก>
หลังจากนั้นก็กลับไปอาบน้ำกัน ถึงโรงแรมประมาณทุ่มครึ่ง ไปหาข้าวกิน เราไปเจอข้าวต้มถ้วยละ 1 บาท Along the way ด้วยแหละ ร้านจะตังตอนกลางคืน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอราคาถูกขนาดนี้ น้องเด็กเสิร์ฟก็ดี้ดี ราคาทั้งหมดสี่อย่าง ข้าวสวยสองถ้วย ข้าวต้ม 1 ถ้วยก็ 200 บาท
แล้วเราก็ไปจองเรือจากเกาะสมุยไปเกาะพงัน มันมีหลายราคาหลายบริษัทมาก มีเรือช้า 450 บาท ใช้เวลา 1 ชม. ถึงเกาะพงัน แล้วก็ไปลงตรงหาดริ้น ซึ่งก็คือหาดที่จัด Full moon Party เลย แต่ถ้าเป็นอีกบริษัทนึงก็คือลมพระยา จะไปจอดที่ท้องศาลา ราคาก็ 500 บาท ใช้เวลา 30 นาที มันมีตั้งแต่รอบเช้า รอบเที่ยง รอบบ่ายสอง
เราตัดสินใจไปรอบเที่ยง เพราะจะได้ไปเตรียมตัว ถึงนู่นก็บ่ายสอง ปาร์ตี้มันจัดตั้งแต่หกโมง ก็กะว่าจะไปตั้งแต่ปาร์ตี้เริ่มเลย เราจองเรือช้าไม่ทัน เลยได้ไปเรือเร็ว 500 บาทนี่คือรถมารับจากโรงแรมไปท่าเรือ แล้วก็จากท่าเรือที่เกาะสมุยไปท่าเรือท้องศาลา เราเลยต้องหารถไปหาดริ้นกันอีกรอบนึง ตอนที่เราไปเชคอินขึ้นเรือเร็วของลมพระยา
เค้าจะมีถามว่าจะเอา transfer มั้ย ก็คือพอลงจากเกาะ จะมีรถไปส่งที่โรงแรมในเกาะพงัน ราคาคนละ 250 บาท เรากับเพื่อนไม่ได้เอา ซึ่งก็จะบอกทุกคนที่จะไปว่าไม่ต้องเอานะ เพราะว่าพอเราลงเรือ เดินไปเรื่อยๆ จะมีรถตู้เป็นสิบคันเรียกถามว่าไปไหน แล้วคนละแค่ 150 บาท จอดถึงโรงแรมเลย แต่โรงแรมเรามันอยู่บนเขาสูง น้าเค้าก็เลยพาไปจอดที่ที่นึง แล้วเค้าก็ให้เดินไปบอกป้าคนนึง มันจะมีป้ายบอกว่าไปโรงแรม Jenny กับ Venus ซึ่งเราพักอยู่ที่ Venus ก็ไปหาป้า นั่งรอ เดินช้อปปิ้ง แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไร เพราะกางเกงสีสะท้อนแสงก็ 250 เลยไว้ก่อน
ทีนี้โรงแรมก็ส่งรถกระบะมารับไปถึงโรงแรม ระหว่างทางมีลิงด้วย แต่ลิงไม่ดุ ลิงกลัวเรามากกว่า ห้องอันนี้ราคา 300-400 ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้จ่าย 5555 ไม่มีแอร์นะ เป็นโรงแรมในหาดริ้น เราสามารถเดินลงไปหาดเพื่อไปงาน Full moon Party ได้เลย เราไม่ได้เช่ารถมอไซด้วย เพราะกะว่าจะไปแค่ปาร์ตี้ เราแต่งตัวลงไปหาดตั้งแต่ทุ่มนึง กลับมาตี 1 สนุกมากๆๆ ผู้ชายเยอะมากๆๆ Oops! มันจะมีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เรียงกันตามหาดไปเลย ก็ตก Bucket ละ 150-200 แล้วแต่ชนิดของเครื่องดื่มที่ใส่ลงไป เพื่อนเราฟาดไป 3 Buckets อ้อแล้วก็ตอนเดินลงเรื่อยๆ มีร้านข้าวผัดกับผัดไทยป้าน้อย จานละ 50 บาท แล้วก็มีแต่เนื้อไก่ แต่ถือว่าอร่อยนะ อร่อยเลยแหละ คืออาหารที่ร้านอื่นไม่ถึงปากเราอะ เรากินที่ร้านป้าน้อยตั้งแต่ถึงหาดจนไปอีกเกาะนึง 55555
<500ค่าเรือจากเกาะสมุยไปเกาะพงัน+150ค่ารถจากท่าเรือท้องศาลาที่เกาะพงันไปโรงแรม=650 บาท>
ที่งานจะมีเพลงทุกๆ 2 ก้าวที่เดิน มีโชว์ควงไฟ กระโดดลอดห่วงไฟ โอมเปี่ยวไฟด้วย ตอนแรกเราก็ว่าจะเล่นโอมเปี่ยว แต่เห็นคนไฟลุกหัวไปหลายคนเลยไม่ดีกว่า เลยตัดสินใจเล่นกระโดดห่วงไฟแทน มันก็ขาสั่นดีนะ มันให้ความรู้สึกแบบเรากล้าทำในสิ่งที่เราคิดว่าทำไม่ได้อะ แต่เราก็ได้ทำมันแล้วอะ ขาสั่นแต่สบายใจ 55555





แต่ฝนดันมาตกซะตอน เที่ยงคืน มันจะแฮปปี้มากถ้าเราเอาซองกันน้ำใส่มือถือไปด้วย แต่โชคดีที่เพื่อนเราเอากระเป๋าใบใหญ่กันน้ำไป มันก็ไม่กัน 100% แต่มันก็ไม่ทำให้มือถือพัง 555 ทีนี้เราก็หนีลงไปแช่ตัวในน้ำ อุ่นมาก อีเพื่อนนี่ก็จะเล่นกับสาวอยู่นั่น จะจับสาวโยนลงน้ำให้ได้เลย แล้วนางก็วางกระเป๋าไว้ คืออันที่จริงอะ มันก็ไม่ได้มีมิจฉาชีพอะไรหรอกนะเท่าที่เราได้ไปสัมผัส แต่ส่วนมากจะเป็นการหยิบผิดอะไรแบบนี้มากว่า ก็เลยถ้าเป็นไปได้ก็เอาอะไรใบเล็กๆไปพอ อย่าให้ไปเป็นภาระในการเต้นนะจ้ะ
จนถึงตี 1 เราก็ตัดสินใจกลับกัน ระหว่างทางเดินกลับนี่อื้อหือออ จูบกันทั่วชายหาดเลยจ้า ถ้ามีของตัวเองบ้างนะ จะไม่อิจฉาเลยยยย
หลับตั้งแต่ตีสองจนถึงเช้า ก็เชคเอ้าท์ออก แล้วเราก็ไปเดินเล่าทั่วๆชายหาดที่ยังไม่ได้ไป แล้วก็กะว่าจะไปเกาะเต่าเลย ทีนี้เดินไปเจอป้าคนนึงนั่งในร้านที่เป็นรับทัวร์แหละ ก็ถามราคาไปเกาะเต่า คนละ 450 รถมารับจากโรงแรมไปที่เกาะเต่า เป็นบริษัทเรือเร็วลมพระยาอีกเช่นเคย 450 นี่คือถึงแค่ท่าเรือเกาะเต่านะ ออกจากท่าเรือท้องศาลาที่เกาะพงันตอนห้าโมงครึ่ง ถ้ารีบไปเข้าแถวเราจะได้นั่งริมหน้าต่าง แล้วก็เห็นพระอาทิตย์ตกดิน รูปวิวที่ได้ก็เป็นประมาณนี้


<450 ค่าเรือจากเกาะพงันไปเกาะเต่าที่อ่าวทรายรี>
