ชี้แจ้งก่อนนะครับ ขออนุญาตไม่เปิดเผยตัวตนจริงนะครับ
เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้างรวมไปถึงหน้าที่การงาน
ขออนุญาตเล่าเรื่องและปัญหาของผมก่อนนะครับ ท่านไหนมีแนวทางแนะนำ
เริ่มต้นนะครับ ผมก็เป็นผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งละครับคบกับผู้หญิงคนหนึ่งมาตั้งแต่สมัย ม.3 เรียนต่อมหาลัยก็มาเรียนด้วยกัน คนละสาขาเธอเรียนบัญชีผมเรียนวิศวะ เธอจบก่อนแค่ 3 ปีครึ่ง พอเรียนก็ทำงานแล้วก็ท้องกับรุ่นพี่ที่ทำงานแล้วเขาก็แต่งงานกันไปละครับ ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังเรียนไม่จบ ผมมาพยายามเรียนให้จบเกือบ 5 ปี แทบทิ้งเวลาเปล่าๆไป 1 ปีตอนนั้นก็เสียใจ และเจ็บใจมาก หลังๆมาก็ทำใจได้เข้าใจอยู่ว่าผู้หญิงเขาก็คงเลือกผู้ชายที่มีอนาคต มีหน้าที่การงานที่ดี ส่วนผมตอนนั้นก็ยังเรียนไม่จบ วนไปวนมาแถวๆมหาลัย เหอ ๆ ช่างมันเถาะ แล้วจากนั้นผมก็ไม่คิดอะไรมากเรื่องความรัก ไม่คิดอยากเริ่มต้นใหม่กับใครไม่รู้จะเริ่มคบไงด้วย เพราะผมก็เคยมีแฟนแค่คนเดียว ตอนนั้นที่มีเพราะมาจากการเป็นเพื่อนกันแล้วค่อย ๆ พัฒนามา
พอเรียนจบมาผมก็ได้ทำการบริษัทแห่งหนึ่งเป็นวิศวกรควบคุมการผลิต หน้าที่การงานผมก็มั่นคงขึ้นเรื่อย ๆ ค่อย ๆ เลื่อนตำแหน่งไปตามการเวลา ในใจนั้นก็ไม่ได้คิดเรื่องจะคบกับใครคิดแต่ว่าอีกหน่อยค่อยให้แม่หาให้ละกันอยากให้แต่งงานกับใครก็อยู่กับคนนั้นละ
เมื่อปีที่แล้วทาง office รับสาว ๆ มาใหม่ 3 คน เด็ดๆทั้งนั้น ตามภาษาหนุ่ม ๆ นะครับ ก็ต้องแซว ๆ ส่อง ๆ เป็นธรรมดา 555+ และคนที่สวยที่สุดก็แฟนผมนี้ละครับ ไม่มีใครมองออกเลยว่าเป็นสาว2 แต่ผมมองออกว่าเป็นนะ พี่ๆน้องๆผมยังเถียงกับผมอยู่เลย สุดท้ายผมก็ได้กินชาเขียวฟรีไป 555 แรก ๆ มาก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็ส่อง ๆ กัน ผมก็ตามภาษาหนุ่มโสดในกลุ่มพ่อบ้านกันหมดละ พี่ๆน้องๆเขามีเมียมีลูกกันหมดละ เขาก็แซวๆผมว่าจีบไปซักคนสิ ผมก็ฟรอมเดิมนั้นละส่องๆ มากสุดก็แซวบ้างแต่ก็ไม่คิดจะเอาจริงกับใคร ไม่รู้สิคือผมรู้สึกเหนื่อยแล้วไม่รู้จะเริ่มใหม่กับใครดีไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงด้วยไม่เคยเปลี่ยนแฟน
ตอนนั้นผมอายุ 26 แล้ว และผมขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกฝ่ายดูแลสินค้าด่านสุดท้ายก่อนส่งออกให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ขอเรียกแฟนว่าน้อง N นะครับ แล้วน้อง N เนี้ยทำงานอยู่ฝ่ายประสานงานกับลูกค้าต่างประเทศ คือต้องทำงานร่วมกับแผนกผม แล้วที่นี้น้องเขาส่งข้อมูลพื้นที่ให้ผมผิดตอนนั้นน้องเขาทำงานยังไม่ถึงเดือน แต่ก็เป็นความผิดของผมด้วยไม่ตรวจเช็คให้ดีเพราะเคยชินกับข้อมูลเดิมที่คนเก่าส่งให้ ผมได้ข้อมูลมาผมก็จับออกแบบส่งอย่างเดียวเลยจนติดเป็นนิสัยเสีย พอถึงวันมารับของที่จะส่งกลับใส่Conteinerไม่หมดแล้วจองพื้นที่บนเรือไว้หมดแล้ว