จะมีทางออกอย่างไรเมื่อภรรยาเบื่อ Sex ?

สวัสดีครับ ผมอายุ 39 ภรรยาอายุ 38 แต่งงานกันมา 10 ปี มีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 6 ขวบ คนเล็กอายุ 2 ขวบ ผมทำงานเป็นวิศวกรของบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วยภรรยาเป็นพยาบาลระดับรองหัวหน้าหวอดในโรงพยาบาลเอกชน ลูกชายทั้ง 2 คนแข็งแรงน่ารัก คนโตอยู่ด้วยกันกับเราที่กรุงเทพโดยมีย่าคอยดูแลและส่งไปโรงเรียน คนเล็กส่งให้ไปอยู่กับตา-ยายที่ต่างจังหวัด ชีวิตครอบครัวเกือบสมบูรณ์แบบ มีเงินพอใช้ มีบ้าน มีรถ (เพิ่งผ่อนหมดทั้ง 2 อย่าง) ผมไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่เล่นการพนัน ไม่มีผู้หญิงอื่น จะมีกิจกรรมที่ชอบและทำอยู่ประจำ จนภรรยางอนอยู่บ่อย ๆ คือ ขยันฝึกซ้อมว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่งมาราธอน (เล่นไตรกีฬา)


ผมเป็นคนมีความต้องการทางเพศสูงตั้งแต่หนุ่ม ๆ  จะมีดรอปลงไปบ้างก็ช่วงอายุ 35-36  ที่สุขภาพเริ่มแย่ นกเขาแข็งตัวไม่ดี ทำ ๆ อยู่ดี ๆ บางทีก็เหี่ยวไปเฉยๆ   แต่ 3-4 ปีที่เริ่มเล่นกีฬา อาการเหล่านั้นหายไปหมด กล้าพูดเลยว่าฟิตเหมือนตอนอายุ 18 คือมันมาได้ทุกวัน มีได้ทุกวัน รู้สึกกระฉับกระเฉง มันจริงที่เค้ากล่าวไว้ว่ากีฬาเป็นยาวิเศษ

ช่วงหลังแต่ง 4 ปีแรกเรามี Sex กันได้ตามปกติ ตกอาทิตล์ละ 2-3 ครั้ง เพราะเราอยากมีลูก เธอก็คงมีบ้างที่ไม่ค่อยมีอารมณ์ แต่เพราะเราอยากมีลูกเธอจึงยอมมีอะไรกับผม  พอคลอดลูกคนแรก ชัดเจนมากคือเธอพยายามหลีกเลี่ยงมากขึ้น อ้างว่าทำงานเหนื่อย แต่ด้วยความที่เราอยากมีลูกอีกคน จึงยังพอมีเหตุผลว่าเราควรจะมี Sex กัน  

หลังจากได้คลอดคนที่ 2 เราเริ่มมีปัญหาหนักขึ้น คือผมต้องการเธอแต่เธอพยายามหลีกเลี่ยง เราทะเลาะกันหลายครั้งมากเรื่องนี้ งานพยาบาลเป็นงานที่ต้องเข้าเวร เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน วันไหนเวรเช้าเราก็ได้เจอกันตอนเย็น วันไหนเวรดึก เธอก็จะไม่ได้อยู่กับผม บางทีเวรดึกติดกัน 4 วัน ผมก็นับวันรอที่จะได้เจอเธอในวันที่เป็นเวรเช้าหรือไม่ก็วันหยุด แต่มันก็ไม่ได้มีความสุขอย่างที่รอ เธอชอบอ้างว่าทำงานเหนื่อย ไม่อยากมีอะไรกัน  ผมก็มีทางออกเวลาที่ต้องการมาก ๆ แต่เธอไม่ให้คือต้องใช้วิธีการเข้าห้องน้ำ ช่วยตัวเอง

เราทะเลาะกันหลายครั้ง จนเธอตั้งข้อแม้ว่า เธอจะให้ผมเฉพาะวันที่เธอหยุดเท่านั้น ผมก็ตกลงเพราะก็ยังดูชัดเจนกว่าที่จะหวังลม ๆ แล้ง ๆ  แต่ก็อีกแหละผมถูกเบี้ยวมาตลอด เธอจะขอเลื่อนอยู่เสมอ ๆ ผัดวันประกันพรุ่ง อ้างว่าเหนื่อย ไม่อยากมี พรุ่งนี้แล้วกันนะ ผมก็ใจดีทั้ง ๆ ที่รอมาตั้ง 5-6 วันกว่าจะได้เจอกัน และก็มีหลายครั้ง ที่ผลัดไปแล้วรุ่งขึ้นอีกวัน "ประจำเดือนมา" ประจำเดือนเธอมาใช้เวลา 5-6 วัน เธอก็ Line มาว่าขอโทษ ผมก็ถามกลับไปว่าทำไมเมื่อคืนไม่ให้เค้าล่ะ แล้ววันนี้จะมาขอโทษทำไม เธอก็เงียบไม่ตอบ มันเป็นการรอคอยที่ทรมานมาก ช่วงนั้นผมต้อง ช่วยตัวเอง ติดต่อกันทุกวันนานเกือบครึ่งเดือน