พอเราถึงท่าเรือเกาะเต่า เราถึงตอนประมาณ หกโมงครึ่ง ถึงทุ่มนึง แล้วก็พบว่าโรงแรมเราอยู่ห่างจากท่าเรือ 6 นาที by taxi แต่ 20 นาที by walking เราก็เลยตัดสินใจเดินจ้า โรงแรมเราชื่อ Nat Resort ทางเดินนี่เป็นเนินขึ้นๆลงๆเลย น้ำก็หิว ข้าวก็หิว แต่ก็ต้องอดทน ใช้เวลาเดินประมาณ 30-40 นาที เพราะเราไม่ได้เดินกันเร็วเท่าไหร่ ห้องน้ำของโรงแรมที่เราอยู่เป็นห้องน้ำรวม พัดลม คืนละ 300 บาท พอเราอาบน้ำเสร็จเราก็ไปหาข้าวกินกัน ลงเลยด้วยพิซซ่า เพราะอยากมาก ร้านพิซซ่าอิตาเลี่ยน ชื่อร้านว่า God Father ใครสนใจก็ไปกินได้นะ พ่อค้าเป็นคนอิตาเลียน บริการดีมาก นั่ลล้าคคคค

แล้วเราก็ไปนอน ตื่นมาอีกทีก็เก้าโมงของเช้าอีกวันนึง ตอนนั้นเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เราตัดสินใจว่าจะไปดูรอบเกาะกันก่อนแล้วตัดสินใจว่าเราชอบกันมั้ย ถ้าชอบก็จะอยู่ต่ออีกคืน ตอนแรกก็เชคเอ้าท์ก่อน เอาของไปวางที่ Front Desk แล้วก็เดินลงไปชายหาด
ระหว่างที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจะทำอะไรกันต่อดี เพราะตอนนั้นมันก็เที่ยงกว่าแล้ว ไปทริปครึ่งวันก็ไม่ทันแล้ว เพราะเรือมันออกตั้งแต่ตอนสิบเอ็ดโมงแล้ว เราไปเจอคนเยอรมันสองกำลังหาอะไรทำเหมือนกัน มีลุงคนขับ taxi boat คนนึงนั่งอยู่ที่ชายหาด เลยไปถามว่าถ้าจะไปที่เกาะนางยวนนี่เท่าไหร่ เพราะว่าหาดนี้เป็นหาดที่เป็นทะเลแหวก แล้วก็มี view point ด้วย ลุงให้ 250 บาทต่อคน ทีนี้เราจะไปกันสี่คน ก็เลยขอต่อลุงเป็นคนละ 200 ได้มั้ย ลุงตอบได้ 200 นี่รวมขาไปขากลับเลยนะ ลุงรอรับกลับเลย
ก็เลย ไปเกาะนางยวนกัน ตอนนั้นเราออกจากหาดทรายรี ซึ่งก็คือที่พักเรา จะเป็นชายหาดกว้างหน่อย ร้านอาหารเยอะมาก น่าจะเยอะกว่าหาดอื่นๆในเกาะเต่า เท่าที่ลุงคนที่เราไปซื้อตั๋วเรือจากเกาะพงันไปสมุยเค้าบอกมานะ เราก็เลยพักกันที่หาดทรายรี ต่อไปเราไปดูปลากันที่เกาะนางยวน
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้มาดำน้ำทำอะไรแบบนี้ เพราะตอนแรกแบบโอ้ยลงใต้ทำไมมันแพงจัง แต่พอดีเพื่อนมาแล้วก็เลยตัดสินใจลงใต้เลย แล้วก็ประทับใจนะ ประทับใจมากๆ
<200ค่าเรือจากอ่าวทรายรีไปดำน้ำที่เกาะนางยวน>



