การได้เกิดในยุค 20-30 ให้หลังนี้ทำให้เราเจอสื่อที่ค่อนข้างแบ่งแยกยุคสมัยอย่างชัดเจน เลยกลายเป็นว่ายิ่งโตก็ยิ่งรู้สึกโหยหาความเป็นไทยแบบเก่าๆ
พอเป็นแบบนี้อยู่ๆก็เลยมีความคิดว่าอยากดูหนังไทยสมัยใหม่ที่ดูเรียล ตลก ซึ้ง ดูแล้วสามารถเติมพลังใจของเราได้
อย่างเรื่องรักแห่งสยาม สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก แหยมยโสธร แฟนฉัน (ส่วนในรอบ 5 ปีก็คงเป็น คิดถึงวิทยา)
เราคิดว่าหนังแนวนี้มันมีความคลาสสิคในตัว เป็นสิ่งที่คนไทยทำได้แบบไม่ต้องยัดเยียดบทให้ปูดปาดจนเกินความเป็นจริงไป
หลายเรื่องเคยมีโอกาสได้ดูตอนสมัยประถม ตอนนั้นเคยคิดว่าต้องจบแฮปปี้เอ็นดิ้งแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ ทำลายความฝันวัยเด็กชะมัด
แต่ก็นั่นแหละ ตัวหนังได้สอดแทรกแนวคิดที่โคตรจรรโลงใจลงไป ถึงเราเองจะเป็นเด็กแต่เราก็ซึมซับมันได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หนังพวกนี้จึงทำให้เราโตขึ้นมาเป็นคนที่มองโลกสองด้าน มันทำให้เราเป็นคนที่พร้อมจะอยู่ในสังคมได้จริงๆ
ปล.เมื่อไหร่จะมีหนังแนวแบบนี้ออกมาซักทีน้อ
อยากให้วงการภาพยนตร์ไทยทำหนังแบบสิบปีที่แล้ว
พอเป็นแบบนี้อยู่ๆก็เลยมีความคิดว่าอยากดูหนังไทยสมัยใหม่ที่ดูเรียล ตลก ซึ้ง ดูแล้วสามารถเติมพลังใจของเราได้
อย่างเรื่องรักแห่งสยาม สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก แหยมยโสธร แฟนฉัน (ส่วนในรอบ 5 ปีก็คงเป็น คิดถึงวิทยา)
เราคิดว่าหนังแนวนี้มันมีความคลาสสิคในตัว เป็นสิ่งที่คนไทยทำได้แบบไม่ต้องยัดเยียดบทให้ปูดปาดจนเกินความเป็นจริงไป
หลายเรื่องเคยมีโอกาสได้ดูตอนสมัยประถม ตอนนั้นเคยคิดว่าต้องจบแฮปปี้เอ็นดิ้งแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ ทำลายความฝันวัยเด็กชะมัด
แต่ก็นั่นแหละ ตัวหนังได้สอดแทรกแนวคิดที่โคตรจรรโลงใจลงไป ถึงเราเองจะเป็นเด็กแต่เราก็ซึมซับมันได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หนังพวกนี้จึงทำให้เราโตขึ้นมาเป็นคนที่มองโลกสองด้าน มันทำให้เราเป็นคนที่พร้อมจะอยู่ในสังคมได้จริงๆ
ปล.เมื่อไหร่จะมีหนังแนวแบบนี้ออกมาซักทีน้อ