ทริป พลีชีพ หัวลำโพง-ปีนัง-KL-สิงคโปร์

สวัสดีค่ะ....วันนี้จะมารีวิวการเดินทางของพวกเราที่ผ่านมา จากชื่อทริปหลายคนฟังแล้วคงจะรู้สึกหมดแรงกันเลยทีเดียว 5555+ (ก็หมดแรงจริงๆแหละ)
แพลนของเราคือ เดินทางไปปีนัง-กัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์ โดยรถไฟกันและกลับด้วยเครื่องบินค่ะ ใช้เวลาทั้งหมด 6วัน5คืน

             "ทำไมต้องนั่งรถไฟให้เสียเวลาเที่ยว...??" ก็เพราะว่า พวกเราอยากลองค่ะ   เจ้าคิกคัก

ใครที่ชอบนั่งรถไฟ ดูวิวข้างทาง ผ่านหลายๆด่าน....มันเป็นประสบการณ์ชีวิต และหลายๆอย่างก็เป็นครั้งแรกของพวกเราด้วย
(เช่น โดนเข้าห้องเย็น ฯลฯ  ) อมยิ้ม35

มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ (รูปอาจไม่สวย รีวิวไม่ครบ ขออภัยด้วยนะคะ)
เราเริ่มออกเดินทางกันด้วยรถไฟ @ หัวลำโพง ขบวนที่ 41 ปลายทางยะลา แต่เราจะไปลงที่ชุมทางหาดใหญ่ รถไฟออก 22.50 เป๊ะ!จริงๆนะ


ก่อนรถไฟออกจะมีตำรวจมาสุ่มตรวจกระเป๋า ซึ่งเราก็โดน เพื่อนที่มาไม่โดนว่ะ 555+ มาด้วยกันหนะ และเนื่องจากเป็นขบวนสปริ้นท์เตอร์
บอกเลยว่าแอร์หนาวมากอะ พนักงานแจกผ้าห่มคนละผืนก็ยังหนาวอยู่ มีของว่างแจกประมาณเที่ยงคืน และไฟก็ดับลง....
ลืมตาอีกทีก็เช้ามีขนมมาแจก
          
           ประมาณ 11 โมงเช้า พนักงานจะเสิร์ฟอาหารไม่รู้เช้าหรือเที่ยง รอนานมากนึกว่าจะไม่ได้กินซะแล้ว ^^…

            
ในที่สุดเราก็ถึงชุมทางหาดใหญ่จ้า เวลาประมาณ 12.30 น. ตอนแรกนึกว่าจะดีเลย์แล้ว แต่มันตรงเวลาเป๊ะเลย

           
เราต้องนั่งรถไฟต่อที่ 2 ไปยัง “ปาดังเบซาร์” รถมีวันละ 2 รอบ ที่เราขึ้นเป็นรอบสุดท้าย 13.05 น.ขบวนที่ 949  จองล่วงหน้าไม่ได้นะ
ต้องไปซื้อที่โน่นเลย คนละ 70 บาท จะถึงที่โน่น 14.00 น. เกือบชั่วโมงได้ ในรถส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติ มีเลขที่นั่งนะ
แต่เค้าก็ไม่นั่งกันตามเลขหรอก

          
แปปเดียวถึง ด่าน “ปาดังเบซาร์” แล้ว เราต้องลงจากรถไฟ เขียนใบขาออกผ่านตม.ไทยแต๊ม แล้วเดินวนไปแต๊มของฝั่งมาเลฯ
เจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามอะไร เป็นอันว่าเราได้เข้าสู่ประเทศมาเลเซียเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็สแกนกระเป๋า แล้วขึ้นบันได้ชั้น 2 ไปซื้อตั๋ว
ต่อที่3 เพื่อไป “Butterworth” ราคาต้องขออภัยจำไม่ได้จริงๆ ประมาณ 100 กว่าได้ รอบเร็วสุดคือรอบ 15.20 น.

