ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....มีแต่เสียง...31/8/2017.../sao..เหลือ..noi

กระทู้คำถาม

กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม....แต่มีเสียง.........
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ


1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกัน
    แล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

                                                                                                               เธออย่าหยุดความฝัน ห้องเพลง 2 ปี (เนื้อร้อง ทำนอง ดนตรี ขับร้อง โดย MC มาริโอ้)
                                                คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป
ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพส
สิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลง
จึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น

สุขสันต์ตอนเย็นๆ นะคะ ....  สวัสดีเพื่อนๆ  ห้องเพลง
พลุโอ่งพลุโอ่งพลุโอ่ง พี่สาวเหลือน้อยรับหน้าที่  MC ค่ะพลุโอ่งพลุโอ่งพลุโอ่ง


วันนี้ พาไปดู  "พิพิธภัณฑ์ปลาหิน" มันเป็นยังไง  ไปดูกันเรื่องนี้ต้องขยาย

“พิพิธภัณฑ์ปลาหิน” อะเมซิ่งสุราษฎร์...เปลี่ยนหินให้เป็นปลา ดูช่างน่าทึ่ง!!!

ผลงานสร้างสรรค์งานแกะสลักปลาหินมากมายในพิพิธภัณฑ์ปลาหิน

  “ลุงทำประมงมานาน จับปลามามาก ความผูกพันของผมกับปลามันมีมานานแล้วและมากๆด้วย ผมจึงลืมปลาไม่ได้ เพราะปลานี่
แหละทำให้ผมสบายมาจนทุกวันนี้ เลยอยากตอบแทนบุญคุณของปลา จึงได้คิดสลักหินให้เป็นปลา และจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนรุ่นหลัง
ได้เรียนรู้ เพราะปลาหลายชนิดได้สูญพันธุ์ไปแล้ว”
      
       ลุงกิตติ สินอุดม กล่าวถึงแรงบันดาลใจ ในการนำหินมาสร้างสรรค์แกะสลักเป็นปลาและสัตว์ทะเลอีกหลากหลาย ก่อนจัดตั้งเป็น
“พิพิธภัณฑ์ปลาหิน”ขึ้นมา


จากความเพียรพยายามอันยาวนาน นำมาสู่พิพิธภัณฑ์ปลาหิน ผลงานสร้างสรรค์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์


       นับเป็นการเปลี่ยนหินให้เป็นปลาที่ดูน่าทึ่งกระไรปานนั้น


งานแกะสลักปลาหินที่ประดับอยู่ที่กำแพงพิพิธพัณฑ์ปลาหิน

“พิพิธภัณฑ์ปลาหิน” ตั้งอยู่ที่ ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งโดยคุณลุง“กิตติ สินอุดม”
ชายวัย 80 ปี ผู้มีพื้นเพเดิมเป็นคน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ก่อนที่จะย้ายตามบิดามาตั้งแต่วัยเยามาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่
อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อทำกิจการ “แพปลาสินอุดม” ที่เป็นทั้งชาวประมงและรับซื้อสัตว์ทะเลทุกชนิด
       
      

ปลาหินแกะสลักหลากหลายสายพันธุ์

อย่างไรก็ดี คนสมัยก่อนจะจับปลา จับสัตว์น้ำกันแบบพอเพียง พอกิน พอขาย ไม่จับปลาล้างผลาญแบบสมัยนี้ ที่ใช้เรืออวนลาก
อวนรุน ระเบิดปลา อวนลากคู่ ลอบตาถี่ ที่เป็นการทำลายทรัพยากรทางทะเลอย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ลุงกิตติบอกว่าต้องกำจัดสิ่ง
เหล่านี้ให้หมดไป ไม่อย่างนั้นทะเลไทยจะไม่เหลืออะไรให้คนรุ่นหลัง


ปลาในฝัน ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นแรกของลุงกิตติ

ด้วยความที่เป็นชาวประมงผูกพันกับปลาและสัตว์น้ำทะเลมาช้านาน ในปี พ.ศ. 2533 ลุงกิตติจึงได้ทดลองนำหินที่ไม่ใช่ประโยชน์
จากการก่อสร้างถนนมาแกะสลักเป็นรูปปลา เป็นหิน“ปลาในฝัน” ซึ่งเป็นงานแกะสลักปลาหินตัวแรกของลุงกิตติ โดยลุง
ใช้ความเพียรพยายามในการแกะสลักอยู่เป็นเดือน
       
       แต่ปัจจุบันถ้าจะแกะสลักปลาหินแบบนี้ลุงจะใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น


