สวัสดีครับ ท่านผู้ที่เข้ามาอ่านทุกท่าน ขอเกริ่นนำนิดหน่อยก่อนแล้วจะเข้าเรื่องนะครับ
ตัวผมเองจากการที่เป็นคนอารมณ์ร้อน ทำอะไรวู่วาม.. ไม่เคยคิดถึงใคร แน่นอนครับ..ผมเคยมีแฟนและผมทำให้เขาเสียใจมากที่สุดกับสิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับการที่คนเป็นแฟนกันนั้น..ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง..นั่นคือ "การนอกใจ" ครับ...
ในอดีตเมื่อ 3 ปีที่แล้ว...
ตัวผม ณ ตอนนั้นโสดครับ ได้เขามหาลัยฯเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ไม่คิดว่าจะมีคนคุยด้วย หรือมีเพื่อนเพราะส่วนตัวเป็นคนที่เงียบๆอยู่แล้วไม่มีใครพูดด้วยก็จะไม่ค่อยอยากพูดกับใคร..หลังจากที่เรียนไปสักพักก็มีเพื่อนกลุ่มนึงที่ไปไหนมาไหนด้วยกันที่มหาลัยที่เพิ่งได้ทำความรู้จักกันใหม่ซึ่งในกลุ่มนั้นมีคนที่ผมแอบชอบอยู่ด้วยในตอนนั้นตัวผมก็รู้ตัวอยู่ว่าไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปบอกชอบหรืออะไรผญ.คนนั้นทำได้เพียงแค่..เป็นห่วงแบบเพื่อน..ซึ่งแน่นอนครับว่าทุกๆอย่างมันดีขึ้นสำหรับความสัมพันธ์แบบเพื่อน..แต่แล้ววันนึงเธอก็ได้เลิกรากับแฟนของเธอไปซึ่งมันทำให้ผมมีความรู้สึกว่า..เออ ควรเดินหน้าได้แล้วนะ.. เพราะตัวเองก็ทนเก็บความรู้สึกไว้แบบนี้ไม่ไหวแล้ว จึงได้บอกความรู้สึกที่มีไปทั้งหมด..ครับ...เราทั้งคู่ได้คบกัน..เป็นไปได้ด้วยดีมาโดยตลอด..จนกระทั่งตัวผมต้องย้ายมหาลัยฯเพราะไม่อยากเรียนที่นี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว..จึงย้ายมาเรียนที่มหาลัยฯในระแวกเดียวกัน เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้กับเธอบ้างในช่วงแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรใครมีเพื่อนก็มีแต่ ผช. ...แต่แล้วผมก็เจอ ผญ. คนนึงใน FB เธอคนนี้ไม่ได้สวย รวย หรืออะไรเลยแต่เธอคนนี้บังเอิญอยู่มหาลัยฯเดียวกับผมด้วย..โดยตอนแรกตัวผมเองก็ไม่คิดว่าการที่คุยกับเธอคนที่ 2 นี้จะทำให้เรื่องราวต่างๆนี้มันเกิดขึ้น ผมเผลอตัวไปกับเธอคนนี้โดยที่ไม่บอกใครจนกระทั่งแฟนผมจับได้ว่า ผมนอกใจ ณ ตอนนั้นผมรู้สึกผิดมากจริงๆและคิดแค่ว่าในเมื่อถ้าตัวเรามันเลวขนาดนี้จะมีใครทำไมให้เขาเจ็บปวด..ใช่ครับ..ผมบอกเลิกเธอทั้งคู่...หลังจากที่ผมบอกเลิกทั้งคู่ไปแล้ว ผญ. คนที่ 2 ผมก็ไม่ได้ติดต่อกับเธออีกเลย...
หลังจากนั้นไม่นาน...
ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรลงไป สิ่งที่ผมทำไปนั้นมันใช่สิ่งที่ควรทำแล้วจริงๆหรอ...แต่แล้วแฟนผมก็กลับมาเอารองเท้าที่บ้านผม(รองเท้าของแฟนผมเขาฝากเอามาซ่อมแถวบ้านครับ)พร้อมกับนั่งรถใครสักคนซึ่งแฟนบอกว่าเขาคือ "รุ่นพี่" ณ ตอนนั้นผมทั้งโกรธ ทั้งโมโห จึงพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจเธอมากที่สุดออกไปแต่แล้ววันนึงผมกลับมานั่งรู้สึกผิด ร้องไห้ เองเพราะสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปมันร้ายแรงมากโดยที่ไม่สนใจคนที่ฟังเลยว่าจะรู้สึกยังไง...ผมไม่กล้าที่จะติดต่อกับเธออีก ทำได้แค่เพียง คอยแอบส่องเฟสเธอ คอยเป็นห่วงอยู่ห่างๆ คอยถามเพื่อนว่าเธอเป็นยังไงบ้าง ผมทำแบบนี้อยู่สักระยะนึง หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนที่มหาลัยฯเดิมอีกเลย(โทรศัพท์หาย จะทักเฟสไปถามเรื่องเดิมๆก็กลัวว่าเพื่อนจะรำคาญ) ผมก็ได้แต่แอบส่องเฟสของเธออยู่เรื่อยๆมาเป็นเวลา 3 ปีหลังจากที่เลิกรากันมา..แน่นอนครับทั้งผมและเธอมีแฟนใหม่ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาสำหรับเธอผมไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ แต่สำหรับผมแล้วคนที่เข้ามาในชีวิตผมแต่ละคนก็ต้องยอมแพ้ไปเพราะการไม่เปิดใจให้ใครเข้ามาไม่ว่าจะกี่คนก็ตามจึงเป็นได้แค่เพียงคนคุยเท่านั้น..ที่สำคัญผมยังคงคิดถึงเธอมาโดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จนกระทั่งผมได้นัดกับเพื่อนที่มหาลัยฯเดิมมิตติ้งโดยที่ไม่มีเธอคนนี้อยู่ด้วย เพื่อนทุกคนรู้ว่าผมยังคิดถึงเธออยู่แม้ว่าจะปกปิดแค่ไหนก็ตาม...แต่เธอคนนั้นเองก็ไม่รู้นี่เนอะว่า "ผมคิดถึง อยากพบหน้า อยากขอโทษ" มากแค่ไหน...
ผมได้ไปหาเพื่อนบ่อยขึ้นจนผมรวบรวมความกล้าที่จะทักเธอไปขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยกระทำไว้ทั้งหมด...เธอบอกว่า "ไม่เป็นไร" "ไม่ได้โกรธแล้ว" "มันผ่านไปแล้ว" แต่ความรู้สึกของผมเองมันไม่ใช่เธอยังไม่ได้อภัยให้จริงๆ เหมือนแค่ตอบส่งๆไปอย่างงั้น เพื่อที่จะไม่ต้องทักมาคุยอีกหรืออะไรประมาณนั้น..หลังจากนั้นเธอก็ตอบบ้างบางครั้งแต่ส่วนมากจะอ่านแล้วไม่ตอบซะมากกว่า..เลยทักไปหาบ่อยๆโดยที่ไม่ได้ทันคิดเลยว่าเธอจะรำคาญ...
กระทั่งวันก่อน ผมไปหาเพื่อนขากลับเจอรถของเธอที่เธอใช้ มันทำให้ผมที่กำลังขับรถอยู่หันไปมองที่ร้านอาหารร้านนึงที่มีเธอนั่งทานข้าวอยู่ผมชะลอความเร็วเพื่อที่จะดูให้แน่ใจว่าใช้เธอจริงๆ..นั่นใช่เธอจริงๆครับ..คนที่ผมคิดถึงมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ผมทั้งดีใจมากและเจ็บมากเพราะอดีตที่ผมเคยพูดลากับเธอไว้มันเลวร้ายมากจริงๆจึงทำได้เพียงเร่งเครื่องออกไป...ขณะที่ขับรถน้ำตามันก็ไหลออกมา..ไม่รู้ว่าทำไม เพราะดีใจที่ได้เห็นเธอสบายดีหรือเสียใจในสิ่งที่ได้ทำพลาดไปในอดีต หรือเพราะทั้ง 2 เหตุผลเลยกันแน่ ผมกล้าๆกลัวๆอยู่นานสองนานจึงทักเธอไปอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงแต่เธอกลับไม่ตอบ..และด้วยความเป็นห่วงมากจริงๆจึงโทรไปหาเธอเพราะยังมีเบอร์อยู่จนถึงปัจจุบันนี้(ทุกอย่างมันลบได้..แต่เลือกที่จะเก็บไว้เผื่อวันไหนที่เธอมีปัญหาจริงๆเราจะรีบไป) แล้วเธอก็ไม่ตอบอะไรเรา แต่เท่าที่ฟังจากเสียงแล้วเธอน่าจะอยู่ที่บ้านแล้วผมจึงอุ่นใจขึ้นมาหน่อย... หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผมก็ไปหาเพื่อนปกติ..แต่เพื่อนกลับบอกว่า "เออ!!เรื่อง...อ่ะ มืงเลิกหวังเถอะกุเห็นมันโพสอะไรในเฟสอยู่ใช้คำแรงอยู่พอควร จับใจความได้ว่า "ผ่านมา 3 ปีแล้ว จะมาอะไรตอนนี้" "ผมนิ่งไปสักพัก แล้วก็บอกเพื่อนว่ากลับก่อนนะไว้เจอกันใหม่ร่ำลากันปกติ...
