"รักครั้งแรก" เจ็บปวดซ้ำๆ
ก่อนที่เราจะเล่าเรื่องราวของเราให้ได้อ่าน...เราตัดสินใจอยู่นานเหมือนกัน เพื่อนก็ห้ามไม่ให้เขียน แต่เราก็คิดว่าบางทีเรื่องของเราอาจเป็นกำลังใจให้ใครอีกหลายคนก็ได้ แนะนำตัวก่อน เราชื่อ ตุ๊กตา เราเรียนโรงเรียนหญิงล้วนในชั้นมัธยม และเรียนมหาลัยใกล้บ้าน เรื่องราวความรักของเราเริ่มต้นขึ้นตอนรับน้อง ปี 1
********* ขอเล่าเนื้อเรื่องโดยย่อ ของการเจ็บแล้วไม่จำของเรา ************
ความรักของเราเริ่มต้นด้วยการมีรุ่นพี่ปี 3 มาตามจีบ ด้วยความที่เราไม่เคยมีแฟนมาก่อน บอกตรงตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยทันคนเท่าไหร่
แน่นอนเราก็ต้องตกหลุมรักเค้า ด้วยความที่รุ่นพี่คนนี้เอาใจใส่ ดูแล และสุภาพกับเรา เราก็เปิดใจและเริ่มทำความรู้จักกับเค้าเวลาผ่านไปเกือบปี เราก็มารู้ความจริงว่ารุ่นพี่คนนี้มีแฟนอยู่แล้ว
ความเจ็บปวดครั้งที่ 1 (รู้ความจริงว่าเค้ามีเจ้าของ)
แน่นอนตามสเต็ปผู้ชายเจ้าชู้ ก็มาแก้ตัวกับเราสารพัด บอกว่า "พี่เลิกกับเค้าแล้ว แต่เค้าไม่ยอมเลิกกับพี่" ..... ขอโทษ ให้เวลาพี่เคลียร์เรื่องนี้ก่อน /// และก็เข้าล็อคผู้หญิงใสๆที่เพิ่งมีความรัก ก็ต้องให้อภัย
เรื่องราวความรักก็ดำเนินต่อไป เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ก็ต้องเจอเรื่องราวแบบเดิมซ้ำๆ เพราะพี่เค้ามีผู้หญิงหลายคน เราเองเป็นคนที่เท่าไหร่ของพี่เค้าก็ไม่รู้ ด้วยความที่เราไปกลับบ้านทุกวัน ไม่ได้อยู่หอพักแบบที่คนอื่นๆเค้าอยู่กัน เพื่อนก็ต่างมาบอกว่า พี่เค้าเจ้าชู้ ควงผู้หญิง คนนั้นนี้ไม่ซ้ำ เราก็ได้แต่ฟัง (คือ ณ สถานการณ์นั้นเราคงรับฟังแต่คงไม่เชื่อ)
จนวันนั้นมาถึง (วันเกิดของเราเอง) พี่เค้าบอกว่าจะมาหาเราที่หอเพื่อน เราก็รอจนเลยเวลานัดมานานแล้ว โทรหาพี่เค้าก็ไม่รับสาย เราเลยชวนเพื่อนไปที่หอพักของพี่เค้า และสิ่งที่เราเห็นกับตาและได้ยินกับหูคือ พี่เค้าอยู่กับผู้หญิงของเค้าในห้องพัก (ผู้หญิงนุ่งกระโจมอกผู้ชายก็คงเปือยท่อนล่าง / พูดแบบหยาบๆคือมันเอากันอยู่) ไม่ต้องสืบว่าหลังจากนั้นเราทำอะไร...เราก็หันหลังสร้างกำแพง แล้วเดินจากมาแบบไม่ต้องมาขอโทษกันอีกเลย
