บทความนี้ถอดความจากบทวิเคราะห์ของ outsideoftheboot , Link เต็มอยู่ด้านล่างครับ
Lineups

Liverpool: Karius; Moreno, Lovren, Matip, Gomez; Wijnaldum, Henderson, Can; Mane, Firmino, Salah (4-3-3) (Subs: Sturridge, Milner, Grujic)
Arsenal: Cech; Monreal, Koscielny, Holding; Bellerin, Xhaka, Ramsey, Oxlade-Chamberlain; Ozil, Welbeck, Sanchez (3-4-3) (Subs: Coquelin, Giroud, Lacazette)
Arsenal : น็อตผิดเบอร์
โดยสรุป - เกมนี้เกิดขึ้นจากการเล่นเคาเตอร์แอทแท็คของลิเวอร์พูลเป็นส่วนใหญ่ โดยเน้นไปยังปีกสปีดจัด อย่างมาเน่ และซาล่า และทั้งที่รู้อย่างนี้ อาเซนอลล้มเหลวในการปรับเปลี่ยนเพื่อแก้ไขการคุกคามนั้นและโดนลงโทษในที่สุด สิ่งยืนยันของข้อวิจารณ์นี้คือความสับสนและยุ่งเหยิง อันเกิดมาจากการขาดสมดุลในการทำเกมรุก ซึ่งส่งผลให้อาเซนอลถูกคุกคามทุกครั้งเมื่อต้องเปลี่ยนเป็นฝ่ายตั้งรับ สองปัญหาหลักคือ
1. การจัดตัวผิด และ
2. ความดื้อด้านในการไม่ปรับเปลี่ยนวิธีเล่นของ Wing Back ซึ่งทำให้เซนเตอร์ทั้งสามคนถูกล่อเป้าตลอดเกม
ในขณะครองเกม อาเซนอลทำอยู่สองอย่าง - โยนบอลยาวไปให้กองหน้า เพราะลิเวอร์เพรสหนัก หรือ จ่ายบอลออกปีก โดยดันมิดฟิลด์ตัวรุกเข้าไปในกรอบ แล้วให้ Wing Back ดันขึ้นมาสนับสนุนทางกว้าง แล้วให้แรมซี่ เติมเข้าไปในกรอบทีหลัง(Late Runs)
การโยนใส่ลิเวอร์พุลเป็นเรื่องปกติ เพราะปัญหาในการรับมือลูกโด่งของลิเวอร์พูลนั้นยาวเป็นหางว่าว แต่การเลือกเวลเบ็ค และซานเชส ทำให้บอลยาวของอาเซนอลแทบไม่ส่งผลคุกคาม และแนวรับลิเวอร์พูลจัดการได้อย่างไม่อยากลำบาก เรื่องที่น่าแปลกใจยิ่งกว่า คือการไม่โยนไปทางซ้าย ทั้งๆที่รู้ว่าโมเรโน่มีปัญหากับการรับมือบอลยาวตัดหลังมาแต่ไหนแต่ไร นี่คือความผิดพลาดของกุนซือ : หลายครั้งในครึ่งแรก อาเซนอลโยนบอลยาว โดยไม่ได้สร้างความกดดันใดๆ หลักๆก็มาจากการที่ชิรูด์ไม่ได้อยู่ในสนาม หลักฐานก็คือทันทีที่ชิรูด์ลงมา อาเซนอลก็พบว่าบอลยาวเริ่มจะเข้าเป้า
เกมรุกของอาเซนอลได้ผลมากกว่าในวิธีที่สอง และในช่วงต้นเกมสร้างปัญหาให้กับโจโกเมสทางด้านขวา โดยเบเยริน โอเวอแลปขึ้นไปเหนือซานเชส อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ได้ผลนัก เพราะผู้เล่นที่ทักษะดีกว่า อย่างโอซิล หรือซานเชส ต้องลงต่ำมาล้วงบอล แล้วโดนบังคับให้โยนบอลเปลี่ยนแกน หรือจ่ายยัดเข้าไปในกรอบ นี่ทำให้ปีกของลิเวอร์พูลพบงานสบาย - แบ็คของลิเวอร์พูลจะเปลี่ยนมาประกบ Wing Back ของอาเซนอลแทน และเอื้อให้ปีกของลิเวอร์พูลเตรียมเล่นเกมโต้กลับ
- แนวรุกของอาเซนอลวิ่งไปยืนเป็นแนวที่เส้นเหลือ เปิดช่องโหว่ให้โดนโต้กลับได้ง่าย