งานเข้าละนี้แต่ละฝ่ายก็กลัวจะได้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย (หัวหน้าผมกับหัวหน้าน้อง N ไม่ค่อยถูกกันเท่าไร) เถียงกันโยนความผิดให้กันไปกันมา ผมก็ตัดสินใจยอมรับผิดเองและจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่สุดท้ายผมกับลูกน้องผมก็ช่วยกันแก้ปัญหายัดส่งไปจนหมดได้ (ลูกน้องผมเก่งๆนะประสบการณ์เป็น10ปีถึงตำแหน่งหน้าที่วุฒิการศึกษาผมสูงกว่าแต่ผมอยู่แบบเคารพให้เกรียติซึ่งกันและกันเพราะลุงๆน้าๆเขาเหมือนครูที่สอนงานผม) พอแก้ปัญหาได้ที่ชุมนุมสงครามก็แยกย้ายสลายตัวกันไป ผมเห็นน้อง N สีหน้าไม่ค่อยดีผมเลยหยอก ๆ แซว ๆไปว่า เลี้ยงขนมพี่เลยเน้อ แล้วน้องเขาก็ซื้อขนมมาให้ผมจริง ๆ ด้วย และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้ใกล้ชิดกัน
หลังจากนั้นผมก็ระมัดระวังมากตรวจแล้วตรวจอีกแล้วโทรคุยประสานงานมากขึ้น บางทีขึ้นไปหาเลย (แรกๆเรื่องงานล้วนๆ) น้องเขาคงกล้าๆกลัวๆผมอะนะ ผมเป็นคนสูง แล้วอกหักมาปล่อยตัว กินหมูกระทะกับแก้งชายโสดเกือบทุกศุกร์เลย เลยสูงอ้วนตัวใหญ่ผิวคล้ำๆน้ำตาลอีก คงจะน่ากลัว 555 หัวหน้าน้องเขาก็บอกผมดูน้องเขาด้วยละกัน (คือผมนะเข้าได้กับทุกฝ่ายหัวหน้าผมไม่ถูกกันอะนะ) ผมเป็นคนเฮฮาก็ปล่อยมุกให้ขำๆรีแล็กกันไป แล้วผมก็พบอะไรบางอย่างคือน้องเก่งทั้งอังกฤษทั้งจีนเลยแบบว่าทั้งพูดทั้งเขียน ซึ่งตัวผมเองนั้นต้องยอมรับผมด้านภาษานั้นผมอ่อนมากๆเลย ปกติตอบ Email ต้องอาศัยพี่ Google ตลอด ถูๆไถ่ๆกันไป เจอกับฝรั่งคุยทับศัพท์ไปเรื่อย มือไม้มาเต็มอาศัยความใจกล้าเอา ดีที่ยังพอจะสื่อสารรู้เรื่อง และนี้ละโอกาสผม ผมเลยขอน้องเขาช่วย 555 (คิดในใจแบบว่าสบายเราละ) เริ่มจะสนิทกันหน่อยๆ พอขอให้น้องเขาช่วยแปลอะไรอันที่เยอะๆหน่อย ชักโดนย้อนกลับ ซื้อขนมเลี้ยง ซื้อของไปเส้นสารพัด 55 จนโดนแซวว่ากิ๊กกันอยู่เสมอ ผมโดนพี่ๆน้องๆแซวว่าขุดทองประจำช่วงนั้นแต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากเรื่องงาน (คิดแล้วก็นะผมนิตั้งใจหลอกใช้ล้วนๆ)
แล้วความสัมพันค่อย ๆ เริ่มพัฒนา ผมก็ขอให้น้องเขาช่วยแปลภาษาให้ตลอด ๆ แต่หลัง ๆ เริ่มมีการเรียกร้องของเส้นมากขึ้น ไปนั่งร้านกาแฟด้วยกันวันหยุด ไปดูหนังด้วยกัน ไปส่งช้อปปิ้งซื้อของ ไปรับไปส่ง จนเหมือนแฟนกันไปเมื่อไรก็ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีผมก็รู้สึกได้ว่าผมได้รักน้องเขาไปแล้วจริง ๆ ถึงหน้าตาน้องทั้งสวยทั้งน่ารัก(เคยไปเที่ยวด้วยกันแล้วได้ยินคนนินทาประมาณว่าไอ้อ้วนเชี้ยนี้ได้แฟนสวยวะสงสัยเสี่ยแน่ เราก็แบบอืมมมมมนะ55) ประเด็นนิสัยเข้ากันได้คุยกันได้เรื่อยๆ (เคมีเข้ากันมั่ง) ที่สำคัญเราชอบแนวคิดน้องเขาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ และไม่มางอแงงอะไรกับเราด้วย อยู่แล้วรู้สึกสบายใจไม่ต้องเฟกหรือเก็กหล่อหลอกคนอื่นให้ตัวเองดูดี เป็นตัวของตัวเอง