JJNY : ล่ารายชื่อคนดังนานาชาติเรียกร้องจุฬาฯ ยกเลิกคำสั่งลงโทษ เนติวิทย์

กระทู้คำถาม
แถลงการณ์เรียกร้องให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยกเลิกคำสั่งลงโทษที่ไม่เป็นธรรมต่อนิสิตทั้ง 8 คน เพื่อเห็นแก่สิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามมาตรฐานสากล ด้านจุฬาลงกรณ์ฯ ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีลงโทษนิสิตยืนยันเคารพความเห็นต่าง และกระบวนการลงโทษเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

ในแถลงการณ์ที่นักวิชาการต่างชาติร่วมลงนามระบุว่า "การลงโทษที่ไม่เป็นธรรมต่อเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และนักศึกษาคนอื่น ๆ ต้องถูกยกเลิก"

ล่าสุด จนถึงเวลานี้ 23.00 น. ของวันที่ 6 ก.ย. 2017 จำนวนนักวิชาการ นักเคลื่อนไหว และ นักเขียนที่เข้าร่วมลงชื่อในข้อเรียกร้องต่อจุฬาฯ มีกว่า 100 คน ในจำนวนนั้น มีศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก 20 คน รวมทั้ง ศ. ชอมสกี จากมหาวิทยาลัยอริโซนา

    เพิ่มเติม : จุฬาฯ แจงเหตุปลดเนติวิทย์
    เนติวิทย์ ใช้ศรัทธาเปลี่ยน "จุฬาฯ"

บีบีซีไทยสอบถามถึงเหตุผลที่ให้การสนับสนุนนายเนติวิทย์ ศ. นอม ชอมสกี นักปรัชญา และนักวิชาการชื่อดังของสหรัฐฯ ตอบว่า "ผมได้รับข้อมูลจากชาวไทยที่เห็นต่างและผู้ที่มีความน่าเชื่อถือจำนวนมาก และจากรายงานข่าว ทำให้ผมรู้สึกว่านั่นเพียงพอแล้วที่จะคัดค้านการลงโทษที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นการกระทำที่เป็นเรื่องธรรมดาและจำเป็นซึ่งคนทำกันทั่วโลก"

ก่อนหน้านี้ศ. นอม ชอมสกี เคยส่งจดหมายให้กำลังใจเนติวิทย์มาแล้ว ในช่วงที่ทางจุฬาฯ ตั้งกรรมการสอบสวนเขาและนิสิตอีก 7 คน



แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมว่า "เรา, นักเคลื่อนไหว, นักเขียน, นักวิชาการ, และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนได้ติดตามกรณีที่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 8 คน ซึ่งเดินออกจากพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้าเป็นนิสิตจุฬาฯ เพื่อถวายความเคารพพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ในรูปแบบที่ต่างออกไป เราเห็นว่า การกระทำของพวกเขาสอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชน ยิ่งไปกว่านั้น ทางจุฬาฯ ควรเคารพการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง รวมถึงการแสดงออกในรูปแบบต่าง ๆ"

ในแถลงการณ์ระบุว่า นิสิตทั้ง 8 คนถูกลงโทษด้วยการตัดคะแนนความประพฤติ และ 5 คน ในจำนวนนี้ซึ่งเป็นสมาชิกของสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยต้องถูกปลดจากตำแหน่ง การตัดคะแนนความประพฤติดังกล่าว ทำให้นิสิตทั้ง 8 คนไม่สามารถเป็นตัวแทนของสภานิสิตจุฬาฯ หรือมีบทบาทอื่นใดอย่างเป็นทางการของทางมหาวิทยาลัยในอนาคตด้วย

"เราประณามการลงโทษนิสิตทั้ง 8 คนของทางมหาวิทยาลัย การลงโทษนี้ส่งผลให้เกิดการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ทั้งในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเองและสังคมไทย ดังนั้นเราจึงขอเรียกร้องในนามของนิสิตเหล่านี้ให้มีการนิรโทษกรรมและขอให้มหาวิทยาลัยเพิกถอนการลงโทษทางวินัยด้วย"

นายเฮนรี ฮาร์ดี วิทยาลัยวอล์ฟสัน มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า "ผมลงนามเพราะเขา [เนติวิทย์] ขอให้ผมทำ ผมรู้แต่เพียงสิ่งที่เขาบอกผม สิ่งที่เขียนอยู่ในวิกิพีเดีย" นอกจากนี้ยังแนบลิงก์ข่าวที่ทำให้รู้จักเนติวิทย์มากขึ้นและทำให้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์นิตยสารไทมส์ของนายเนติวิทย์ และรายงานข่าวของเว็บไซต์หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์