ไม่น่าเชื่อ...เวลาผ่านไป 5 ปี เราเรียนจบ มาทำงานในกรุงเทพ โชคมันคงไม่ใยดีกับเรา เราต้องมาเจอเพื่อนพี่เค้า โชคก็เล่นตลก
เพื่อนพี่เค้าก็ไปบอกพี่เค้าว่าเรามาทำงานที่นี่ มันเลยทำให้เราได้คุยกัน เวลาผ่านไป 5 ปีแล้ว อารมณ์โกรธตอนนั้นเป็นยังไงไม่รู้ คงลืมไปหมดแล้ว รักแรกมันลืมยากจริงๆ
ความรักครั้งที่ 2 กับแฟนคนเดิมก็เกิดขึ้น
เราคบกันได้ 2 ปีกว่า ก็ตัดสินใจแต่งงาน (ก่อนหน้านั้นพี่เค้าแต่งงานมาแล้ว แล้วเลิกกันกับแฟนเค้า) ตอนแรกเราก็คิดว่ามันคงไม่มีเรื่องราวาเกิดขึ้นเหมือนกับอดีตที่ผ่านมาหลอก แต่ไม่เลย
**** เราแต่งงานกันได้ประมาณ 5-6 เดือน แล้วจังหวะเราไปทำงานต่างจังหวัด 1 อาทิตย์ ก่อนกลับจากต่างจังหวัดเราก็ต้องได้รับข่าวว่าแฟนของเรารถชน นี่คือความตกใจและความเป็นห่วงสุดขีด แต่คุณพระช่วยแฟนเราปลอดภัยไม่ได้รับการบาดเจ็บอะไรทั้งสิ้น แต่....ผู้หญิงที่นั่งไปด้วยบาดเจ็บสาหัส (เมื่อรู้ข่าวเราล้มทั้งยืนและไม่มีแรงทำงานอะไรเลยวันนั้น ตั้งสติก่อนกลับมาสุ้ทุกปัญหา) รถไม่มีประกันต้องซ่อมรถ 4 แสนบาท และต้องสะกดอารมณ์ เพราะไม่ให้คนเจ็บเอาเรื่อง เราต้องเป็นแม่พระไปเยี่ยมผู้หญิงคนนั้นถึงโรงบาล 2-3 ครั้ง
มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนแต่งงาน (ขอเล่าย้อนขึ้นไปนิดหน่อย) แฟนเราเค้าไปให้คึวามหวังผู้หญิงคนหนึ่ง จนผู้หญิงคนนั้นมาราวีเรา และทำทุกวิถีทางให้เรารู้เรื่องของเค้ากับแฟนเรา ยกตัวอย่างเช่น เอาผ้าพันคอของเราไปพาดคอและถ่ายรูปอัพเป็นรูปโปรไฟล์เฟสบุค ไปนั่งในรถแฟนเราและถ่ายรูป ส่งคริปเสียงหรือแม้แต่รูปกลุ่มเพื่อนที่ไปกับแฟนเรา จนเราจะไม่แต่งงาน สุดท้ายแฟนเราก็เลิกกับผู้หญิงคนนี้ แล้วมาแต่งงาน
ตลอดระยะเวลาที่เราแต่งงานกันมาเข้าปีที่ 3 มันก็จะมีเรื่องราวของผู้หญิงเข้ามาเรื่อยๆ จับได้บ้าง จับไม่ได้บ้าง เราอดทนมาโดยตลอดยอมเหนื่อยนั่งรถไปกลับกรุงเทพ-ราชบุรี ทุกวัน เพียงเพื่อคำว่าครอบครัว และทำทุกอย่างที่สะไภ้ของครอบครัวคนจีนจะทำได้ บอกเลยว่าเหนื่อยมาก สะไภ้คนจีน หรือ คนใช้ บางทีมันมีแค่เส้นบางๆเท่านั้น
