สวัสดีครับ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตอนไปเที่ยวอังกฤษให้เพื่อน ๆ ฟังกันครับ
แต่ดูเหมือนว่าประสบการณ์นี้จะไม่ใช่ประสบการณ์ที่ทุกคนอยากจะเจอนะครับ เพราะเป็นประสบการณ์ที่ผมโดนรถไฟอังกฤษเท
ก่อนอื่นเลยต้องขอโทษที่ไม่แนบรูปลงไปในกระทู้ด้วยนะครับ เพราะผมยังไม่ได้ยืนยันบัตรปชช. (แอบขี้เกียจ) แต่มีแปะลิงก์รูปบน imgur ไว้ครับ
เรื่องมันมีอยู่ว่า... ผมไปเที่ยวสกอตแลนด์ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาครับ แล้วพอตอนใกล้ ๆ จะกลับก็ลงมาอังกฤษ เราก็จองตั๋วรถไฟเสร็จสรรพล่วงหน้าเรียบร้อยครับ พอถึงวันเดินทางก็ไปรับตั๋วรถไฟที่สถานีแล้วก็นั่งรอรถไฟออกครับ ซึ่งระหว่างทางลงไปลอนดอนผมเลือกที่จะแวะเที่ยวที่เคมบริดจ์ก่อนครับ ก็เลยตีตั๋วจากเอดินบะระไปยังเคมบริดจ์ ซึ่งค่ารถไฟที่อังกฤษนี่โหดมหาศาลเลยครับ ผมไปกับเพื่อนอีก 2 คนก็เจอค่าเสียหายไปทั้งสิ้น £88.95 (~3,800 บาท) ครับ
เมื่อรถไฟเทียบชานชาลาพวกเราก็ไปจับจองที่นั่งรอรถไฟออกกันครับ ซึ่งบนขบวนนั้นมีบริการไวไฟให้ใช้ฟรีด้วย พวกเราก็ไม่รอช้าหยิบคอมออกมา
ต่อสายแลนตีดอทกันครับ นั่งเล่นเน็ตรอไปครับเพราะมันใช้เวลาตั้งเกือบ 4 ชั่วโมงแหนะ พวกเราก็นั่งเล่นไปเรื่อย ๆ ครับ
จนกระทั่งประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนถึงสถานีที่เราต้องเปลี่ยนรถไฟ ผมก็ลองเช็คดูครับว่าตอนนี้รถไฟถึงไหนแล้ว แล้วก็รถไฟขบวนที่จะไปต่อนั้นล่าช้าหรือเปล่า ปรากฏว่าโฮลี่ โมลี่ครับ รถไฟขบวนที่จะต้องไปต่อถูกยกเลิก!
(หน้าเว็บที่เปิดขึ้นมาก็จะเป็นประมาณนี้ครับ
https://imgur.com/Uplotog)
เอาล่ะสิครับ ทีนี้จะทำยังไง
ด้วยความที่เว็บไซต์ของหน่วยงานในอังกฤษเป็นเว็บไซต์ที่ดีครับ เราจึงไม่ต้องเข้าไปหาเบอร์โทรและโทรไปหาคอลเซ็นเตอร์ (ที่ต่อไม่ติด) ผมก็หาเจอว่าถ้ารถไฟล่าช้าเราก็สามารถเรียกเงินคืนได้ (หึหึ) ถ้าช้าเกิน 30 นาทีได้เงินคืนครึ่งนึง ถ้าเกิน 1 ชม. ได้เงินคืนเต็มจำนวน (ซึ่งกฎหมายของอังกฤษไม่ได้บังคับว่าต้องให้เท่านี้ครับ ในกฎหมายบอกว่าให้น้อยกว่านี้ยังได้ แต่ว่าบริษัทรถไฟโชว์สปิริตให้เงินในอัตรานี้กันทุกเจ้าเลยครับ)
ผมก็เลยอยากเช็คให้แน่ เลยหาทางสอบถามกับทางบริษัทรถไฟครับ บริษัทรถไฟเขาจะมีบัญชีทวิตเตอร์ที่คอยสอดส่อง และช่วยเหลือลูกค้าครับ ผมก็เลยทวีตไปถาม @CrossCountryUK ซึ่งเป็นรถไฟที่ผมต้องไปต่อและเทผม
