กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่จะพยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ กีฬา Airsoft gun / BB gun ปี 2017
เริ่มที่ข้อกฏหมายก่อน (แบบสรุป)
1
Airsoft gun / BB gun เป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืน
2
การใช้ Airsoft gun / BB gun เพื่อข่มขู่หรือทำผู้พบเห็นให้ตกใจกลัวมีความผิดตามกฏหมายสิ่งเทียม
3
Airsoft gun / BB gun สามารถนำพาได้ แต่พกพาไม่ได้ (ถ้าพกพาก็จะเข้าข่ายความผิดในข้อ2)
4
เวส / เกราะอ่อน ที่ไม่มี แผ่นเหล็ก หรือ แผ่นกันกระสุนอยู่ข้างใน ไม่ถือเป็นยุทธภัณฑ์
5
ควรหลีกเลี่ยงการใส่ เวส / เกราะอ่อน / ชุดพราง ในที่สาธารณะ
6
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องแบบทหาร / ตำรวจ / ข้าราชการ ไทย ที่ยังถูกใช้ในราชการอยู่ เพราะมีความผิดตามกฏหมาย พ.ร.บ. เครื่องแบบทหาร พ.ศ.2477 มาตรา 6
7
Airsoft gun / BB gun สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ 2 วิธี 1 โหลดพร้อมสำภาระใต้ท้องเครื่อง 2 โหลดที่เค้าเตอร์รับฝากอาวุธ (ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับข้อปฏิบัติของแต่ละสายการบินด้วย)
8
ประชาชนที่ถือสัญญาชาติไทย สามารถนำ Airsoft gun / BB gun ออกไปเล่นนอกประเทศได้(ประเทศปลายทางต้องอนุญาติด้วย)(ก่อนจะนำออกต้องข้ออนุญาตินำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนจากนายทะเบียนอาวุธปืนด้วย) (ขอบคุณข้อมูลจาก : ทนายมีของเล่น)
9
ชาวต่างชาติมาซื้อ Airsoft gun / BB gun ในไทยสามารถเอาออกนอกประเทศได้(ประเทศปลายทางต้องอนุญาติด้วย) (ขอบคุณข้อมูลจาก : ทนายมีของเล่น)
10
การนำ Airsoft gun / BB gun ไปใส่ลูกเหล็ก ลูกแก้ว ลูกเบอร์ 1 แล้วทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายมีความผิดทางกฏหมาย
ประเภทของปืน แยกตามระบบการทำงานของปืน
1 ระบบไฟฟ้า ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ จ่ายให้มอเตอร์ ไปหมุนเฟืองเพื่อถอยลูกสูบ และลูกสูบเด่งกลับตามแรงสปริงทำให้มีลมดันลูกออกจากปากกระบอก
ปืนไฟฟ้าสามารถแยกย่อยระบบการทำงานได้ 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
1.1 ปืนไฟฟ้าที่ไม่มีวงจรอิเล็คทรอนิคควบคุมการทำงาน แต่ใช้ระบบคัทออฟตัดการทำงานของหน้าคอนแท็คเพื่อตัดกระแสไฟฟ้า

1.2 ปืนไฟฟ้าที่มีวงจรอิเล็คทรอนิคควบคุมการทำงาน โดยการนับรอบของเฟืองและใช้วงจรอิเล็คทรอนิคในการตัดการะแสไฟฟ้า และยังสามารถปรับจูนการทำงานได้หลากหลายขึ้น ส่งผลให้มีความเสถียรและแม่นยำกว่า

