ทริปของเราวันที่ 20-26 กรกฎาคม เป็นช่วงหลังฝึกงานเสร็จพอดี จุดหมายหลักๆคือเชียงคาน เพราะอยากไปมาตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ก็ไม่มีโอกาสสักที แต่กลัวไม่คุ้มค่ารถ เลยคิดการณ์ไกลข้ามฝั่งไปถึงหลวงพระบาง 555

รีวิวนี้เราเน้นวิธีเดินทาง ที่กินที่เที่ยว(ซึ่งไม่ค่อยจะกินอะไรเท่าไหร่) มาดูกันว่า 6 วันทั้งไทยและลาว เราจะไปไหนได้บ้าง

กรุงเทพ - หนองคาย
   เราเลือกเดินทางด้วยรถบัสแอร์อุดร รอบ 20.00 ราคา 423 บาท กะจะให้ถึงบขส.หนองคายประมาณ 8 โมง จะได้ไม่เช้าเกินไป แต่สรุปว่าไปถึงตั้งแต่ 7 โมงกว่าๆ เลยออกไปหาของกิน เดินเล่นริมโขง แล้วกลับมาขึ้นรถ หนองคาย- เวียงจันทน์ รอบ 9.30 แทน
* จริงๆสามารถนั่งเครื่องบินกรุงเทพ - เวียงจันทน์เลยก็ได้ แต่ของเราเป็นทริปกะทันหัน ไปด้วยรถทัวร์ถูกกว่าเยอะ

หนองคาย - เวียงจันทน์
   ซื้อตั๋วที่ บขส.หนองคายได้เลย รถนี้ต้องใช้พาสปอร์ตในการซื้อตั๋วนะ ราคา 55 บาท พอรถเริ่มเคลื่อนที่ก็จะมีพนักงานมาแจกใบขาเข้าขาออก เขียนให้เสร็จตั้งแต่บนรถเลยนะ จะได้ไม่เสียเวลา ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถก็จะหย่อนเราลงที่ด่านขาออก และรอรับเราเพื่อไปยังด่านลาว
   ถึงด่านลาวก็สแกนพาสปอร์ตและปั้มใบขาเข้าให้เรียบร้อย หลังจากนั้นต้องเดินไปซื้อบัตรผ่านแดนในราคา 5 บาท (ถ้ามานอกเวลา จะต้องเสียค่าล่วงเวลาด้วย ประมาณ 50 บาท) เมื่อผ่านเข้าฝั่งลาวแล้ว ใครอยากแลกเงินก็แลกได้เลย หรือรอไปแลกในเวียงจันทน์ก็ได้ ส่วนตัวเราแนะนำให้และไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาที่แลกในเมือง

เวียงจันทน์

- สิ่งแรกที่เจอคือการโดนรุม
   ออกจากด่านประมาณ 1 ชม. รถก็จะมาส่งเราที่ขนส่งใกล้ๆตลาดเช้า ที่นี่มีพี่วินเข้ามารุมเยอะมาก ใครประสงค์จะไปกับพี่วินก็ไปโลด ส่วนใครประสงค์จะเดินเอง ก็จงตั้งสติและเดินสวยๆฝ่าดงพี่วินไป ส่วนเราใช้วิธี "ไปตลาดเช้าค่ะ" หมายความว่า ถ้าโดนรุมเราก็จะตอบว่า "ไปตลาดเช้าค่ะ" ทุกคนก็จะหลีกทางให้ เราก็เดินสวยๆไปตลาดเช้าเพื่อตั้งหลักหาที่พักค่ะ เราจองผ่านเว็บมาแล้ว ส่วนใครยังไม่จอง แนะนำแถวๆน้ำพุ(โรงแรม)หรือถนนหน่อแก้วกุมมาน(โฮสเทล)

- ซื้อซิมที่ไหนดี
   เราแนะนำของลาวเทเลคอม และควรไปซื้อที่ศูนย์บริการ (ถนน Chanthakhoummane) คุณจะซื้อได้ในราคา 20,000 กีบ(ซิม 10,000 + แพกเกจ 1.5 GB 7 วัน)และพนักงานจะสมัครให้เรียบร้อย แต่ถ้าซื้อกับป้าร้านขายของชำ คุณอาจโดนคิดราคา 50,000 กีบ