เขาก็บอกว่า ผมสามารถขอเงินคืนได้เต็มจำนวน และก็ให้ขึ้นขบวนถัดไปได้เลย พอรู้แบบนี้ก็ค่อยโล่งใจหน่อยว่าไม่ต้องมาหลงทางกลางเมืองที่ไม่รู้จัก ในประเทศที่เราไม่คุ้นเคย
พอไปถึงสถานีที่พวกเราต้องเปลี่ยนรถไฟ พวกเราก็พบกับคำว่า "เงิบ" อย่างจัง เพราะพวกเราไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ
พวกเราก็ไปถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งเขาก็บอกว่า ยูก็รอขบวนถัดไปอ่านะ
แหมคุณเจ้าหน้าที่ก็พูดง่ายนะครับ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ารถไฟขบวนถัดไปมันมาในอีกหนึ่งขั่วโมงครึ่งน่ะสิครับ...
แล้วในเก้าอี้ในสถานีก็ถูกจับจองไปทึ่เรียบร้อยแล้ว พี่จะเทรถไฟผมแล้วยังจะให้ผมยืนรอแบบนี้ไม่ด้ายยย!
ผมเลยรวบรวมความกล้าเดินไปถามพนักงานอีกคนที่หน้าสถานีด้วยภาษาอังกฤษอันง่อนแง่นว่า
"เอิ่ม... ซอรี่นะยู รถไฟยูเทกูอะ ไอจะไปนั่งรอที่ไหนได้บ้าง แถวนี้มีร้านกาแฟให้นั่งชิวอัพรูปลงไอจีไหมอะ"
พนักงานก็ไม่รอช้าครับ ยื่นกระดาษสีแดง ๆ 3 ใบออกมาบอกว่า
"ยูพูดอะไรวะ ไอฟังไม่รู้เรื่อง เล่นพูดไทยคำอังกฤษคำแบบนั้น ไอจะไปฟังออกได้ไง นี่บัตรกินหนม ยูเอาไป แล้วรีบไปไกล ๆ เลย"
ผมรับกระดาษ 3 ใบนั้นมาแล้วก็ตอบกลับไปว่า
"แทงยู แต่ก็พูดไทยปนอังกฤษแบบกูนี่หว่า"
พอได้กระดาษสีแดง 3 ใบนั้นมาแล้ว พวกเราก็ลองอ่านดู แล้วปรากฏว่ามันคือวอยเชอร์สำหรับลูกค้าชั้นเฟิร์สคลาสของรถไฟ ให้ไปกินหนมที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามได้ฟรี! (หน้าตาแบบนี้
https://imgur.com/a/E9JN1)
ณ จุด ๆ นั้นพวกเราดีใจมากเลยครับ แทบอยากจะกระโดด แต่ก็ต้องทำขรึม ๆ วางมาดไว้หน่อย ใครจะไม่ดีใจล่ะครับ เพราะถ้าเสียตังค์ซื้อเองนี่ก็สาหัสหลายปอนด์เหมือนกันนะครับ
หลังจากเห็นโอกาสทองแล้ว พวกเราก็ไม่รอช้า เดินฉับ ๆ สับขาออกมาฝั่งตรงข้าม เจอโรงแรมที่ตกแต่งอย่างสวยงามตั้งตระหง่านรออยู่ พวกเราก็เปิดประตูเข้าไปในร้านของโรงแรม เจอพนักงานชื่อแซมยืนยิ้มแย้มรออยู่ เราเลยชูบัตรให้เขาดู บอกว่านี่ยู ไอมีบัตรฟรี ขอเป็นคอฟฟี่กับเค้กชุดนึง (ความจริงพนักงานไม่ได้ชื่อแซม แค่อยากให้คล้องจองเฉย ๆ)
หลังจากซดกาแฟ กับซัดเค้กเข้าไปด้วยความหิวโหยแล้ว พวกเราก็กลับรอรถไฟต่อที่สถานี แล้วก็ได้ขึ้นรถไฟไปแคมบริดจ์เรียบร้อย เมื่อไปถึงเคมบริดจ์พวกเราก็พบว่า นอกจากจะโดนรถไฟเทแล้ว ฝนก็ยังเทลงมาอีก เฮ้อชีวิต...