และความเจ็บปวดครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น...จากที่เราจดทะเบียนสมรสเนื่องจากเหตุการณ์รถชน แฟนเราเค้าบอกว่านี่เป็นสิ่งการันตีว่าเค้าจะไม่ทำให้เราเสียใจอีก หลังจากที่เราช่วยกันปลดหนี้ 4 แสนภายใน 1 ปี เราก็ช่วยกันเก็บเงิน ซื้อรถใหม่ และมีเงินเก็บในบัญชีร่วมกันถึงไม่มาก แต่มันก็เป็นสัญญาณที่ดี เราเหนื่อยมาก เหนื่อยจนไม่มีเวลาคิดว่าเค้าจะมีใครอีกหรือเปล่า และเค้าก็ทำตัวดี ทำให้เราเชื่อใจเค้ามากขึ้น
ลักษณธนิสัยของเรา เวลาแฟนไปเที่ยวกับเพื่อน (แฟนเป็นคนมีเพื่อนเยอะ สังคมเลยเยอะตาม) เค้าจะเที่ยวบ่อย เราก็มองว่าเป็นเรื่องปกติเพราะก่อนแต่งงานเค้าก็เที่ยวแบบนี้ปกติ แรกๆเราก็ตามไปด้วยเกือบทุกที่ พักหลังมาเราทำงานหนักขึ้น และเหนื่อยกับการเดินทาง เราเลยไม่ค่อยได้ตามเค้าไปไหน และเราเองก็ไม่ค่อยโทรตาม ไม่โทรจิก คือแค่รู้ว่าไปไหน กับใคร กลับกี่โมงคือจบแค่นั้น
การเสียใจครั้งสุดท้าย!!!
เราจับได้ว่าแฟนเรามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โทรศัพเริ่มเปลี่ยนพาสเวิร์ดใหม่ ไม่ให้เรารู้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีความลับอะไร เลยวางแผนเพื่อจับให้ได้แบบคาหนังคาเขา เราก็สุ่มเดาพาสเวิร์ดโทรศัพท์โชคมันคงเข้าข้างเรา เราเดาถูก และเข้าไปตั้งค่าสแกนนิ้วเพิ่ม ทำให้เราสามารถสแกนนิ้วปลดระหัสไลน์ได้ และเข้าไปเห็นข้อความที่คุยค้างอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เซ้นต์มันบอกทันทีว่าใช่ เราก็ไม่รอช้า ก็พิมพ์ไปทันทีว่า "รู้มั้ยว่าคนที่คุณกำลังคุยด้วยเค้ามีครอบครัวแล้ว แต่งงานแล้ว" พร้อมแนบรูปถ่ายทะเบียนสมรสให้ดูด้วย
ทุกๆครั้ง เวลาเราจับได้แฟนจะเลิกกับผู้หญิง และเลือกเรา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ แฟนเราบอกว่าผู้หญิงคนนี้อายุไม่ถึง 18 และน้องขู่ว่าจะแจ้งความพากผู้เยาว์ หากแฟนเราเลิกกับน้องเค้า แล้วพอเด็กคนนี้รู้เรื่องทั้งหมด เด็กก็จะไปแจ้งความ (ตอนนั้นเราสติแตกมากทำอะไรไม่ถูกและห่วงแฟนเรามากคิดว่าเป็นความผิดตัวเองที่ไปบอกเด็กคนนี้ด้วยซ้ำ) แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย เป็นแผนเด็กทั้งหมดเด็กไม่ได้จะแจ้งความ เด็กแค่ทำให้แฟนเรากลัว