- กินอะไรที่ไหนจะอร่อย
    ร้านเฝอแซบ ร้านนี้ให้เยอะมาก ผงชูรสเลยเยอะตาม 555 กินไม่หมด ให้ 3/5
    เวียงสะหวันแหนมเนือง ร้านนี้อร่อยมาก แนะนำให้สั่งน้ำด้ส้มมาวย เป็นน้ำส้มเพียวๆไม่ผสมน้ำหวาน อร่อยสุดเท่าที่เคยกินมา รวมประมาณ 150 บาท
    ชาไข่มุกตรงถนนเจ้าฟ้างุ้ม คล้ายพวกโอชายะใดๆ ไม่ได้อร่อยมากแต่ก็อร่อย ที่สำคัญคือให้ไข่มุกเยอะมาก คุ้มสุด
    ตลาดมืดริมโขง ที่นี้เราไม่ได้กินเพราะหาไม่เจอ 555 กลับมาเพิ่งรู้ว่าต้องเดินไปไกลๆในหลืบ จะมีของกินเยอะมาก

- เที่ยวที่ไหนบ้าง
    หลักๆที่เวียงจันทน์ก็เน้นเดินชมเมือง หลักๆที่ไม่ควรพลาดคือประตูไชย เจดีย์หลวง วัดสีสะเกด หอพระแก้ว แต่ถ้ามีเวลาเยอะกว่านั้นจะเดินให้หมดทุกวัดก็ได้

เจดีย์หลวงก็จะอยู่ไกลหน่อย แต่สามารถเดินไปได้ถ้าอึดและถึกพอ แต่ถ้าไม่ไหวแนะนำให้นั่งรถสกายแล้ปหรือเช่าจักรยาน ส่วนเราเลือกเดินไป แต่ขากลับไม่ไหวต้องนั่งสกายแล้ปกลับเหมือนกัน

เวียงจันทน์ - หลวงพระบาง
   นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถบัส เราก็เป็นหนึ่งในนั้น การซื้อตั๋วก็มีหลายวิธี ทั้งซื้อจากที่พัก ซื้อจากโรงแรมอื่น หรือซื้อตั่วที่ขนส่งสายเหนือด้วยตัวเอง แต่แน่นอน วิธีที่ดีที่สุดสำหรับคนเดินทางคนเดียวคือซื้อจากโรงแรม เราซื้อจาก backpacker hostel ถ.หน่อแถ้วกุมมาน ได้รถนอนราคา 175,000 บาท และมีรถไปรับที่โรงแรม (ราคาปกติ 150,000 บาท) รถจะมีพักกินข้าวระหว่างทางตอนเที่ยงคืน จะลงไปกินหรือจะนอนต่อบนรถก็ได้ไม่ว่ากัน
**เรานอนเบาะกลาง มีที่กั้นเฉพาะเอว เวลารถเลี้ยวก็จะรู้สึกเหมือนจะตกทุกที นอนลำบากมากกก แต่สุดท้ายก็หลับได้ด้วยดี 555 ใกล้ๆเช้าคนขับก็เปิดเพลงโจ๊ะๆ เฮฮามากจ้า

หลวงพระบาง
   รถจะมาส่งที่ขนส่งนาหลวงพระมาณ 6 โมงกว่าๆ ณ จุดนี้เราต้องนั่งรถสกายแล้ปเข้าเมือง ราคา 20,000 กีบ

- พักที่ไหนดี
   แน่นอนว่าที่ยอดนิยมของคนไทยคือซอยโจมา หรือโรงแรมสายน้ำคาน แต่เราเลือกพักที่ khonsavan GH ข้างๆซอยโจมา เนื่องจากวอล์คอินแล้วมีที่พักว่างพอดี ในราคาคืนละ 30000 กีบ (ห้องรวมชายหญิง แต่โชคดีที่เราได้เตียงเดี่ยว ในขณะที่เตียงอื่นเป็นสองชั้น)