ตัวอย่างปืนไฟฟ้า
2 ระบบ air cocking เป็นระบบที่ผู้ใช้ต้องขึ้นลำเพื่อให้ลูกสูบถอยหลัง เพื่อให้มีลมดันลูกออกจากปากกระบอก ทีละนัดส่วนใหญ่จะเป็นสไนเปอร์ แต่ปืนอัดลมที่ขายกันตามตลาดนัดชักยิงทีละครั้งก็คือปืนระบบ air cocking เหมือนกัน
ตัวอย่างระบบ air cocking

3 ระบบ gas blowback คือระบบที่ใช้แรงดันแก๊ซ ในการดันลูกออกจากปากกระบอกปืน และ ใช้แก๊สดันลูกเลื่อนถอยหลังเพื่อขึ้นลำ (มีทั้งปืนสั้น และปืนยาว)
มีทั้งแบบใช้แก๊สกระป๋องและC02
ตัวอย่างปืนแก๊ส
(ห้ามลอกเรียนแบบ อาจจะเกิดสนิมกะปืนที่คุณรักได้)
4 ระบบ air cocking + gas ระบบการทำงานเหมือน air cocking แต่จะทำงานควบคู่ไปกับ แก๊สที่อัดใส่ปลอกกระสุนหรือถังเก็บไว้ (พบมากในลูกซอง)

5 ระบบ HPA คือระบบที่ใช้แรงดันลม ในการดันลูกออกจากปากกระบอกปืน (คล้ายๆ paint ball แต่ไม่ได้ใช้ co2 เหมือน paintball)
ปัจจุบัณมี Airsoft gun / BB gun ที่ใช้ระบบ HPA โดยเฉพาะ และ แบบที่แปลงจากระบบไฟฟ้า หรือระบบ GAS มาเป็น HPA
ตัวอย่างระบบ HPA
ราคา Airsoft gun / BB gun
ช่วงนี้ราคาปืนค่อนข้างสูงขึ้นมาพอสมควรเลยครับ แล้วก็หาซื้อกันยากขึ้น เรียกว่าเป็นช่วงขาลงเลยดีกว่า
แต่ก็มีหลายๆอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนครับ(สิบกว่าปีก่อน) เนื่องจากราคาปืนที่แพงขึ้นจริง
แต่เทคโนโลยีต่างๆก็พัฒนาตามขึ้นไปด้วย เช่น เมื่อก่อน ปืนไฟฟ้าจะใช้ หน้าคอนแท็ค+กันกลับ+คัทออฟในการเปิดปิดวงจรการยิง(ในปืนไฟฟ้า)
ปัจจุบัน ก็เริ่มมีวงจรอิเล็กทรอนิคเข้ามาแทน ทำให้ปืนบางกระบอกสามารถปรับโหมดการยิงแบบเป็นชุดได้
ส่วนราคาปืน
ระบบไฟฟ้า เริ่มที่ 5,xxx-6x,xxx
ระบบ air cocking เริ่มที่ 4,xxx-3x,xxx
ระบบ gas blowback เริ่มที่ 2,xxx-3x,xxx สำหรับปืนสั้น และ 9x,xxx-4x,xxx สำหรับปืนยาว
ระบบ air cocking + gas เริ่มที่ 7,xxx-2x,xxx
ระบบ hpa (เฉพาะชุดแปลงจากระบบไฟฟ้า ไม่รวมปืน) อยู่ที่ 2x,xxx (ชุดแปลงจาก gas เป็น HPA ไม่รวมปืน)อยู่ที่ 1x,xxx
ระยะยิง กับระยะหวังผล กับ ความแรง
โดยทั่วไปแล้ว bbgun ที่ความแรงไม่เกิน 400 fps จะทำระยะการยิงได้ที่ประมาณ 45-60 เมตร
และมีระยะหวังผลที่ 0-30 เมตร ในปืนยาว 0-20 เมตรในปืนสั้น (ท่อ ธรรมดา) จะได้กลุ่มกระสุดที่สุดระยะหวังผลประมาณ 1 A4
เมื่อทำการปรับแต่ง โดยการเปลี่ยน hop ใส่ท่อรีด
จะส่งผลให้ มีระยะหวังผลที่ 0-50 เมตร ในปืนยาว 0-35 เมตรในปืนสั้น จะได้กลุ่มกระสุดที่สุดระยะหวังผลประมาณ ครึ่ง A4
(ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับความยาวท่อในและอัตตราการจ่ายลม/แก๊สของตัวปืนด้วย)