[กรอเทปด้วยความเร็ว x2]
พอเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย ผมก็เริ่มดำเนินการขอเงินรถไฟคืนครับ เวลาขอคินขอคืนง่ายมาก กรอกข้อมูลนิดหน่อย แล้วก็อัพโหลดหลักฐานการจอง รอ 2 - 3 วันก็จะมีเจ้าหน้าที่อีเมลมาคอนเฟิร์มครับว่าจะได้เงินคืนเท่านี้ ๆ ซึ่งในกรณีของผมได้คืนเต็มจำนวน (คุ้มฝุด ๆ)
เวลาขอเงินคืนเขาจะคืนให้ได้ 3 แบบครับ
1. โอนผ่านธนาคาร (แบบนี้ต้องมีบัญชีในอังกฤษ)
2. คืนเป็นเช็ค
3. คืนผ่านบัตรเครดิต (อันนี้ต้องโทรไปคุยกับเขา เพราะเขาจะได้ยินยันตัวตนครับ)
(4. คืนเป็นวอยเชอร์ - อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่คิดว่ามี)
ซึ่งของผมกำลังจะกลับไป เลยถามเขาว่าถ้าคืนเป็นเช็คแล้วจะส่งมาให้ที่ไทยได้ไหม เขาก็บอกว่าได้ครับ ผมก็เลยให้ที่อยู่ที่ไทยไป แล้วก็รอเช็คส่งกลับมา ซึ่งหน้าตาจดหมาย + เช็คที่ได้ก็เป็นแบบนี้ครับ (
https://imgur.com/a/TpCX9)
ถือว่าคุ้มมาก ๆ ได้นั่งรถไฟฟรี ถ้าผมจำไม่ผิด สายจากเอดินบะระลงมาลอนดอนจะเป็นสายที่แพงที่สุดในอังกฤษด้วยครับ คุ้มสุด ๆ
มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันครับว่าบางทีการโดนเทอาจจะมีเรื่องราวอะไรให้เป็นสีสันของชีวิตก็ได้ แล้วอีกอย่างอยากให้เรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองกันด้วยครับ เพราะถ้าเราได้รับผลกระทบ เราก็ควรได้รับการชดเชย หวังว่าหลาย ๆ ที่ในไทยจะเริ่มมีการชดเชยสิทธิ์ลูกค้ามากขึ้นนะครับ และอยากให้มีการคุ้มครองผู้บริโภคที่ดีกว่านี้ด้วย
อีกอย่างที่อยากฝากไว้ก็คือ การถามไม่เสียหายครับ อย่างมากก็หน้าแตกแค่นั้น แต่การถามทำให้ผมโชคดีได้กินกาแฟฟรี (ราคาเต็มแพงอยู่นะครับ) ซึ่งผมจะไม่ได้กินเลย และต้องยืนรออีกชั่วโมงครึ่งถ้าผมไม่กล้าเข้าไปถาม ตอนที่ผมกลับมา ผมก็เห็นคนจำนวนไม่น้อยนะครับ ที่เห็นอยู่บนขบวนรถไฟขบวนที่แล้วจากเอดินบะระ ยืนรอรถไฟขบวนถัดไปอยู่เพราะขบวนที่ต้องต่อถูกยกเลิก ผมก็มองแล้วก็คิดว่าพวกเราโชคดีที่เข้าไปถามเลยมีของฟรีให้กิน
ขอให้สนุกกับการใช้ชีวิตครับ
เมื่อผมโดนรถไฟอังกฤษเท
แต่ดูเหมือนว่าประสบการณ์นี้จะไม่ใช่ประสบการณ์ที่ทุกคนอยากจะเจอนะครับ เพราะเป็นประสบการณ์ที่ผมโดนรถไฟอังกฤษเท
ก่อนอื่นเลยต้องขอโทษที่ไม่แนบรูปลงไปในกระทู้ด้วยนะครับ เพราะผมยังไม่ได้ยืนยันบัตรปชช. (แอบขี้เกียจ) แต่มีแปะลิงก์รูปบน imgur ไว้ครับ