นายฮาร์ดี ระบุในอีเมลว่า "ผมไม่มีแหล่งข้อมูลอิสระที่ตรวจสอบความถูกต้องของรายละเอียดเหล่านี้" แต่นายฮาร์ดีระบุว่าเคยติดต่อกับนายเนติวิทย์มาก่อนในช่วงที่นายเนติวิทย์ขออนุญาตนำบทความไปแปลเป็นภาษาไทย

คำบรรยายภาพ เหตุการณ์ในวันพิธีถวายสัตย์ฯ วันที่ 3 ส.ค.นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ประธานสภานิสิตฯ และเพื่อนๆ เดินไปโค้งคำนับพระบรมรูป 2 รัชกาล โดยหนึ่งในนิสิตบอกกับบีบีซีไทยว่า เดินออกมาหลังจากพิธีการจบแล้ว

ด้านจุฬาลงกรณ์ฯ ได้ออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีลงโทษทางวินัยนิสิต ระบุว่า ประการแรก ในกรณีการลงโทษทางวินัยอื่น ๆ ที่ผ่านมา จุฬาฯ มิได้เปิดเผยรายละเอียดคำตัดสินลงโทษต่างๆ ด้วยเกรงว่าจะส่งผลต่ออนาคตของนิสิตที่ถูกลงโทษ แต่ปรากฏว่าในกรณีนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จและบิดเบือนในสื่อต่าง ๆ ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องแถลงให้ทราบถึงข้อมูลที่ถูกต้อง โดยละเว้นการเปิดเผยรายชื่อของนิสิตที่เกี่ยวข้อง

ประการที่สอง จุฬาฯ ขอรับรองว่าการพิจารณาทางวินัยของกลุ่มนิสิตดังกล่าว เป็นไปตามขั้นตอน และกฎ ระเบียบตามปกติของมหาวิทยาลัย ซึ่งระเบียบทางวินัยเช่นนี้มีในทุกมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก คณะกรรมการส่งเสริมวินัยนิสิตมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการพิจารณาที่เป็นอิสระ และดำเนินการในรูปแบบเดียวกันกับกรณีสอบสวนทางวินัยเรื่องอื่นๆ หากนิสิตไม่พอใจกับผลการตัดสินก็มีสิทธิอุทธรณ์ในลำดับต่อไปได้

ประการที่สาม ท่ามกลางเสียงวิพากษ์เกี่ยวกับความเป็นอนุรักษนิยมของมหาวิทยาลัย พร้อมคำวิจารณ์ว่า จุฬาฯ ไม่ได้เปิดกว้างสำหรับความคิดที่แตกต่าง ทางจุฬาฯ ขอย้ำว่ามหาวิทยาลัยเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างและพร้อมรับความแตกต่างนั้น พิธีการทั้งหมดภายในมหาวิทยาลัยเป็นกิจกรรมที่นิสิตเข้าร่วมโดยสมัครใจและมีสิทธิที่จะไม่เข้าร่วม โดยไม่มีผลเสียใด ๆ ต่อตัวนิสิต แนวปฏิบัตินี้ใช้กับพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 สำหรับนิสิตชั้นปีที่หนึ่งทุกคน เพื่อแสดงความเคารพและปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าในฐานะผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยด้วย

ส่วนในแถลงการณ์เรียกร้องให้จุฬาฯ ยกเลิกการลงโทษที่ไม่เป็นธรรมต่อนิสิต 8 คน มีการอ้างอิงคำพูดของผู้ลงชื่อสนับสนุนหลักหลายคนที่กล่าวถึงนายเนติวิทย์ด้วย



ศ. เพอร์รี ลิงก์ ด้านเอเชียตะวันออกศึกษาของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน กล่าวว่า
"เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และเพื่อนนิสิต กำลังใช้สิทธิมนุษยชนอันเป็นสากล ซึ่งควรได้รับการเคารพและสนับสนุนจากทั้งโลก"

ด้านอาชีส นานดี้ นักทฤษฎีสังคม และเป็นผู้ที่ติดอยู่ในผลการสำรวจปัญญาชนสาธารณะ 100 อันดับแรกของนิตยสารนโยบายต่างประเทศ กล่าวว่า
"ไม่มีมหาวิทยาลัยใดเป็นมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มรูปแบบ หากนักศึกษาไม่มีสิทธิ์เห็นต่างและคัดค้าน"

ขณะที่ศ. ลอว์เรนซ์ เอ็ม เคราส์ จากวิทยาลัยการสำรวจอวกาศและพื้นโลก มหาวิทยาลัยอริโซนา กล่าวว่า
"ประเทศไทยจะต้องพึ่งพาคนรุ่นใหม่อย่างคุณ เพื่อรักษาประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศ และนำไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่