ไม่สบายก็ดูแลกันและกัน มีปัญหาอะไรก็มาพูดคุยปรึกษาให้กำลังใจกัน ทำอาหารก็อร่อย ขี้งอนก็มีบ้างแต่ง้อหน่อยก็ดีละ แล้วน่าทะนุถนอมมากด้วย คือที่สุดแล้วเราต้องการใครสักคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจมีความสุขก็แค่นั้นจริง ๆ ละ ผมก็เริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น ไปออกกำลังกาย เริ่มหาครีมบำรุงมาใช้ เริ่มหาซื้อเสื้อผ้าที่มันดูดีหน่อย น้ำหนักค่อย ๆ ลดมาประมาณ 10 กว่ากิโล ผมเริ่ม HOT เริ่มมีสาว ๆ เข้ามาพอสมควร ที่จริงผมก็หน้าตาค่อนข้างดีอยู่แล้ว(หลงตัวเอง) เพียงแต่ปล่อยเนื้อไปตัวไป ตอนนี้ผมเริ่มมีตัวเลือกเยอะ ผมก็หยอกๆ ตอบแชทสาวไปทั่วเลย แล้วค่อย ๆ ออกห่างน้องเขาไป หลังๆมานี้ผมเริ่มจะกล้าๆหน่อยละ ผมก็ชวนผญ.คนหนึ่งไปนั่งร้านกาแฟด้วยกัน แล้วบังเอิญไปเจอกับรุ่นพี่ที่ทำงานก็มานั่งกินที่นั้นด้วย และเป็นคนเพื่อนกลุ่มแก้งเดียวกันกับน้อง N ที่แรกผมก็ไม่สนอะไรก็เห็นอยู่ว่าโดนแอบถ่ายรูปแน่ ๆ เราก็คิดอยู่คงส่งไปฟ้อง N แน่ ๆ ซักพักมีข้อความแชทมาทันทีน้อง N ก็ถามว่าเราอยู่ไหน เราก็นิสัยไม่ดีมากเลยละ เราก็บอกว่าร้านกาแฟมานั่งทำงานอย่ากวน น้องเขาตอบมาว่า ขอโทษที่กวนนะตั้งใจทำงานจ้า แล้วก็เงียบไป จิตใจเราเริ่มอยู่ไม่สุขละ สักพักเราบอกผญ.ที่ไปกับเรามีธุระด่วนต้องรีบกลับเราจึงพาน้องเขาไปส่งบ้าน แล้วรีบขับไปหาน้อง N เลย พอไปถึงหอน้องเขาเคาะเรียกยังไงก็ไม่เปิด เราก็นึกว่าไม่อยู่ไปถามเจ้าของหอก็บอกว่าไม่เห็นออกไปไหนนะ รถก็อยู่ ใจเรานิเป็นห่วงมากๆกลัวจะเป็นอะไรไป เราเลยไปเรียกอยู่หน้าห้องก็เงียบลองเอาหูแนบประตูฟังก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร เราเลยบอกว่าจะนั่งรอหน้าห้องนี้นะเรานั่งรอได้ประมาณชม.กว่าๆได้ น้อง N จึงเปิดประตูออกมา ครั้งแรกที่เห็นเธอส่งยิ้มให้ผมแล้วไม่พูดอะไรยิ้มอย่างเดียว แต่สภาพหน้าตาแบบว่าดูก็รู้ว่าร้องไห้มาหนักมาก ผมใจหายไปเลย คิดในใจนี้ทำอะไรลงไปเนี้ยโง่จริง ๆ ผมก็กอดน้องเขาไว้แล้วขอโทษต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว แต่คำตอบที่ได้มาคือไม่เป็นไรค่ะ อยู่ ๆ น้ำตาผมก็ไหลมาเฉย ๆ เลย ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่มากจริงๆ ต่อไปผมจะไม่มีวันทำอย่างนี้อีกแน่นอน
จากนั้นมาผมก็ไม่เคยมองใครอีกเลย แม้แต่แชทสาว ถ้าเรื่องงานผมก็เอามือถือไปให้ดู ไปไหนมาไหนก็บอกตลอดแม้เรื่องเล็กๆน้อยๆ จนน้องเขาบอกว่าไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ (คงรำคาญ) แต่หลัง ๆ มานี้กลับเป็นผมที่ไปไล่เช็คมือถือน้องเขา คนกดหัวใจมาหน่อยก็ถามไปเรื่อยละว่าเป็นใคร ถ่ายรูปโชวนมลงก็ไม่ได้ (สงสัยโรคจิตไปซะละหึงโหด) ยอด like กับคนติดตามนางหายคง เหมือนนอย ๆ เราหน่อย 55