เราบอกให้แฟนเราเลิกกับเด็กคนนี้ซะ...คำพูดที่ได้ยินคือ "พี่เลิกกับน้องเค้าไม่ได้ พี่รักน้องเค้าไปแล้ว" เราหน้าชามากเหมือนโดนตบสัก 100 ครั้ง เรื่องราวมันรุนแรงขึ้นเพราะเรายังเข้าใจว่าเด็กจะแจ้งความ มันเลยทำให้เราตัดสินใจโกหกเพื่อไม่ให้เด็กแจ้งความเอาผิดแฟนเรา โดยการบอกว่าเราอ่ะท้อง เราบอกแค่กับเด็กเท่านั้น จนเด็กยอมใจอ่อนไม่แจ้งความเอาผิด เรื่องราวมันเหมือนจะคลี่คลาย แต่แฟนเราไม่หยุด ง้อเด็กคนนั้นตาอหน้าเรา โดยไม่แคร์เราเลยสักนิด เค้าบอกให้เรายอมรับเด็กคนนั้น ให้ต่างคนต่างอยู่ เค้าจะไม่เอาเด็กมาเกินหน้าเกินตาเราแน่นอน
คำถามคือ!!! ถ้าเป็นคุณ คุณจะตัดสินใจยังไง
เราเลิก....นัดวันหย่า แบ่งเงินฝากและทรัพย์สินบางส่วน และเดินออกมาจากชีวิตต่ำตมนั่นทันที จะบอกว่าเราใจร้อนก็ใช่ แต่เรามีเหตุผลพิสูจน์หลายอย่าง
ผู้ชายที่อยากมีลูกมาก พอรู้ว่าเราท้อง แต่เค้ากลับไม่ดีใจเลย เอาแต่จะง้อเด็กของเค้า ยังให้เราช่วยพูดช่วยง้อเด็กให้ด้วย เรารับไม่ได้ คนแบบนี้รักใครไม่จริง เค้ารักตัวเค้าเองมากกว่า ดังนั้นเราควรปล่อยให้เค้าไปมีชีวิตในแบบที่เค้าเลือก
ตอนนี้เราทำใจได้แล้ว เลยมาเขียนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น
เราเพิ่งรู้ว่าชีวิตที่ไม่มีใคร ชีวิตที่มีแค่พ่อกับแม่และครอบครัวของเรา ก็พอแล้ว
เรากลับมารักคนที่รักเราจริงๆดีกว่า
ขอบคุณค่ะ
"รักครั้งแรก" เจ็บปวดซ้ำๆ
ก่อนที่เราจะเล่าเรื่องราวของเราให้ได้อ่าน...เราตัดสินใจอยู่นานเหมือนกัน เพื่อนก็ห้ามไม่ให้เขียน แต่เราก็คิดว่าบางทีเรื่องของเราอาจเป็นกำลังใจให้ใครอีกหลายคนก็ได้ แนะนำตัวก่อน เราชื่อ ตุ๊กตา เราเรียนโรงเรียนหญิงล้วนในชั้นมัธยม และเรียนมหาลัยใกล้บ้าน เรื่องราวความรักของเราเริ่มต้นขึ้นตอนรับน้อง ปี 1
********* ขอเล่าเนื้อเรื่องโดยย่อ ของการเจ็บแล้วไม่จำของเรา ************
ความรักของเราเริ่มต้นด้วยการมีรุ่นพี่ปี 3 มาตามจีบ ด้วยความที่เราไม่เคยมีแฟนมาก่อน บอกตรงตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยทันคนเท่าไหร่
แน่นอนเราก็ต้องตกหลุมรักเค้า ด้วยความที่รุ่นพี่คนนี้เอาใจใส่ ดูแล และสุภาพกับเรา เราก็เปิดใจและเริ่มทำความรู้จักกับเค้าเวลาผ่านไปเกือบปี เราก็มารู้ความจริงว่ารุ่นพี่คนนี้มีแฟนอยู่แล้ว
