สนใจรายละเอียดของส้าวหว่าน และม่อเยวียน สามชาติสามภพ ด่านโพธิ 三生三世菩提劫
ในป่าท้อสิบหลี่ กล่าวไว้แค่ว่า
เหล่าเทพเซียนน้อยที่มากราบพบไม่มีสิ่งใดพิเศษมากทั้งสิ้น บางคนถูกศิษย์พี่ใหญ่ศิษย์พี่รองพามาพบหน้าม่อเยวียนพูดคุยกันไม่กี่ประโยคบางคนก็แค่ดื่มน้ำชาสองคำที่ห้องโถงหน้า พักผ่อนครู่เดียวแล้วก็ไป มีเพียงชายหนุ่มที่มายามเที่ยงวันที่สามนั่นเท่านั้นที่ไม่เหมือนปกติอยู่บ้าง
ชายหนุ่มผู้นี้สวมชุดยาวตลอดตัว หน้าตาสุภาพคมคาย สีหน้าก็อ่อนโยนเป็นมิตรยิ่ง ตอนที่ม่อเยวียนเห็นเขา สีหน้าเย็นชาตกตะลึงเล็กน้อย ชายหนุ่มชุดขาวได้เข้าพบม่อเยวียน กลับมิได้กราบไว้ทำความเคารพ เพียงเลิกคิ้วและดวงตาดอกท้อคู่ พูดว่า “ไม่ได้พบซ่างเสินเนิ่นนาน ซ่างเสินยังคงแจ่มใสดังเดิม จ้งอิ่นมาคุณหลุนซวีครั้งนี้ เพียงเพราะเมื่อคืน เจี่ยเจียได้เข้าฝันข้า ให้ข้านำวาจาประโยคหนึ่งมามอบแก่ซ่างเสิน เจี่ยเจียข้า..”เขายิ้มละไม กล่าวว่า “..นางบอกว่านางอยู่คนเดียว เหงายิ่งนัก”
ข้ากวักมือเรียกเด็กรับใช้ประจำตัวของศิษย์พี่เจ็ดซึ่งอยู่ใกล้ๆ คนหนึ่งเข้ามาหา สั่งให้เขาเข้าไปเดิมน้ำชาถ้วยหนึ่งให้จิ้งอิ่นชุดขาวนั่น
ม่อเยวียนไม่เอ่ยอะไร เพียงยันแก้มพิงที่เท้าแขนข้างตัวด้วยสีหน้าเรียบเฉย เจ๋อเหยียนเหลือบมองม่อเยวียน แล้วหัวเราะไปกล่าวกับจ้นอิ่นอย่างเป็นมิตรว่า “จงอิ่นเสี่ยวตี้ เจ้ากล่าวล้อเล่นแล้ว พี่สาวของเจ้าได้สูญสลายเป็นเถ้าธุลีมาแสนกว่าปีแล้ว จะมาเข้าฝันเจ้าได้อย่างไร?”