เรื่องมันมีอยู่ว่า... ผมไปเที่ยวสกอตแลนด์ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาครับ แล้วพอตอนใกล้ ๆ จะกลับก็ลงมาอังกฤษ เราก็จองตั๋วรถไฟเสร็จสรรพล่วงหน้าเรียบร้อยครับ พอถึงวันเดินทางก็ไปรับตั๋วรถไฟที่สถานีแล้วก็นั่งรอรถไฟออกครับ ซึ่งระหว่างทางลงไปลอนดอนผมเลือกที่จะแวะเที่ยวที่เคมบริดจ์ก่อนครับ ก็เลยตีตั๋วจากเอดินบะระไปยังเคมบริดจ์ ซึ่งค่ารถไฟที่อังกฤษนี่โหดมหาศาลเลยครับ ผมไปกับเพื่อนอีก 2 คนก็เจอค่าเสียหายไปทั้งสิ้น £88.95 (~3,800 บาท) ครับ
เมื่อรถไฟเทียบชานชาลาพวกเราก็ไปจับจองที่นั่งรอรถไฟออกกันครับ ซึ่งบนขบวนนั้นมีบริการไวไฟให้ใช้ฟรีด้วย พวกเราก็ไม่รอช้าหยิบคอมออกมา
ต่อสายแลนตีดอทกันครับนั่งเล่นเน็ตรอไปครับเพราะมันใช้เวลาตั้งเกือบ 4 ชั่วโมงแหนะ พวกเราก็นั่งเล่นไปเรื่อย ๆ ครับจนกระทั่งประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนถึงสถานีที่เราต้องเปลี่ยนรถไฟ ผมก็ลองเช็คดูครับว่าตอนนี้รถไฟถึงไหนแล้ว แล้วก็รถไฟขบวนที่จะไปต่อนั้นล่าช้าหรือเปล่า ปรากฏว่าโฮลี่ โมลี่ครับ รถไฟขบวนที่จะต้องไปต่อถูกยกเลิก!
(หน้าเว็บที่เปิดขึ้นมาก็จะเป็นประมาณนี้ครับ https://imgur.com/Uplotog)
เอาล่ะสิครับ ทีนี้จะทำยังไง
ด้วยความที่เว็บไซต์ของหน่วยงานในอังกฤษเป็นเว็บไซต์ที่ดีครับ เราจึงไม่ต้องเข้าไปหาเบอร์โทรและโทรไปหาคอลเซ็นเตอร์ (ที่ต่อไม่ติด) ผมก็หาเจอว่าถ้ารถไฟล่าช้าเราก็สามารถเรียกเงินคืนได้ (หึหึ) ถ้าช้าเกิน 30 นาทีได้เงินคืนครึ่งนึง ถ้าเกิน 1 ชม. ได้เงินคืนเต็มจำนวน (ซึ่งกฎหมายของอังกฤษไม่ได้บังคับว่าต้องให้เท่านี้ครับ ในกฎหมายบอกว่าให้น้อยกว่านี้ยังได้ แต่ว่าบริษัทรถไฟโชว์สปิริตให้เงินในอัตรานี้กันทุกเจ้าเลยครับ)
ผมก็เลยอยากเช็คให้แน่ เลยหาทางสอบถามกับทางบริษัทรถไฟครับ บริษัทรถไฟเขาจะมีบัญชีทวิตเตอร์ที่คอยสอดส่อง และช่วยเหลือลูกค้าครับ ผมก็เลยทวีตไปถาม @CrossCountryUK ซึ่งเป็นรถไฟที่ผมต้องไปต่อและเทผม
เขาก็บอกว่า ผมสามารถขอเงินคืนได้เต็มจำนวน และก็ให้ขึ้นขบวนถัดไปได้เลย พอรู้แบบนี้ก็ค่อยโล่งใจหน่อยว่าไม่ต้องมาหลงทางกลางเมืองที่ไม่รู้จัก ในประเทศที่เราไม่คุ้นเคย
พอไปถึงสถานีที่พวกเราต้องเปลี่ยนรถไฟ พวกเราก็พบกับคำว่า "เงิบ" อย่างจัง เพราะพวกเราไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ
พวกเราก็ไปถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งเขาก็บอกว่า ยูก็รอขบวนถัดไปอ่านะ
แหมคุณเจ้าหน้าที่ก็พูดง่ายนะครับ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ารถไฟขบวนถัดไปมันมาในอีกหนึ่งขั่วโมงครึ่งน่ะสิครับ...
