พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมต.กระทรวงทรัพยากรฯพร้อมคณะ
ลงพื้นที่อุทยานทับลาน และประชุมชาวบ้านที่ รร.บ้านราษฎร์พัฒนา ต.บ้านราษฎร์
อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 ส.ค.60
..................
มีการให้สัมปทานป่าไม้ แก่บริษัท นครราชสีมาทำไม้ จ.ก.
ในเขต อ.ครบุรี อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงปี 2514-2517
.................
3 กันยายน 2560
ตามที่ท่าน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมต.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะ
ลงพื้นที่อุทยานทับลาน ที่ โรงเรียนบ้านราษฎร์พัฒนา ต.บ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2560 เพื่อรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน ด้าน อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง
ในการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติป่าทับลาน นั้น
กระผมได้ติดตามข่าวคราวเรื่องนี้มาตลอด และพอจะทราบปัญหาเรื่องนี้ได้ดีพอสมควร
เพราะว่า กระผมเติบโตอยู่ในย่านนี้มาตั้งแต่ปี2511 เคยได้เห็นและได้ไปเดินอยู่พื้นที่ป่าไม้ ตรงจุดที่ท่านไปนั่งประชุม
(ที่ รร.บ้านราษฎร์พัฒนา) ตั้งแต่ปี 2511 ที่ยังไม่มีโรงเรียนนี้ และตำบลนี้ โน่นแหละครับ
และทุกวันนี้ผมก็ได้กลับไปเขียนประวัติต่างๆในย่านนี้ ตั้งตำบล หมู่บ้าน และ โรงเรียน ต่างๆเหล่านี้ หลายๆที่ด้วยกัน
ดังนั้น ผมจึงจะเขียนถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นและผมได้เห็นกับตาตัวเองมา เพื่อเป็นข้อมูลให้ท่านได้พิจารณา
ควบคู่กับปัญหาที่ท่านได้ลงพื้นที่ไปรับรู้มา อีกทางหนึ่ง
ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า กระผมจะยังไม่มีความเห็นใดๆในเรื่องอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่มีข่าวว่า
พื้นที่อุทยานทับลาน เตรียมจัดสรรที่ทำกิน 6.7หมื่นไร่ ให้แก่ชาวบ้าน อ.เสิงสาง และ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
หลัง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
โดยพิสูจน์สิทธิ์รายได้ ตามมติ ครม.30มิ.ย.41...ผู้ยากไร้ตามคำสั่ง 66/2557
และตามมาตรา52 (ร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับใหม่)
แต่ผมจะพูดถึงปัญหาที่ดินที่ทำกินที่ชาวบ้านหนักอก และได้ประสบมาตั้งแต่ปี2524 ที่กรมป่าไม้ ออก พ.ร.บ.อุทยานทับลาน
..ปี2517 กรมป่าไม้ มีการเสนอปลัดกระทรวงเกษตร เพื่อขอปฎิรูปที่ดินในบริเวณป่าเสื่อมโทรม