ถึงจะเป็นวันหยุดตามเงื่อนไข แต่มันไม่เคยง่ายเลย ต้องรอลูกหลับ (ลูกนอนกลาง) พอลูกหลับผมก็ย่องไปหาที่อีกฝั่งของเตียง พอผมเข้าไปหอมแก้ม เธอจะบิดหน้าหนี เอาผ้าห่มปิดหน้า บอกผมว่าจะนอนแล้วง่วง พรุ่งนี้ได้ไหม ถ้าผมเข้าไปกอดเธอก็สะบัดหนี นอนกอดอกปิดนมปิดจิ๋ม ผมต้องอ้อนวอนสารพัด ปากเธอก็ทำเสียงจิ๊จ๊ะแสดงความไม่พอใจ บางครั้งผมสมเพชตัวเองมาก เราไม่เป็นที่ต้องการเลยหรือ เหมือนเป็นขอทานที่อดอยากหิวโหย ไปขอเค้ากินโดยที่เค้ารังเกียจไม่มีความใยดีเลย แต่ก็ยังต้องอ้อนวอนขอเพราะไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เรามีเมียคนเดียว ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียวในโลกที่จะช่วยเราได้

วันที่เธอหยุด เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ส่วนน้อยจริง ๆ ที่ได้วันนั้น  บางครั้งก็เลื่อน บางครั้งก็ไม่ได้อะไรเลย ได้แต่ความเครียด น้อยเนื้อต่ำใจกลับมา ส่วนครั้งที่ขอเลื่อน วันถัดมา ตอนที่จะได้มันก็ไม่งายอยู่ดี ก่อนจะได้ก็จะต้องได้ฟังเสียงบ่น ว่าเบื่อ รำคาญ จากที่ผมอารมณ์ดี ๆ นกเขาที่แข็ง ๆ อยู่ก็หดไปเลยก็มี ต้องค่อย ๆ บิ๊วอารมณ์ใหม่แบบเซ็ง ๆ

จะว่าผมทำไม่ดีหรือทำไม่เก่งก็ไม่น่าจะใช่  เพราะถ้าจุดติด เตียงก็แทบจะลุกเป็นไฟ ทุกครั้งที่ได้กันเธอก็เสร็จสุขสมทุกครั้ง ออกจะร้อนแรงเอามาก ๆ ซะด้วย เพราะผมเล้าโลมจนจวนเจียนซะก่อน คือเล้าโลมเธอจนดิ้นทุรนทุราย แล้วค่อยสอดใส่ อาการตอนเสร็จออกชัดเจนมาก ตอด รัด เกร็ง สเต็บสะโพกมาจัดจ้านมาก แขนเธอก็รัดผมซะจนกระดูกแทบหัก  เรียกว่าเสร็จแน่นอน 100%   พอเสร็จผมจะกอดเธอไว้นิ่ง ๆ ซักพัก บางครั้งจะบอกรักเธอ บางครั้งจะบอกขอบคุณเธอ

มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอหักคอผม คือเรานัดกันดิบดีแล้วว่าจะมีอะไรกันแต่เธอเบี้ยว มาเลื่อนตอนอยู่บนเตียงตอนจะเข้าไปหา วันนั้นผมก็เครียดไปจากที่ทำงานมาด้วย ผมโมโห ผมก็ตะหวาดใส่เธอไปทันที "ถ้าไม่ได้วันนี้ก็ไม่ต้องเอาเลยแล้วกัน" แล้วผมก็แต่งตัวขับรถออกจากบ้าน วันนั้นกะว่าจะหายไปทั้งคืน ไปหา Kerry จะไปนอนกก Kerry ซักคืน ความสุขในบ้านมันมียากเย็นนัก ก็ไปหาเอาข้างนอก ขับรถออกมาจากบ้านได้ 20 นาที นึกขึ้นได้ว่าลูกชายกำลังมีไข้ ถ้ากลางดึกเกิดเป็นอะไรจะไม่มีใครพาไปโรงพยาบาล คืนนั้นทำได้แค่แวะไปหาหมอนวด ที่ร้านนวดใกล้ ๆ บ้าน  แล้วกลับมานอนกับลูก