แล้วในเก้าอี้ในสถานีก็ถูกจับจองไปทึ่เรียบร้อยแล้ว พี่จะเทรถไฟผมแล้วยังจะให้ผมยืนรอแบบนี้ไม่ด้ายยย!
ผมเลยรวบรวมความกล้าเดินไปถามพนักงานอีกคนที่หน้าสถานีด้วยภาษาอังกฤษอันง่อนแง่นว่า "เอิ่ม... ซอรี่นะยู รถไฟยูเทกูอะ ไอจะไปนั่งรอที่ไหนได้บ้าง แถวนี้มีร้านกาแฟให้นั่งชิวอัพรูปลงไอจีไหมอะ"
พนักงานก็ไม่รอช้าครับ ยื่นกระดาษสีแดง ๆ 3 ใบออกมาบอกว่า "ยูพูดอะไรวะ ไอฟังไม่รู้เรื่อง เล่นพูดไทยคำอังกฤษคำแบบนั้น ไอจะไปฟังออกได้ไง นี่บัตรกินหนม ยูเอาไป แล้วรีบไปไกล ๆ เลย"
ผมรับกระดาษ 3 ใบนั้นมาแล้วก็ตอบกลับไปว่า "แทงยู แต่ก็พูดไทยปนอังกฤษแบบกูนี่หว่า"
พอได้กระดาษสีแดง 3 ใบนั้นมาแล้ว พวกเราก็ลองอ่านดู แล้วปรากฏว่ามันคือวอยเชอร์สำหรับลูกค้าชั้นเฟิร์สคลาสของรถไฟ ให้ไปกินหนมที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามได้ฟรี! (หน้าตาแบบนี้ https://imgur.com/a/E9JN1)
ณ จุด ๆ นั้นพวกเราดีใจมากเลยครับ แทบอยากจะกระโดด แต่ก็ต้องทำขรึม ๆ วางมาดไว้หน่อย ใครจะไม่ดีใจล่ะครับ เพราะถ้าเสียตังค์ซื้อเองนี่ก็สาหัสหลายปอนด์เหมือนกันนะครับ
หลังจากเห็นโอกาสทองแล้ว พวกเราก็ไม่รอช้า เดินฉับ ๆ สับขาออกมาฝั่งตรงข้าม เจอโรงแรมที่ตกแต่งอย่างสวยงามตั้งตระหง่านรออยู่ พวกเราก็เปิดประตูเข้าไปในร้านของโรงแรม เจอพนักงานชื่อแซมยืนยิ้มแย้มรออยู่ เราเลยชูบัตรให้เขาดู บอกว่านี่ยู ไอมีบัตรฟรี ขอเป็นคอฟฟี่กับเค้กชุดนึง (ความจริงพนักงานไม่ได้ชื่อแซม แค่อยากให้คล้องจองเฉย ๆ)
หลังจากซดกาแฟ กับซัดเค้กเข้าไปด้วยความหิวโหยแล้ว พวกเราก็กลับรอรถไฟต่อที่สถานี แล้วก็ได้ขึ้นรถไฟไปแคมบริดจ์เรียบร้อย เมื่อไปถึงเคมบริดจ์พวกเราก็พบว่า นอกจากจะโดนรถไฟเทแล้ว ฝนก็ยังเทลงมาอีก เฮ้อชีวิต...