(ทับที่ชาวบ้านที่ทำกินก่อนนั้นมา และหลังให้มีการสัมปทานป่าไม้ในย่านนี้
...ปี2514-2516 มีการให้สัมปทานป่าไม้ แก่ บริษัท นครราชสีมาทำไม้ จำกัด ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี
และครอบคลุมในย่านนี้ คือ ต.สระตะเคียน ซึ่งตอนนั้นขึ้นกับ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
และมีชาวบ้านอยู่กันหนาแน่นเต็มพื้นที่ และมีที่ดินทำกินกันอยู่ก่อนแล้ว
(พอสัมปทานเสร็จ ก็มาประกาศเป็นป่าเสื่อมโทรม และขอปฎิรูปที่ดิน แล้วยังประกาศเป็นอุทยาน...ทับที่ชาวบ้านอีกต่างหาก)
ดังนั้น ผมจึงจะยกปัญหาเพื่อให้ท่านได้รับรู้และหาทางช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน ดังต่อไปนี้
1.ชาวบ้านในย่านนี้ เขาอยู่กันมาตั้งนานแล้ว เช่น ตำบลสระตะเคียน อยู่กันมาตั้งแต่200ปี แล้ว
ตั้งแต่ขึ้นกับ อ.ปักธงชัย ร่วมกับ ต.กระโทก(ปัจจุบันคือ อ.โชคชัย) ต.แชะ(ปัจจุบันคือ อ.ครบุรี)
ตำบลโนนสมบูรณ์ อยู่กันมาตั้งแต่ปี 2506
ตำบลบ้านราษฎร์ อยู่กันมาตั้งแต่ปี 2513
(ดังนั้น ทั้งการปฎิรูปที่ดิน และประกาศเขตอุทยานทับลาน จึงเกิดขึ้นทีหลังชาวบ้านที่อยู่อาศัยมาก่อน)
2.กรมป่าไม้ ออก พ.ร.บ.อุทยานทับลาน เมื่อปลายปี 2524 เนื้อที่หลายล้านไร่ โดยไม่มีหลักเขต
มีแต่แผนที่ทางภูมิศาสตร์ ด้วยอัตรส่วน 1:500000
(ด้วยอัตราส่วนที่ไม่ละเอียดมากนักและไม่มีเขตแดนที่แน่นอน ก็เลยไปทับที่ชาวบ้านเขาไปทั่ว
เลยสร้างปัญหาให้ชาวบ้านที่มีที่ดินอยู่ก่อนแล้ว มีปัญหายืดเยื้อกับกรมอุทยานมาจนทุกวันนี้)
3.มีการให้สัมปทานป่าไม้ แก่ บริษัท นคราชสีมาทำไม้จำกัด ตั้งแต่ช่วงปี 2514-2517 ในเขตป่า ต.สระตะเคียน อ.ครบุรี จ.นคคราชสีมา
โดยผมเห็นรถไถ รถแทรกเตอร์ ไถป่า ตัดต้นไม้ใหญ่และทำถนนไปยังป่าแปลงต่างๆเพื่อนำไม้ซุงออกจากป่า
กินบริเวณกว้าง เช่น ป่าลำไซกงเหนือ ลำไซกงใต้ ลำมะไฟ ลำเพียก ด่านหินกองฯลฯ
โดยรถขนไม้ซุงส่วนมากมาจาก อ.ขาณุฯ อ.พรานกระต่าย อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
และได้นำไม้ซุงมารวมกันไว้ ที่พื้นที่บริเวณจุดกึ่งกลางระหว่างบ้านราษฎร์พัฒนา และบ้านโคกสูง
...จนเรียกว่า ปางไม้ และกลายมาเป็น บ้านปางไม้ ต.บ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง ในปัจจุบันนี้
(สรุปว่า มีการสัมปทานป่าไม้ ก่อน แล้วประกาศเป็นป่าเสื่อมโทรมเพื่อปฎิรูปที่ดิน ทีหลัง
แล้วก็ประกาศเป็นอุทยานทับลาน เมื่อปี 2524 ทับที่ชาวบ้านที่อยู่มาก่อนเป็นบริเวณกว้าง)
4.ตอนแรกที่จัดสรรที่ดิน สปก.(โดยหน่วยจัดสรรที่ดินที่2 มีคุณ สมพร เป็นหัวหน้า..