ตื่นเช้าก็มาคิดทบทวนถึงเรื่องหย่า คิดไม่ตก  คิดไปคิดมา ถ้าหย่าจริง ๆ จะมีปัญหาเกิดกับลูก ๆ มากมายแน่ ๆ จะมีแต่ผลเสียมากกว่าผลดี และส่วนตัวผมไม่แคร์หรอกปากชาวบ้าน แต่ฝั่งพ่อตา-แม่ยาย ที่อยู่ต่างจังหวัด เค้าจะนินทากันไปทั้งบาง ลูก  ๆ ก็จะมีปมด้อย มีผลกระทบหลาย ๆ เรื่อง เป็นลูกโซ่ยิ่งกว่าปฏิกิริยานิวเคลียร์  ดังนั้นครอบครัวเราต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ สำคัญที่สุดคืออนาคตของลูก

ผมไม่รู้นะว่าตัวผมหรือภรรยาที่ผิดปกติ ผมยังคิดในแง่ดีว่ายังมีโอกาสปรับเข้าหากันได้ ผมพยายามแก้ไขหลายทางอยู่ ลดความถี่ลงผมก็ทำแล้ว มันมาสุดทางตรงที่ทำกันเฉพาะวันหยุดของเธอ เส้นตายของผมกำหนดไว้แค่นี้ มันสุด ๆ แล้วน้อยกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว โดยเฉลี่ยขอซัก 4-5 ครั้งต่อเดือน แต่มันก็ไม่มีเดือนไหนที่ได้ตามนั้นเลย โดนเบี้ยวซะส่วนใหญ่ ประจำเดือนมาบ้างอะไรบ้าง เรื่องประจำเดือนนี่เชื่อไหมผมจดบันทึกเอาไว้ทำนายล่วงหน้าได้ด้วยว่าจะมาอีกทีวันไหน ผมรู้ก่อนเจ้าตัวซะอีก

การแก้ไขทางอื่น ๆ ก็มี เช่นซื้อสมุนไพรปรับฮอร์โมนมาให้กิน พวกรากสามสิบ (หาซื้อยากมาก แพงด้วย) แต่เธอไม่แตะซักเม็ด อีโก้เธอสูง เธอต่อต้าน  ตอนนี้ก็ส่งเสริมให้ออกไปวิ่งออกกำลังกาย เผื่อว่าความสาวความสดจะได้ค่อย ๆ กลับคืนมา แต่มันก็ไม่ได้ผล เพราะเธอไม่ทำ ก็ขนาดนอนอยู่บนเตียงให้ผัวทำเธอยังขี้เกียจ นับประสาอะไรกับการออกไปวิ่งที่มันแสนจะเหนื่อย  

ใครพอจะช่วยแนะนำการแก้ปัญหาที่ผมเองจนปัญญา ช่วยแนะนำมาหน่อยนะครับ รบกวนขอความเห็นครับ

Update 21/9/60
สวัสดีครับ
หลังจากที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้น วันนี้ก็ครบ 2 อาทิตย์พอดี
มีคนมาตอบกระทู้เยอะมาก ได้รับความคิดเห็นที่มีประโยชน์มากมาย และผมก็ได้ลองเอาไปใช้
วันนี้ผมจะมา Update ความคืบหน้าครับ

ผมตั้งกระทู้วันที่ 7 กย. เนื่องจากเครียดมาก ที่ถูกเบี้ยวเมื่อคืน (วันที่ 6 กย) ซึ่งเป็นวันหยุดและรุ่งอีกวันก็เป็นเวรดึก (กลางวันมีเวลานอน ออกไปทำงานตอนเย็น) เธออ้างว่าไม่สบายเป็นหวัด ไม่อยากมี แสดงอาการแบบเดิมคือรำคาญ เสียงจิ๊จ๊ะ ไม่พอใจ ผมคลำตัวเธอก็ไม่ร้อน อาการหวัดก็ไม่เห็นจะมี ผมก็หมดความอดทนเหมือนกันไม่อยากเซ้าซี้ ตอบเธอไปแบบใจเย็น ว่าวันนี้อ้างว่าไม่สบายก็ไม่เป็นไร ไม่อยากมีก็ไม่ต้องมี แล้วผมก็ถอยกลับไปนอน