จากวันนั้นที่เลิกรากันไปผมเองก็ยังคง อยากเจอ คิดถึง เป็นห่วง เธออยู่เสมอ แม้ว่าในวันนี้เธอไม่มีวันย้อนหลับมา แต่อย่างน้อยผมก็ยังบอกให้เธอรู้อยู่ว่า
"ขอบคุณมากนะ..ที่ทำให้ผู้ชายคนนึงได้รู้ว่าครั้งนึงเกิดมาได้รักใครมากขนาดนี้ รองจาก พ่อแม่และครอบครัว(ที่ไม่ค่อยจะใส่ใจเรามากสักเท่าไหร่555555)"
ปล.เผื่อว่าเธอได้ผ่านมาเห็นกระทู้นี้เราอยากจะบอกเธอสักอย่างนึงมาโดยตลอด "เรารักเธอนะ และจะยังคงรักแบบนี้ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง"
ปล2.เรื่องมันอาจจะวุ่นวายไปสักนิดแต่นี่ความจริงจากคนๆนึงที่ไม่เคยหมดรักและยังมีความหวังลมๆแล้งๆอยู่
ปล3.คนที่บอกเลิก และคนที่ถูกบอกเลิกมันเจ็บเหมือนกันทั้งคู่ครับอยู่ที่ว่าคุณจะมองแบบไหน..ไม่ใช่ว่าคนที่ถูกกบอกเลิกจะเป็นฝ่ายที่เจ็บฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่..คนที่ยังรัก ยังมีความรู้สึกอยู่สิที่เจ็บที่สุดหรือคุณว่ามันไม่จริง
ปล4.รู้และเข้าใจว่าตัวผมเองทำผิดอะไรไปถ้าย้อนเวลาได้จริงๆจะทำให้เรายังอยู่ด้วยกัน...
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ ที่ให้ระบายอะไรได้บ้างในเวลาที่ไม่มีใครที่รู้จักเข้าใจครับ
ใครจะรู้ว่าคนที่บอกลาคือคนที่เจ็บกว่า...(ถึงแม้ตัวเราเองจะเป็นฝ่ายที่ผิดก็ตาม)
ตัวผมเองจากการที่เป็นคนอารมณ์ร้อน ทำอะไรวู่วาม.. ไม่เคยคิดถึงใคร แน่นอนครับ..ผมเคยมีแฟนและผมทำให้เขาเสียใจมากที่สุดกับสิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับการที่คนเป็นแฟนกันนั้น..ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง..นั่นคือ "การนอกใจ" ครับ...
ในอดีตเมื่อ 3 ปีที่แล้ว...
ตัวผม ณ ตอนนั้นโสดครับ ได้เขามหาลัยฯเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ไม่คิดว่าจะมีคนคุยด้วย หรือมีเพื่อนเพราะส่วนตัวเป็นคนที่เงียบๆอยู่แล้วไม่มีใครพูดด้วยก็จะไม่ค่อยอยากพูดกับใคร..หลังจากที่เรียนไปสักพักก็มีเพื่อนกลุ่มนึงที่ไปไหนมาไหนด้วยกันที่มหาลัยที่เพิ่งได้ทำความรู้จักกันใหม่ซึ่งในกลุ่มนั้นมีคนที่ผมแอบชอบอยู่ด้วยในตอนนั้นตัวผมก็รู้ตัวอยู่ว่าไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปบอกชอบหรืออะไรผญ.คนนั้นทำได้เพียงแค่..เป็นห่วงแบบเพื่อน..ซึ่งแน่นอนครับว่าทุกๆอย่างมันดีขึ้นสำหรับความสัมพันธ์แบบเพื่อน..แต่แล้ววันนึงเธอก็ได้เลิกรากับแฟนของเธอไปซึ่งมันทำให้ผมมีความรู้สึกว่า..เออ ควรเดินหน้าได้แล้วนะ.. เพราะตัวเองก็ทนเก็บความรู้สึกไว้แบบนี้ไม่ไหวแล้ว จึงได้บอกความรู้สึกที่มีไปทั้งหมด..ครับ...เราทั้งคู่ได้คบกัน..เป็นไปได้ด้วยดีมาโดยตลอด..จนกระทั่งตัวผมต้องย้ายมหาลัยฯเพราะไม่อยากเรียนที่นี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว..จึงย้ายมาเรียนที่มหาลัยฯในระแวกเดียวกัน เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้กับเธอบ้างในช่วงแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรใครมีเพื่อนก็มีแต่ ผช. ...