ท้องไม่พร้อม

สวัสดีคะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อ เอ็ม (นามสมมุติ) ตอนนี้อายุ 26 ปี เรียนจบ ป.ตรี การบัญชี ขอมูลเบื้องต้นเอาแค่นี้ก่อนนะคะ เรือ่งที่จะเล่าต่อไปนี้เราไม่ได้คิดจะเล่าเพื่อให้ตัวเองเป็นนางเอกในเรือ่งะคะ แต่จะเล่าทั้งความรู้สึกจริง ๆที่เป็น บางคนอาจจะไม่ชอบแนวคิดของเรา เสนอแนะได้คะ แต่ขอบอกไว้ ณ ตรงนี้เลยว่า ใครที่ไม่เจอปัญหาแบบเราก็อาจจะมีความรู้สึกที่ต่างจากเราไป เริ่มเลยนะคะ
        เราเป็นเด็กใต้คนนึงที่พูดไม่เก่ง เรียนปานกลาง ไม่เด็นกิจกรรม ไม่มีความเป็นผุ้นำ คือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นผู้หญิงธรรมดามากไม่มีอะไรพิเศษ ไม่เคยมีความรัก จนมาเรียน ปวช. ได้เจอผช.คนนึง วิทยาลัยของเราจะแยกเด็กช่าง กับเด็กบริหารไว้คนละที่ ที่ ๆ เราเรียนเลยมีผช.น้อยมาก คะ ผช.ที่นี้ถือว่าเป็นทรัพยากรสำคัญ หล่อไม่หล่อ สาวจะกรี๊ดหมด เพราะมีน้อย ผช.ที่เราเจอคนนึงทำให้เราใจเต้นเพราะตอนที่เราหันไปที่เขาเผลอ ตาจ้องตากันพอดี ลองคิดดูสินคะคนแบบเราที่ไม่เคยมีใครสนใจอะไรเลย ก็มีความหวังอยู่เล็ก ๆ ว่าผช.คนนี้เห็นเราอยู่ไหนสายตาด้วยหรอ เราแอบชอบเขาคะ แต่ไม่เคยหวังอะไรเลยสุดท้าย เพือนเราแกล้งเราเอาเรื่องที่เราชอบเขาไปบอกเขา สุดท้ายผลนะหรอคะ โดนตอกหน้าหงาย ทั้งโดนด่า โดนดูถูก ว่าเราไม่สวย ไม่เจียมตัวเองเลย จนเราร้องไห้เสียใจจนตอนนั้นรู้สึกเกลียดผช.มาก ถึงขั้นว่า ก่อนจะจบปวช. 3 เกือบจะได้คบกับผญ.จิง ๆ แล้วแต่ว่า คือเราไม่ใช้ทางนั้นงะนะเลย No ดีกว่า แล้วเราก็มาเรียนมหาลัย
      เรามาเรียนมหาลัยแห่งนึง ซึ่งต้องมาอยู่หอพักอยู่แล้ว เรามากับเพื่อนอีกคนที่มีพี่ชายเรียนอยู่ที่นี้ก่อนแล้ว ตามประสาผช.เขาก็ถามว่าเพื่อนนอ้งสวยมั้ยอะไรประมาณนี้ คือเขาจริงจังถึงขั้นมาดูหน้าเราที่หอพักเรากับเพื่อนเลย แต่เชื่อมั้ยพอพี่ชายเพือ่นมาเห็นเรา เขาทำหน้าแบบผิดหวังแบบเห็นได้ชัดมาก มันทำให้ความมั่นใจของเราที่ไม่มีอยู่แล้วหายไปหมด จนติดลบ และคิดว่าเราตอ้งทำอะไรสักอย่างละ ให้ตัวเองดูดีจนไอผช.พวกนั้นต้องกลับมาจีบเราให้ได้