.และมีการจัดตั้งกรมทหารพรานที่26 ขึ้นที่บ้านโคกน้อยโนนสมบูรณ์ เพื่อสนับสนุนการจัดสรรที่ดินและเพื่อความมั่นคง)
ตอนนั้นผมก็ได้ใกล้ชิดทั้งหน่วยจัดสรรที่ดินและกรมทหารพรานที่26 จึงมีโอกาสได้เห็นแผนที่และวิธีการจัดสรรที่ดินเป็นแปลงๆ
โดยชาวบ้านได้ที่ทำกินครอบครัวละ 14ไร่2งาน ..เป็นที่อยู่อาศัย2งาน
(บางคนก็ไม่ถึง2งาน แต่มีการถัวเฉลี่ย พื้นที่ที่เป็นถนนในหมู่บ้าน พื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการและอื่นๆ
โดยครอบครัวที่มีสิทธิ์ได้ที่ทำกิน ต้องมาอยู่ก่อนปี 2523 (ก่อนที่จะประกาศเป็นอุทยานทับลาน)
(ดังนั้น บางครอบครัวเคยมีที่ทำกินเป็นของตัวเอง หลายสิบไร่ แต่ต้องจำใจ ได้เพียง1แปลง คือเหลือเพียง 14ไร่2งาน
และบางครอบครัวก็เพิ่งมาซื้อที่ดินคนอื่นในต้นปี 2524 แต่หมดสิทธิ์ทันทีหลังมีการปฎิรูปที่ดิน ก็หมดโอกาสสูญที่ดินไปฟรีๆ
ต้องย้ายถิ่นฐานทำกินไปที่อื่นๆ ก็มากมาย)
5.ตอนแรกก็ให้เอกสารสิทธิ์ที่ดินเป็น สปก4-01 ...แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น ภบท.5 และมีการให้เสียภาษี
(ในจุดนี้กระผมอยากจะบอก ว่า...ให้ชาวบ้านเขาเสียภาษีที่ดิน แต่ว่า ไม่สามารถนำเอกสารที่ดินเข้าถึง ธนาคารของรัฐ
หรือธนาคารพาณิชย์ ในเรื่องการกู้ยืมเงิน ทำให้ชาวบ้านต้องไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยแพงๆ เพื่อมาทำกินในเรื่องการเกษตร
พอผลผลิตออกมา ก็เสียแต่ค่าดอกเบี้ยให้นายทุนจนแทบจะไม่เหลือทุนในปีต่อไป...ก็จะประสบปัญหา ความจนเรื้อรัง อยู่อย่างนี้ตลอดไป
แล้วจะทำอย่างไรบ้าง ถึงจะแก้ไขให้เอกสารสิทธิ์เหล่านี้ เข้าถึงแหล่งเงินทุนธนาคารของรัฐ..
.เพื่อชาวบ้านที่ด้อยโอกาส จะได้มีโอกาส แปลงสินทรัพย์เป็นทุน ได้ลืมตาอ้าปากบ้าง)
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาและได้ช่วยแก้ไข
จอมยุทธ์คนน่ารัก จากทับลาน
(((((ด้านหาดชมตะวัน แก่งวังเสถียร)))))
จดหมายเปิดผนึกถึงฯพณฯท่าน รมต.กระทรวงทรัพยากรฯเรื่องปัญหาที่ดินทำกินในเขตอุทยานทับลานด้าน อ.ครบุรี อ.เสิงสาง จ.โคราช
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมต.กระทรวงทรัพยากรฯพร้อมคณะ
ลงพื้นที่อุทยานทับลาน และประชุมชาวบ้านที่ รร.บ้านราษฎร์พัฒนา ต.บ้านราษฎร์
อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 ส.ค.60
..................
มีการให้สัมปทานป่าไม้ แก่บริษัท นครราชสีมาทำไม้ จ.ก.
ในเขต อ.ครบุรี อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงปี 2514-2517
.................
3 กันยายน 2560
ตามที่ท่าน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมต.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะ
ลงพื้นที่อุทยานทับลาน ที่ โรงเรียนบ้านราษฎร์พัฒนา ต.บ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2560 เพื่อรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน ด้าน อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง
ในการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติป่าทับลาน นั้น
กระผมได้ติดตามข่าวคราวเรื่องนี้มาตลอด และพอจะทราบปัญหาเรื่องนี้ได้ดีพอสมควร
เพราะว่า กระผมเติบโตอยู่ในย่านนี้มาตั้งแต่ปี2511 เคยได้เห็นและได้ไปเดินอยู่พื้นที่ป่าไม้ ตรงจุดที่ท่านไปนั่งประชุม
(ที่ รร.บ้านราษฎร์พัฒนา) ตั้งแต่ปี 2511 ที่ยังไม่มีโรงเรียนนี้ และตำบลนี้ โน่นแหละครับ
และทุกวันนี้ผมก็ได้กลับไปเขียนประวัติต่างๆในย่านนี้ ตั้งตำบล หมู่บ้าน และ โรงเรียน ต่างๆเหล่านี้ หลายๆที่ด้วยกัน
ดังนั้น ผมจึงจะเขียนถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นและผมได้เห็นกับตาตัวเองมา เพื่อเป็นข้อมูลให้ท่านได้พิจารณา
ควบคู่กับปัญหาที่ท่านได้ลงพื้นที่ไปรับรู้มา อีกทางหนึ่ง
ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า กระผมจะยังไม่มีความเห็นใดๆในเรื่องอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่มีข่าวว่า
พื้นที่อุทยานทับลาน เตรียมจัดสรรที่ทำกิน 6.7หมื่นไร่ ให้แก่ชาวบ้าน อ.เสิงสาง และ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
หลัง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
โดยพิสูจน์สิทธิ์รายได้ ตามมติ ครม.30มิ.ย.41...ผู้ยากไร้ตามคำสั่ง 66/2557
และตามมาตรา52 (ร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับใหม่)
แต่ผมจะพูดถึงปัญหาที่ดินที่ทำกินที่ชาวบ้านหนักอก และได้ประสบมาตั้งแต่ปี2524 ที่กรมป่าไม้ ออก พ.ร.บ.อุทยานทับลาน
..ปี2517 กรมป่าไม้ มีการเสนอปลัดกระทรวงเกษตร เพื่อขอปฎิรูปที่ดินในบริเวณป่าเสื่อมโทรม
(ทับที่ชาวบ้านที่ทำกินก่อนนั้นมา และหลังให้มีการสัมปทานป่าไม้ในย่านนี้
...ปี2514-2516 มีการให้สัมปทานป่าไม้ แก่ บริษัท นครราชสีมาทำไม้ จำกัด ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี
และครอบคลุมในย่านนี้ คือ ต.สระตะเคียน ซึ่งตอนนั้นขึ้นกับ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
และมีชาวบ้านอยู่กันหนาแน่นเต็มพื้นที่ และมีที่ดินทำกินกันอยู่ก่อนแล้ว
(พอสัมปทานเสร็จ ก็มาประกาศเป็นป่าเสื่อมโทรม และขอปฎิรูปที่ดิน แล้วยังประกาศเป็นอุทยาน...ทับที่ชาวบ้านอีกต่างหาก)
ดังนั้น ผมจึงจะยกปัญหาเพื่อให้ท่านได้รับรู้และหาทางช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน ดังต่อไปนี้
1.ชาวบ้านในย่านนี้ เขาอยู่กันมาตั้งนานแล้ว เช่น ตำบลสระตะเคียน อยู่กันมาตั้งแต่200ปี แล้ว
ตั้งแต่ขึ้นกับ อ.ปักธงชัย ร่วมกับ ต.กระโทก(ปัจจุบันคือ อ.โชคชัย) ต.แชะ(ปัจจุบันคือ อ.ครบุรี)
ตำบลโนนสมบูรณ์ อยู่กันมาตั้งแต่ปี 2506
ตำบลบ้านราษฎร์ อยู่กันมาตั้งแต่ปี 2513
(ดังนั้น ทั้งการปฎิรูปที่ดิน และประกาศเขตอุทยานทับลาน จึงเกิดขึ้นทีหลังชาวบ้านที่อยู่อาศัยมาก่อน)
2.กรมป่าไม้ ออก พ.ร.บ.อุทยานทับลาน เมื่อปลายปี 2524 เนื้อที่หลายล้านไร่ โดยไม่มีหลักเขต
มีแต่แผนที่ทางภูมิศาสตร์ ด้วยอัตรส่วน 1:500000
(ด้วยอัตราส่วนที่ไม่ละเอียดมากนักและไม่มีเขตแดนที่แน่นอน ก็เลยไปทับที่ชาวบ้านเขาไปทั่ว
เลยสร้างปัญหาให้ชาวบ้านที่มีที่ดินอยู่ก่อนแล้ว มีปัญหายืดเยื้อกับกรมอุทยานมาจนทุกวันนี้)
3.มีการให้สัมปทานป่าไม้ แก่ บริษัท นคราชสีมาทำไม้จำกัด ตั้งแต่ช่วงปี 2514-2517 ในเขตป่า ต.สระตะเคียน อ.ครบุรี จ.นคคราชสีมา
โดยผมเห็นรถไถ รถแทรกเตอร์ ไถป่า ตัดต้นไม้ใหญ่และทำถนนไปยังป่าแปลงต่างๆเพื่อนำไม้ซุงออกจากป่า
กินบริเวณกว้าง เช่น ป่าลำไซกงเหนือ ลำไซกงใต้ ลำมะไฟ ลำเพียก ด่านหินกองฯลฯ
โดยรถขนไม้ซุงส่วนมากมาจาก อ.ขาณุฯ อ.พรานกระต่าย อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
และได้นำไม้ซุงมารวมกันไว้ ที่พื้นที่บริเวณจุดกึ่งกลางระหว่างบ้านราษฎร์พัฒนา และบ้านโคกสูง
...จนเรียกว่า ปางไม้ และกลายมาเป็น บ้านปางไม้ ต.บ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง ในปัจจุบันนี้
(สรุปว่า มีการสัมปทานป่าไม้ ก่อน แล้วประกาศเป็นป่าเสื่อมโทรมเพื่อปฎิรูปที่ดิน ทีหลัง
แล้วก็ประกาศเป็นอุทยานทับลาน เมื่อปี 2524 ทับที่ชาวบ้านที่อยู่มาก่อนเป็นบริเวณกว้าง)
4.ตอนแรกที่จัดสรรที่ดิน สปก.(โดยหน่วยจัดสรรที่ดินที่2 มีคุณ สมพร เป็นหัวหน้า..