ค่าใช้จ่ายในการเล่น ปืน Airsoft gun / BB gun แบบต่างๆ
ระบบไฟฟ้า จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของการบำรุงรักษาและการใช้งานดังนี้
1 battery lipo 1 ก้อนอยู่ที่ 350-700 บาท
2 ที่ช๊าตสำหรับบาล๊านช๊าต อยู่ที่ 1000-2000 บาท
3 ที่วัด volt 150-200 บาท
4 ปลั๊กดีน หรือปลั๊กรูปแบบอื่น (รวมค่าแปลง) 50-100 บาท
5 ซองกระสุนสำรอง 450-900 บาท
6 fet สำหรับลดการช๊อตของหน้าคอนแท็ค (ปืนรุ่นใหม่ๆที่เป็นอิเล็คทรอนิคมาก็ไม่ต้องใช้แล้วนะ) 200-500
7 ซิลิโคลนสเปย์ / จาราบี สำหรับหล่อลื่น ห้องสูบ และชุดเกียร์และรักษาสภาพส่วนประกอบที่เป็นยางต่างๆ ซิลิโคลน 100-500 + จาราบี 250-599
ระบบ air cocking จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของการบำรุงรักษาและการใช้งานดังนี้
1 ระบบชุดลั่นไก บางรุ่นเป็นซิงค์อันลอยมาอาจจะหักง่ายเปลี่ยนใหม่ก็ประมาณ 500-2000 แล้วแต่รุ่นแล้วแต่อาการ
2 ซิลิโคลนสเปย์ / จาราบี สำหรับหล่อลื่น ห้องสูบ ซิลิโคลน 100-500 + จาราบี 250-599
3 ซองกระสุนสำรอง 350-500 บาท
ระบบ gas blowback จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของการบำรุงรักษาและการใช้งานดังนี้
1 ซิลิโคลนสเปย์ / จาราบี สำหรับหล่อลื่น ชุดลูกเลื่อน ห้องสูบ และยืดอายุโอริงต่างๆ ซิลิโคลน 100-500 + จาราบี 250-599
2 แก๊สกระป๋อง ตกกระป๋องละ 200-250 บาท หรือ แก๊สถัง (r22 / r134a ที่มีการประสมซิลิโคนสำหรับใช้กับปืนแก๊สโดยเฉพาะแล้ว) ตกถังละ 2000-3000 บาท (เติมได้ 45 กระป๋องเล็กโดยประมาณ)
3 ซองกระสุนสำรอง 350-1500 บาท สำหรับปืนสั้น(GBB) 1100-2200 บาท สำหรับปืนยาว(GBB-R)
ระบบ hpa
1 ค่าอัดอากาศเข้าถังอากาศ ราคา N/A
2 ค่าแบตเตอรี่ สำหรับ HPA ที่แปลงจากระบบไฟฟ้า 350-700 บาท
3 ซองกระสุนสำรอง สำหรับ HPA ที่แปลงจากระบบไฟฟ้า 450-900 บาท
4 ซองกระสุนสำรอง สำหรับ HPA ที่แปลงจากระบบแก๊ซ 350-1500 บาท สำหรับปืนสั้น 1100-2200 บาท สำหรับปืนยาว
5 อุปกรณ์ในการบำรุงรักษา N/A
อีกเรื่องที่สำคัญ คืออุปกรณ์ป้องกันและแต่งกายนะ
ควรเพื่องบตรงนี้ไว้พอควรเลยส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายประมาณนี้
1 ชุด (เสื้อ + กางเกง)
มีหลายแบบหลายแบบหลายลายให้เลือกครับ ราคาก็อยู่ที่ 1000-7,xxx แล้วแต่ยี่ห้อครับ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ
1 ชุดข้าราชการ / เครื่องแบบทหารไทย
2 ถ้าเป็นชุดพรางไม่ว่าแบบไหน ก็ตามให้หลีกเลี่ยงการใส่ในที่สาธารณะ ครับ