คืนวันที่ 6 เป็นวันที่ผมหวังมาก เพราะเรามีอะไรกันครั้งสุดท้าย เมื่อคืนวันที่ 19 สค  ร่วม ๆ 17 วัน ผมไม่ได้จูบเธอเลย ผมว่ามันวิกฤติมาก คู่เราเป็นคู่ที่ผิดปกติ คืนนั้นผมนอนแทบไม่หลับ เครียด พอเช้าผมก็แต่งตัวไปทำงานตามปกติ ตอนค่ำกลับบ้าน หลังจากลูกหลับ ผมก็โทรหาเธอเพื่อเคลียร์ปัญหา ถามว่าเมื่อคืนเป็นอะไรทำไมไม่ให้เค้าล่ะ พอเธอรู้ว่าผมเครียด เธอก็ตัดบทว่าเดี๋ยววันที่ 9 เธอหยุดเธอจะให้ ซึ่งมันทำให้ผมเครียดหนักกว่าเก่าและก็โมโหด้วย เพราะเธอก็ใช้มุขเดิม คือรับปากให้มันจบ ๆ  ผมก็ตะหวาดกลับไปว่า มันจะเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เข้าใจหรือเปล่า เราต้องช่วยกันแก้ปัญหา คู่เรามีปัญหา เราต้องไปหาหมอ เธอถามว่าจะไปหาทำไม ผมนั่นแหละที่ต้องไปหาหมอ เธอปกติเธอไม่เกี่ยว ผมตอบไปว่าถ้าไม่ไปหาหมอ ก็ต้องปรับตัว ไหวไหม เธอบอกว่าได้ แต่อย่าให้มันเยอะเกินไปนะ (เดือนนี้วันหยุดเธอเยอะ)  พอวางหู ผมระบายให้เธออ่านใน Line ผมบอกเธอว่าผมเครียด ผมไม่ใช่ขอทาน มีอะไรกันก็อย่าบ่นจะได้ไหม ไม่ได้จูบกันเลยเป็นเดือนแล้ว อยู่ด้วยกันสองต่อสองก็ขอกอดบ้างซิ สะบัดออกตลอดเลย เธอบอกผมว่าอย่าเครียดเลย นอนซะ

เช้าวันที่ 8 เป็นวันที่ผมลางานไว้เพื่อจะไปทำธุระให้แม่ เธอกลับมาจากโรงพยาบาลผมก็กินข้าวกับเธอ แล้วผมก็รีบขึ้นห้องอาบน้ำ มานอนเล่นบนเตียง(อ่านกระทู้ที่สมาชิกตอบ ๆ กันมานั่นแหละ) เธอขึ้นมาบนห้องจะอาบน้ำนอน เธอเห็นผมเธอยิ้มเขินๆ ครับ พอเธออาบน้ำเสร็จขึ้นมานอนบนเตียง ผมก็เข้าไปจู่โจมแบบนุ่มนวล เธอไม่ขัดขืน ไม่บ่น ไม่ว่าอะไรเลยครับ ผมได้ XXX กับเธอ เราเสร็จกันทั้งคู่ครับ  เธอก็เสร็จแบบรุนแรงเหมือนปกติเลย ไม่ได้แกล้งเสร็จอย่างที่มีสมาชิกบางท่านตั้งข้อสงสัยไว้นะครับ ผมเช็คด้วยวิธีเอาหูแนบเนินอก ฟังเสียงหัวใจเธอเต้น ฟังตอนเสร็จใหม่ ๆ  จังหวะหัวใจเต้นถี่ ๆ แสดงว่าเสร็จจริงครับ Hearth Rate เป็นสิ่งที่ถูกสั่งมาจากสมองส่วนกลาง จิตเราบังคับให้เต้นเร็วหรือช้าไม่ได้ คือถ้าแสร้งให้เต้นเร็วๆ ไม่ได้ ก็หลอกกันไม่ได้ครับ เอาวิธีของผมไปใช้กันได้เลย

หลังจากนั้นอีกวันเป็นวันหยุดของเธอ ลูกชายไปนอนห้องย่า ผมเข้าไปขอ เธอก็ให้มาอีกครับ เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากครับ เพราะตั้งแต่แต่งกันมา  เราไม่เคยมีอะไรกัน 2 วันติด  ๆ  ผมว่าเรื่องลูกนอนตรงกลางมีส่วนทำให้เธอไม่อยากครับ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เธอหยุดวันที่ 14-17 วันที่ 16-17 ผมพาเธอไปหาลูกคนเล็กที่ต่างจังหวัด ผมจึงเหลือโอกาสแค่ 2 วัน คือ วันที่ 14-15 อาทิตย์นี้เธอทำงานหนักเหนื่อยมาก บ่นว่าเหนื่อย ผมสงสารเธอ คืนวันที่ 14 ผมให้เธอพักครับ (เข้าห้องน้ำ ช่วยตัวเอง)