เรื่อง sex มันเป็นเรื่องธรรมชาติหรือเปล่า ผู้ชายถ้าไม่หื่นก็คงไม่ใช้ ยิ่งมีแฟนสวยนมใหญ่น่ารักXXขาวเนียนอมชมพูนุ่มๆหอมๆใกล้ๆซะขนาดนี้ ผมต้องอยากจับมาปู้ยี้ปู้ยำจัดหนักอยู่ละ ที่แรกเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะเหลือน้องชายอยู่ไหม ผมก็ไปแอบศึกษา ว่าเขาจะทำยังไงเพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันไง ลองแอบถามเชิงๆอ้อมๆกับคู่เกย์ที่บริษัทดู แต่พี่แก่จับได้เลยบอกให้หมดเลย ถ้าตัดแล้วต้องยังไงถ้ายังไม่ตัดต้องยังไง (คิดแล้วตลกตัวเอง) สุดท้ายก็ได้ KY กับ durex fetherlite มาตามคำแนะนำ วางแผนปฏิบัติการวันหยุดพอถึงวันศุกร์ผมก็ชวนน้องเขามากินข้าวที่คอนโดผม ปกตินางก็มานั่งๆนอนๆเล่นดูเราเล่นเกมส์บ้างทำงานบ้างทำอาหารบ้าง เราก็ไม่รู้จะเริ่มไงเลยชวนไปดูหนังในห้องนอนนางแอบตกใจเพราะปกติไม่เคยเข้าไป ไปถึงเรารุกเลย น้องก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ในที่สุดสิ่งที่เราอยากรู้มานาน..น้องเขาทำมาหมดละเป็นแม่สาวน้อยหมดทั้งตัวละ สุดท้ายก็ไม่ได้มีอะไรกันเพราะ เธอน้ำตาคอแล้วออกสั่นๆหน่อยคงกลัว เราเห็นแล้วก็น่าเอ็นดูทำไม่ลงเราก็ตัวใหญ่ด้วยน้องตัวเล็กนิดเดียว ไว้รอพร้อมก่อนก็แล้วกันค่อยเป็นค่อยไป เลยนอนกอด คุยกันไป น้องเขาก็ได้แค่ขอโทษเราอย่างเดียว เราก็บอกว่าไม่เป็นไร น้องเขาเลยเล่าให้ฟังไม่เคยคบกับใครมาก่อนเลยอย่างมากสุดแค่แชทคุย พอเจอจริง ๆ มาเลยกลัว สุดท้ายทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้มีอะไรกันเลย 55 พักหลังๆนางชอบมาขอนอนกอดเฉย ๆ บอกว่าเรานุ่มดี งั้นก็ตามใจ(แต่เราต้องอดทนทรมาณน้องชายจริง ๆ) เราก็แซวตลอดพร้อมเมื่อไรก็บอกพร้อมทำการบ้านเสมอ 55 ปัจจุบันก็เลยย้ายมาอยู่ด้วยกัน คงได้ทำการบ้านซักวัน เฮ้ยไม่ใช้ ประหยัดค่าใช้จ่ายอะไรด้วยจะได้มีเงินเก็บเยอะๆ เพราะผมก็ผ่อนทั้งคอนโดทั้งรถเงินที่เหลือก็ไม่ค่อยมีเก็บ น้องN เลยบอกประหยัดเช่าหอจะมาเปย์เราแทน 55
เราสองคนก็อยู่ด้วยกันมาเรื่อย ๆ จนเวลาผ่านไปปีกว่าละครับเนี้ย ผมก็อายุ 27 ละ แฟนผมก็ 23 ละ ภายนอกด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานการวางตัวอาจจะดูไม่หวานกันตอนอยู่ที่ทำงานแต่ผมชัดเจนเสมอว่าเราคบกันอยู่ ส่วนตอนอยู่บ้านกันสองคนผมติดแฟนมากแทบจะเกาะไปทุกที่เลย55 (ส่วนคำนินทาธรรมดาต้องเยอะกว่าคู่ปกติอยู่แล้ว FC รอเผือกเยอะ ใหม่ๆแฟนผมก็เครียดนะระบายให้ฟังตลอด ผมก็พยายามรีแล็ก หลังๆมาเนี้ยชักเห็นเป็นเรื่องตลกกันละ บางทีแกล้งเล่นละครทะเลาะกันบ้างให้ไปเมามอยกัน55) คือผมก็ไม่ได้คิดเล่น ๆ อยู่ไปวัน ๆ หรอกนะ ผมชัดเจนเสมอว่าชีวิตที่ผ่านมาก็เคยรักผู้หญิงแค่สองคน ก็คือแฟนคนแรก กับน้องN นี้ละ เราก็บอกตรง ๆ ว่าเก็บเงินแต่งงาน อาจจะไม่ดูตื่นเต้นอะไรแต่เธอบอก OK เธอชอบอะไรที่ชัดเจนตรง ๆ มีเป้าหมายแบบนี้ ข้อร้องด้วยอย่าไปเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกลางผู้คน คือเราก็อยู่ของเรามีความสุขไปด้วยกัน แต่ลืมคิดไปคือเรื่องครอบครัว....??