[CR] ลงใต้ไปสามเกาะ (เกาะสมุย+เกาะพงัน+เกาะเต่า+ดำน้ำด้วย) 6 วันกับงบ 5000 บาท
มาดูกันเล้ยย
1000 แรกใช้ไปกับค่ารถทัวร์ บริษัท ไทยศรีราม บังเอิญเจอที่ข้าวสาร เพราะตอนแรกกะว่าจะไปขึ้นบขส.อยู่แล้ว เท่าที่ถาม บขส.ก็ประมาณ 500 บาท แล้วก็ต้องต่อค่าเรือไปอีก 300 กว่าบาท แล้วก็ค่ารถต่อไปที่โรงแรมอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้งี้ เลยตัดสินใจไปกับไทยศรีราม ใน 1000 นี้ก็คือเริ่มตั้งแต่รถทัวร์ไปท่าเรือเกาะสมุย แถมข้าวต้มที่ชุมพรให้ตอนเที่ยงคืนด้วย แต่เพื่อนเรานางไม่ชอบ อาจจะเป็นเพราะข้าวไม่ร้อน แล้วก็บริการไม่ค่อยประทับใจมั้ง แต่โดยส่วนตัว เราแฮปปี้นะ กับข้าวเค้าก็อร่อย มีไข่เค็มกับถั่วแค่นี้เราก็แฮปปี้แล้ว อิอิ แล้วก็เรือจากท่าเรือไปเกาะสมุย แล้วก็รถต่อจากเกาะสมุยไปที่โรงแรม อยากจะบอกว่าคุ้มมากกกกก เวลาเดินทางจากข้าวสารก็ประมาณ 12 ชั่วโมง รถออกจากข้าวสาร สองทุ่มครึ่ง ถึงท่าเรือก็ประมาณ 8 โมงครึ่งพอดี นั่งหลับแล้วหลับอีก ปวดคอ
<1000ค่ารถถึงโรงแรมในเกาะสมุย+595ค่าที่พักโรงแรม 1 คืน+200ค่ามอไซที่เกาะสมุย=1795 บาท>
กิจกรรมที่เราไปทำที่เกาะสมุยหลังจากเช่ารถมอไซก็คือ ขับรถตากแดดประมาณชม.นึง -.- แดดโคตรร้อนเลย
เอาใหม่ๆ กิจกรรมที่เราไปทำหลังจากเช่ารถมอไซก็คือไปหาข้าวกิน แต่ด้วยความที่มันก็ค่อนข้างแพง เลยจบที่แซนด์วิชในแฟมิลี่มาร์ท แล้วก็เบอร์เกอร์ติ๊งต๊องอันละสิบบาทอันนึงเหนียวๆ แล้วก็ไปที่หาดชื่อว่าหาดบ่อพุด ความสวยของหาดก็ประมาณนี้
ตอนเราไปถึง เพื่อนเรานางก็ไปจวกข้าวโพดย่างกับไก่ย่างมา แล้วก็ปอเปี๊ย รวมๆแล้วก็150 บาทนะ ถ้าจำไม่ผิด
ต่อไปเพื่อนเรานางก็ไปสอยเก้าอี้ที่นั่งมา ลุงเดินมาขายอันละ 600 บาท นางก็ต่อจนถึง 400 อะ แต่ก็ดีนะ เก้าอี้อันนี้แบบไม่ต้องเป่า แค่โกยลม แล้วก็ม้วนๆๆ มันก็จะพองแล้วก็นั่งได้เลย พอจะเก็บก็เอาลมออกแล้วก็ม้วนเก็บ