[กรอเทปด้วยความเร็ว x2]
พอเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย ผมก็เริ่มดำเนินการขอเงินรถไฟคืนครับ เวลาขอคินขอคืนง่ายมาก กรอกข้อมูลนิดหน่อย แล้วก็อัพโหลดหลักฐานการจอง รอ 2 - 3 วันก็จะมีเจ้าหน้าที่อีเมลมาคอนเฟิร์มครับว่าจะได้เงินคืนเท่านี้ ๆ ซึ่งในกรณีของผมได้คืนเต็มจำนวน (คุ้มฝุด ๆ)
เวลาขอเงินคืนเขาจะคืนให้ได้ 3 แบบครับ
1. โอนผ่านธนาคาร (แบบนี้ต้องมีบัญชีในอังกฤษ)
2. คืนเป็นเช็ค
3. คืนผ่านบัตรเครดิต (อันนี้ต้องโทรไปคุยกับเขา เพราะเขาจะได้ยินยันตัวตนครับ)
(4. คืนเป็นวอยเชอร์ - อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่คิดว่ามี)
ซึ่งของผมกำลังจะกลับไป เลยถามเขาว่าถ้าคืนเป็นเช็คแล้วจะส่งมาให้ที่ไทยได้ไหม เขาก็บอกว่าได้ครับ ผมก็เลยให้ที่อยู่ที่ไทยไป แล้วก็รอเช็คส่งกลับมา ซึ่งหน้าตาจดหมาย + เช็คที่ได้ก็เป็นแบบนี้ครับ (https://imgur.com/a/TpCX9)
ถือว่าคุ้มมาก ๆ ได้นั่งรถไฟฟรี ถ้าผมจำไม่ผิด สายจากเอดินบะระลงมาลอนดอนจะเป็นสายที่แพงที่สุดในอังกฤษด้วยครับ คุ้มสุด ๆ
มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันครับว่าบางทีการโดนเทอาจจะมีเรื่องราวอะไรให้เป็นสีสันของชีวิตก็ได้ แล้วอีกอย่างอยากให้เรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองกันด้วยครับ เพราะถ้าเราได้รับผลกระทบ เราก็ควรได้รับการชดเชย หวังว่าหลาย ๆ ที่ในไทยจะเริ่มมีการชดเชยสิทธิ์ลูกค้ามากขึ้นนะครับ และอยากให้มีการคุ้มครองผู้บริโภคที่ดีกว่านี้ด้วย
อีกอย่างที่อยากฝากไว้ก็คือ การถามไม่เสียหายครับ อย่างมากก็หน้าแตกแค่นั้น แต่การถามทำให้ผมโชคดีได้กินกาแฟฟรี (ราคาเต็มแพงอยู่นะครับ) ซึ่งผมจะไม่ได้กินเลย และต้องยืนรออีกชั่วโมงครึ่งถ้าผมไม่กล้าเข้าไปถาม ตอนที่ผมกลับมา ผมก็เห็นคนจำนวนไม่น้อยนะครับ ที่เห็นอยู่บนขบวนรถไฟขบวนที่แล้วจากเอดินบะระ ยืนรอรถไฟขบวนถัดไปอยู่เพราะขบวนที่ต้องต่อถูกยกเลิก ผมก็มองแล้วก็คิดว่าพวกเราโชคดีที่เข้าไปถามเลยมีของฟรีให้กิน
ขอให้สนุกกับการใช้ชีวิตครับ