คืนวันที่ 15 มีปัญหาเกิดขึ้นนิดหน่อย คือเจ้าลูกชายงอแง อ้อนแม่ ไม่ยอมหลับครับ  ผมใช้วิธีเอาที่นอนหลังเล็กมาปูนอน ที่ปลายเตียง พอลูกชายหลับ ผมก็ไปจูงมือเธอมาทีที่นอนหลังเล็ก แล้วเราก็ได้ XXX กันครับ

ล่าสุดเมื่อคืนนี้ วันที่ 20 เป็นวันหยุดเธอครับ (หยุด 3 วันติด)  ผมเกริ่น ๆ เรื่องนั้นไปตั้งแต่ช่วงบ่าย เพราะค่อนข้างกังวล(อาการวิตกจริต) ว่าจะโดนเบี้ยวอีก กลัวว่าเธอจะกลับมาเป็นเหมือนเก่า คือเรื่องนี้เราเปิดใจคุยกันมาหลายครั้งมาก พอคุยจบแรก  ๆ ก็ดีขึ้น แต่ดีขึ้นอยู่ไม่ถึงเดือนก็ค่อย  ๆ กลับมาเป็นเหมือนเก่า อย่างเมื่อคืนก็เริ่มกลับมาบ่นหน่อย ๆ ผมเคยถามว่าไม่บ่นเลยซักนิดจะได้ไหม เธอตอบว่ามันเป็นนิสัยไปแล้วไม่รู้จะทำไง แต่เมื่อคืนเราก็ทำภารกิจกันสำเร็จครับ เธอก็สุขผมก็สุขเหมือนเดิม

สรุปคือ หลังจากเราคุยกันเคลียร์ปัญหา ผ่านมา 2 อาทิตย์ ผมได้จัดไปแล้ว 4 ครั้ง แบบคุณภาพคับแก้ว แต่ผมรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นแค่ช่วงโปรโมชั่นน่ะครับ อนาคตต่อไปยังไม่แน่ว่าปัญหาจะจบหรือเปล่า จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกไหม

อ่านต่อที่ความเห็นด้านล่าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 146
Update 21/9/60 (ต่อ)
แต่แนวทางที่ใช้แก้ปัญหาของผมที่ผ่านมามีดังนี้
1. เปิดใจคุยกัน : อันนี้น่าจะเป็นปัจจัยที่มีผลมากที่สุด
2. แยกลูกออกไป  : จากที่สังเกตดูนะครับ คือตอนที่อยู่กัน 2 คนในห้อง อย่างครั้งที่ 1-2  ดูเหมือนจะชักจูงง่ายกว่า  ส่วนครั้งที่ 3 ลูกอยู่ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ผมใช้วิธีเอาที่นอนหลังเล็กมาปูแยกจากลูกครับ  ลูกหลับก็ชวนเธอลงมา
3. ใส่ใจเธอมากขึ้น : ผมเริ่มหันมาใส่ใจความต้องการของเธอมากขึ้น แต่จะมีผลแค่ไหนยังไม่ชัดเจนครับ

โดยรวม ตอนนี้ก็ Happy ครับ แต่ก็ยังคงต้องรอดูกันต่อไป ว่าปัญหาของผมจะจบจริง ๆ หรือเปล่า  อย่าที่บอกไว้ว่าตอนนี้ยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่น ผมว่าต่อไปสิ่งที่ยากและท้าทายกว่า คือจะทำอย่างไรให้ดีแบบนี้ไปตลอด