2 แว่นและหน้ากาก
แนะนำให้ใช้เป็นหน้ากากหรือแว่นแนว แว่น goggle ที่ปิดรอบดวงตามิดชิดเพื่อกันเศษ หรือลูกบีบีเข้าตา
หรือจะเป็นหน้ากากแบบเต็มหน้าก็ได้
ราคาก็เริ่มตั้งแต่ 350-5,xxx
3 เวส หรือเกราะอ่อน (ไม่สามารถกันกระสุนปืนจริงได้นะครับ)
จะเล่นทั้งทีจะแต่งตัวเหมือนไปจ่ายตลาดก็ใช่ที่ การแต่งตัวให้ดูสมจริงขึ้นก็ช่วยเพิ่มสีสันและลดอาการบาดเจ็บได้บ้าง
เวสหรือเกราะอ่อน ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าคอดูล่า มีช่องใส่อุปกรณ์ และ molle ไว้ยึดอุปกรณ์ต่างๆ มีเวลโครไว้ติดแพทเลือดแพททีมเป็นต้น
ราคาก็เริ่มที่ 1500-2x,xxx ครับผม
ข้อควรปฏิบัติคือ เวลาขนย้าย เก็บให้มิดชิด ไม่ใส่เล่นในที่สาธารณะ
ไม่ใส่วัสดุเช่นแผ่นเหล็กหรือแผ่นกันกระสุนเข้าไปในเวส ซึ่งจะทำให้เวสหรือเกราะอ่อนเป็นยุทธภัณฑ์ในทันที
4 รองเท้า
จะให้ใส่หูหนีบ นันยาง หรือรองเท้าบอลไปวิ่งในสนามบีบีก็คงไม่โอเคโดยเฉพาะหูหนีบเพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อเท้าเราได้
ก็ควรหารองเท้าพื้นแข็ง หรือ รองเท้าแนวทหารมาเสริมความหล่อหน่อยนึง ก็ตกคู่ละ 900-2000 ตามแต่เสป็ครองเท้าครับ
5 นอกจากนี้ก็ยังมีพวกพร๊อพเสริมการเล่น เช่น เลเซอร์ ไฟฉาย IR ระเบิดดัมมี่ ระเบิดเสียง(ดังจริงอะไรจริง ทำงานด้วย gas) ระเบิดbb
หมวก กล้องอัดvideo ถุงมือ สนับเข่า เป็นต้น
ตัวอย่างเครื่องแต่งกาย เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น
รูปแบบการเล่น (แบบสรุป)
1 speed ball คือการเล่นแบ่งทีม ยิงกัน จนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายหมด หรือ ชิงธงอีกฝั่งได้ หาโดนยิงแม้เพียง 1 นัด ก็ถือว่าตายและต้องออกจากเกมส์

2 ASTG คือการแข่งขัน speed ball โดยใช้เกราะสัญญาณ เป็นตัวจับว่าโดนยิงหรือยัง
3 IPSC Air action คือการยิงปืนในรูปแบบรณยุทธ(เน้นปืนสั้นเป็นหลัก) ยิงเพลตเหล็กให้ล้ม / ยิงเป้ากระดาษ ตามโซนคะแนน จะนวนเป้าต่อ 1 เสตจ 10-30 เป้า
4 ATCS / AGTS คือการยิงปืนในรูปแบบรณยุทธ(เน้นปืนยาวเป็นหลัก) ยิงเพลตเหล็กให้ล้ม / ยิงเป้ากระดาษ ตามโซนคะแนน จะนวนเป้าต่อ 1 เสตจ 30-60 เป้า และในการทำการยิงแต่ละจุดยิงจะมีเครื่องกีดขวางที่เป็นอุปสักและตัวบังคับท่าการยิงมากกว่า IPSC
5 MilSim คือการเล่นในรูปแบบการจำลองการรบ พื้นที่ในการเล่นจะกว้างกว่า speed ball จำนวนผู้เล่นก็จะมากกว่าด้วยเช่นกัน และใช้การแต่งกายเลียนแบบหน่วยรบต่างๆเพื่อเป็นการจำแนกฝ่าย มีการจำกัดจำนวนกระสุน จำกัดรูปแบบการยิง ในบางอีเว้น จะมีการเก็บประสบการณ์จากภารกิจที่ได้รับเพื่อการปรับยศด้วย
