MovieMouthy:ภาษาอังกฤษจากภาพยนตร์เรื่อง " A Walk to Remember " (มีสปอยล์นะจ๊ะ)


สวัสดีค่ะ ภาษาอังกฤษจากภาพยนตร์รอบนี้เรามาย้อนไปดูอีกหนึ่งหนังรักที่เป็นชื่นชอบของใครหลายๆคนอีกเรื่องดีกว่า นั่นก็คือเรื่อง A Walk to Remember ค่ะ เป็นหนังที่สร้างจากนิยายรักโรแมนติกของ Nicholas Sparks ว่าด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นโดยมีพระเอกฮอตๆ แบดๆ มาหลงรักนางเอกที่เฉิ่มๆเชยๆซะได้ และนางเอกยังเป็นลูคีเมียอีกด้วย ดูเผินๆตามนี้ก็เหมือนจะเป็นพลอตของหนังรักโรแมนติกที่คุ้นชิน แต่พอได้ดูก็รู้สึกประทับใจกับมุมมองที่ลึกซึ้งของหนังเรื่องนี้มากเลยค่ะ หนังไม่ได้พยายามบีบอารมณ์ให้เราต้องเศร้าต้องทุกข์ แต่ดำเนินเรื่องไปอย่างเป็นธรรมชาติ นำเสนอในมุมมองของพระเอกที่ค่อยๆได้เรียนรู้ที่จะรัก เรียนรู้ที่จะให้อภัย เรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นเเละศรัทธากับตัวเอง ส่วนนางเอกก็เป็นคาแรกเตอร์ที่ดูแล้วได้ใจมากเลยค่ะ เพราะไม่ใช่นางเอกในแบบฉบับที่เราได้เจอบ่อยนัก ถึงจะถูกคนนินทาว่าเชยหรืออะไรต่างๆนานา แต่เธอก็ไม่เคยสนใจว่าใครจะคิดยังไงกับตัวเอง เป็นคนที่มีมีจิตใจเข้มแข็งและอ่อนโยนมาก ติดจะกวนๆเอาเรื่องยิ่งกว่าพระเอกด้วยซ้ำไปค่ะ ใครที่ยังไม่ได้ดูก็ลองหาโอกาสดูกันได้นะคะ อาจจะมีน้ำตาไหลบ้าง แต่เชื่อว่าดูแล้วจะรู้สึกอบอุ่นในใจ รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่มีเนื้อหาที่สวยงามมากเลยค่ะ แถมเพลงประกอบเพราะๆทั้งนั้นเลยด้วยค่ะ


Cr.>>macmillandictionary.com,thefreedictionary.com, dictionary.cambridge.org


(ติดตามเนื้อหาอื่นๆได้ใน www.facebook.com/moviemouthy ค่ะ^^)


"Cake/A piece of cake" ในที่นี้มีความหมายว่า "ง่ายมากๆ" ทำนองเดียวกับคำว่า "กล้วยๆ"ของคนไทยค่ะ

ในซีนนี้ แลนดอนและเพื่อนๆในแก๊งกำลังคิดจะแกล้งเพื่อนคนหนึ่งให้กระโดดน้ำ โดยหลอกว่า "ง่ายๆน่ะ ไม่ต้องกลัว ฉันจะกระโดดด้วย"

ตัวอย่างอื่น เช่น
The interview was a piece of cake.
=การสัมภาษณ์เป็นเรื่องง่ายๆน่ะ


"Blow it" มีความหมายว่า "ทำพัง/ทำลายโอกาส"ค่ะ

ในซีนนี้ หลังจากแลนดอนถูกจับได้ว่าแกล้งเพื่อนให้กระโดดน้ำจนเกิดอุบัติเหตุ อาจารย์เลยจะลงโทษให้แลนดอนต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของทางโรงเรียน โดยสอนเขาว่าต้องหัดไปมีประสบการณ์ใหม่ๆ กับผู้คนใหม่ๆบ้าง เป็นโอกาสให้เขาได้เรียนรู้ เพราะฉะนั้นอย่าทำโอกาสนี้พังล่ะแลนดอน

ตัวอย่างอื่น เช่น
I’ve completely blown my diet with that piece of chocolate cake.
=ฉันทำลายการไดเอ็ทของฉันด้วยเค้กช็อคโกแลตก้อนนั้น
We were in with a good chance for that contract but you’ve really blown it now!
=เรากำลังได้โอกาสที่ดีในการทำสัญญานั้น แต่เธอทำมันพังหมดแล้วตอนนี้!