20+ คู่รัก! ชายกับสาวประเภท2 ผ่านอุปสรรคกันมายังไงกันบ้างครับ...รับมือกันยังไง
เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้างรวมไปถึงหน้าที่การงาน
ขออนุญาตเล่าเรื่องและปัญหาของผมก่อนนะครับ ท่านไหนมีแนวทางแนะนำ
เริ่มต้นนะครับ ผมก็เป็นผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งละครับคบกับผู้หญิงคนหนึ่งมาตั้งแต่สมัย ม.3 เรียนต่อมหาลัยก็มาเรียนด้วยกัน คนละสาขาเธอเรียนบัญชีผมเรียนวิศวะ เธอจบก่อนแค่ 3 ปีครึ่ง พอเรียนก็ทำงานแล้วก็ท้องกับรุ่นพี่ที่ทำงานแล้วเขาก็แต่งงานกันไปละครับ ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังเรียนไม่จบ ผมมาพยายามเรียนให้จบเกือบ 5 ปี แทบทิ้งเวลาเปล่าๆไป 1 ปีตอนนั้นก็เสียใจ และเจ็บใจมาก หลังๆมาก็ทำใจได้เข้าใจอยู่ว่าผู้หญิงเขาก็คงเลือกผู้ชายที่มีอนาคต มีหน้าที่การงานที่ดี ส่วนผมตอนนั้นก็ยังเรียนไม่จบ วนไปวนมาแถวๆมหาลัย เหอ ๆ ช่างมันเถาะ แล้วจากนั้นผมก็ไม่คิดอะไรมากเรื่องความรัก ไม่คิดอยากเริ่มต้นใหม่กับใครไม่รู้จะเริ่มคบไงด้วย เพราะผมก็เคยมีแฟนแค่คนเดียว ตอนนั้นที่มีเพราะมาจากการเป็นเพื่อนกันแล้วค่อย ๆ พัฒนามา
พอเรียนจบมาผมก็ได้ทำการบริษัทแห่งหนึ่งเป็นวิศวกรควบคุมการผลิต หน้าที่การงานผมก็มั่นคงขึ้นเรื่อย ๆ ค่อย ๆ เลื่อนตำแหน่งไปตามการเวลา ในใจนั้นก็ไม่ได้คิดเรื่องจะคบกับใครคิดแต่ว่าอีกหน่อยค่อยให้แม่หาให้ละกันอยากให้แต่งงานกับใครก็อยู่กับคนนั้นละ
เมื่อปีที่แล้วทาง office รับสาว ๆ มาใหม่ 3 คน เด็ดๆทั้งนั้น ตามภาษาหนุ่ม ๆ นะครับ ก็ต้องแซว ๆ ส่อง ๆ เป็นธรรมดา 555+ และคนที่สวยที่สุดก็แฟนผมนี้ละครับ ไม่มีใครมองออกเลยว่าเป็นสาว2 แต่ผมมองออกว่าเป็นนะ พี่ๆน้องๆผมยังเถียงกับผมอยู่เลย สุดท้ายผมก็ได้กินชาเขียวฟรีไป 555 แรก ๆ มาก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็ส่อง ๆ กัน ผมก็ตามภาษาหนุ่มโสดในกลุ่มพ่อบ้านกันหมดละ พี่ๆน้องๆเขามีเมียมีลูกกันหมดละ เขาก็แซวๆผมว่าจีบไปซักคนสิ ผมก็ฟรอมเดิมนั้นละส่องๆ มากสุดก็แซวบ้างแต่ก็ไม่คิดจะเอาจริงกับใคร ไม่รู้สิคือผมรู้สึกเหนื่อยแล้วไม่รู้จะเริ่มใหม่กับใครดีไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงด้วยไม่เคยเปลี่ยนแฟน
ตอนนั้นผมอายุ 26 แล้ว และผมขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกฝ่ายดูแลสินค้าด่านสุดท้ายก่อนส่งออกให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ขอเรียกแฟนว่าน้อง N นะครับ แล้วน้อง N เนี้ยทำงานอยู่ฝ่ายประสานงานกับลูกค้าต่างประเทศ คือต้องทำงานร่วมกับแผนกผม แล้วที่นี้น้องเขาส่งข้อมูลพื้นที่ให้ผมผิดตอนนั้นน้องเขาทำงานยังไม่ถึงเดือน แต่ก็เป็นความผิดของผมด้วยไม่ตรวจเช็คให้ดีเพราะเคยชินกับข้อมูลเดิมที่คนเก่าส่งให้ ผมได้ข้อมูลมาผมก็จับออกแบบส่งอย่างเดียวเลยจนติดเป็นนิสัยเสีย พอถึงวันมารับของที่จะส่งกลับใส่Conteinerไม่หมดแล้วจองพื้นที่บนเรือไว้หมดแล้ว