รวมข้อมูลเกี่ยวกับ กีฬา Airsoft gun / BB gun ปี 2017
เริ่มที่ข้อกฏหมายก่อน (แบบสรุป)
1 Airsoft gun / BB gun เป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืน
2 การใช้ Airsoft gun / BB gun เพื่อข่มขู่หรือทำผู้พบเห็นให้ตกใจกลัวมีความผิดตามกฏหมายสิ่งเทียม
3 Airsoft gun / BB gun สามารถนำพาได้ แต่พกพาไม่ได้ (ถ้าพกพาก็จะเข้าข่ายความผิดในข้อ2)
4 เวส / เกราะอ่อน ที่ไม่มี แผ่นเหล็ก หรือ แผ่นกันกระสุนอยู่ข้างใน ไม่ถือเป็นยุทธภัณฑ์
5 ควรหลีกเลี่ยงการใส่ เวส / เกราะอ่อน / ชุดพราง ในที่สาธารณะ
6 หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องแบบทหาร / ตำรวจ / ข้าราชการ ไทย ที่ยังถูกใช้ในราชการอยู่ เพราะมีความผิดตามกฏหมาย พ.ร.บ. เครื่องแบบทหาร พ.ศ.2477 มาตรา 6
7 Airsoft gun / BB gun สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ 2 วิธี 1 โหลดพร้อมสำภาระใต้ท้องเครื่อง 2 โหลดที่เค้าเตอร์รับฝากอาวุธ (ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับข้อปฏิบัติของแต่ละสายการบินด้วย)
8 ประชาชนที่ถือสัญญาชาติไทย สามารถนำ Airsoft gun / BB gun ออกไปเล่นนอกประเทศได้(ประเทศปลายทางต้องอนุญาติด้วย)(ก่อนจะนำออกต้องข้ออนุญาตินำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนจากนายทะเบียนอาวุธปืนด้วย) (ขอบคุณข้อมูลจาก : ทนายมีของเล่น)
9 ชาวต่างชาติมาซื้อ Airsoft gun / BB gun ในไทยสามารถเอาออกนอกประเทศได้(ประเทศปลายทางต้องอนุญาติด้วย) (ขอบคุณข้อมูลจาก : ทนายมีของเล่น)
10 การนำ Airsoft gun / BB gun ไปใส่ลูกเหล็ก ลูกแก้ว ลูกเบอร์ 1 แล้วทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายมีความผิดทางกฏหมาย
ประเภทของปืน แยกตามระบบการทำงานของปืน
1 ระบบไฟฟ้า ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ จ่ายให้มอเตอร์ ไปหมุนเฟืองเพื่อถอยลูกสูบ และลูกสูบเด่งกลับตามแรงสปริงทำให้มีลมดันลูกออกจากปากกระบอก
ปืนไฟฟ้าสามารถแยกย่อยระบบการทำงานได้ 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
1.1 ปืนไฟฟ้าที่ไม่มีวงจรอิเล็คทรอนิคควบคุมการทำงาน แต่ใช้ระบบคัทออฟตัดการทำงานของหน้าคอนแท็คเพื่อตัดกระแสไฟฟ้า
1.2 ปืนไฟฟ้าที่มีวงจรอิเล็คทรอนิคควบคุมการทำงาน โดยการนับรอบของเฟืองและใช้วงจรอิเล็คทรอนิคในการตัดการะแสไฟฟ้า และยังสามารถปรับจูนการทำงานได้หลากหลายขึ้น ส่งผลให้มีความเสถียรและแม่นยำกว่า
ตัวอย่างปืนไฟฟ้า