จ้งอิ่นโค้งหางตาอย่างเป็นมิตร เอ่ยว่า “เจ๋อเหยียนซ่างเสิน ตำหนิจ้งอิ่นผิดไปโดยแท้ จ้งอิ่นมาถ่ายทอดวาจาของเจี่ยเจียจริงๆ มิได้เจตนาอื่นแม่แต่น้อย เติมที่ข้าก็ไม่ยินดีเปลืองแรงครั้งนี้ เพียงแต่เห็นเจี่ยเจียในความฝันน่าสงสารนัก จึงออกจะเวทนา วันนี้จึงได้ขึ้นมายังคุนหลุนซวี เจ๋อเหยียนซ่างเสินกล่าวว่าเจี่ยเจียของจ้งอิ่นสูญสลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่อาจมาเข้าฝันจ้งอิ่นได้ ทว่ ม่อเยวียนซ่างเสินซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์เอง เมื่อแรกก็กล่าวกันว่าสูญสลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว บัดนี้กลับยังสามารถหวนกลับมาได้ แม้เจี่ยเจียของข้าจะสูญสลายเป็นเถ้าธุลี วิญญาณก็ไม่ทราบกระจัดกระจายไปอยู่ที่ใด เพียงมาเข้าฝันข้า จะมีใดไม่ได้หรือ? ” กล่าวจบค้อมกายคารวะ ออกจากห้องโถงใหญ่ไปเอง
ครั้นคนชื่อจ้งอิ่นนั่นออกพ้นจากห้องโถงใหญ่ เจ๋อเหยียนก็สวดออกมาว่า “สาธุ”
ม่อเยวียนลงมาจากบัลลังก์ เดินไปลานด้านหลังโดยไม่ได้เอ่ยอะไร ข้ายกเท้าจะไปตามดู กลับถูกเจ๋อเหยียนรั้งเอาไว้
ในลิขิตเหนือเขนย มีแค่ตอนที่ราชามารนิล มาท้าประลองกับเฟิ่งจิ่ว
“ราชามารนิลเนี่ยซูอิ๋นเป็นผู้ที่มีความฝัน เผ่ามารนับจากจอมมารส้าวหว่านดับสูญเป็นต้นมา ได้แตกออกจากหนึ่งเป็นเจ็ด ร่วมกันปกครองโดยราชามารทั้งเจ็ด นับจากเนี่ยซูอิ๋นสืบทอดตำแหน่งราชามารนิล ก็เฝ้าแต่คิดว่าจะรวมเผ่ามารเป็นหนึ่งเดียว มีตำแหน่งเหนือเจ็ดราชามารค่อยขึ้นเป็นจอมราชันได้อย่างไร”
มีอะไรเล็กๆให้มโนนิดๆ
สำนักพิมพ์สุรีย์พร
เอามาให้อ่านเล่น จากเวยป๋อของถังชี
.
唐七Vivien
2013-1-23 17:25 来自 微博 weibo.com
#少绾和她的吉祥物#
魔族始祖少绾同志醒来后,一直被小辈崇敬地称为帝尊,只有小燕一天到晚跟着她叫祖宗。
少绾:“打个商量,你能别叫我祖宗么?”
小燕:“那叫什么?”
少绾:“看着办。”
小燕:“大奶?大婆?大姨?大姑?”捂住胸口:“休想我违心地叫你大姐!”
少绾:“…大爷你还是叫我祖宗吧。”
.
.
แปลโดยหลินโหม่ว
.
#ส้าวหว่านกับวัตถุมงคลของนาง#
.
หลังจากที่สหายส้าวหว่าน บรรพบุรุษเผ่ามารตื่นขึ้นมา ก็ถูกชนรุ่นหลังเรียกขานอย่างยกย่องว่า "ตี้จุน" (จักรพรรดิ) มาโดยตลอด มีแต่เสี่ยวเยียนที่คอยตามนางตลอดทั้งวันที่เรียกนางว่าท่านบรรพบุรุษ
.
ส้าวหว่าน : "มาปรึกษากันหน่อยนะ เจ้าอย่าเรียกข้าว่า 'บรรพบุรุษ' ได้มั้ย?"
เสี่ยวเยียน : "งั้นให้เรียกว่าอะไร?"
ส้าวหว่าน : "ลองดูแล้วกัน"
เสี่ยวเยียน : "ท่านย่าใหญ่? ท่านยายใหญ่? ท่านย่าน้อย?" เอามือกุมอก "อย่าหวังว่าข้าจะฝืนใจตัวเองเรียกท่านว่า 'เจ๊ใหญ่' นะ!"