อุปกรณ์และขั้นตอนการแกะสลักปลาหิน

        แม้จะไม่มีพื้นฐานการเรียนด้านศิลปะหรือการแกะสลักจากที่ใดๆ แต่ลุงกิตติก็ใช้ฝีมือ ความเพียรพยายาม แรงกาย
แรงใจ แกะสลักปลาแต่ละตัวขึ้นด้วยความรักโดยจำจากประสบการณ์ในการพบเจอปลาแต่ละชนิดของลุง จากตัวแรกใน
ปี 2533 ก็มีตัวที่สอง สาม สี่ ฯลฯ ตามมาเรื่อยๆ
       
       

งานหินแกะสลักลวดลายสวยงามตามสีธรรมชาติของเนื้อหิน

        หลังลุงกิตติเกษียณตัวเองจากกิจการแพปลาแล้วให้ลูกๆรับช่วงต่อ แต่ด้วยความผูกพัน ความรักและหลงใหลในสัตว์ทะเล
ทุกชนิด ลุงกิตติจึงยังคงมุ่งหน้าทำในสิ่งที่รักต่อไป ด้วยการนำหินที่เหลือใช้ ไม่ว่าจะเป็นหินอ่อน หินทราย หินปูน หินแกรนิต
หินฟันม้า ฯ ที่แต่ละชนิดต่างก็มีคุณสมบัติและสีสันเฉพาะตัว ให้ลุงกิตติได้แกะสลักสร้างสรรค์เป็นปลาและสัตว์ทะเลอีกหลาก
หลายนานาชนิด
       
       วันนี้กว่า 27 ปี ผ่านมา ลุงกิตติได้ทำการแกะสลักหินเป็นรูปปลาและสัตว์น้ำทะเลอื่นๆอีกกว่า 3 พัน ด้วยกำลังกายและกำลัง
ทรัพย์ของตัวเอง

โถงจัดแสดงปลาหินหลากหลายชนิด

        แม้จะมีคนมาติดต่อของซื้องานแกะสลักปลาหินของลุงกิตติกันเป็นจำนวนมาก แต่ลุงแก“ไม่ขาย” เพราะตั้งปณิธาน
ไว้แน่วแน่ว่า จะนำรวบรวมปลาหินที่แกะสลักไว้มาจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ทั้งนี้ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณปลา และเพื่อให้เป็น
แหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เกี่ยวกับปลาและสัตว์ทะเลต่างๆ เพราะปลาหลายชนิดที่ลุงกิตติแกะสลักขึ้นจากประสบการณ์ตรงที่เคย
พบเจอด้วยตัวเอง วันนี้มีสูญพันธุ์หรือหายสาบสูญไปก็มาก
       
       ลุงกิตติ เล่าว่า จะทำอย่างไรให้คนรุ่นหลังได้รู้จักสัตว์ทะเลต่างๆให้มากขึ้น ตนจึงเลือกที่จะใช้ก้อนหินซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งแรง
คงทนถาวรคงสภาพอยู่ได้ยาวนาน มาลงมือแกะสลักหินเป็นรูปปลาและสัตว์ทะเลแต่ละชนิด โดยอาศัยความจำลักษณะของปลา
แต่ละตัวจากสมัยทำประมง

งานแกะสลักปลาหินหลากหลายสายพันธุ์

        งานนี้หากทำคนเดียว เก็บไว้ดูคนเดียว มันย่อมไม่เกิดประโยชน์มากนัก ลุงกิตติจึงได้นำปลาหินและสัตว์ทะเลหินที่
แกะสลักไว้มากมาย มาจัดตั้งเป็น “พิพิธภัณฑ์ปลาหิน”ขึ้นเพื่อให้คนทั่วไปได้ชม โดยมีการจัดแสดงอย่างเรียบง่ายแบบบ้านๆ
ในอาคารโถงโล่ง มีการจัดแสดงปลาหินไว้ทั่วบริเวณ มีการจัดวางเป็นกลุ่มๆ เช่น กลุ่มปลาน้ำจืด ปลาทะเล สัตว์น้ำทะเลอื่นๆ
กลุ่มปลาเล็กปลาน้อยตามปะการัง รวมถึงปลาที่ประดับไว้ตามรั้วกำแพงของพิพิธภัณฑ์
       
       หลายๆคนยกให้พิพิธภัณฑ์ปลาหินเป็นอะควาเรียมปลาหิน ที่อุดมไปด้วยปลาหินและสัตว์ทะเลหินๆต่างหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นปลาเก๋า ปลากะพง ปลาโอ ปลากระเบน ปลาฉลาม ปลาการ์ตูน กุ้ง หอย ปู ม้าน้ำ หมึก กุ้งมังกร แมงดาทะเล
ปลากระเบน กบ จระเข้ และอื่นๆอีกมากมาย