           
ได้ตั๋วแล้วอย่าพึ่งทิ้งกันนะ เพราะตอนลงรถไฟเจ้าหน้าที่จะเก็บตั๋วด้วย ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ถึงสถานีรถไฟ Butterworth

           
เราถึงประมาณ 5 โมงเย็น แล้วเดินไปตามป้ายเพื่อลงเรือข้ามฟากไป “ปีนัง” เป้าหมายแรกของเรากันค่ะ

           
         
          
                                        เดินออกจากตึก ตามป้ายไปเรื่อยๆ

         
                                                          ภายในเรือ
       
       
          
          
ค่าเรือข้ามฝากคนละ 1.2 RM ใช้เวลา 20 นาทีก็ถึงฝั่งปีนังแล้วค่ะ.....หลังจากนั้นเราก็เข้าที่พักโดยการเดิน เดินแล้วก็เดิน...
เพื่อที่จะดูบรรยากาศรอบๆเมืองไปด้วย 5555+ (มีความเหนื่อย)

        
         
          
        
         
        
       
ที่พักที่เราจองคือ Tune Hotel เราเดินไปเรื่อยๆประมาณ 40 นาที เข้าซอกซอย เดินวนไปวนมา ตาม Google Maps เจอ Street Art รูปแรก.....และรูปสุดท้ายที่ได้ถ่าย 55555+  เอาจริงๆที่พักเราอยู่ใกล้กับตึก Komtar ท่ารถมากนะคะ เดินประมาณ 10 นาทีก็ถึง แต่อันนี้เราเดินจากท่าเรือมา แล้วยังไม่รู้ทางเลยนานหน่อย

              
          
                                        ขออนุญาตเอารูปจาก Booking.com นะคะ

ถึงที่พักแล้ว มองเห็นง่าย เข้าไปข้างในกว้าง โล่ง ดูสะอาด พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสดี ข้างล่างโรงแรมมี
7-11 ด้วยนะ ^^ ….. เราจองที่พักใน Booking.com 2 ห้อง ห้องละ 2 คน (950 บาท/ห้อง) ไม่มีทีวี ตู้เย็นนะคะ
(ถ้าใครอยากได้ต้องเพิ่ม Option เข้าไปค่ะ) แอร์เย็น ห้องน้ำสะอาด ฝักบัวอาบได้สะใจดี แต่ประตูเป็นแบบล็อคไม่ได้
ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร รวมๆแล้วโอเคเลยค่ะที่นี่

             
                  
อันดับแรกเมื่อถึงห้อง อาบน้ำ ก่อนเลยค่ะ...เพราะเหมือนไม่ได้อาบมาวันกว่าๆ คันไปทั้งตัว จริงๆก็ง่วงมาก แต่เราก็ยังอยากออกไปเดินต่อจ้า
ไปหาอะไรกินที่ถนน Kimberley เป็นแหล่ง Street Food ใกล้ๆ เดินไปได้เพลินๆ

            
อาหารที่นี่ก็ไม่ได้แพงมาก จานละ 40-60 บาท พอๆกับบ้านเราค่ะ...คือกินได้ไม่กี่อย่าง เพราะจานแรกก็อิ่มเว่อร์ !! รสชาติเท่าที่
กินจะจืดๆหน่อยมันๆ แต่ก็พอกินได้ค่ะ

            
ลองมากันนะคะ....

             Cha Kuay Tiew ที่ใครว่ามาปีนังแล้วต้องมากิน....มันจะคล้ายๆผัดซีอิ๊วเส้นเล็กเลยค่ะ

LOK LOK อารมณ์เหมือนลูกชิ้นบ้านเรา มีเกี๊ยว ลูกชิ้นปลา หมู ปูอัดฯลฯ เค้าจะเอาลงหม้อ แล้วก็ตักน้ำจิ้มได้ มีหลายแบบมากเลือกเอาได้เลย
ประมาณว่าบริการตัวเอง ยืนกินหน้าร้านเลยค่ะ อร่อยดีนะคะ ชอบๆ...

             
               
กินเสร็จแล้วก็คิดราคาตามสีไม้

              
                                                              บะหมี่น้ำใส กับแห้ง อร่อยค่ะ....

                ตามด้วยขนมหวาน ถ้วยละประมาณ 50 บาท
แล้วก็เดินทางกลับที่พักกันค่ะ

                 
                  
                 
สลบกันเลยทีเดียว...วันแรกของเราก็จบลง

วันที่ 2 ตื่นขึ้นมา 7 โมงกว่าๆด้วยความงัวเงีย หันไปมองกระจกก็คิดในใจว่า กุไหวไม๊ 555+ ...หลับฟินเว่อร์ จนไม่กล้าปลุกน้องที่อยู่ข้างๆ สงสาร 555+

เรา check out ออกจากที่พักเกือบ9โมงเช้า ตอนแรกก็ปรึกษากันจะไปเที่ยวกันกระเป๋าหนักๆงี้อ่อ... ถามโรงแรมรับฝากกระเป๋า ใบละ ซึ่งก็มีหลายใบ เลยคิดว่าที่ท่ารถน่าจะมีล๊อคเกอร์ฝากกระเป๋า ก็เดินแบกไปท่ารถอย่างที่เห็น...

