ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยตรัสกับคนที่มาถวายงานกับท่านว่า
‘ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากการมีความสุขร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น’
ซึ่งหมายความว่า...ทุกคนต้องทำเพื่อคนอื่นตามในหลวงไปด้วย
มีคนอีกมากที่อยู่ในพื้นที่แห้งแล้งและไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้เลย ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงพยายามแก้ปัญหาด้วยการริเริ่มโครงการเรื่องน้ำตามที่แห้งแล้งต่าง ๆ เช่นโครงการฝนหลวง เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้เพาะปลูก การรักษาต้นน้ำด้วยการปลูกป่าและโครงการชลประทานต่าง ๆ พระองค์ต้องทรงตรากตรำงานหนักตลอดเวลา
พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ ซึ่งเป็นองคมนตรีท่านหนึ่งเล่าว่า ครั้งหนึ่งหลังจากเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรที่จังหวัดสกลนคร ทรงทราบว่าแม้จะมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอยู่แล้ว แต่ราษฎรก็ยังมีปัญหาน้ำไม่พอใช้จึงมีพระราชดำริว่า
อ่างนั้นถ้ายกประตูน้ำขึ้นอีกเล็กน้อยก็จะเก็บน้ำเพิ่มได้อีก แต่ก็มีปัญหาว่าอาจทำให้น้ำท่วมเข้าไปในพื้นที่ที่ราษฎรรุกเข้าไปปลูกพืชทำไร่อยู่โดยพลการ ซึ่งตามกฎแล้วกรณีอย่างนี้เจ้าหน้าที่สามารถไล่ชาวบ้านออกไปจากพื้นที่ได้ทันที
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ประทับที่พื้น แล้วทรงอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่นาน ตอนแรกชาวบ้านไม่เข้าใจพระองค์ก็ยังไม่เสด็จฯ กลับ จนเย็นย่ำพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว มองอะไรแทบไม่เห็น ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องนำเทียนไขมาจุด พระองค์ทรงเจรจากับชาวบ้านต่อไปอีกนานจนหมดเทียนเป็นเล่ม ๆ เมื่อเข้าใจกันได้ดีแล้ว จึงได้เสด็จฯกลับ
ด้วยพระวิริยอุตสาหะและพระขันติธรรมของพระองค์นี่เอง ที่ทำให้พระราชดำริครั้งนั้นลุล่วงไปด้วยดีเช่นเดียวกับพระราชกรณียกิจอื่น ๆ

Cr.
http://www.goodlifeupdate.com/39176/healthy-mind/inspiration/secret-of-life/kingstory/
ขอขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล หนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี” จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
*🎼💖❤*⭐️°•🌟• ปลูกด้วยใจใส่ปุ๋ยด้วยจงรัก💖คก.47 ปี 3 ปลูกดอกดาวเรืองช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ •🌟•°⭐️*❤💖🎼
ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยตรัสกับคนที่มาถวายงานกับท่านว่า
‘ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากการมีความสุขร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น’
ซึ่งหมายความว่า...ทุกคนต้องทำเพื่อคนอื่นตามในหลวงไปด้วย
มีคนอีกมากที่อยู่ในพื้นที่แห้งแล้งและไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้เลย ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงพยายามแก้ปัญหาด้วยการริเริ่มโครงการเรื่องน้ำตามที่แห้งแล้งต่าง ๆ เช่นโครงการฝนหลวง เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้เพาะปลูก การรักษาต้นน้ำด้วยการปลูกป่าและโครงการชลประทานต่าง ๆ พระองค์ต้องทรงตรากตรำงานหนักตลอดเวลา
พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ ซึ่งเป็นองคมนตรีท่านหนึ่งเล่าว่า ครั้งหนึ่งหลังจากเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรที่จังหวัดสกลนคร ทรงทราบว่าแม้จะมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอยู่แล้ว แต่ราษฎรก็ยังมีปัญหาน้ำไม่พอใช้จึงมีพระราชดำริว่า อ่างนั้นถ้ายกประตูน้ำขึ้นอีกเล็กน้อยก็จะเก็บน้ำเพิ่มได้อีก แต่ก็มีปัญหาว่าอาจทำให้น้ำท่วมเข้าไปในพื้นที่ที่ราษฎรรุกเข้าไปปลูกพืชทำไร่อยู่โดยพลการ ซึ่งตามกฎแล้วกรณีอย่างนี้เจ้าหน้าที่สามารถไล่ชาวบ้านออกไปจากพื้นที่ได้ทันที
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ประทับที่พื้น แล้วทรงอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่นาน ตอนแรกชาวบ้านไม่เข้าใจพระองค์ก็ยังไม่เสด็จฯ กลับ จนเย็นย่ำพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว มองอะไรแทบไม่เห็น ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องนำเทียนไขมาจุด พระองค์ทรงเจรจากับชาวบ้านต่อไปอีกนานจนหมดเทียนเป็นเล่ม ๆ เมื่อเข้าใจกันได้ดีแล้ว จึงได้เสด็จฯกลับ
ด้วยพระวิริยอุตสาหะและพระขันติธรรมของพระองค์นี่เอง ที่ทำให้พระราชดำริครั้งนั้นลุล่วงไปด้วยดีเช่นเดียวกับพระราชกรณียกิจอื่น ๆ
Cr. http://www.goodlifeupdate.com/39176/healthy-mind/inspiration/secret-of-life/kingstory/
ขอขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล หนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี” จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554