.และมีการจัดตั้งกรมทหารพรานที่26 ขึ้นที่บ้านโคกน้อยโนนสมบูรณ์ เพื่อสนับสนุนการจัดสรรที่ดินและเพื่อความมั่นคง)
ตอนนั้นผมก็ได้ใกล้ชิดทั้งหน่วยจัดสรรที่ดินและกรมทหารพรานที่26 จึงมีโอกาสได้เห็นแผนที่และวิธีการจัดสรรที่ดินเป็นแปลงๆ
โดยชาวบ้านได้ที่ทำกินครอบครัวละ 14ไร่2งาน ..เป็นที่อยู่อาศัย2งาน
(บางคนก็ไม่ถึง2งาน แต่มีการถัวเฉลี่ย พื้นที่ที่เป็นถนนในหมู่บ้าน พื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการและอื่นๆ
โดยครอบครัวที่มีสิทธิ์ได้ที่ทำกิน ต้องมาอยู่ก่อนปี 2523 (ก่อนที่จะประกาศเป็นอุทยานทับลาน)
(ดังนั้น บางครอบครัวเคยมีที่ทำกินเป็นของตัวเอง หลายสิบไร่ แต่ต้องจำใจ ได้เพียง1แปลง คือเหลือเพียง 14ไร่2งาน
และบางครอบครัวก็เพิ่งมาซื้อที่ดินคนอื่นในต้นปี 2524 แต่หมดสิทธิ์ทันทีหลังมีการปฎิรูปที่ดิน ก็หมดโอกาสสูญที่ดินไปฟรีๆ
ต้องย้ายถิ่นฐานทำกินไปที่อื่นๆ ก็มากมาย)
5.ตอนแรกก็ให้เอกสารสิทธิ์ที่ดินเป็น สปก4-01 ...แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น ภบท.5 และมีการให้เสียภาษี
(ในจุดนี้กระผมอยากจะบอก ว่า...ให้ชาวบ้านเขาเสียภาษีที่ดิน แต่ว่า ไม่สามารถนำเอกสารที่ดินเข้าถึง ธนาคารของรัฐ
หรือธนาคารพาณิชย์ ในเรื่องการกู้ยืมเงิน ทำให้ชาวบ้านต้องไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยแพงๆ เพื่อมาทำกินในเรื่องการเกษตร
พอผลผลิตออกมา ก็เสียแต่ค่าดอกเบี้ยให้นายทุนจนแทบจะไม่เหลือทุนในปีต่อไป...ก็จะประสบปัญหา ความจนเรื้อรัง อยู่อย่างนี้ตลอดไป
แล้วจะทำอย่างไรบ้าง ถึงจะแก้ไขให้เอกสารสิทธิ์เหล่านี้ เข้าถึงแหล่งเงินทุนธนาคารของรัฐ..
.เพื่อชาวบ้านที่ด้อยโอกาส จะได้มีโอกาส แปลงสินทรัพย์เป็นทุน ได้ลืมตาอ้าปากบ้าง)
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาและได้ช่วยแก้ไข
จอมยุทธ์คนน่ารัก จากทับลาน
(((((ด้านหาดชมตะวัน แก่งวังเสถียร)))))