แต่แล้วผมก็เจอ ผญ. คนนึงใน FB เธอคนนี้ไม่ได้สวย รวย หรืออะไรเลยแต่เธอคนนี้บังเอิญอยู่มหาลัยฯเดียวกับผมด้วย..โดยตอนแรกตัวผมเองก็ไม่คิดว่าการที่คุยกับเธอคนที่ 2 นี้จะทำให้เรื่องราวต่างๆนี้มันเกิดขึ้น ผมเผลอตัวไปกับเธอคนนี้โดยที่ไม่บอกใครจนกระทั่งแฟนผมจับได้ว่า ผมนอกใจ ณ ตอนนั้นผมรู้สึกผิดมากจริงๆและคิดแค่ว่าในเมื่อถ้าตัวเรามันเลวขนาดนี้จะมีใครทำไมให้เขาเจ็บปวด..ใช่ครับ..ผมบอกเลิกเธอทั้งคู่...หลังจากที่ผมบอกเลิกทั้งคู่ไปแล้ว ผญ. คนที่ 2 ผมก็ไม่ได้ติดต่อกับเธออีกเลย...
หลังจากนั้นไม่นาน...
ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรลงไป สิ่งที่ผมทำไปนั้นมันใช่สิ่งที่ควรทำแล้วจริงๆหรอ...แต่แล้วแฟนผมก็กลับมาเอารองเท้าที่บ้านผม(รองเท้าของแฟนผมเขาฝากเอามาซ่อมแถวบ้านครับ)พร้อมกับนั่งรถใครสักคนซึ่งแฟนบอกว่าเขาคือ "รุ่นพี่" ณ ตอนนั้นผมทั้งโกรธ ทั้งโมโห จึงพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจเธอมากที่สุดออกไปแต่แล้ววันนึงผมกลับมานั่งรู้สึกผิด ร้องไห้ เองเพราะสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปมันร้ายแรงมากโดยที่ไม่สนใจคนที่ฟังเลยว่าจะรู้สึกยังไง...ผมไม่กล้าที่จะติดต่อกับเธออีก ทำได้แค่เพียง คอยแอบส่องเฟสเธอ คอยเป็นห่วงอยู่ห่างๆ คอยถามเพื่อนว่าเธอเป็นยังไงบ้าง ผมทำแบบนี้อยู่สักระยะนึง หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนที่มหาลัยฯเดิมอีกเลย(โทรศัพท์หาย จะทักเฟสไปถามเรื่องเดิมๆก็กลัวว่าเพื่อนจะรำคาญ) ผมก็ได้แต่แอบส่องเฟสของเธออยู่เรื่อยๆมาเป็นเวลา 3 ปีหลังจากที่เลิกรากันมา..แน่นอนครับทั้งผมและเธอมีแฟนใหม่ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาสำหรับเธอผมไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ แต่สำหรับผมแล้วคนที่เข้ามาในชีวิตผมแต่ละคนก็ต้องยอมแพ้ไปเพราะการไม่เปิดใจให้ใครเข้ามาไม่ว่าจะกี่คนก็ตามจึงเป็นได้แค่เพียงคนคุยเท่านั้น..ที่สำคัญผมยังคงคิดถึงเธอมาโดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จนกระทั่งผมได้นัดกับเพื่อนที่มหาลัยฯเดิมมิตติ้งโดยที่ไม่มีเธอคนนี้อยู่ด้วย เพื่อนทุกคนรู้ว่าผมยังคิดถึงเธออยู่แม้ว่าจะปกปิดแค่ไหนก็ตาม...แต่เธอคนนั้นเองก็ไม่รู้นี่เนอะว่า "ผมคิดถึง อยากพบหน้า อยากขอโทษ" มากแค่ไหน...
ผมได้ไปหาเพื่อนบ่อยขึ้นจนผมรวบรวมความกล้าที่จะทักเธอไปขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยกระทำไว้ทั้งหมด...เธอบอกว่า "ไม่เป็นไร" "ไม่ได้โกรธแล้ว" "มันผ่านไปแล้ว" แต่ความรู้สึกของผมเองมันไม่ใช่เธอยังไม่ได้อภัยให้จริงๆ เหมือนแค่ตอบส่งๆไปอย่างงั้น เพื่อที่จะไม่ต้องทักมาคุยอีกหรืออะไรประมาณนั้น..หลังจากนั้นเธอก็ตอบบ้างบางครั้งแต่ส่วนมากจะอ่านแล้วไม่ตอบซะมากกว่า..เลยทักไปหาบ่อยๆโดยที่ไม่ได้ทันคิดเลยว่าเธอจะรำคาญ...