ความเจ็บปวดครั้งที่ 1 (รู้ความจริงว่าเค้ามีเจ้าของ)
แน่นอนตามสเต็ปผู้ชายเจ้าชู้ ก็มาแก้ตัวกับเราสารพัด บอกว่า "พี่เลิกกับเค้าแล้ว แต่เค้าไม่ยอมเลิกกับพี่" ..... ขอโทษ ให้เวลาพี่เคลียร์เรื่องนี้ก่อน /// และก็เข้าล็อคผู้หญิงใสๆที่เพิ่งมีความรัก ก็ต้องให้อภัย
เรื่องราวความรักก็ดำเนินต่อไป เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ก็ต้องเจอเรื่องราวแบบเดิมซ้ำๆ เพราะพี่เค้ามีผู้หญิงหลายคน เราเองเป็นคนที่เท่าไหร่ของพี่เค้าก็ไม่รู้ ด้วยความที่เราไปกลับบ้านทุกวัน ไม่ได้อยู่หอพักแบบที่คนอื่นๆเค้าอยู่กัน เพื่อนก็ต่างมาบอกว่า พี่เค้าเจ้าชู้ ควงผู้หญิง คนนั้นนี้ไม่ซ้ำ เราก็ได้แต่ฟัง (คือ ณ สถานการณ์นั้นเราคงรับฟังแต่คงไม่เชื่อ)
จนวันนั้นมาถึง (วันเกิดของเราเอง) พี่เค้าบอกว่าจะมาหาเราที่หอเพื่อน เราก็รอจนเลยเวลานัดมานานแล้ว โทรหาพี่เค้าก็ไม่รับสาย เราเลยชวนเพื่อนไปที่หอพักของพี่เค้า และสิ่งที่เราเห็นกับตาและได้ยินกับหูคือ พี่เค้าอยู่กับผู้หญิงของเค้าในห้องพัก (ผู้หญิงนุ่งกระโจมอกผู้ชายก็คงเปือยท่อนล่าง / พูดแบบหยาบๆคือมันเอากันอยู่) ไม่ต้องสืบว่าหลังจากนั้นเราทำอะไร...เราก็หันหลังสร้างกำแพง แล้วเดินจากมาแบบไม่ต้องมาขอโทษกันอีกเลย
ไม่น่าเชื่อ...เวลาผ่านไป 5 ปี เราเรียนจบ มาทำงานในกรุงเทพ โชคมันคงไม่ใยดีกับเรา เราต้องมาเจอเพื่อนพี่เค้า โชคก็เล่นตลก
เพื่อนพี่เค้าก็ไปบอกพี่เค้าว่าเรามาทำงานที่นี่ มันเลยทำให้เราได้คุยกัน เวลาผ่านไป 5 ปีแล้ว อารมณ์โกรธตอนนั้นเป็นยังไงไม่รู้ คงลืมไปหมดแล้ว รักแรกมันลืมยากจริงๆ
ความรักครั้งที่ 2 กับแฟนคนเดิมก็เกิดขึ้น
เราคบกันได้ 2 ปีกว่า ก็ตัดสินใจแต่งงาน (ก่อนหน้านั้นพี่เค้าแต่งงานมาแล้ว แล้วเลิกกันกับแฟนเค้า) ตอนแรกเราก็คิดว่ามันคงไม่มีเรื่องราวาเกิดขึ้นเหมือนกับอดีตที่ผ่านมาหลอก แต่ไม่เลย