หลังจากไปถ่ายรูปเล่นที่หาดบ่อพุดแล้ว เราก็แวะไปบิ๊กซีแป้บนึง เพราะมันร้อนมั่กๆๆ ก็ไปหาน้ำเปล่ากิน จากนั้นเราก็ไปที่น้ำตกหน้าเมือง มันมีน้ำตกหน้าเมือง 1 2 3 เลยนะ แต่ตอนเราไป เราไปที่ 2 มั้ง เพราะเราไปก็สี่โมงครึ่งละ มันปิดห้าครึ่ง แต่เราก็อยู่เกินนะ 55555 ค่าเข้ามัน 50 บาทต่อ 1 คน เอาหางตั๋วไปแลกน้ำฟรีได้ ใช้เวลาเดินขึ้นไปประมาณ 30 นาที ทางชันมากกๆๆๆๆๆ เราเอาผ้าใบบางๆไป แบบเกือบลื่น ก่อนจะไปเนี่ยต้องหารองเท้าดีๆเลยนะ เอาที่แบบกันลื่นไปเลย เบาๆ แล้วก็แห้งง่ายๆด้วยอะ ที่เรารู้จักก็มีของ Kalenji อันนี้เบาๆนิ่มๆ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงนะถ้าตัวดีๆ โดยส่วนตัวเราชอบ แล้วก็ของ Quechua อันนี้เท่าที่รู้มาเป็นรองเท้าเดินป่าโดยเฉพาะ กะว่าถ้าจะไปไหนรอบหน้าจะต้องเสียสละเงินเพื่อรองเท้าสองยี่ห้อนี้ละ
<50 ค่าเข้าน้ำตก>
หลังจากนั้นก็กลับไปอาบน้ำกัน ถึงโรงแรมประมาณทุ่มครึ่ง ไปหาข้าวกิน เราไปเจอข้าวต้มถ้วยละ 1 บาท Along the way ด้วยแหละ ร้านจะตังตอนกลางคืน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอราคาถูกขนาดนี้ น้องเด็กเสิร์ฟก็ดี้ดี ราคาทั้งหมดสี่อย่าง ข้าวสวยสองถ้วย ข้าวต้ม 1 ถ้วยก็ 200 บาท
แล้วเราก็ไปจองเรือจากเกาะสมุยไปเกาะพงัน มันมีหลายราคาหลายบริษัทมาก มีเรือช้า 450 บาท ใช้เวลา 1 ชม. ถึงเกาะพงัน แล้วก็ไปลงตรงหาดริ้น ซึ่งก็คือหาดที่จัด Full moon Party เลย แต่ถ้าเป็นอีกบริษัทนึงก็คือลมพระยา จะไปจอดที่ท้องศาลา ราคาก็ 500 บาท ใช้เวลา 30 นาที มันมีตั้งแต่รอบเช้า รอบเที่ยง รอบบ่ายสอง
เราตัดสินใจไปรอบเที่ยง เพราะจะได้ไปเตรียมตัว ถึงนู่นก็บ่ายสอง ปาร์ตี้มันจัดตั้งแต่หกโมง ก็กะว่าจะไปตั้งแต่ปาร์ตี้เริ่มเลย เราจองเรือช้าไม่ทัน เลยได้ไปเรือเร็ว 500 บาทนี่คือรถมารับจากโรงแรมไปท่าเรือ แล้วก็จากท่าเรือที่เกาะสมุยไปท่าเรือท้องศาลา เราเลยต้องหารถไปหาดริ้นกันอีกรอบนึง ตอนที่เราไปเชคอินขึ้นเรือเร็วของลมพระยา
เค้าจะมีถามว่าจะเอา transfer มั้ย ก็คือพอลงจากเกาะ จะมีรถไปส่งที่โรงแรมในเกาะพงัน ราคาคนละ 250 บาท เรากับเพื่อนไม่ได้เอา ซึ่งก็จะบอกทุกคนที่จะไปว่าไม่ต้องเอานะ เพราะว่าพอเราลงเรือ เดินไปเรื่อยๆ จะมีรถตู้เป็นสิบคันเรียกถามว่าไปไหน แล้วคนละแค่ 150 บาท จอดถึงโรงแรมเลย แต่โรงแรมเรามันอยู่บนเขาสูง น้าเค้าก็เลยพาไปจอดที่ที่นึง แล้วเค้าก็ให้เดินไปบอกป้าคนนึง มันจะมีป้ายบอกว่าไปโรงแรม Jenny กับ Venus ซึ่งเราพักอยู่ที่ Venus ก็ไปหาป้า นั่งรอ เดินช้อปปิ้ง แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไร เพราะกางเกงสีสะท้อนแสงก็ 250 เลยไว้ก่อน