กระทั่งวันก่อน ผมไปหาเพื่อนขากลับเจอรถของเธอที่เธอใช้ มันทำให้ผมที่กำลังขับรถอยู่หันไปมองที่ร้านอาหารร้านนึงที่มีเธอนั่งทานข้าวอยู่ผมชะลอความเร็วเพื่อที่จะดูให้แน่ใจว่าใช้เธอจริงๆ..นั่นใช่เธอจริงๆครับ..คนที่ผมคิดถึงมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ผมทั้งดีใจมากและเจ็บมากเพราะอดีตที่ผมเคยพูดลากับเธอไว้มันเลวร้ายมากจริงๆจึงทำได้เพียงเร่งเครื่องออกไป...ขณะที่ขับรถน้ำตามันก็ไหลออกมา..ไม่รู้ว่าทำไม เพราะดีใจที่ได้เห็นเธอสบายดีหรือเสียใจในสิ่งที่ได้ทำพลาดไปในอดีต หรือเพราะทั้ง 2 เหตุผลเลยกันแน่ ผมกล้าๆกลัวๆอยู่นานสองนานจึงทักเธอไปอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงแต่เธอกลับไม่ตอบ..และด้วยความเป็นห่วงมากจริงๆจึงโทรไปหาเธอเพราะยังมีเบอร์อยู่จนถึงปัจจุบันนี้(ทุกอย่างมันลบได้..แต่เลือกที่จะเก็บไว้เผื่อวันไหนที่เธอมีปัญหาจริงๆเราจะรีบไป) แล้วเธอก็ไม่ตอบอะไรเรา แต่เท่าที่ฟังจากเสียงแล้วเธอน่าจะอยู่ที่บ้านแล้วผมจึงอุ่นใจขึ้นมาหน่อย... หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผมก็ไปหาเพื่อนปกติ..แต่เพื่อนกลับบอกว่า "เออ!!เรื่อง...อ่ะ มืงเลิกหวังเถอะกุเห็นมันโพสอะไรในเฟสอยู่ใช้คำแรงอยู่พอควร จับใจความได้ว่า "ผ่านมา 3 ปีแล้ว จะมาอะไรตอนนี้" "ผมนิ่งไปสักพัก แล้วก็บอกเพื่อนว่ากลับก่อนนะไว้เจอกันใหม่ร่ำลากันปกติ...
จากวันนั้นที่เลิกรากันไปผมเองก็ยังคง อยากเจอ คิดถึง เป็นห่วง เธออยู่เสมอ แม้ว่าในวันนี้เธอไม่มีวันย้อนหลับมา แต่อย่างน้อยผมก็ยังบอกให้เธอรู้อยู่ว่า
"ขอบคุณมากนะ..ที่ทำให้ผู้ชายคนนึงได้รู้ว่าครั้งนึงเกิดมาได้รักใครมากขนาดนี้ รองจาก พ่อแม่และครอบครัว(ที่ไม่ค่อยจะใส่ใจเรามากสักเท่าไหร่555555)"
ปล.เผื่อว่าเธอได้ผ่านมาเห็นกระทู้นี้เราอยากจะบอกเธอสักอย่างนึงมาโดยตลอด "เรารักเธอนะ และจะยังคงรักแบบนี้ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง"
ปล2.เรื่องมันอาจจะวุ่นวายไปสักนิดแต่นี่ความจริงจากคนๆนึงที่ไม่เคยหมดรักและยังมีความหวังลมๆแล้งๆอยู่
ปล3.คนที่บอกเลิก และคนที่ถูกบอกเลิกมันเจ็บเหมือนกันทั้งคู่ครับอยู่ที่ว่าคุณจะมองแบบไหน..ไม่ใช่ว่าคนที่ถูกกบอกเลิกจะเป็นฝ่ายที่เจ็บฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่..คนที่ยังรัก ยังมีความรู้สึกอยู่สิที่เจ็บที่สุดหรือคุณว่ามันไม่จริง
ปล4.รู้และเข้าใจว่าตัวผมเองทำผิดอะไรไปถ้าย้อนเวลาได้จริงๆจะทำให้เรายังอยู่ด้วยกัน...
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ ที่ให้ระบายอะไรได้บ้างในเวลาที่ไม่มีใครที่รู้จักเข้าใจครับ