- วิงแบ็คทั้งสองข้างเติมสูงมาก โดยมีโอซิล และ ซานเชส ยืนต่ำ เปิดช่องให้มาเน่ และ ซาเล่ เล่นโต้กลับได้ทันทีที่แย่งบอลได้ โดยลงไม่ทัน
บ่อยครั้งอาเซนอลมีผู้เล่นห้าคนในเขตโทษ - ไม่มีซักคนเดียวที่เล่นลูกโด่งได้ดี หนักกว่านั้น ครึ่งหนึ่งของผู้เล่นแนวรุกยืนเป็นเส้นตรง มีแค่การเคลื่อนที่จากวิงแบ็ค และ มิดฟิลด์ตัวรุก - แทบไม่คุกคามแนวรับลิเวอร์พูลเลย ถ้าลากาแซต หรือ ชิรูด์ลง อาจจะสร้างปัญหาได้มากกว่านี้
ซาล่า เดาว่าจะเกิดโอกาสโต้กลับ จึงเริ่มวิ่งขึ้นไปก่อน เนื่องจากมิดฟิลด์อาเซนอล(วงกลม) ยืนสูงมาก นั่นหมายความว่าทั้งกอสเซียนี และ มอนเรอัล ก็ลอยสูงด้วย
แม้ว่าอาเซนอลทำเกมรุกผ่านด้านข้างได้ผลกว่าตรงกลาง แต่นี่กลายเป็นความผิดพลาดมหันต์ เมื่อลิเวอร์พูลโต้กลับครั้งแล้วครั้งเล่าถึงแนวเซนเตอร์ แรมซี กับชาก้าช่วยอะไรไม่ได้ เพราะชาก้าที่ยืนอยู่หน้าแบ็คทรี มักจะดันสูงขึ้นมา ส่วนแรมซีนั่นเข้าไปกรอบเขตโทษเลย นั่นทำให้เป็นไปไม่ได้ ที่เขาจะกลับมาช่วยแผงมิดฟิลด์เมื่อโดนโต้กลับ และทำให้แผงหลังที่ดันสูงขึ้นมา มีจุดอ่อนจากการโดนโจมตีด้านหลังจากคู่ต่อสู้ที่เร็วกว่า
มาติน คีโอน ชี้จุดอ่อนนี้ไว้ก่อนหน้าว่า ปัญหาใหญ่ของ 3-4-3 คือ เซนเตอร์ต้องปิดพื้นที่ว่างกว้างมาก และพึ่งพาวิงแบ็คถอยกลับมาช่วย เซนเตอร์ด้านข้างสองคนโดนโจมตีได้ง่าย และจะเป็นเป้าถ้าเจอทีมที่รู้ว่าทำอะไรอยู่ แน่นอนว่า เบเยรินและ AOC ที่ได้รับคำสั่งในดันสูง ประสบความล้มเหลวในการช่วยป้องกันลูกโต้กลับเมื่อมาเน่ และซาล่า โจมตีเข้ามา
การยืนสูง(มาก)ของอาเซนอล และปัญหาทางแท็คติกสองข้อ ทำให้แนวรับมีปัญหาอย่างมาก และการโยนยาวก็ไม่ได้ช่วยแก้อะไร
Tactical Analysis: คล็อปโจมตีความดื้อด้านของเวนเกอร์อย่างไร
Lineups
Arsenal: Cech; Monreal, Koscielny, Holding; Bellerin, Xhaka, Ramsey, Oxlade-Chamberlain; Ozil, Welbeck, Sanchez (3-4-3) (Subs: Coquelin, Giroud, Lacazette)
Arsenal : น็อตผิดเบอร์
โดยสรุป - เกมนี้เกิดขึ้นจากการเล่นเคาเตอร์แอทแท็คของลิเวอร์พูลเป็นส่วนใหญ่ โดยเน้นไปยังปีกสปีดจัด อย่างมาเน่ และซาล่า และทั้งที่รู้อย่างนี้ อาเซนอลล้มเหลวในการปรับเปลี่ยนเพื่อแก้ไขการคุกคามนั้นและโดนลงโทษในที่สุด สิ่งยืนยันของข้อวิจารณ์นี้คือความสับสนและยุ่งเหยิง อันเกิดมาจากการขาดสมดุลในการทำเกมรุก ซึ่งส่งผลให้อาเซนอลถูกคุกคามทุกครั้งเมื่อต้องเปลี่ยนเป็นฝ่ายตั้งรับ สองปัญหาหลักคือ
1. การจัดตัวผิด และ
2. ความดื้อด้านในการไม่ปรับเปลี่ยนวิธีเล่นของ Wing Back ซึ่งทำให้เซนเตอร์ทั้งสามคนถูกล่อเป้าตลอดเกม
ในขณะครองเกม อาเซนอลทำอยู่สองอย่าง - โยนบอลยาวไปให้กองหน้า เพราะลิเวอร์เพรสหนัก หรือ จ่ายบอลออกปีก โดยดันมิดฟิลด์ตัวรุกเข้าไปในกรอบ แล้วให้ Wing Back ดันขึ้นมาสนับสนุนทางกว้าง แล้วให้แรมซี่ เติมเข้าไปในกรอบทีหลัง(Late Runs)