2 ระบบ air cocking เป็นระบบที่ผู้ใช้ต้องขึ้นลำเพื่อให้ลูกสูบถอยหลัง เพื่อให้มีลมดันลูกออกจากปากกระบอก ทีละนัดส่วนใหญ่จะเป็นสไนเปอร์ แต่ปืนอัดลมที่ขายกันตามตลาดนัดชักยิงทีละครั้งก็คือปืนระบบ air cocking เหมือนกัน
ตัวอย่างระบบ air cocking
3 ระบบ gas blowback คือระบบที่ใช้แรงดันแก๊ซ ในการดันลูกออกจากปากกระบอกปืน และ ใช้แก๊สดันลูกเลื่อนถอยหลังเพื่อขึ้นลำ (มีทั้งปืนสั้น และปืนยาว)
มีทั้งแบบใช้แก๊สกระป๋องและC02
ตัวอย่างปืนแก๊ส
(ห้ามลอกเรียนแบบ อาจจะเกิดสนิมกะปืนที่คุณรักได้)
4 ระบบ air cocking + gas ระบบการทำงานเหมือน air cocking แต่จะทำงานควบคู่ไปกับ แก๊สที่อัดใส่ปลอกกระสุนหรือถังเก็บไว้ (พบมากในลูกซอง)
5 ระบบ HPA คือระบบที่ใช้แรงดันลม ในการดันลูกออกจากปากกระบอกปืน (คล้ายๆ paint ball แต่ไม่ได้ใช้ co2 เหมือน paintball)
ปัจจุบัณมี Airsoft gun / BB gun ที่ใช้ระบบ HPA โดยเฉพาะ และ แบบที่แปลงจากระบบไฟฟ้า หรือระบบ GAS มาเป็น HPA ตัวอย่างระบบ HPA
ราคา Airsoft gun / BB gun
ช่วงนี้ราคาปืนค่อนข้างสูงขึ้นมาพอสมควรเลยครับ แล้วก็หาซื้อกันยากขึ้น เรียกว่าเป็นช่วงขาลงเลยดีกว่า
แต่ก็มีหลายๆอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนครับ(สิบกว่าปีก่อน) เนื่องจากราคาปืนที่แพงขึ้นจริง
แต่เทคโนโลยีต่างๆก็พัฒนาตามขึ้นไปด้วย เช่น เมื่อก่อน ปืนไฟฟ้าจะใช้ หน้าคอนแท็ค+กันกลับ+คัทออฟในการเปิดปิดวงจรการยิง(ในปืนไฟฟ้า)
ปัจจุบัน ก็เริ่มมีวงจรอิเล็กทรอนิคเข้ามาแทน ทำให้ปืนบางกระบอกสามารถปรับโหมดการยิงแบบเป็นชุดได้
ส่วนราคาปืน
ระบบไฟฟ้า เริ่มที่ 5,xxx-6x,xxx
ระบบ air cocking เริ่มที่ 4,xxx-3x,xxx
ระบบ gas blowback เริ่มที่ 2,xxx-3x,xxx สำหรับปืนสั้น และ 9x,xxx-4x,xxx สำหรับปืนยาว
ระบบ air cocking + gas เริ่มที่ 7,xxx-2x,xxx
ระบบ hpa (เฉพาะชุดแปลงจากระบบไฟฟ้า ไม่รวมปืน) อยู่ที่ 2x,xxx (ชุดแปลงจาก gas เป็น HPA ไม่รวมปืน)อยู่ที่ 1x,xxx
ระยะยิง กับระยะหวังผล กับ ความแรง
โดยทั่วไปแล้ว bbgun ที่ความแรงไม่เกิน 400 fps จะทำระยะการยิงได้ที่ประมาณ 45-60 เมตร
และมีระยะหวังผลที่ 0-30 เมตร ในปืนยาว 0-20 เมตรในปืนสั้น (ท่อ ธรรมดา) จะได้กลุ่มกระสุดที่สุดระยะหวังผลประมาณ 1 A4
เมื่อทำการปรับแต่ง โดยการเปลี่ยน hop ใส่ท่อรีด
จะส่งผลให้ มีระยะหวังผลที่ 0-50 เมตร ในปืนยาว 0-35 เมตรในปืนสั้น จะได้กลุ่มกระสุดที่สุดระยะหวังผลประมาณ ครึ่ง A4
(ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับความยาวท่อในและอัตตราการจ่ายลม/แก๊สของตัวปืนด้วย)