"Better late than never" เข้าทำนองกับสำนวนไทยที่ว่า "มาช้ายังดีกว่าไม่มา" ค่ะ

ในซีนนี้ แลนดอนถูกทำโทษให้ต้องเข้าร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียน หนึ่งในนั้นคือการเข้าร่วมแสดงละครเวทีของโรงเรียนค่ะ แต่เขามาร่วมซ้อมช้า อาจารย์เลยบอกว่า มาสายยังดีกว่าไม่มาค่ะ


"Small talk" มีความหมายว่า "การพูดคุยเล็กๆน้อย,คุยเจ๊าะแจ๊ะ"ค่ะ เป็นการคุยในเรื่องที่ไม่ได้สำคัญอะไรค่ะ

ในซีนนี้ เจมี่ลองเข้าไปชวนแลนดอนคุย โดยถามว่าแลนดอนจะไปเยี่ยมเพื่อนที่แลนดอนไปแกล้งจนประสบอุบัติเหตุมั้ย? แลนดอนเลยไม่พอใจถามกลับว่า นี่คือเรื่องที่จะชวนคุยเหรอ??

ตัวอย่างอื่น เช่น
I don't enjoy parties where I have to make small talk with complete strangers.
=ฉันไม่ชอบไปปาร์ตี้ที่ฉันต้องคอยคุยเจ๊าะเเจ๊ะกับคนแปลกหน้าเลย


"Pull off" ในที่นี้มีความหมายว่า "ทำได้,สำเร็จ" ค่ะ

ในซีนนี้ แลนดอนพยายามซ้อมจำบทละครที่ตัวเองต้องเล่นกับเพื่อนสนิทค่ะ แต่เพื่อนก็แซวว่า นายจำบททั้งหมดนี่ไม่ได้หรอก ไม่สำเร็จใน 3 เดือนนี้แน่ ต่อให้ดาราอย่างเดอ นีโร ก็ทำไม่ได้!

ตัวอย่างอื่น เช่น
I don't know how you pulled it off, but we're now $5,000 richer than we were yesterday.
=ฉันไม่รู้ว่าเธอทำสำเร็จได้ยังไง แต่ตอนนี้เรารวยกว่าเมื่อวานถึง 5,000 ดอลล่าร์แล้ว


"Count on" มีความหมายว่า "พึ่งพาได้,วางใจไว้ใจได้"ค่ะ

ในซีนนี้ พอเพื่อนแซวว่าแลนดอนทำไม่สำเร็จหรอก แลนดอนเลยเริ่มเครียด เพื่อนจึงบอกว่าไม่ต้องห่วงเขาจะไปอยู่ในคืนแสดง และจะอยู่แถวหน้าเลย แลนดอนวางใจได้

ตัวอย่างอื่น เช่น
You can always count on him for good advice.
=คุณไว้ใจเขาสำหรับคำแนะนำดีๆได้เสมอ
I knew I could count on you to be on time.
=ฉันรู้ว่าฉันสามารถวางใจได้ว่าเธอจะตรงเวลา


"The common good" มีความหมายว่า "ประโยชน์เพื่อส่วนรวม" ค่ะ

ในซีนนี้แลนดอนถึงกับต้องมาตื้อขอร้องให้เจมี่ช่วยเป็นเพื่อนซ้อมบทพูดละครให้กับเขาหน่อย ทั้งๆที่ตลอดมาที่รู้จักกันแลนดอนไม่เคยทักทายเจมี่มาก่อนเลย เจมี่เลยบอกว่า มาขอร้องคนอื่นแบบเนี้ยต้องถ่อมตัวหน่อยและต้องไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่ต้องส่งผลดีกับคนอื่นๆด้วยสิ

ตัวอย่างอื่น เช่น
This information should be released for the common good.
=ข้อมูลนี้ควรจะถูกเผยแพร่ออกไปเพื่อประโยชน์สำหรับทุกคน


"Make yourself at home" ถ้าแปลตามตัวเป๊ะๆก็จะได้ว่า "ทำตัวเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลยนะ" ไว้ใช้พูดกับแขกที่เราเชิญเข้าบ้านมาให้เค้าสบายๆไม่ต้องเกรงใจค่ะ ก็จะตรงกับประโยคของคนไทยที่ว่า "ทำตัวตามสบายนะ"

ในซีนนี้ แลนดอนมาซ้อมบทที่บ้านเจมี่พอถูกเชิญเข้าบ้านมา เจมี่เลยบอกว่า เดี๋ยวเธอขึ้นไปหยิบบทที่ชั้นสองก่อน แลนดอนทำตัวตามสบายนะ

ตัวอย่างอื่น เช่น
Make yourself at home while I go and find those photographs.
=ทำตัวตามสบายนะ ฉันไปหารูปถ่ายพวกนั้นก่อน