งานเข้าละนี้แต่ละฝ่ายก็กลัวจะได้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย (หัวหน้าผมกับหัวหน้าน้อง N ไม่ค่อยถูกกันเท่าไร) เถียงกันโยนความผิดให้กันไปกันมา ผมก็ตัดสินใจยอมรับผิดเองและจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่สุดท้ายผมกับลูกน้องผมก็ช่วยกันแก้ปัญหายัดส่งไปจนหมดได้ (ลูกน้องผมเก่งๆนะประสบการณ์เป็น10ปีถึงตำแหน่งหน้าที่วุฒิการศึกษาผมสูงกว่าแต่ผมอยู่แบบเคารพให้เกรียติซึ่งกันและกันเพราะลุงๆน้าๆเขาเหมือนครูที่สอนงานผม) พอแก้ปัญหาได้ที่ชุมนุมสงครามก็แยกย้ายสลายตัวกันไป ผมเห็นน้อง N สีหน้าไม่ค่อยดีผมเลยหยอก ๆ แซว ๆไปว่า เลี้ยงขนมพี่เลยเน้อ แล้วน้องเขาก็ซื้อขนมมาให้ผมจริง ๆ ด้วย และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้ใกล้ชิดกัน
หลังจากนั้นผมก็ระมัดระวังมากตรวจแล้วตรวจอีกแล้วโทรคุยประสานงานมากขึ้น บางทีขึ้นไปหาเลย (แรกๆเรื่องงานล้วนๆ) น้องเขาคงกล้าๆกลัวๆผมอะนะ ผมเป็นคนสูง แล้วอกหักมาปล่อยตัว กินหมูกระทะกับแก้งชายโสดเกือบทุกศุกร์เลย เลยสูงอ้วนตัวใหญ่ผิวคล้ำๆน้ำตาลอีก คงจะน่ากลัว 555 หัวหน้าน้องเขาก็บอกผมดูน้องเขาด้วยละกัน (คือผมนะเข้าได้กับทุกฝ่ายหัวหน้าผมไม่ถูกกันอะนะ) ผมเป็นคนเฮฮาก็ปล่อยมุกให้ขำๆรีแล็กกันไป แล้วผมก็พบอะไรบางอย่างคือน้องเก่งทั้งอังกฤษทั้งจีนเลยแบบว่าทั้งพูดทั้งเขียน ซึ่งตัวผมเองนั้นต้องยอมรับผมด้านภาษานั้นผมอ่อนมากๆเลย ปกติตอบ Email ต้องอาศัยพี่ Google ตลอด ถูๆไถ่ๆกันไป เจอกับฝรั่งคุยทับศัพท์ไปเรื่อย มือไม้มาเต็มอาศัยความใจกล้าเอา ดีที่ยังพอจะสื่อสารรู้เรื่อง และนี้ละโอกาสผม ผมเลยขอน้องเขาช่วย 555 (คิดในใจแบบว่าสบายเราละ) เริ่มจะสนิทกันหน่อยๆ พอขอให้น้องเขาช่วยแปลอะไรอันที่เยอะๆหน่อย ชักโดนย้อนกลับ ซื้อขนมเลี้ยง ซื้อของไปเส้นสารพัด 55 จนโดนแซวว่ากิ๊กกันอยู่เสมอ ผมโดนพี่ๆน้องๆแซวว่าขุดทองประจำช่วงนั้นแต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากเรื่องงาน (คิดแล้วก็นะผมนิตั้งใจหลอกใช้ล้วนๆ)
แล้วความสัมพันค่อย ๆ เริ่มพัฒนา ผมก็ขอให้น้องเขาช่วยแปลภาษาให้ตลอด ๆ แต่หลัง ๆ เริ่มมีการเรียกร้องของเส้นมากขึ้น ไปนั่งร้านกาแฟด้วยกันวันหยุด ไปดูหนังด้วยกัน ไปส่งช้อปปิ้งซื้อของ ไปรับไปส่ง จนเหมือนแฟนกันไปเมื่อไรก็ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีผมก็รู้สึกได้ว่าผมได้รักน้องเขาไปแล้วจริง ๆ ถึงหน้าตาน้องทั้งสวยทั้งน่ารัก(เคยไปเที่ยวด้วยกันแล้วได้ยินคนนินทาประมาณว่าไอ้อ้วนเชี้ยนี้ได้แฟนสวยวะสงสัยเสี่ยแน่ เราก็แบบอืมมมมมนะ55) ประเด็นนิสัยเข้ากันได้คุยกันได้เรื่อยๆ (เคมีเข้ากันมั่ง) ที่สำคัญเราชอบแนวคิดน้องเขาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ และไม่มางอแงงอะไรกับเราด้วย อยู่แล้วรู้สึกสบายใจไม่ต้องเฟกหรือเก็กหล่อหลอกคนอื่นให้ตัวเองดูดี