ทีนี้โรงแรมก็ส่งรถกระบะมารับไปถึงโรงแรม ระหว่างทางมีลิงด้วย แต่ลิงไม่ดุ ลิงกลัวเรามากกว่า ห้องอันนี้ราคา 300-400 ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้จ่าย 5555 ไม่มีแอร์นะ เป็นโรงแรมในหาดริ้น เราสามารถเดินลงไปหาดเพื่อไปงาน Full moon Party ได้เลย เราไม่ได้เช่ารถมอไซด้วย เพราะกะว่าจะไปแค่ปาร์ตี้ เราแต่งตัวลงไปหาดตั้งแต่ทุ่มนึง กลับมาตี 1 สนุกมากๆๆ ผู้ชายเยอะมากๆๆ Oops! มันจะมีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เรียงกันตามหาดไปเลย ก็ตก Bucket ละ 150-200 แล้วแต่ชนิดของเครื่องดื่มที่ใส่ลงไป เพื่อนเราฟาดไป 3 Buckets อ้อแล้วก็ตอนเดินลงเรื่อยๆ มีร้านข้าวผัดกับผัดไทยป้าน้อย จานละ 50 บาท แล้วก็มีแต่เนื้อไก่ แต่ถือว่าอร่อยนะ อร่อยเลยแหละ คืออาหารที่ร้านอื่นไม่ถึงปากเราอะ เรากินที่ร้านป้าน้อยตั้งแต่ถึงหาดจนไปอีกเกาะนึง 55555
<500ค่าเรือจากเกาะสมุยไปเกาะพงัน+150ค่ารถจากท่าเรือท้องศาลาที่เกาะพงันไปโรงแรม=650 บาท>
ที่งานจะมีเพลงทุกๆ 2 ก้าวที่เดิน มีโชว์ควงไฟ กระโดดลอดห่วงไฟ โอมเปี่ยวไฟด้วย ตอนแรกเราก็ว่าจะเล่นโอมเปี่ยว แต่เห็นคนไฟลุกหัวไปหลายคนเลยไม่ดีกว่า เลยตัดสินใจเล่นกระโดดห่วงไฟแทน มันก็ขาสั่นดีนะ มันให้ความรู้สึกแบบเรากล้าทำในสิ่งที่เราคิดว่าทำไม่ได้อะ แต่เราก็ได้ทำมันแล้วอะ ขาสั่นแต่สบายใจ 55555
จนถึงตี 1 เราก็ตัดสินใจกลับกัน ระหว่างทางเดินกลับนี่อื้อหือออ จูบกันทั่วชายหาดเลยจ้า ถ้ามีของตัวเองบ้างนะ จะไม่อิจฉาเลยยยย
หลับตั้งแต่ตีสองจนถึงเช้า ก็เชคเอ้าท์ออก แล้วเราก็ไปเดินเล่าทั่วๆชายหาดที่ยังไม่ได้ไป แล้วก็กะว่าจะไปเกาะเต่าเลย ทีนี้เดินไปเจอป้าคนนึงนั่งในร้านที่เป็นรับทัวร์แหละ ก็ถามราคาไปเกาะเต่า คนละ 450 รถมารับจากโรงแรมไปที่เกาะเต่า เป็นบริษัทเรือเร็วลมพระยาอีกเช่นเคย 450 นี่คือถึงแค่ท่าเรือเกาะเต่านะ ออกจากท่าเรือท้องศาลาที่เกาะพงันตอนห้าโมงครึ่ง ถ้ารีบไปเข้าแถวเราจะได้นั่งริมหน้าต่าง แล้วก็เห็นพระอาทิตย์ตกดิน รูปวิวที่ได้ก็เป็นประมาณนี้