ตึก Komtar เป็นตึกที่สูงที่สุดในปีนัง (ดันไม่ได้ถ่าย) ...เป็นจุดศูนย์กลางของท่ารถ เหมือนกับอนุสาวรีย์บ้านเราก็ว่าได้
(รูปจาก www.penang-traveltrips.com)
จากที่พักไป Komtar ประมาณ 15นาที ภารกิจของเราคือเดินหาล๊อเกอร์ ซึ่งถามคนแถวนั้นก็บอกว่ามันไม่มี ... จะให้กลับไปฝากที่พักที่เดิมที่เราจากมา ...5555+ คงไม่กลับไปละ เลยตัดสินใจ "แบกเป้เที่ยว"  

ตัดสินใจผิด ชีวิตก็จะเหนื่อยๆหน่อย
เดินหาข้าวเช้ากิน เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องใช่ไหม ... เดินเข้าไปในตึกก็ยังไม่มีร้านไหนเปิด ก่อนจะถึงทางออก ดันไปเจอร้าน KFC ที่เรารักกกกกก....รักมาก กินได้อยู่ร้านเดียว ที่นี่ก็จะมีเมนูไม่ค่อยเยอะเหมือนบ้านเรา เค้าจะมีเมนูมื้อเช้า มื้อเที่ยง เพื่อนไปสั่งเมนูที่เป็นมื้อเที่ยงเพราะไม่รู้ไง เค้าไม่ขายจ้า ราคาก็ ถือว่าไม่แพง ก็รองท้องไป..
แล้วก็ไปรอขึ้นรถที่ใต้ตึกเพื่อไป "Penang Hill" ขึ้นสาย 204 รถเมล์ที่นี่มีป้ายบอกด้วยนะว่าสายอะไรไปไหน สายนี้อีกกี่นาทีจะถึงท่า ถ้าขึ้นต้นด้วยเลข2 ให้รอที่เลนส์ 2 รอนานมาก สายนี้กว่าจะมาคันนึงประมาณครึ่งชั่วโมง พอมาคันแรก เราก็กำลังจะเดินไปขึ้น คือไม่ได้รอที่ต้นเลนส์ เปิดให้คนลงแล้วก็ขับแว๊บหายไปกับตายิ่งกว่า Fast8 ก็ยืนอึ้งกันแปปนึง 5555+ ฝรั่งข้างๆก็งงถามว่าไป Penang Hill เหมือนกันใช่ไหม? ... เราก็เลยแบบย้ายถิ่นฐานไปหัวแถว เดี๋ยวถ้ามาอีกนี่จะโบกแถมยืนดักข้างหน้าด้วยเลย

รออีกครึ่งชม. ก็มาคนต่อแถวขึ้นเต็มเลย มีแต่คนต่างชาติ เขาคงไปที่เดียวกับเรา  ขึ้นรถเมล์ขึ้นช้างหน้าบอกปลายทางที่เราจะไป เขาจะบอกราคาแล้วหยอดตังค์ลงกล่องข้างๆ(ไม่ทอนนะต้องเตรียมให้พอดี จะรวมกันก็ได้) อ่อ...ตั๋วต้องเก็บไว้เพราะบางครั้งจะมีคนตรวจตั๋วขึ้นมาตรวจ
ประมาณครึ่งชม.ก็ถึงปีนังฮิลล์นั่งไปยาวๆ ไม่ต้องกลัวหลง มันป้ายสุดท้ายนะ
แดดร้อนมาก....
เข้าไปซื้อตั๋วกัน เราจะขึ้นลงด้วยรถรางคนละ 30RM สำหรับต่างชาติ มาหลายคนเข้าไปซื้อคนเดียวใช้พาสปอร์ตแค่คนซื้อจ้า
ต่อแถวรอรถรางนานหน่อยประมาณ30-40นาทีได้ ด้วยการแบกของหนักๆอย่างเรา ก็จะอายนิดนึง
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่