**** เราแต่งงานกันได้ประมาณ 5-6 เดือน แล้วจังหวะเราไปทำงานต่างจังหวัด 1 อาทิตย์ ก่อนกลับจากต่างจังหวัดเราก็ต้องได้รับข่าวว่าแฟนของเรารถชน นี่คือความตกใจและความเป็นห่วงสุดขีด แต่คุณพระช่วยแฟนเราปลอดภัยไม่ได้รับการบาดเจ็บอะไรทั้งสิ้น แต่....ผู้หญิงที่นั่งไปด้วยบาดเจ็บสาหัส (เมื่อรู้ข่าวเราล้มทั้งยืนและไม่มีแรงทำงานอะไรเลยวันนั้น ตั้งสติก่อนกลับมาสุ้ทุกปัญหา) รถไม่มีประกันต้องซ่อมรถ 4 แสนบาท และต้องสะกดอารมณ์ เพราะไม่ให้คนเจ็บเอาเรื่อง เราต้องเป็นแม่พระไปเยี่ยมผู้หญิงคนนั้นถึงโรงบาล 2-3 ครั้ง
มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนแต่งงาน (ขอเล่าย้อนขึ้นไปนิดหน่อย) แฟนเราเค้าไปให้คึวามหวังผู้หญิงคนหนึ่ง จนผู้หญิงคนนั้นมาราวีเรา และทำทุกวิถีทางให้เรารู้เรื่องของเค้ากับแฟนเรา ยกตัวอย่างเช่น เอาผ้าพันคอของเราไปพาดคอและถ่ายรูปอัพเป็นรูปโปรไฟล์เฟสบุค ไปนั่งในรถแฟนเราและถ่ายรูป ส่งคริปเสียงหรือแม้แต่รูปกลุ่มเพื่อนที่ไปกับแฟนเรา จนเราจะไม่แต่งงาน สุดท้ายแฟนเราก็เลิกกับผู้หญิงคนนี้ แล้วมาแต่งงาน
ตลอดระยะเวลาที่เราแต่งงานกันมาเข้าปีที่ 3 มันก็จะมีเรื่องราวของผู้หญิงเข้ามาเรื่อยๆ จับได้บ้าง จับไม่ได้บ้าง เราอดทนมาโดยตลอดยอมเหนื่อยนั่งรถไปกลับกรุงเทพ-ราชบุรี ทุกวัน เพียงเพื่อคำว่าครอบครัว และทำทุกอย่างที่สะไภ้ของครอบครัวคนจีนจะทำได้ บอกเลยว่าเหนื่อยมาก สะไภ้คนจีน หรือ คนใช้ บางทีมันมีแค่เส้นบางๆเท่านั้น
และความเจ็บปวดครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น...จากที่เราจดทะเบียนสมรสเนื่องจากเหตุการณ์รถชน แฟนเราเค้าบอกว่านี่เป็นสิ่งการันตีว่าเค้าจะไม่ทำให้เราเสียใจอีก หลังจากที่เราช่วยกันปลดหนี้ 4 แสนภายใน 1 ปี เราก็ช่วยกันเก็บเงิน ซื้อรถใหม่ และมีเงินเก็บในบัญชีร่วมกันถึงไม่มาก แต่มันก็เป็นสัญญาณที่ดี เราเหนื่อยมาก เหนื่อยจนไม่มีเวลาคิดว่าเค้าจะมีใครอีกหรือเปล่า และเค้าก็ทำตัวดี ทำให้เราเชื่อใจเค้ามากขึ้น
ลักษณธนิสัยของเรา เวลาแฟนไปเที่ยวกับเพื่อน (แฟนเป็นคนมีเพื่อนเยอะ สังคมเลยเยอะตาม) เค้าจะเที่ยวบ่อย เราก็มองว่าเป็นเรื่องปกติเพราะก่อนแต่งงานเค้าก็เที่ยวแบบนี้ปกติ แรกๆเราก็ตามไปด้วยเกือบทุกที่ พักหลังมาเราทำงานหนักขึ้น และเหนื่อยกับการเดินทาง เราเลยไม่ค่อยได้ตามเค้าไปไหน และเราเองก็ไม่ค่อยโทรตาม ไม่โทรจิก คือแค่รู้ว่าไปไหน กับใคร กลับกี่โมงคือจบแค่นั้น
การเสียใจครั้งสุดท้าย!!!