เป็นตัวของตัวเอง ไม่สบายก็ดูแลกันและกัน มีปัญหาอะไรก็มาพูดคุยปรึกษาให้กำลังใจกัน ทำอาหารก็อร่อย ขี้งอนก็มีบ้างแต่ง้อหน่อยก็ดีละ แล้วน่าทะนุถนอมมากด้วย คือที่สุดแล้วเราต้องการใครสักคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจมีความสุขก็แค่นั้นจริง ๆ ละ ผมก็เริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น ไปออกกำลังกาย เริ่มหาครีมบำรุงมาใช้ เริ่มหาซื้อเสื้อผ้าที่มันดูดีหน่อย น้ำหนักค่อย ๆ ลดมาประมาณ 10 กว่ากิโล ผมเริ่ม HOT เริ่มมีสาว ๆ เข้ามาพอสมควร ที่จริงผมก็หน้าตาค่อนข้างดีอยู่แล้ว(หลงตัวเอง) เพียงแต่ปล่อยเนื้อไปตัวไป ตอนนี้ผมเริ่มมีตัวเลือกเยอะ ผมก็หยอกๆ ตอบแชทสาวไปทั่วเลย แล้วค่อย ๆ ออกห่างน้องเขาไป หลังๆมานี้ผมเริ่มจะกล้าๆหน่อยละ ผมก็ชวนผญ.คนหนึ่งไปนั่งร้านกาแฟด้วยกัน แล้วบังเอิญไปเจอกับรุ่นพี่ที่ทำงานก็มานั่งกินที่นั้นด้วย และเป็นคนเพื่อนกลุ่มแก้งเดียวกันกับน้อง N ที่แรกผมก็ไม่สนอะไรก็เห็นอยู่ว่าโดนแอบถ่ายรูปแน่ ๆ เราก็คิดอยู่คงส่งไปฟ้อง N แน่ ๆ ซักพักมีข้อความแชทมาทันทีน้อง N ก็ถามว่าเราอยู่ไหน เราก็นิสัยไม่ดีมากเลยละ เราก็บอกว่าร้านกาแฟมานั่งทำงานอย่ากวน น้องเขาตอบมาว่า ขอโทษที่กวนนะตั้งใจทำงานจ้า แล้วก็เงียบไป จิตใจเราเริ่มอยู่ไม่สุขละ สักพักเราบอกผญ.ที่ไปกับเรามีธุระด่วนต้องรีบกลับเราจึงพาน้องเขาไปส่งบ้าน แล้วรีบขับไปหาน้อง N เลย พอไปถึงหอน้องเขาเคาะเรียกยังไงก็ไม่เปิด เราก็นึกว่าไม่อยู่ไปถามเจ้าของหอก็บอกว่าไม่เห็นออกไปไหนนะ รถก็อยู่ ใจเรานิเป็นห่วงมากๆกลัวจะเป็นอะไรไป เราเลยไปเรียกอยู่หน้าห้องก็เงียบลองเอาหูแนบประตูฟังก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร เราเลยบอกว่าจะนั่งรอหน้าห้องนี้นะเรานั่งรอได้ประมาณชม.กว่าๆได้ น้อง N จึงเปิดประตูออกมา ครั้งแรกที่เห็นเธอส่งยิ้มให้ผมแล้วไม่พูดอะไรยิ้มอย่างเดียว แต่สภาพหน้าตาแบบว่าดูก็รู้ว่าร้องไห้มาหนักมาก ผมใจหายไปเลย คิดในใจนี้ทำอะไรลงไปเนี้ยโง่จริง ๆ ผมก็กอดน้องเขาไว้แล้วขอโทษต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว แต่คำตอบที่ได้มาคือไม่เป็นไรค่ะ อยู่ ๆ น้ำตาผมก็ไหลมาเฉย ๆ เลย ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่มากจริงๆ ต่อไปผมจะไม่มีวันทำอย่างนี้อีกแน่นอน
จากนั้นมาผมก็ไม่เคยมองใครอีกเลย แม้แต่แชทสาว ถ้าเรื่องงานผมก็เอามือถือไปให้ดู ไปไหนมาไหนก็บอกตลอดแม้เรื่องเล็กๆน้อยๆ จนน้องเขาบอกว่าไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ (คงรำคาญ) แต่หลัง ๆ มานี้กลับเป็นผมที่ไปไล่เช็คมือถือน้องเขา คนกดหัวใจมาหน่อยก็ถามไปเรื่อยละว่าเป็นใคร ถ่ายรูปโชวนมลงก็ไม่ได้ (สงสัยโรคจิตไปซะละหึงโหด) ยอด like กับคนติดตามนางหายคง เหมือนนอย ๆ เราหน่อย 55