การโยนใส่ลิเวอร์พุลเป็นเรื่องปกติ เพราะปัญหาในการรับมือลูกโด่งของลิเวอร์พูลนั้นยาวเป็นหางว่าว แต่การเลือกเวลเบ็ค และซานเชส ทำให้บอลยาวของอาเซนอลแทบไม่ส่งผลคุกคาม และแนวรับลิเวอร์พูลจัดการได้อย่างไม่อยากลำบาก เรื่องที่น่าแปลกใจยิ่งกว่า คือการไม่โยนไปทางซ้าย ทั้งๆที่รู้ว่าโมเรโน่มีปัญหากับการรับมือบอลยาวตัดหลังมาแต่ไหนแต่ไร นี่คือความผิดพลาดของกุนซือ : หลายครั้งในครึ่งแรก อาเซนอลโยนบอลยาว โดยไม่ได้สร้างความกดดันใดๆ หลักๆก็มาจากการที่ชิรูด์ไม่ได้อยู่ในสนาม หลักฐานก็คือทันทีที่ชิรูด์ลงมา อาเซนอลก็พบว่าบอลยาวเริ่มจะเข้าเป้า
เกมรุกของอาเซนอลได้ผลมากกว่าในวิธีที่สอง และในช่วงต้นเกมสร้างปัญหาให้กับโจโกเมสทางด้านขวา โดยเบเยริน โอเวอแลปขึ้นไปเหนือซานเชส อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ได้ผลนัก เพราะผู้เล่นที่ทักษะดีกว่า อย่างโอซิล หรือซานเชส ต้องลงต่ำมาล้วงบอล แล้วโดนบังคับให้โยนบอลเปลี่ยนแกน หรือจ่ายยัดเข้าไปในกรอบ นี่ทำให้ปีกของลิเวอร์พูลพบงานสบาย - แบ็คของลิเวอร์พูลจะเปลี่ยนมาประกบ Wing Back ของอาเซนอลแทน และเอื้อให้ปีกของลิเวอร์พูลเตรียมเล่นเกมโต้กลับ
- วิงแบ็คทั้งสองข้างเติมสูงมาก โดยมีโอซิล และ ซานเชส ยืนต่ำ เปิดช่องให้มาเน่ และ ซาเล่ เล่นโต้กลับได้ทันทีที่แย่งบอลได้ โดยลงไม่ทัน
บ่อยครั้งอาเซนอลมีผู้เล่นห้าคนในเขตโทษ - ไม่มีซักคนเดียวที่เล่นลูกโด่งได้ดี หนักกว่านั้น ครึ่งหนึ่งของผู้เล่นแนวรุกยืนเป็นเส้นตรง มีแค่การเคลื่อนที่จากวิงแบ็ค และ มิดฟิลด์ตัวรุก - แทบไม่คุกคามแนวรับลิเวอร์พูลเลย ถ้าลากาแซต หรือ ชิรูด์ลง อาจจะสร้างปัญหาได้มากกว่านี้
แม้ว่าอาเซนอลทำเกมรุกผ่านด้านข้างได้ผลกว่าตรงกลาง แต่นี่กลายเป็นความผิดพลาดมหันต์ เมื่อลิเวอร์พูลโต้กลับครั้งแล้วครั้งเล่าถึงแนวเซนเตอร์ แรมซี กับชาก้าช่วยอะไรไม่ได้ เพราะชาก้าที่ยืนอยู่หน้าแบ็คทรี มักจะดันสูงขึ้นมา ส่วนแรมซีนั่นเข้าไปกรอบเขตโทษเลย นั่นทำให้เป็นไปไม่ได้ ที่เขาจะกลับมาช่วยแผงมิดฟิลด์เมื่อโดนโต้กลับ และทำให้แผงหลังที่ดันสูงขึ้นมา มีจุดอ่อนจากการโดนโจมตีด้านหลังจากคู่ต่อสู้ที่เร็วกว่า
มาติน คีโอน ชี้จุดอ่อนนี้ไว้ก่อนหน้าว่า ปัญหาใหญ่ของ 3-4-3 คือ เซนเตอร์ต้องปิดพื้นที่ว่างกว้างมาก และพึ่งพาวิงแบ็คถอยกลับมาช่วย เซนเตอร์ด้านข้างสองคนโดนโจมตีได้ง่าย และจะเป็นเป้าถ้าเจอทีมที่รู้ว่าทำอะไรอยู่ แน่นอนว่า เบเยรินและ AOC ที่ได้รับคำสั่งในดันสูง ประสบความล้มเหลวในการช่วยป้องกันลูกโต้กลับเมื่อมาเน่ และซาล่า โจมตีเข้ามา
การยืนสูง(มาก)ของอาเซนอล และปัญหาทางแท็คติกสองข้อ ทำให้แนวรับมีปัญหาอย่างมาก และการโยนยาวก็ไม่ได้ช่วยแก้อะไร