พอเราถึงท่าเรือเกาะเต่า เราถึงตอนประมาณ หกโมงครึ่ง ถึงทุ่มนึง แล้วก็พบว่าโรงแรมเราอยู่ห่างจากท่าเรือ 6 นาที by taxi แต่ 20 นาที by walking เราก็เลยตัดสินใจเดินจ้า โรงแรมเราชื่อ Nat Resort ทางเดินนี่เป็นเนินขึ้นๆลงๆเลย น้ำก็หิว ข้าวก็หิว แต่ก็ต้องอดทน ใช้เวลาเดินประมาณ 30-40 นาที เพราะเราไม่ได้เดินกันเร็วเท่าไหร่ ห้องน้ำของโรงแรมที่เราอยู่เป็นห้องน้ำรวม พัดลม คืนละ 300 บาท พอเราอาบน้ำเสร็จเราก็ไปหาข้าวกินกัน ลงเลยด้วยพิซซ่า เพราะอยากมาก ร้านพิซซ่าอิตาเลี่ยน ชื่อร้านว่า God Father ใครสนใจก็ไปกินได้นะ พ่อค้าเป็นคนอิตาเลียน บริการดีมาก นั่ลล้าคคคค
แล้วเราก็ไปนอน ตื่นมาอีกทีก็เก้าโมงของเช้าอีกวันนึง ตอนนั้นเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เราตัดสินใจว่าจะไปดูรอบเกาะกันก่อนแล้วตัดสินใจว่าเราชอบกันมั้ย ถ้าชอบก็จะอยู่ต่ออีกคืน ตอนแรกก็เชคเอ้าท์ก่อน เอาของไปวางที่ Front Desk แล้วก็เดินลงไปชายหาด
ระหว่างที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจะทำอะไรกันต่อดี เพราะตอนนั้นมันก็เที่ยงกว่าแล้ว ไปทริปครึ่งวันก็ไม่ทันแล้ว เพราะเรือมันออกตั้งแต่ตอนสิบเอ็ดโมงแล้ว เราไปเจอคนเยอรมันสองกำลังหาอะไรทำเหมือนกัน มีลุงคนขับ taxi boat คนนึงนั่งอยู่ที่ชายหาด เลยไปถามว่าถ้าจะไปที่เกาะนางยวนนี่เท่าไหร่ เพราะว่าหาดนี้เป็นหาดที่เป็นทะเลแหวก แล้วก็มี view point ด้วย ลุงให้ 250 บาทต่อคน ทีนี้เราจะไปกันสี่คน ก็เลยขอต่อลุงเป็นคนละ 200 ได้มั้ย ลุงตอบได้ 200 นี่รวมขาไปขากลับเลยนะ ลุงรอรับกลับเลย
ก็เลย ไปเกาะนางยวนกัน ตอนนั้นเราออกจากหาดทรายรี ซึ่งก็คือที่พักเรา จะเป็นชายหาดกว้างหน่อย ร้านอาหารเยอะมาก น่าจะเยอะกว่าหาดอื่นๆในเกาะเต่า เท่าที่ลุงคนที่เราไปซื้อตั๋วเรือจากเกาะพงันไปสมุยเค้าบอกมานะ เราก็เลยพักกันที่หาดทรายรี ต่อไปเราไปดูปลากันที่เกาะนางยวน
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้มาดำน้ำทำอะไรแบบนี้ เพราะตอนแรกแบบโอ้ยลงใต้ทำไมมันแพงจัง แต่พอดีเพื่อนมาแล้วก็เลยตัดสินใจลงใต้เลย แล้วก็ประทับใจนะ ประทับใจมากๆ
<200ค่าเรือจากอ่าวทรายรีไปดำน้ำที่เกาะนางยวน>
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น