ดูแฟนอย่างไรไม่ให้โดนหลอก และ ไม่โดนติดเกาะ

หลังจากตกลงปลงใจของคนสองคนที่ยอมรับเป็นแฟนกัน เพราะในด้านลักษณะนิสัยหรือถูกใจอะไรบางอย่างก็จะเสนอวิธีดูหรือสังเกต ตลอดจนการทำนายอนาคตชีวิตคู่ และชีวิตคู่ว่าถ้าเกิดการแต่งงานกันขึ้นชีวิตคู่จะไปตลอดรอดฝั่งจนตายไปข้างนึงหรือไม่ชีวิตคุณหลังจากแต่งงานกับคนที่ได้ชื่อว่า เป็นภรรยา เป็นสามี ของคุณ ดีขึ้นหรือแย่ลง? สามารถใช้ได้ทั้งชายและหญิง มีวิธีการดังต่อไปนี้

1. อาชีพ
แรกคบกันอาจไม่ใจว่าคุณจะทำอาชีพอะไร เรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญให้มากๆ สมมุติเวลาคุณพาแฟนไปบ้านพ่อแม่เพื่อแนะนำให้รู้จักแน่นอนว่าไม่ใช่แค่พ่อแม่คุณที่ต้องรู้ ญาติพี่น้อง ญาติผู้ใหญ่  ต้องรู้ด้วยเพื่อที่จะไม่ถูกตั้งคำถามจากพวกเขาว่า... "แฟนทำงานแบบนี้ คบแล้วจะไปรอดเหรอ" ฟังดูอาจจะดูแย่หน่อยแต่มันเป็นคำถามที่ท่านๆ เขาห่วงและหวังดีจริงๆ วิธีเลือกแฟนที่ทำงานอาชีพ ไม่ถึงกับดีมากจนเกินไป และไม่แย่จนเกินไป เช่น พนักงานบริษัททั่วไป พนักงานธนาคาร ข้าราชการพลเรือนทั่วไป ข้าราชการทหาร ตำรวจ และ ครู อาชีพที่ดีสุดถ้าสามารถเลือกได้ก็พวก ข้าราชการเพราะสามารถใช้สวัสดิการยันถึงแฟนคุณ ตัวคุณ ลูกคุณ ได้เลยทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอมลูก ฯลฯ ส่วนวิธีการสืบก็ดูได้จาก ลักษณะนิสัยส่วนตัว ภาพถ่ายบนเฟส แอบดักเจอสถานที่ทำงานแฟน เป็นต้น

2. สถานะด้านการเงิน และ ทรัพย์สิน เป็นอย่างไร
เมื่อคบมาระยะหนึ่งสิ่งหนึ่งแน่นอนว่าทุกคนต้องดูก็คือ มีรถไหม มีบ้านไหม มีเงินฝากเท่าไหร่ ลงทุนกองทุนรวม หุ้น หรือเปล่า แน่นอนว่าคำถามมันอยู่ในสมองตั้งแต่แรกตกลงกันแล้ว5555 ซึ่งถ้ากำลังผ่อนรถอยู่ ผ่อนบ้านอยู่ มีเงินเก็บบ้างอย่างตํ่า 1 แสนบาท ก็พอรับได้ ถ้าสิ่งที่เห็นแฟนคุณไม่ได้ยืมรถเพื่อนมาขับ ไม่ได้เช่าบ้านใครอยู่แล้วอ้างว่าเป็นของตัวเอง โอเค  เขามีรายได้ทางไหนจำนวนเท่าไหร่บ้าง มีรายจ่ายอะไร แล้วรายได้ กับ รายจ่าย เฉลี่ยดูว่า มันสมเหตุสมผลหรือไม่และอย่าลืมดูสถานะครอบครัวพ่อแม่ของแฟนด้วยว่ามีลักษณะอย่างไร ยิ่งคุณรู้ถึงสถานะการเงิน และทรัพย์สินเท่าไหร่ ยิ่งคุณต้องมั่นใจว่า เลือกจะไปต่อ หรือ เดินจากไป