เรื่อง sex มันเป็นเรื่องธรรมชาติหรือเปล่า ผู้ชายถ้าไม่หื่นก็คงไม่ใช้ ยิ่งมีแฟนสวยนมใหญ่น่ารักXXขาวเนียนอมชมพูนุ่มๆหอมๆใกล้ๆซะขนาดนี้ ผมต้องอยากจับมาปู้ยี้ปู้ยำจัดหนักอยู่ละ ที่แรกเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะเหลือน้องชายอยู่ไหม ผมก็ไปแอบศึกษา ว่าเขาจะทำยังไงเพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันไง ลองแอบถามเชิงๆอ้อมๆกับคู่เกย์ที่บริษัทดู แต่พี่แก่จับได้เลยบอกให้หมดเลย ถ้าตัดแล้วต้องยังไงถ้ายังไม่ตัดต้องยังไง (คิดแล้วตลกตัวเอง) สุดท้ายก็ได้ KY กับ durex fetherlite มาตามคำแนะนำ วางแผนปฏิบัติการวันหยุดพอถึงวันศุกร์ผมก็ชวนน้องเขามากินข้าวที่คอนโดผม ปกตินางก็มานั่งๆนอนๆเล่นดูเราเล่นเกมส์บ้างทำงานบ้างทำอาหารบ้าง เราก็ไม่รู้จะเริ่มไงเลยชวนไปดูหนังในห้องนอนนางแอบตกใจเพราะปกติไม่เคยเข้าไป ไปถึงเรารุกเลย น้องก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ในที่สุดสิ่งที่เราอยากรู้มานาน..น้องเขาทำมาหมดละเป็นแม่สาวน้อยหมดทั้งตัวละ สุดท้ายก็ไม่ได้มีอะไรกันเพราะ เธอน้ำตาคอแล้วออกสั่นๆหน่อยคงกลัว เราเห็นแล้วก็น่าเอ็นดูทำไม่ลงเราก็ตัวใหญ่ด้วยน้องตัวเล็กนิดเดียว ไว้รอพร้อมก่อนก็แล้วกันค่อยเป็นค่อยไป เลยนอนกอด คุยกันไป น้องเขาก็ได้แค่ขอโทษเราอย่างเดียว เราก็บอกว่าไม่เป็นไร น้องเขาเลยเล่าให้ฟังไม่เคยคบกับใครมาก่อนเลยอย่างมากสุดแค่แชทคุย พอเจอจริง ๆ มาเลยกลัว สุดท้ายทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้มีอะไรกันเลย 55 พักหลังๆนางชอบมาขอนอนกอดเฉย ๆ บอกว่าเรานุ่มดี งั้นก็ตามใจ(แต่เราต้องอดทนทรมาณน้องชายจริง ๆ) เราก็แซวตลอดพร้อมเมื่อไรก็บอกพร้อมทำการบ้านเสมอ 55 ปัจจุบันก็เลยย้ายมาอยู่ด้วยกัน คงได้ทำการบ้านซักวัน เฮ้ยไม่ใช้ ประหยัดค่าใช้จ่ายอะไรด้วยจะได้มีเงินเก็บเยอะๆ เพราะผมก็ผ่อนทั้งคอนโดทั้งรถเงินที่เหลือก็ไม่ค่อยมีเก็บ น้องN เลยบอกประหยัดเช่าหอจะมาเปย์เราแทน 55
เราสองคนก็อยู่ด้วยกันมาเรื่อย ๆ จนเวลาผ่านไปปีกว่าละครับเนี้ย ผมก็อายุ 27 ละ แฟนผมก็ 23 ละ ภายนอกด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานการวางตัวอาจจะดูไม่หวานกันตอนอยู่ที่ทำงานแต่ผมชัดเจนเสมอว่าเราคบกันอยู่ ส่วนตอนอยู่บ้านกันสองคนผมติดแฟนมากแทบจะเกาะไปทุกที่เลย55 (ส่วนคำนินทาธรรมดาต้องเยอะกว่าคู่ปกติอยู่แล้ว FC รอเผือกเยอะ ใหม่ๆแฟนผมก็เครียดนะระบายให้ฟังตลอด ผมก็พยายามรีแล็ก หลังๆมาเนี้ยชักเห็นเป็นเรื่องตลกกันละ บางทีแกล้งเล่นละครทะเลาะกันบ้างให้ไปเมามอยกัน55) คือผมก็ไม่ได้คิดเล่น ๆ อยู่ไปวัน ๆ หรอกนะ ผมชัดเจนเสมอว่าชีวิตที่ผ่านมาก็เคยรักผู้หญิงแค่สองคน ก็คือแฟนคนแรก กับน้องN นี้ละ เราก็บอกตรง ๆ ว่าเก็บเงินแต่งงาน อาจจะไม่ดูตื่นเต้นอะไรแต่เธอบอก OK เธอชอบอะไรที่ชัดเจนตรง ๆ มีเป้าหมายแบบนี้ ข้อร้องด้วยอย่าไปเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกลางผู้คน คือเราก็อยู่ของเรามีความสุขไปด้วยกัน แต่ลืมคิดไปคือเรื่องครอบครัว....??