กระทู้นี้ทำให้ผมรู้ว่ายังมีคนที่มีความทุกข์แบบผมอยู่อีกมาก ผมมีโอกาสรู้จักกับน้องสาวอายุ 29 คนหนึ่งซึ่งมีปัญหาหนักมาก หนักกว่าผมอีก คือหลังจากแต่งงานกันมา 5 ปี สามีก็หมดความฟิต มีอะไรกับสามีเดือนละประมาณ 1-2 ครั้ง (ตอนนั้นของพี่เค้าแข็งตอนตี 3) แล้วพี่แกก็ไม่เล้าโลมอะไรเลย เอามือจิ้ม ๆ ให้ได้ที่แล้วก็เอา ๆ ให้เสร็จ ตอนก่อนนอนอาการพี่แกคล้าย ๆ ภรรยาผมเลย คือจับตัวแทบไม่ได้ สะบัดออก (ตัดไฟแต่ต้นลม) น้องสาวคนนี้เธอก็เลยต้องเป็นนักช่วยตัวเองระดับมือโปรแบบเดียวกับผมครับ  ช่วงหลัง ๆ เธอหันมาออกกำลังกาย เผื่อความต้องการมันจะลดลงไปบ้าง แต่ผลมันกลับกันครับ ยิ่งฟิตก็ยิ่งมีความต้องการสูง ถ้าน้องกลับมาอ่านกระทู้นี้ ยังไงพี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องนะครับ ขอให้สามีหันกลับมาใส่ใจความต้องการของน้องให้สมกับที่น้องรักเค้านะครับ


ผมทำงานประจำเป็นวิศวกรและเป็นนักไตรกีฬามือสมัครเล่น มีสมาชิกบางท่านถามผมว่าซ้อมยังไง เบียดบังเวลาของครอบครัวหรือเปล่า ผมมีวิธีอย่างนี้ครับ เวลาซ้อมหลัก ๆ ของผมคือหลังเลิกงานครับ คือถ้าผมไม่ได้ซ้อมกีฬา ผมเลิกงาน 6 โมงเย็น นั่งรถเมล์/รถตู้ กลับบ้าน จะกลับถึงบ้านประมาณ 2 ทุ่มครับ    ถ้าวันไหนรถติดจะเลยเถิดไปถึง 3 ทุ่ม เพราะรถโดยสารจะขาดระยะครับ รอนาน รถติดด้วย (บนทางด่วนนี่ตัวดีเลย)  ผมเลยเอาเวลาเร่งด่วนมาฝึกซ้อมครับ เช่น "วิ่งกลับบ้าน" ซึ่งระยะทาง จากที่ทำงานไปถึงบ้านประมาณ 24 กม ระยะทาง 24 กม. ผมใช้เวลาวิ่ง 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 3 ชั่วโมงครับ จะเห็นว่ามันช้ากว่านั่งรถเมล์กลับบ้านไม่มาก ครอบครัวก็ Happy ครับ  บ่อยเลยที่ผมวิ่งผ่านรถเมล์ที่กำลังติด ผมมองไปบนรถ คนแน่นเต็มรถเบียดกันเป็นปลากระป๋องและต้องทนแบบนั้นเป็นชั่วโมง เมื่อยก็เมื่อย เหม็นก็เหม็น (กลิ่นตัวผู้โดยสารข้าง ๆ)  ผมอยากจะชวนพวกเค้าลงมาวิ่งกับผมครับ  

วันหยุด เสาร์-อาทิตย์  ผมจะเลือกช่วงเช้าวันใดวันหนึ่งมาซ้อมปั่นจักรยานครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเสาร์เช้า ช่วงสาย ๆ กลับมาบ้าน อาบน้ำ กินข้าว และก็จะได้อยู่กับลูกครับ บางทีก็สอนเปียโนให้ลูก (แล้วแต่ลูกว่าตอนนั้นจะอยากให้พ่อสอนหรือเปล่า ไม่ได้กำหนดว่าต้องเรียนเป็นเวลา) บางทีก็ทดลองวิทยาศาสตร์แบบง่าย ๆ ด้วยกัน  วันอาทิตย์บางอาทิตย์จะพาไปเที่ยว ส่วนใหญ่จะเป็นท้องฟ้าจำลอง, พิพิธภัณฑ์เด็ก, ไปสระว่ายน้ำ  คือผมจะเน้นเสริมประสบการณ์ชีวิต ดนตรี กีฬา วิทยาศาสตร์ ส่วนแม่เค้าจะชอบสอนหนังสือ ภาษา คณิตศาสตร์ (สอนเก่งมาก ๆ ด้วย) คือแม่เค้าอยากให้ลูกเรียนเก่ง สอบได้คะแนนดี ๆ  เรื่องการแบ่งเวลาซ้อมของผม ผมว่าลงตัวดีแล้วครับ