3. ลักษณะที่ควรต้องหลีกเลี่ยงที่สุด
ระหว่างที่เราใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขอยู่ๆวันนึง ญาติแฟนหรือพ่อแม่แฟน แอบขอยืมเงินคุณ แล้วไม่คืนคิดว่าจะทำอย่างไร แน่นอนว่าเมื่อคุณทวงคงไม่อยากได้ยินจะปากของพ่อแม่แฟนว่า "เงินคุณก็เหมือนเงินลูกฉัน"  หรือจากปากบรรดาญาติๆว่า "เงินคุณก็เหมือนเงินหลานฉัน" รับรองว่าถ้าคุณได้ยินคำพวกนี้คงจะจุกจนวันตายแน่นอน นอกจากไม่ได้เงินคืนแล้วเผลอๆต้องมานั่งทะเลาะกับแฟนด้วย ถ้าเขาเป็นคนรักพ่อแม่พี่น้องแบบไร้เหตุผล ลักษณะครอบครัวหรือแฟนที่ต้องถอยให้ห่างอาทิเช่น
1)บ้านพ่อแม่แฟนอยู่ในชุมชนสลัม แค่คุณเดินระหว่างทางจะถึงบ้านแฟนก็น่าจะสามารถดูบรรยากาศว่ามีลักษณะอย่างไร ปลอดภัยหรือไม่ และตั้งข้อสงสัยไว้เลยว่าอาจเป็นบ้านเช่าเขาอยู่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นในอนาคตทำนายได้เลยว่า พ่อแม่แฟนอาจอาศัยเรือนหอหรือบ้านของคุณอยู่ก็เป็นได้ เหมือนกันที่บางเคสพบเจอ
2)ฐานะการเงินและทรัพย์สินพ่อแม่แฟนหรือแฟนไม่ค่อยจะมีอะไรชัดเจน เช่น บ้านของตัวเองหรือบ้านเช่า ได้รับเงินจากใครบ้าง มีธรุกิจอะไรหรือเปล่า มีหนี้สินอะไรบ้าง บางคนอ้างว่ามีที่ดิน 10 ไร่ 100 ไร่ ชี้มั่วๆใครๆก็ชี้ได้ว่าเป็นของตัวเอง แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าอะไรคือของจริงและของปลอม อันนี้ 50/50 ยิ่งรู้เร็ว รู้จริงเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
3)แฟนและพี่น้อง ไม่มีความชัดเจนในเรื่องอาชีพ คิดดูว่าถ้าปิดบังแค่เรื่องอาชีพแล้วถ้าพวกเขารวมหัวกันปิดบังเรื่องที่ แฟนคุณแอบพาผู้หญิง หรือผู้ชาย พาเข้าบ้านไม่ซํ้าหน้า และคุณเป็นหนึ่งในนั้นด้วยโดยที่ไม่รู้ ก็ย่อมสามารถทำได้อันนี้น่ากลัวกว่า ถึงจะมองว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวก็ควรจะใส่ใจรู้บ้าง
3)แฟนเป็นคนไม่มีเหตุผล หลับตาข้างเดียว อันนี้ต้องถอยให้ห่างที่สุด เพราะถ้าเขาเป็นคนไม่มีเหตุผล หลับตาข้างเดียว แล้วยิ่งเป็นคนรักพ่อแม่ญาติพี่น้องอย่างสุดหัวใจ ถ้าวันหนึ่งพวกเขาทำผิดอะไรกับคุณ เช่น ยืมเงินแล้วไม่คืน คุณจะไม่สามารถได้เงินคืน หรือได้ยินคำขอโทษจากพ่อแม่ญาติแฟน หรือการยอมรับผิดใดๆ แถมแฟนคุณออกตัวเข้าข้างพ่อแม่ญาติตัวเองอีก จนต้องทะเลาะกับแฟนแทนพวกเขาก็เป็นได้
4)มีโรคประจำตัว อันนี้อยู่ที่คุณเลือกว่ารับได้แค่ไหน โรคอะไร เพราะมันอาจมีผลต่อลูกคุณในอนาคตได้ และคุณคงไม่อยากเสียเงินจำนวนมากไปกับการรักษาแฟนคุณถ้าเขาหรือเธอต้องป่วยเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆจนเกินเหตุ จนต้องไม่เป็นอันกิน อันนอน อันทำงาน หรือไปเที่ยวทั้งทีต้องคอยหาโรงพยาบาลอีก เพราะกลัวว่าโรคที่แฟนเป็นจะเกิดอาการเมื่อไหร่ ก็อยู่ที่ใจคุณรับได้แค่ไหน

สุดท้ายก็อยู่ที่การเลือกและการตัดสินใจของแต่ละคน ขอให้โชคดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่