ค่าใช้จ่ายในการเล่น ปืน Airsoft gun / BB gun แบบต่างๆ
ระบบไฟฟ้า จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของการบำรุงรักษาและการใช้งานดังนี้
1 battery lipo 1 ก้อนอยู่ที่ 350-700 บาท
2 ที่ช๊าตสำหรับบาล๊านช๊าต อยู่ที่ 1000-2000 บาท
3 ที่วัด volt 150-200 บาท
4 ปลั๊กดีน หรือปลั๊กรูปแบบอื่น (รวมค่าแปลง) 50-100 บาท
5 ซองกระสุนสำรอง 450-900 บาท
6 fet สำหรับลดการช๊อตของหน้าคอนแท็ค (ปืนรุ่นใหม่ๆที่เป็นอิเล็คทรอนิคมาก็ไม่ต้องใช้แล้วนะ) 200-500
7 ซิลิโคลนสเปย์ / จาราบี สำหรับหล่อลื่น ห้องสูบ และชุดเกียร์และรักษาสภาพส่วนประกอบที่เป็นยางต่างๆ ซิลิโคลน 100-500 + จาราบี 250-599
ระบบ air cocking จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของการบำรุงรักษาและการใช้งานดังนี้
1 ระบบชุดลั่นไก บางรุ่นเป็นซิงค์อันลอยมาอาจจะหักง่ายเปลี่ยนใหม่ก็ประมาณ 500-2000 แล้วแต่รุ่นแล้วแต่อาการ
2 ซิลิโคลนสเปย์ / จาราบี สำหรับหล่อลื่น ห้องสูบ ซิลิโคลน 100-500 + จาราบี 250-599
3 ซองกระสุนสำรอง 350-500 บาท
ระบบ gas blowback จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของการบำรุงรักษาและการใช้งานดังนี้
1 ซิลิโคลนสเปย์ / จาราบี สำหรับหล่อลื่น ชุดลูกเลื่อน ห้องสูบ และยืดอายุโอริงต่างๆ ซิลิโคลน 100-500 + จาราบี 250-599
2 แก๊สกระป๋อง ตกกระป๋องละ 200-250 บาท หรือ แก๊สถัง (r22 / r134a ที่มีการประสมซิลิโคนสำหรับใช้กับปืนแก๊สโดยเฉพาะแล้ว) ตกถังละ 2000-3000 บาท (เติมได้ 45 กระป๋องเล็กโดยประมาณ)
3 ซองกระสุนสำรอง 350-1500 บาท สำหรับปืนสั้น(GBB) 1100-2200 บาท สำหรับปืนยาว(GBB-R)
ระบบ hpa
1 ค่าอัดอากาศเข้าถังอากาศ ราคา N/A
2 ค่าแบตเตอรี่ สำหรับ HPA ที่แปลงจากระบบไฟฟ้า 350-700 บาท
3 ซองกระสุนสำรอง สำหรับ HPA ที่แปลงจากระบบไฟฟ้า 450-900 บาท
4 ซองกระสุนสำรอง สำหรับ HPA ที่แปลงจากระบบแก๊ซ 350-1500 บาท สำหรับปืนสั้น 1100-2200 บาท สำหรับปืนยาว
5 อุปกรณ์ในการบำรุงรักษา N/A
อีกเรื่องที่สำคัญ คืออุปกรณ์ป้องกันและแต่งกายนะ
ควรเพื่องบตรงนี้ไว้พอควรเลยส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายประมาณนี้
1 ชุด (เสื้อ + กางเกง)
มีหลายแบบหลายแบบหลายลายให้เลือกครับ ราคาก็อยู่ที่ 1000-7,xxx แล้วแต่ยี่ห้อครับ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ
1 ชุดข้าราชการ / เครื่องแบบทหารไทย
2 ถ้าเป็นชุดพรางไม่ว่าแบบไหน ก็ตามให้หลีกเลี่ยงการใส่ในที่สาธารณะ ครับ
2 แว่นและหน้ากาก