ส้าวหว่าน : "...ต้าเหยีย เจ้าเรียกข้าว่าท่านบรรพบุรุษเหมือนเดิมเถอะ"
อยากอ่านของคู่นี้มากค่ะ หาข้อมูลได้น้อยมาก และไม่ทราบว่าผู้เขียนจะเริ่มเขียนเมื่อไร
ส้าวหว่าน-ม่อเยวียน สามภพสามชาติ ด่านโพธิ ใครมีรายละเอียดบ้างคะ
ในป่าท้อสิบหลี่ กล่าวไว้แค่ว่า
เหล่าเทพเซียนน้อยที่มากราบพบไม่มีสิ่งใดพิเศษมากทั้งสิ้น บางคนถูกศิษย์พี่ใหญ่ศิษย์พี่รองพามาพบหน้าม่อเยวียนพูดคุยกันไม่กี่ประโยคบางคนก็แค่ดื่มน้ำชาสองคำที่ห้องโถงหน้า พักผ่อนครู่เดียวแล้วก็ไป มีเพียงชายหนุ่มที่มายามเที่ยงวันที่สามนั่นเท่านั้นที่ไม่เหมือนปกติอยู่บ้าง
ชายหนุ่มผู้นี้สวมชุดยาวตลอดตัว หน้าตาสุภาพคมคาย สีหน้าก็อ่อนโยนเป็นมิตรยิ่ง ตอนที่ม่อเยวียนเห็นเขา สีหน้าเย็นชาตกตะลึงเล็กน้อย ชายหนุ่มชุดขาวได้เข้าพบม่อเยวียน กลับมิได้กราบไว้ทำความเคารพ เพียงเลิกคิ้วและดวงตาดอกท้อคู่ พูดว่า “ไม่ได้พบซ่างเสินเนิ่นนาน ซ่างเสินยังคงแจ่มใสดังเดิม จ้งอิ่นมาคุณหลุนซวีครั้งนี้ เพียงเพราะเมื่อคืน เจี่ยเจียได้เข้าฝันข้า ให้ข้านำวาจาประโยคหนึ่งมามอบแก่ซ่างเสิน เจี่ยเจียข้า..”เขายิ้มละไม กล่าวว่า “..นางบอกว่านางอยู่คนเดียว เหงายิ่งนัก”
ข้ากวักมือเรียกเด็กรับใช้ประจำตัวของศิษย์พี่เจ็ดซึ่งอยู่ใกล้ๆ คนหนึ่งเข้ามาหา สั่งให้เขาเข้าไปเดิมน้ำชาถ้วยหนึ่งให้จิ้งอิ่นชุดขาวนั่น
ม่อเยวียนไม่เอ่ยอะไร เพียงยันแก้มพิงที่เท้าแขนข้างตัวด้วยสีหน้าเรียบเฉย เจ๋อเหยียนเหลือบมองม่อเยวียน แล้วหัวเราะไปกล่าวกับจ้นอิ่นอย่างเป็นมิตรว่า “จงอิ่นเสี่ยวตี้ เจ้ากล่าวล้อเล่นแล้ว พี่สาวของเจ้าได้สูญสลายเป็นเถ้าธุลีมาแสนกว่าปีแล้ว จะมาเข้าฝันเจ้าได้อย่างไร?”