- กินอะไรที่ไหนอร่อย
   ประชานิยม ร้านที่ประชาชนชาวไทยนิยม ปาท่องโก๋ออกหวานๆนิดๆ ส่วนชา กาแฟรสชาติเจือจางๆหน่อยๆแต่ก็โอเค แต่โจ๊กไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ (ร้านนี้น้ำร้อนร้อนมาก ต้งทิ้งไว้ก็ไม่หายร้อน แนะนำให้ใส่น้ำแข็งก่อนกิน 555)
   โจมา ร้านที่ทำให้อิ่มท้องและหายร้อนได้ในเวลาเดียวกัน ขนมปังอร่อยมากสำหรับเรา แต่น้ำส้มไม่ได้เพียวๆแบบร้านที่เวียงจันทน์ ราคาโอเค เหมาะสำหรับหลบแดดตอนกลางวัน
   ตลาดเช้า ของกินไม่เยอะมาก สิ่งที่อยากให้ลองคือข้าวจี่กินกับน้ำพริก อร่อยจนเราต้องมากินอีกรอบ และร้านกาแฟลาว เราสั่งชาเย็น รถชาติติดหวานนิดนง แต่ยังคงความเจือจาง
   เฝอหน้าวัดแสน ร้านนี้คนรีวิวเยอะมาก แต่เราไปไม่ทัน (ใครอยากกินต้องมาก่อน 11 โมง) แต่พี่คนไทยที่เจอที่ GH บอกว่าไม่อร่อยเท่าไหร่ ถูกปากคนลาวมากกว่า
   ของกินตลาดมืด ในซอยอินดิโก้คาเฟ่ ของกินเยอะมาก อยากกินไรเลือกได้เลย แนะนำปลาเผา ส้มตำ (คนจีนข้างๆบอกว่าอร่อย) เราสั่งซุปหมาล่า เลือกลูกชิ้น ผักใดๆได้เอง ไม้ละ 2000 กีบ

- เที่ยวไหนดี
   ตักบาตรข้าวเหนียวตอนเช้า ประมาณ 5.45 กระก็เริ่มออกบิณฑบาตร จนถึงเวลา 6.10 ก็เริ่มเดินกลับวัดทางถนนริมโขง จุดหลักๆจะมีตรงข้ามโจมา หน้าวัดใหม่ หน้าวัดแสน(จุดนี้คนเยอะมาก เหมาะกับการถ่ายรูป)

  หลังจากตักบาตรเสร็จ ใครอยากเดินชมเมืองก็เดินได้ ใช้เวลาไม่ถึง 1 วันก็น่าจะเดินได้ครบ วัดในหลวงพระบางทีเยอะมาก แต่ที่ไม่ควรพลาดคือ วัดใหม่ วัดแสนสุขาราม วัดเชียงทอง  พิพิธภัณฑ์ หอพระบาง บางที่จะมีค่าเข้าชม 20,000 - 30,000 กีบ แต่คุ้มนะ

   ตาดกวางสี ถ้าไปหน้าร้อนจะสวยมาก แต่หน้าฝนจะรู้สึกเหมือนน้ำป่าไหลหลาก แต่ข้อดีคือค่ารถถูก มีให้เลือกตั้งแต่รถสกายแล้ป(แบบเหมา/จอยทริป) ราคาประมาณ 100,000 กีบ หรือรถตู้จองผ่านบริษัท (45,000 กีบ) แต่เราไปหน้าฝน น้ำแรงมาก
   หรือใครอยากเข้าผับลาวไปดูบัดสลบ แนะนำดาวฟ้า สำคัญคือต้องไปหลังจาก 3 ทุ่ม เพราะก่อนหน้านั้นจะดูเหงาหงอยราวกับผับร้าง 555 และใครอยากเต้นแนะนำให้ซ้อมท่าไปก่อน ขอแบบมืออาชีพด้วย และต้องออกไปเต้นที่ฟลอร์เท่านั้น 555 พี่คนไทยที่ GH บอกว่าคนลาวไม่ค่อยชอบคนเต้นผิดๆถูกๆ แต่ถ้าใครไม่ชอบเต้นก็นั่งดูเฉยๆก็ได้

หลวงพระบาง - เลย
    เดินทางด้วยรถบัส มีรอบเดียวคือ 8.00 ข้อเสียคือเสียเวลาเที่ยว 1 วันเต็มๆ แต่ข้อดีคือ จะได้เห็นวิว 2 ข้างทาง ที่ส่วนใหญ่ยังทำนา เห็นวิถีชีวิตคนลาว และได้คุยกับคนข้างๆ สามารถซื้อตั๋วผ่านที่พัก หรือซื้อตั๋วที่ บขส.นาหลวงเองก็ได้ ส่วนเราซื้อกับที่พัก ราคา 200,000 กีบ มีรถมารับหน้าที่พักเลย รถสายนี้จะแวะรับคนตลอดทาง ส่วนมากเป็นคนลาว มีทั้งเดินทางข้ามจังหวัดและเดินทางข้ามมาไทย รถจะจอดให้เราทำเรื่องผ่านแดนลาวและเข้าแดนไทยเรียบร้อย