     เราทำทุกอย่างจริง ๆ ทั้งหัดแต่งหน้า การแต่งตัว ไว้ผมยาว ยืดผม ดูแลตัวเอง บำรุงทุกอย่างจนเชื่อไมคะว่า เวลาเราเดินไปไหนแล้วเจอผู้ชายอย่างน้อยต้องมีสัก 1 คนหันมาสนใจมองเรา  แต่เราก็หยิ่งคะ ไม่สนใจใครเลย เคยโดนดูถูกไว้มาก อย่าหวังจะได้ฟันง่าย ๆ จนวันนึง เราก็มาเจอผช.คนนึง ซึ่งเป็นคนจังหวัดเดียวกันคะ เขาก็มองเรานะแต่ก็ไม่เขาหาเราเหมือนคนอื่น ๆ คือยังวางตัวมั้ง จนเรารู้สึกว่าทำไมผช.คนนี้ไม่สนใจเราเลย เรายังขาดอะไรหรอ แต่ความที่เราเป็นคนบ้านเดียวกัน ก็สนิทกันเรือย ๆ เราเห็นความดีในตัวเขาเยอะ เห็นความเป็นสุขภาพบุรุษในตัวเขา แต่คนเรามีขอดีก็ต้องมีขอเสียใช่มั้ยคะ  แต่สุดท้ายยังไงเราก็คบกัน โดยที่พ่อแม่เรารับรู้คะ เรากับแฟนจะอยู่ห้องนั้นคะ(อันนี้พ่อแม่ไม่รู้อิอิ) แฟนเราพูดกับเราว่า จะไม่มีอะไรกับเราจนกว่าจะครบกันครบ 1 ปี แต่ก็อย่างที่ทุกคนคิด ผช.ก็คือผช. เขาก็ทำไม่ได้อย่างที่พูดหรอกคะ อ้อ ตอนคบกันกับแฟนเราอยู่ ปี 3 แล้วนะคะเราก็คบกันไปเรือ่ย ๆ แบบแฟนคนอื่นทั่วไป จนตอนปี 4 เรากับเพื่อนไปดูดวงที่วัดคะ พระวัดนี้ดูดวงแมนมาก ท่านทักเราว่า จะมีมารหัวขนรุ้จักคำว่ามารหัวขนมั้ย แล้วก็บอกเราว่า อย่าทำแทงเด็จขาด เราถามพระท่านเลยว่า เราจะจบพร้อมเพื่อนมั้ย ท่านก็บอกว่า จบนะจบ ตอนนั้นโล่งใจเปราะนึง เพื่อนก็ปลอบใจว่า อนาคตไม่แน่นอนหรอก อย่าคิดมาก จนเราเรียนจบคะ ป.ตรี บัญชีบัณฑิต แม่บังคับให้กลับไปทำงานที่บ้านเราก็กลับแต่ใจเราคิดถึงแฟนตลอดเวลาคนเคยอยู่ด้วยกันทุกวัน อ้อ แฟนเราเรียน 4 ปีไม่จบคะ ต้องต่อปี 5 เลยยังเรียนอยู๋ เราทำทุกวิถีทางที่จะได้กลับมาทำงานที่ที่เดียวกับแฟนเรียน และสุดท้ายก็ทำได้คะ เราก็เจอกัน อาทิตย์ละครั้ง จนเกิดเหตุไม่คาดคิด
         เรา   ท้อง   ตอนแรกเราก้อสงสัยว่าแปลก ๆ แต่เราก็เที่ยว กินเหล้า กับเพื่อนที่ทำงานเป็นปกติไม่สนใจอะไร จนเรารู้สึกว่าเริ่มมั่นใจแต่เราก็ยังกินเหล้าไม่ได้สนใจอะไร จน 3 เดือน เราก็ซื่อที่ตรวจมาตรวจ แล้วสุดท้ายก็รู้ว่าท้อง ตอนนั้นเข่าอ่อนคะ หน้าชา มือชา ร้องไห้ไม่ออกตอนตรวจอยู๋ห้องแฟนด้วยคะวันเสาร์อาทิตย์ เราเดินออกมานั้งที่โซฟาแบบหมดแรงบอกแฟนว่าเราทอ้ง แฟนทำหน้าชาเหมือนกันคะ เพราะเขาก็ยังเรียนอยู่ ในใจเราตอนนั้นคิดถึงแต่ตัวเองว่าเราพึ่งได้เที่ยวเองนะ เรายังไม่พร้อมแล้วใครจะเลี้ยง คลอดออกมาแล้วอนาคตเด็กงะ คือในหัวมันเครียดไปหมดแต่เราก็ยังไม่ทำอะไร เราบอกเพื่อนที่สนิทที่สุดเพื่อนก็เครียดกับเราแต่ก็พยายามปลอบใจเรา ตอนนั้นเป็นอะไรที่รู้สึกว่าปัญหามันรุมมาก คิดหมดทุกอย่างว่าถ้าที่ทำงานรู้เราก็จะลาออกเขาคงมองเราไม่ดีแน่ ๆ คงเอาเราไปนินทา แล้วพ่อแม่ ญาติเรางะ ตอนนั้นไม่มีความคิดว่าจะทำแท้งเลย แค่คิดหวังอยู่ในใจเล็ก ๆ ว่าถ้าอยุ่ ๆ แท้งเองเราคงไม่บาป เราเลยใช้ชีวิตปกติไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ตอนเราไปฝากท้องกับแฟนก็โดนพวกที่อยู่ในคลีนิกมอง เราก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร เราร้องไห้แทบทุกวันไม่รู้จะบอกแม่ยังไง คิดว่าแม่คงจะผิดหวังมาก พ่อคงเสียใจมาก คือเรายอมรับผิดทุกอย่างจนท้องเราเริ่มจะป๋องเราตัดสินใจเดินทางกลับบ้านไปบอกแม่แต่ตอนนั้นก็ยังดูไม่ออกหรอกคะเพราะเราชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ เราแม่ คำแรก ที่แม่บอกเรากลับมาคือ หรอ ..!!! (ทำหน้าชาชา) เราร้องไห้ แม่เดินมาหาเราแล้วก็กอดเราไว้แล้วบอกว่า ไม่เป็นไรลูก ท้องแล้วก็เลี้ยง ไม่ต้องร้อง ความรู้สึกเราคือ เสียใจหนักมากแม่ถามเราว่ากี่เดือน แม่ถามสุขภาพเรา แล้วแม่ก็โทรไปบอกพ่อ เพราะพ่อเราทำงานที่ กทม. พ่อเราไม่ว่าไรเราสักคำพร้อมกับย่ำคำที่ว่า พ่อเคยบอกลูกแล้วตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไงพ่อกับแม่ก็รับได้เสมอ แต่พ่อเครียดเรื่องญาติ ๆมากกว่าเพราะ ญาติพ่อเราเป็นข้าราชการ มีหน้ามีตาทั้งนั้น สุดท้ายเราได้แต่งงานตอนท้อง 5 เดือน ตอนนั้นเราก็เริ่มชินแล้วก็ดูแลตัวเองแบบแม่ทั่วไป เริ่มหาข้อมูลเรื่องลูก จากที่คิดว่าที่ทำงานจะรังเกียจก็เปล่าเลยทุกคนยินดี ช่วยดูแลเรา อย่างดี วันแต่งงานเราก็เจอศึกหนักเหมือนกัน กับแขกอยู๋ดีดี นึกสภาพคนท้องห้าเดือนนะคะ สภาพจิตใจจะเป็นยังไง แขกเดินมาแล้วลูบท้องพร้อมกับยิ้มแบบแปลก ๆ แล้วพูดว่า กี่เดือนแล้วละ ..!!! โชคดีที่เพื่อน ๆ เราอยู่ด้วยก็พยายามชวนเราคุยไม่ให้สนใจแขกคนนั้น