เราจับได้ว่าแฟนเรามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โทรศัพเริ่มเปลี่ยนพาสเวิร์ดใหม่ ไม่ให้เรารู้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีความลับอะไร เลยวางแผนเพื่อจับให้ได้แบบคาหนังคาเขา เราก็สุ่มเดาพาสเวิร์ดโทรศัพท์โชคมันคงเข้าข้างเรา เราเดาถูก และเข้าไปตั้งค่าสแกนนิ้วเพิ่ม ทำให้เราสามารถสแกนนิ้วปลดระหัสไลน์ได้ และเข้าไปเห็นข้อความที่คุยค้างอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เซ้นต์มันบอกทันทีว่าใช่ เราก็ไม่รอช้า ก็พิมพ์ไปทันทีว่า "รู้มั้ยว่าคนที่คุณกำลังคุยด้วยเค้ามีครอบครัวแล้ว แต่งงานแล้ว" พร้อมแนบรูปถ่ายทะเบียนสมรสให้ดูด้วย
ทุกๆครั้ง เวลาเราจับได้แฟนจะเลิกกับผู้หญิง และเลือกเรา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ แฟนเราบอกว่าผู้หญิงคนนี้อายุไม่ถึง 18 และน้องขู่ว่าจะแจ้งความพากผู้เยาว์ หากแฟนเราเลิกกับน้องเค้า แล้วพอเด็กคนนี้รู้เรื่องทั้งหมด เด็กก็จะไปแจ้งความ (ตอนนั้นเราสติแตกมากทำอะไรไม่ถูกและห่วงแฟนเรามากคิดว่าเป็นความผิดตัวเองที่ไปบอกเด็กคนนี้ด้วยซ้ำ) แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย เป็นแผนเด็กทั้งหมดเด็กไม่ได้จะแจ้งความ เด็กแค่ทำให้แฟนเรากลัว
เราบอกให้แฟนเราเลิกกับเด็กคนนี้ซะ...คำพูดที่ได้ยินคือ "พี่เลิกกับน้องเค้าไม่ได้ พี่รักน้องเค้าไปแล้ว" เราหน้าชามากเหมือนโดนตบสัก 100 ครั้ง เรื่องราวมันรุนแรงขึ้นเพราะเรายังเข้าใจว่าเด็กจะแจ้งความ มันเลยทำให้เราตัดสินใจโกหกเพื่อไม่ให้เด็กแจ้งความเอาผิดแฟนเรา โดยการบอกว่าเราอ่ะท้อง เราบอกแค่กับเด็กเท่านั้น จนเด็กยอมใจอ่อนไม่แจ้งความเอาผิด เรื่องราวมันเหมือนจะคลี่คลาย แต่แฟนเราไม่หยุด ง้อเด็กคนนั้นตาอหน้าเรา โดยไม่แคร์เราเลยสักนิด เค้าบอกให้เรายอมรับเด็กคนนั้น ให้ต่างคนต่างอยู่ เค้าจะไม่เอาเด็กมาเกินหน้าเกินตาเราแน่นอน
คำถามคือ!!! ถ้าเป็นคุณ คุณจะตัดสินใจยังไง
เราเลิก....นัดวันหย่า แบ่งเงินฝากและทรัพย์สินบางส่วน และเดินออกมาจากชีวิตต่ำตมนั่นทันที จะบอกว่าเราใจร้อนก็ใช่ แต่เรามีเหตุผลพิสูจน์หลายอย่าง
ผู้ชายที่อยากมีลูกมาก พอรู้ว่าเราท้อง แต่เค้ากลับไม่ดีใจเลย เอาแต่จะง้อเด็กของเค้า ยังให้เราช่วยพูดช่วยง้อเด็กให้ด้วย เรารับไม่ได้ คนแบบนี้รักใครไม่จริง เค้ารักตัวเค้าเองมากกว่า ดังนั้นเราควรปล่อยให้เค้าไปมีชีวิตในแบบที่เค้าเลือก
ตอนนี้เราทำใจได้แล้ว เลยมาเขียนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น
เราเพิ่งรู้ว่าชีวิตที่ไม่มีใคร ชีวิตที่มีแค่พ่อกับแม่และครอบครัวของเรา ก็พอแล้ว
เรากลับมารักคนที่รักเราจริงๆดีกว่า
ขอบคุณค่ะ