แนะนำให้ใช้เป็นหน้ากากหรือแว่นแนว แว่น goggle ที่ปิดรอบดวงตามิดชิดเพื่อกันเศษ หรือลูกบีบีเข้าตา
หรือจะเป็นหน้ากากแบบเต็มหน้าก็ได้
ราคาก็เริ่มตั้งแต่ 350-5,xxx
3 เวส หรือเกราะอ่อน (ไม่สามารถกันกระสุนปืนจริงได้นะครับ)
จะเล่นทั้งทีจะแต่งตัวเหมือนไปจ่ายตลาดก็ใช่ที่ การแต่งตัวให้ดูสมจริงขึ้นก็ช่วยเพิ่มสีสันและลดอาการบาดเจ็บได้บ้าง
เวสหรือเกราะอ่อน ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าคอดูล่า มีช่องใส่อุปกรณ์ และ molle ไว้ยึดอุปกรณ์ต่างๆ มีเวลโครไว้ติดแพทเลือดแพททีมเป็นต้น
ราคาก็เริ่มที่ 1500-2x,xxx ครับผม
ข้อควรปฏิบัติคือ เวลาขนย้าย เก็บให้มิดชิด ไม่ใส่เล่นในที่สาธารณะ
ไม่ใส่วัสดุเช่นแผ่นเหล็กหรือแผ่นกันกระสุนเข้าไปในเวส ซึ่งจะทำให้เวสหรือเกราะอ่อนเป็นยุทธภัณฑ์ในทันที
4 รองเท้า
จะให้ใส่หูหนีบ นันยาง หรือรองเท้าบอลไปวิ่งในสนามบีบีก็คงไม่โอเคโดยเฉพาะหูหนีบเพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อเท้าเราได้
ก็ควรหารองเท้าพื้นแข็ง หรือ รองเท้าแนวทหารมาเสริมความหล่อหน่อยนึง ก็ตกคู่ละ 900-2000 ตามแต่เสป็ครองเท้าครับ
5 นอกจากนี้ก็ยังมีพวกพร๊อพเสริมการเล่น เช่น เลเซอร์ ไฟฉาย IR ระเบิดดัมมี่ ระเบิดเสียง(ดังจริงอะไรจริง ทำงานด้วย gas) ระเบิดbb
หมวก กล้องอัดvideo ถุงมือ สนับเข่า เป็นต้น
ตัวอย่างเครื่องแต่งกาย เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น
รูปแบบการเล่น (แบบสรุป)
1 speed ball คือการเล่นแบ่งทีม ยิงกัน จนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายหมด หรือ ชิงธงอีกฝั่งได้ หาโดนยิงแม้เพียง 1 นัด ก็ถือว่าตายและต้องออกจากเกมส์
2 ASTG คือการแข่งขัน speed ball โดยใช้เกราะสัญญาณ เป็นตัวจับว่าโดนยิงหรือยัง
3 IPSC Air action คือการยิงปืนในรูปแบบรณยุทธ(เน้นปืนสั้นเป็นหลัก) ยิงเพลตเหล็กให้ล้ม / ยิงเป้ากระดาษ ตามโซนคะแนน จะนวนเป้าต่อ 1 เสตจ 10-30 เป้า
4 ATCS / AGTS คือการยิงปืนในรูปแบบรณยุทธ(เน้นปืนยาวเป็นหลัก) ยิงเพลตเหล็กให้ล้ม / ยิงเป้ากระดาษ ตามโซนคะแนน จะนวนเป้าต่อ 1 เสตจ 30-60 เป้า และในการทำการยิงแต่ละจุดยิงจะมีเครื่องกีดขวางที่เป็นอุปสักและตัวบังคับท่าการยิงมากกว่า IPSC
5 MilSim คือการเล่นในรูปแบบการจำลองการรบ พื้นที่ในการเล่นจะกว้างกว่า speed ball จำนวนผู้เล่นก็จะมากกว่าด้วยเช่นกัน และใช้การแต่งกายเลียนแบบหน่วยรบต่างๆเพื่อเป็นการจำแนกฝ่าย มีการจำกัดจำนวนกระสุน จำกัดรูปแบบการยิง ในบางอีเว้น จะมีการเก็บประสบการณ์จากภารกิจที่ได้รับเพื่อการปรับยศด้วย