       จบวันงานไปได้ไม่กี่วัน แม่ก็มาเล่าให้ฟังอีกว่า มีคนแถวบ้านไปพูดกันว่า ดูไกล ๆ ก็สวยดี แต่ดุใกล้ ๆ 7 เดือนแล้ว แล้วหัวเราะเรา ตอนนั้นเราไม่ได้คิดว่าคนอื่นจะมองเรายังไง เราคิดว่าพ่อ แม่จะรุ้สึกยังไงทั้ง ๆ ที่เราโทษตัวเองมาโดยตลอด แม่พูดกับเราว่าช่วงนี้มิ้งค์อย่าพึ่งกลับบ้านนะลูก รอให้น้องโตสักหน่อย ให้คนลืม ๆ เรือ่งมิ้งค์แล้วค่อยกลับบ้าน ในใจถามว่าน้อยใจมั้ย คือไม่มีสิทธิ์น้อยใจงะ เขาไม่ว่าอะไรเราก็ดีมากมายแล้วเขาให้ทำอะไรเราก็ยอม สุดท้ายเราคลอดก็มาอยู่บ้านสามี ที่พึ่งเคยเจอพ่อแม่สามีวันแรกคือวันแต่งงานเลย หึหึ นึกสภาพสิ จะสนุกสนานมากแค่ไหน แต่ช่างเถอะไม่อยากเล่าช่วงนั้น พอครบกำหนดวันมาทำงาน เราไม่อยากมาเลยความรู้สึกหลายอย่าง เกร่งใจที่ต้องฝากลูกไว้กับเขา คิดถึงลูก กลัวคนอื่นดูแลลูกไม่ดีเท่าไร ถ้าเขาไม่สบายละ เขายังจำหน้าเราไม่ได้เลย เขาจะรักเรามั้ย คือคิดทุกอย่าง พอมาทำงาน แม่บอกเราว่า ถ้าเรามีรถเราจะพาลูกกลับไปบ้านได้ เชื่อมั้ยคะเราเก็บเงินทำทุกอย่างเพื่อนให้ได้รถมาเราใช้เวลาเป็นปีเก็บเงิน สุดท้ายเราก็ได้รถมา พาลูกกลับบ้านเราได้ เราดีใจมาก ไม่นานแฟนเราก็ สอบติดตำรวจคะ เลยพักเรื่องเรียนที่มหาลัยไปเลยเพราะเป็นตำรวจ ตชด.ต้องไปฝึก 15 เดือน ตอนนี้เขาบรรจุเป็นข้าราชการแล้วคะ เราจดทะเบียนกันแล้ว ลูกเราอายุได้ 2 ขวบเรามีความคิดจะซื้อบ้านที่นี้ที่เราทำงานแล้วตอนนี้เรากำลังจะได้บ้านคะเพือ่นพาลูกของเรา มาอยู่กับเราที่นี้ พอนึกย้อนกลับไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีตอนนี้เพราะแรงกดดันที่เราอยากให้ลูกเรามาอยู๋กับเรา อยากให้ลูกเราเป็นที่ยอมรับถึงจะเหนอืย หนอยเราสู้ตายคะ
       นี้เป็นประสบการณ์ท้องก่อนแต่งของเรา มันก็มีทั้งดีและร้ายอยากให้กำลังใจคุณแม่ที่กำลังเจอปัญหาไม่ว่าคนอื่นจะมองคุณยังไง คุณอึดอัดแค่ไหน อยากให้รู้คะว่า คุณไม่ได้เจอปัญหาแบบนี่คนเดียว เห็นมั้ยคะเราผ่านมันมาได้ ตอนนี้เรามีความสุขดีคะ ปัญหาที่ผ่านมามันทำให้เราแข็งแรงและพร้อมจะดูแลครอบครัวของเราแล้วจริง ๆ (ขอบคุณนะลูก)
      #ใครมีประสบการณ์เหมือนแบบนี้แนะนำการใช้ชีวิตได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่