เมื่อวันที่ 2 กันยายน 60 ผมตื่นแต่เช้าเพื่อตั้งใจไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดเหมือนทุกๆครั้งที่ไปบริจาค...แต่มาครั้งนี้รู้สึกแย่ที่โดนทางสภากาชาดปฎิเสธการรับบริจาค ( ผมบริจาคครั้งนี้เป็นครั้งที่ 52 แล้ว ) ก็ทำตามข้อปฎิบัติทุกอย่าง พอไปถึงคิวที่จะต้องรับการตรวจก่อนบริจาค...คุณหมอก็ถามมีแฟนผู้หญิงหรือผู้ชาย...ผมก็ตอบไปว่าไม่มี ( ผมเคยมีแฟนเป็นผู้ชายแต่ก็ไม่ได้มีแฟนมาหลายปีแล้ว ) คุณหมอก็ถามว่าโอกาสที่จะมีแฟนที่เป็นผู้ชายก็จะมีใช่มั้ย..ผมก็ตอบว่าใช่...มันเป็นเรื่องของอนาคต...คุณหมดเลยให้คำแนะนำว่าบริจาคครั้งที่ 52 แล้วน่าจะพอให้ไปทำบุญด้วยวิธีอื่น...ผมก็ตอบไปว่าทุกอย่างในร่างกายผม...ผมก็ให้ไปหมดทุกอย่างแล้ว....คุณหมอก็ไม่หมดความพยายามที่จะปฎิเสธที่จะไม่รับเลือดจากผม...จนถึงจุดหนึ่งที่คุณหมอได้พูดออกมา...ลองคิดดูนะค่ะถ้าเป็นญาติของเราแล้วมารับเลือดจากคนที่มีพฤติกรรมชายรักชายเราจะรู้สึกยังไง...วินาทีนั้นผมรู้สึกว่าแย่มากกับคำพูดของคุณหมอคนนั้น...ถ้าเลือดผมไม่สะอาดจริงๆผมคงไม่บริจาคได้ถึงครั้งที่ 52 หรอกครับและก่อนที่คุณจะเอาเลือดไปใช้ต้องผ่านการตรวจแล้วถึงเอาไปใช้งานต่อได้...ผมรู้สึกแย่กับคำพูดนั้นเหมือนการเหยียดเพศ....ทั้งที่ผ่านมาคุณหมอท่านอื่นผมก็ยอมรับกับท่านว่าผมเป็นชายรักชาย....คุณหมอยังให้คำแนะนำและรับเลือดผมปกติ...แต่คำพูดของหมอท่านนี้ผมรับไม่ได้....และรู้สึกแย่มากๆกับคำพูดของคุณหมอท่านนี้...แต่ผมก็ไม่ละทิ้งที่จะทำความดีต่อไป....ผมขอพื้นที่แห่งนี้เป็นที่ระบายความรู้สึกครับไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีใคร.....ขอบคุณครับ
ตั้งใจทำดีไปบริจาคเลือดแต่โดนปฎิเสธ