จ้งอิ่นโค้งหางตาอย่างเป็นมิตร เอ่ยว่า “เจ๋อเหยียนซ่างเสิน ตำหนิจ้งอิ่นผิดไปโดยแท้ จ้งอิ่นมาถ่ายทอดวาจาของเจี่ยเจียจริงๆ มิได้เจตนาอื่นแม่แต่น้อย เติมที่ข้าก็ไม่ยินดีเปลืองแรงครั้งนี้ เพียงแต่เห็นเจี่ยเจียในความฝันน่าสงสารนัก จึงออกจะเวทนา วันนี้จึงได้ขึ้นมายังคุนหลุนซวี เจ๋อเหยียนซ่างเสินกล่าวว่าเจี่ยเจียของจ้งอิ่นสูญสลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่อาจมาเข้าฝันจ้งอิ่นได้ ทว่ ม่อเยวียนซ่างเสินซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์เอง เมื่อแรกก็กล่าวกันว่าสูญสลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว บัดนี้กลับยังสามารถหวนกลับมาได้ แม้เจี่ยเจียของข้าจะสูญสลายเป็นเถ้าธุลี วิญญาณก็ไม่ทราบกระจัดกระจายไปอยู่ที่ใด เพียงมาเข้าฝันข้า จะมีใดไม่ได้หรือ? ” กล่าวจบค้อมกายคารวะ ออกจากห้องโถงใหญ่ไปเอง
ครั้นคนชื่อจ้งอิ่นนั่นออกพ้นจากห้องโถงใหญ่ เจ๋อเหยียนก็สวดออกมาว่า “สาธุ”
ม่อเยวียนลงมาจากบัลลังก์ เดินไปลานด้านหลังโดยไม่ได้เอ่ยอะไร ข้ายกเท้าจะไปตามดู กลับถูกเจ๋อเหยียนรั้งเอาไว้
ในลิขิตเหนือเขนย มีแค่ตอนที่ราชามารนิล มาท้าประลองกับเฟิ่งจิ่ว
“ราชามารนิลเนี่ยซูอิ๋นเป็นผู้ที่มีความฝัน เผ่ามารนับจากจอมมารส้าวหว่านดับสูญเป็นต้นมา ได้แตกออกจากหนึ่งเป็นเจ็ด ร่วมกันปกครองโดยราชามารทั้งเจ็ด นับจากเนี่ยซูอิ๋นสืบทอดตำแหน่งราชามารนิล ก็เฝ้าแต่คิดว่าจะรวมเผ่ามารเป็นหนึ่งเดียว มีตำแหน่งเหนือเจ็ดราชามารค่อยขึ้นเป็นจอมราชันได้อย่างไร”
มีอะไรเล็กๆให้มโนนิดๆ
สำนักพิมพ์สุรีย์พร
เอามาให้อ่านเล่น จากเวยป๋อของถังชี
.
唐七Vivien
2013-1-23 17:25 来自 微博 weibo.com
#少绾和她的吉祥物#
魔族始祖少绾同志醒来后,一直被小辈崇敬地称为帝尊,只有小燕一天到晚跟着她叫祖宗。
少绾:“打个商量,你能别叫我祖宗么?”
小燕:“那叫什么?”
少绾:“看着办。”
小燕:“大奶?大婆?大姨?大姑?”捂住胸口:“休想我违心地叫你大姐!”
少绾:“…大爷你还是叫我祖宗吧。”
.
.
แปลโดยหลินโหม่ว
.
#ส้าวหว่านกับวัตถุมงคลของนาง#
.
หลังจากที่สหายส้าวหว่าน บรรพบุรุษเผ่ามารตื่นขึ้นมา ก็ถูกชนรุ่นหลังเรียกขานอย่างยกย่องว่า "ตี้จุน" (จักรพรรดิ) มาโดยตลอด มีแต่เสี่ยวเยียนที่คอยตามนางตลอดทั้งวันที่เรียกนางว่าท่านบรรพบุรุษ
.
ส้าวหว่าน : "มาปรึกษากันหน่อยนะ เจ้าอย่าเรียกข้าว่า 'บรรพบุรุษ' ได้มั้ย?"
เสี่ยวเยียน : "งั้นให้เรียกว่าอะไร?"
ส้าวหว่าน : "ลองดูแล้วกัน"
เสี่ยวเยียน : "ท่านย่าใหญ่? ท่านยายใหญ่? ท่านย่าน้อย?" เอามือกุมอก "อย่าหวังว่าข้าจะฝืนใจตัวเองเรียกท่านว่า 'เจ๊ใหญ่' นะ!"
ส้าวหว่าน : "...ต้าเหยีย เจ้าเรียกข้าว่าท่านบรรพบุรุษเหมือนเดิมเถอะ"
อยากอ่านของคู่นี้มากค่ะ หาข้อมูลได้น้อยมาก และไม่ทราบว่าผู้เขียนจะเริ่มเขียนเมื่อไร