มีบ้างบางเดือนที่ต้องซ้อมหนักเป็นกรณีพิเศษ ผมก็จะบอกภรรยาไว้ก่อนครับ ว่าช่วง 2 เดือนนี้ซ้อมหนักนะ อยากแข่งจบ อยากเป็น Finisher มีที่เคยหนักมาก ๆ ก็เช่น รายการ "คนเหล็กไทย" รายการนี้มีระยะแข่ง ว่ายน้ำ 5 กม. (ว่ายน้ำข้ามจากเกาะเสม็ดมาที่ฝั่งบ้านเพ)  ปั่นจักรยาน 100 กม. วิ่ง 10กม.  อันนี้ซ้อมว่ายน้ำหนักมากครับ ต้องซ้อมให้มั่นใจว่าเราจะว่ายได้ถึง เพราะเราต้องลอยคออยู่กลางทะเล 2-3 ชั่วโมง ถ้าเกิดอาการตื่นตระหนก (Panic) อาจถึงตายได้  คือช่วงที่ซ้อมหนัก ถ้าคุยกับภรรยาไว้ก่อน ปัญหาการงอนจะไม่ค่อยมีครับ

วันนี้ Update แค่นี้ก่อนนะครับ ขอบคุณทุก ๆ แนวคิด และทุก ๆ ความเห็น รวมถึงทุกท่านที่เข้ามาระบาย(ว่าเป็นเหมือน ๆ กัน) มันทำให้ผมมีกำลังใจมากขึ้นครับ ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
เรื่องราวมันใช่มาก ขอเล่า สามีเราอยู่กินกับภรรยาเก่ามา 10 ปี มีลูกหนึ่ง จากที่สามีเล่านะคะ อาการเดียวกันเป๊ะ แต่เป็นแม่บ้านนะคะ ไม่ได้ทำงานอะไร แต่เรื่องนี้ผลกระทบมันมีมากมาย จากการที่สามีเก่าเอาใจภรรยาเก่าเขาทุกอย่าง เพียงแค่ 15 นาทีให้กันไม่ได้ (บางทีขอแค่ให้ใช้มือช่วย) ต้องบอกล่วงหน้า ต้องนัดกัน เสร็จแล้วก็จะผิดคำพูด มีข้ออ้างสารพัด ต้องอ่านหนังสือ รู้สึกป่วย เมนมา (สามีเก่าเรารู้วันเวลาหมดว่าจะมาเมื่อไหร่ เขาเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ เช่นเขารู้ว่า เหลืออีกแค่ 1 อาทิตย์เมนจะมาละ พอในอาทิตย์นั้นๆเขาขอไม่ได้เลยก็จะรู้สึกเฟลมากกกก เพราะต้องเริ่มใหม่อีกอาทิตย์ถัดไป) หายใจไม่ออก กอด โดนตัวอะไรก็ไม่ได้นะเขาจะอารมณ์เสียทันทีหาว่าเขาไม่โอเคแล้วยังจะพยายามอีก พอหลายๆครั้งเข้าก็ลามไปเรื่องอื่น จากที่เคยอยู่ใกล้ ก็ไม่อยากละ จากที่เคยอยากไปไหนมาไหนด้วย ก็ไม่อยากไป เขารู้สึกว่าเขาไม่ขออะไรเลย ลูกก็เลี้ยง งานก็ทำ ทำไมต้องมารู้สึกสมเพชตัวเองขนาดนี้ ต้องมาแบมือขอยิ่งกว่าขอทาน ขอส่วนบุญ อับอายแต่ต้องขอ คิดตามนะ ต้องนัดล่วงหน้า มันก็แปลกไปป่ะ ขอเมียนัดว่าคืนนี้เวลาสี่ทุ่มเรามีอะไรกันนะ... เสร็จก็โดนเท

คนเคยมีความต้องการจะเข้าใจ มันปวดหัว มันคิดไม่ออก มันเครียดไม่ได้ปลดปล่อย (อาการ blue balls) พอทะเลาะกันก็เซ็งอีก ทำตัวเป็นขอทานอีกละ คือทุกอย่างมันแย่ลงจนสามีเราพยายามฆ่าตัวตาย ตำรวจมาจับไปขังรพ.บ้าเลย ด้วยความไม่อยากมีคนอื่น หาทางออกไม่ได้ สุดท้ายเมื่อคิดได้แล้วว่าในเมื่อหมดความพิศวาสต่อกันก็ตัดสินใจแยกทางดีกว่า พอเลิกกันได้หนึ่งปี ภรรยาเก่าคนนี้ไปมีอะไรกับผู้ชายต่างๆของเขา 7 คนค่ะ รู้ได้ไง เพราะเขาเล่าให้ฟังเอง อ่าว อารมณ์มันก็ยังมีนะเห็นมั้ย