"Cool" ในที่นี้มีความหมายว่า "โอเค,เรียบร้อยดี" ไม่ได้มีความหมายว่า เจ๋งหรือสุดยอดค่ะ

ในซีนนี้หลังจากแลนดอนเริ่มได้ลองรู้จักกับเจมี่ ได้ลองอยู่ห่างจากเพื่อนกลุ่มเดิมบ้าง เขาก็เลยมีท่าทีเปลี่ยนไปบ้างค่ะ เพื่อนเลยทักว่า นี่เราดีกันอยู่ใช่มั้ย โอเคกันอยู่ใช่มั้ย แลนดอนก็ตอบว่า อ๋อ แน่นอน ดีกันสิ ไม่มีอะไร

ตัวอย่างอื่น เช่น
Any time after five would be cool.
=เวลาไหนก็ได้ที่หลังห้านาฬิกาโอเคหมด
หลังจากที่ทะเลาะกันแล้วเคลียร์กันได้ก็ทักกันว่า "Are we cool?"=นี่เราโอเคกันเเล้วนะ?
I'm cool with that.
=ฉันโอเคกับแบบนั้นนะ


"That's it" มีความหมายว่า "พอกันที" ใช้พูดเวลาที่เราโกรธจนทนต่อไปไม่ได้แล้ว
"Be Through with someone" มีความหมายว่า "จบความสัมพันธ์กับใครคนนั้น"ค่ะ

ในซีนนี้เป็นซีนละครเวทีของโรงเรียนค่ะ โดยตัวละครตัวนี้ได้บอกกับตัวละครของแลนดอนว่า พอกันที! เราจบกัน!

ตัวอย่างอื่น เช่น
I’ve told Larry I’m through with him, but he keeps bothering me.
=ฉันได้บอกลาร์รี่ไปแล้วว่าฉันขอจบกับเขา แต่เขาก็ยังคอยมากวนฉัน


"What's with someone/something?" มีความหมายว่า"ใครคนนั้นเป็นอะไรไป?,เกิดอะไรขึ้นกับคนนั้น/สิ่งนั้น?" ค่ะ

ในซีนนี้ เป็นช่วงที่แลนดอนเริ่มออกห่างจากเพื่อนกลุ่มเดิม ไม่ค่อยได้ไปสุงสิงด้วยเหมือนเดิมค่ะ เพื่อนเลยมาทักว่า แลนดอนเป็นอะไรไป เดี๋ยวนี้ไม่เคยมีเวลาให้เพื่อนเลยนะ

ตัวอย่างอื่น เช่น
What's with all the food they're giving away?
=แล้วพวกอาหารที่พวกเขาให้ไปล่ะ? (เกิดอะไรขึ้นกับอาหารเหล่านั้น?)


"No hard feelings" มีความหมายว่า"ไม่ถือโกรธนะ,ไม่ได้ขุ่นเคืองนะ" ค่ะ

ในซีนนี้ หลังจากที่แลนดอนเผลอจูบเจมี่บนละครเวที และเริ่มเข้าไปใกล้ชิดกับเจมี่ แฟนเก่าของแลนดอนเลยคิดแกล้งเจมี่ โดยทำเข้ามาตีซี้ และอ้างว่าตัวเธอไม่ได้ถือโกรธ หรือมีความรู้สึกไม่ดีกับเจมี่เลยนะ

ตัวอย่างอื่น เช่น
I wanted to show you there are no hard feelings.
=ฉันอยากแสดงให้เธอเห็นว่าฉันไม่ได้โกรธเธอนะ


I'm) getting by /Just getting by มีความหมายว่า "ฉันก็เรื่อยๆน่ะ" พออยู่ได้ ทำนองนี้ค่ะ

ในซีนนี้ หลังจากเจมี่ได้จากไป แลนดอนก็ไปเรียนต่อ และได้กลับมาเเวะเยี่ยมพ่อของเจมี่ค่ะ โดยเเลนดอนทักพ่อของเจมี่ว่า "คุณดูดีนะครับ" พ่อของเจมี่เลยบอกกลับว่า "อ่อ ฉันก็เรื่อยๆน่ะ"

ตัวอย่างอื่น เช่น
How you doing,Tom? Just getting by.
เธอเป็นยังไงบ้างทอม? ก็เรื่อยๆน่ะ


จบแล้วค่า หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ หากมีอะไรจะเสนอแนะหรือติชม หรือจะเม้าท์ ก็เม้นต์ได้เลยนะคะ ยินดีรับฟังทุกความเห็นเลยค่า ขอบคุณมากค่ะ ^^


สามารถแวะเวียนไปที่เพจ www.facebook.com/moviemouthyได้เลยนะคะ หึหึหึ เราต้องดักหน้าดักหลังค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่