เลย - เชียงคาน
   เรามาถึง บขส.เลย 5 โมงกว่าๆ หลังจากนั้นต้องอาศัยรถสองแถวรอบ 6 โมงเพื่อเดินทางเข้าเชียงคาน ราคา 35 บาท ถ้าไม่อยากนั่งรถสองแถว สามารถรอขึ้นรถทัวร์ที่มาจากจังหวัดอื่นได้เช่นกัน รถสองแถวจอดให้เราลงที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ตรงนี้เราสามาถให้สกายแล้ปไปส่งโรงแรมได้ในราคา 20 บาท หรือเดินไปเองก็ได้
**ใครไม่อยากเสียเวลาเข้าบขส. สามารถให้รถบัสจากหลวงพระบางจอดที่สามแยกปากภูเพื่อรอรถเลย - เชียงคานรอบ 5 โมงได้

เชียงคาน

-พักที่ไหนดี
   ที่พักส่วนใหญ่อยู่ติดริมโขง ราคา 500 - 1500 บาท ส่วนเราเลือกเฮือนพูลทิพย์ ราคา 300 บาท (โทรจองหลังจากผ่านแดนไทย) ข้อดีคือราคาถูก แต่ข้อเสียคือหน้าร้อนกลางวันร้อนมาก จนเราต้องลงไปนั่งเม้ากับป้าที่ชั้นล่าง

- กินอะไรที่ไหนอร่อย
   ถนนคนเดิน เมนูแนะนำคือกุ้งเสียบไม้ อร่อยดี กรอบๆเค็มๆมันๆ หรือจะเลือกอย่างอื่นแล้วแต่ความพอใจ
   
   สุวรรณรามา เป็นของกินพวกขนมปัง น้ำต่างๆ ขนมปังอร่อยดี ส่วนน้ำรสชาติทั่วไป เน้นไปกินบรรยากาศมากกว่า
   ผัดไทยเยื้องๆเทสโก้โลตัส อร่อยสมคำร่ำลือ กินแบบไม่ต้องปรุง ฟินมาก

   ข้าวเปียกซอย 10 บน ร้านนี้ก็อร่อยดี แต่ให้เยอะมาก อิ่มจนจุก(จริงๆก่อนหน้านี้แวะกินสุวรรณรามา)
   ไข่กระทะ ริมโขง (จำชื่อร้านไม่ได้) ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่

- เที่ยวไหนดี    
   ตักบาตรข้าวเหนียว ฟีลคล้ายหลวงพระบาง แต่คนไม่เยอะเท่า และพระน้อยกว่า
   ช่วงสายๆก็ปั่นจักรยานไหว้พระ 9 วัด แต่บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในวันที่แดดแรงเพราะร้อนมาก เราปั่น 9 โมง เกือบๆเที่ยงก็เก็บครบแล้ว

เชียงคาน - กรุงเทพ
เรากลับด้วยรถบัสของแอร์เมืองเลย ราคา 480 บาท จริงๆมีให้เลือกหลายบริษัท แต่เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์กลางคืน รถอื่นจึงเหลือแค่ที่นั่งแบบคู่ สายนี้มีแวะกินข้าว 1 รอบ มีคูปอง 15 บาท แลกอะไรก็ได้ แต่เราก็ไม่ได้แลก 555

กรุงเทพ
รถมาจอดที่หมอชิต 2 ตอนตี 5 กว่าๆ ตอนแรกตั้งใจจะกลับหอด้วยรถเมล์ แต่เพื่อความปลอดภัยและความชัวร์เลยต้องนั่งแทกซี่กลับหอ

ไม่ว่ายังไงก็ตามเราก็กลับถึงหอได้โดยสวัสดิภาพ พร้อมกับขอบคุณตัวเองที่เผลอไปกดจองโรงแรมที่เวียงจันทน์แบบยกเลิกไม่ได้ ทำให้ต้องไปแบบไม่เต็มใจเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ไปถึงหลวงพระบางแบบลุ้นๆว่าจะนอนที่ไหน จะกลับไทยยังไง(พูดเหมือนคนละซีกโลก) และขอบคุณคนที่เข้ามาอ่าน ที่ทำให้ประสบการณ์ดีๆของเราไม่เลือนหายไป