ผมติดตามหนังไทยนอกกระแสมาระยะนึง เคยดูหนังที่เขาเรียกว่า อินดี้ มาบ้าง
หลังๆ มาสังเกตว่า หนังที่ไปดูที่ลิโด้ มันเป็นหนังที่แปลกๆ คัลท์ๆ เสียเยอะ
พูดไม่ถูก สมมติหนังอย่าง ลุงบุญมี หรือ ดาวคะนอง เข้าไปดู ถึงจะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นหนัง
ขณะที่หนังแบบ มะเก๋า รักเป็นบ้า ปาติหาญ หนังแบบนี้มันดีตรงที่ไม่มีฟอร์ม ดูไม่แอ็คอาร์ต
แต่เข้าไปดูหนังแนวนี้ทีไรแล้วชวนเหวอมากๆ คือไม่อยากว่าให้เสียกำลังใจเลย แต่บางอารมณ์มันอดรู้สึกไม่ได้ว่า พี่จะทำมันออกมาเพื่ออะไร
แต่อีกอย่างคือ ยอมใจโรงหนัง กล้ามาก ให้โอกาสคนทำหนัง แม้ว่าหนังบางเรื่องจะไม่ตลาดเลย
ข้อสังเกตอีกอย่างคือ หนังคัลท์ๆ มักจะได้รอบน้อยกว่าหนังอินดี้ทั่วไปที่ไปได้รางวัลเทศกาลมา
อาจพูดได้ว่า เป็นอินดี้ในอินดี้อีกที และส่วนใหญ่มักเป็นหนังที่ผู้กำกับหาทุนเอง ไม่ขอค่าย ไม่ขอทุนเทศกาล
ด้านนึงผมยอมใจในความกล้าบ้าบิ่นนะ แม้งานบางชิ้นจะกุมขมับเอามากๆ
ผมเลยคิดว่า หนังพวกนี้น่าสนับสนุนมาก คือควรไปดูเพื่อความทรมาน เป็นการบำเพ็ญทุกรกริยาแบบหนึ่ง
ทำไมหนังไทยที่ฉายรอบเดียว/โรงเดียวที่ลิโด้ หรือ SF ถึงมีแต่หนังแย่ๆ
หลังๆ มาสังเกตว่า หนังที่ไปดูที่ลิโด้ มันเป็นหนังที่แปลกๆ คัลท์ๆ เสียเยอะ
พูดไม่ถูก สมมติหนังอย่าง ลุงบุญมี หรือ ดาวคะนอง เข้าไปดู ถึงจะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นหนัง
ขณะที่หนังแบบ มะเก๋า รักเป็นบ้า ปาติหาญ หนังแบบนี้มันดีตรงที่ไม่มีฟอร์ม ดูไม่แอ็คอาร์ต
แต่เข้าไปดูหนังแนวนี้ทีไรแล้วชวนเหวอมากๆ คือไม่อยากว่าให้เสียกำลังใจเลย แต่บางอารมณ์มันอดรู้สึกไม่ได้ว่า พี่จะทำมันออกมาเพื่ออะไร
แต่อีกอย่างคือ ยอมใจโรงหนัง กล้ามาก ให้โอกาสคนทำหนัง แม้ว่าหนังบางเรื่องจะไม่ตลาดเลย
ข้อสังเกตอีกอย่างคือ หนังคัลท์ๆ มักจะได้รอบน้อยกว่าหนังอินดี้ทั่วไปที่ไปได้รางวัลเทศกาลมา
อาจพูดได้ว่า เป็นอินดี้ในอินดี้อีกที และส่วนใหญ่มักเป็นหนังที่ผู้กำกับหาทุนเอง ไม่ขอค่าย ไม่ขอทุนเทศกาล
ด้านนึงผมยอมใจในความกล้าบ้าบิ่นนะ แม้งานบางชิ้นจะกุมขมับเอามากๆ
ผมเลยคิดว่า หนังพวกนี้น่าสนับสนุนมาก คือควรไปดูเพื่อความทรมาน เป็นการบำเพ็ญทุกรกริยาแบบหนึ่ง