ทีนี้เราแต่งงานแล้วมันจะไปหากลิ่นใหม่ก็คงไม่ได้ เชื่อมั้ยว่าการแต่งงานครั้งเก่าทำให้สามีเราออกแนววิตกจริต จะพยายามมีอะไรด้วยทุกครั้งที่มีโอกาส วันละรอบ สองรอบ บางทีเหนื่อยตาจะปิดก็รู้สึกว่าต้องทำ เผื่อพรุ่งนี้เราไม่ยอมให้ขึ้นมา เราบอกพรุ่งนี้ก็ได้นะ ไม่ซีเรียส เขาก็ยังดันทุรัง ซึ่งเราก็แก้ไขด้วยการบอกตัวเองว่าเราจะพยายามไม่ผิดคำพูด เวลาเราไม่อยาก ก็ให้เขาทำไป เราก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร บางทีก็เล่นด้วยบ้างสนุกทั้งคู่ ทำด้วยความรัก นอนคุยกันหัวเราะคิกคักกันไป มันก็เออๆออๆไปได้เอง เราให้สิทธิสามีว่าถ้าเกิดเราขี้เกียจแล้วเขาอยากมากๆ ขี้เกียจรอ ก็ให้ใช้สารหล่อเลื่อนแล้วทำกับเราได้เลย ใจกว้างมาก เราก็เล่นเกมต่อไปก็มี 55555 แต่สักนาทีผ่านไปก็เคลิ้มนะ ไม่เคยเมินอะไรเขา มันต้องเข้าใจเพศชายแล้วก้าวข้ามความเคยชินไปให้ได้ ถึงจะแฮปปีกันทั้งสองฝ่ายค่ะ เราภูมิใจนะพอเขาสบายตัว เขาจะคลอเคลียแสดงความรักความขอบคุณ ถ้าเอาแต่อ้างผู้หญิงก็เหนื่อยเป็น มันไม่ใช่มันคือข้ออ้าง แต่อยากให้เข้าใจอาการ (ถ้าถามเรานะ) เราว่ามันไม่เชิงขี้เกียจ แต่เบื่อไปเองค่ะ แบบมันก็แค่นั้น กลิ่นเดิมคนเดิม มันไม่มีอะไรหวือหวาให้น่าตื่นเต้น ไม่ได้ไม่รัก หรืออยากมีคนอื่นนะ แต่ไม่สนใจในเรื่องนี้ ไม่อยากบิ้ว (หรือถูกบิ้ว) รู้ว่าเสร็จแล้วมันดี แต่มันเบื่อไม่เอาอ่ะ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรลึกซึ้งค่ะ เพราะบางทีเราก็เป็น แต่อย่างที่บอกก็ไม่ค่อยแฟร์ เพราะผู้ชายก็มีความต้องการได้เรื่อยๆอยู่แล้ว ยิ่งเขาก็มีเราคนเดียว เขาก็ช่วยเหลือเราเรื่องอื่น เราก็ช่วยเหลือสามีเรื่องนี้ หยวนๆกันไปจะไม่ได้เลยหรือ

ปล. เราไม่เห็นด้วยเรื่องรายได้เท่าเทียมอะไรนั่นนะ เราว่าคิดได้ไง ถ้าผู้หญิงต้องอยู่ด้วยเงินของผู้ชายถึงจะยอมมีอะไรด้วยก็ไปซื้อกินมั้ย 🙄 ชีวิตคู่มันต้องรู้เขารู้เราและแสดง appreciation ต่อกันสิ

ส่วนลูก เราว่าควรแยกห้องนอนนะคะ พ่อแม่ควรมีเวลาเป็นส่วนตัวให้กันและกันโดยไม่มีข้ออ้างค่ะ ยิ้ม
ความคิดเห็นที่ 16
มันเป็นกลไกทางธรรมชาตินะผมว่า

ธรรมชาติไม่ได้สร้างให้ ผช ผญ มาอยู่เป็นคู่เดียวกันตลอดชีวิต
โอกาสที่ผู้ ญ อายุมากแล้วจะมีลูกยาก ความต้องการทางเพศลดลง ก็เป็นกลไกธรรมชาติอีก
ผู้ชายมีเมียหลายคนไม่ได้อีก ทั้งๆที่ธรรมชาติสร้างให้ผู้ชายสามารถขยายเผ่าพันธุ์ได้ไปจนแก่

เรามีชีวิตที่ฝืนธรรมชาติกันทุกอย่าง

หาเด็กมาเลี้ยงดีกว่าครับ 5555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่