กลุ่มฝูงปลาการ์ตูน

        เรียกว่าถ้ารวมชนิดสายพันธุ์ปลาและสัตว์ทะเลแล้ว ในอะควาเรียมปลาหินแห่งนี้มีสายพันธุ์และชนิดของปลามากกว่าในท้อง
ทะเลอ่าวสุราษฎร์ในปัจจุบันเสียอีก ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าปลาหลายชนิดสูญพันธุ์จากอ่าวสุราษฎร์ไปแล้ว หรือบางชนิดก็เหลือน้อยมาก
อาทิ ปลาแก้ว ปลาโคบมัน ปลาจวดเทียน ปลาฉนาก ฉลามดอก ฯลฯ
       
      

งานแกะสลัก ที่แสดงให้เห็นถึงสีสันตามธรรมชาติของหินที่นำมาแกะสลัก

        วันนี้ลุงแกะสลักปลาและสัตว์ทะเลต่างๆไปมากมายเกือบแทบทุกชนิดแล้ว แต่ก็ยังมีปลาบางชนิดที่ลุงกิตติยังไม่ได้แกะสลัก
ก็อย่างเช่น ฉลามวาฬ หรือ วาฬ เพราะต้องใช้หินขนาดใหญ่ และต้องมีพื้นที่กว้างในการจัดแสดง โดยปลาบางตัวลุงกิตติใช้เวลา
แกะนานถึง 3 เดือน แต่บางตัวก็ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ส่วนตัวที่แกะสลักยากที่สุดก็เป็นพวกกุ้ง ปู ที่มีขา มีหนวดเยอะ เพราะจะ
แกะยาก เนื่องจากมีรายละเอียดเยอะ

กลุ่มปลา และหมึก


งานแกะสลักชุดอาหารพันปีทะเลจำลอง

        นอกจากนี้ลุงกิตติยังมีการกสลักหินเป็นขนม ของกิน อย่างเช่น ขนมถ้วยฟู ทับทิมกรอบ บัวลอยไข่หวาน ปาท่องโก๋
ปลากระป๋อง และผลงานชุด“อาหารพันปีทะเลจำลอง” ที่เป็นการแกะสลักหินเป็นเมนูอาหารทะเลต่างๆที่เราคุ้นเคย อย่างพวก
ปลา ปู กุ้ง หมึก แบบเสิร์ฟอยู่ในจานมาแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ ที่ดูน่ากินไม่น้อย
       
       สำหรับพิพิธภัณฑ์ปลาหินแห่งนี้ แม้ลุงกิตติจะแกะสลักขึ้นจากหินที่ไร้ชีวิต แต่ว่าลุงแกสามารถสร้างสรรค์ออกมาได้ดั่งมีชีวิต
       
       และผลจากความมุ่งมั่นตั้งใจ ความเพียรพยายามอันยาวนาน ทำให้ลุงกิตติได้รับการคัดเลือกให้เป็น “คนดี ศรีสุราษฎร์
อำเภอดอนสัก” ประจำปี 2555 เป็นอีกหนึ่งรางวัลของชีวิต

งานแกะสลักปลาหินและสัตว์ทะเลอันหลากหลาย

นี่เป็นอีกหนึ่งอะเมซิ่งสุราษฎร์ กับแหล่งรวมของดีที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในเมืองไทย เพราะปัจจุบันยังไม่เห็นที่ไหนมีการนำหิน
มาแกะสลักเป็นสัตว์ทะเลแล้วจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบนี้

ปลาตีน

        ด้วยของดีที่มีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นถึงเพียงนี้ ผมเห็นว่าทางผู้หลักผู้ใหญ่ในสุราษฎร์ฯ หรือผู้มีอันจะกิน นักการเมืองที่
ร่ำรวย น่าจะมาช่วยส่งเสริมพัฒนาพิพิธภัณฑ์ปลาหิน (แต่อย่าเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการการจัดแสดง
ป้ายชื่อสถานที่ รวมถึงทำป้ายให้ข้อมูลความรู้ต่างๆ และในอีกหลายเรื่อง เพื่อให้ที่นี่มีศักยภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่านี้
       
       เพราะพิพิธภัณฑ์ปลาหินนั้น มีของดี มีระดับความน่าสนใจ ที่มากกว่าแค่ในระดับท้องถิ่น มากกว่าในระดับจังหวัด
       
       แต่เป็นความน่าสนใจในระดับประเทศที่น่าทึ่งไม่น้อย
       
       นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ใครเมื่อผ่านมายัง อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

งานแกะสลักชุดปลาสามตัว

       
       
      “เห็นมัจฉา พรายพริ้ว บนริ้วหิน
       เจ้าโบยบิน จากทะเล สู่เคหา
       สลักเสลา เรือนร่าง กลางศิลา
       ใส่วิญญา เหมือนหิน มีวิญญาณ
       
       ชื่อกิตติ สินอุดม คมเชิงศิลป์
       ชายผู้มี จินตนา มหาศาล
       ภูมิปัญญา ระบือเลื่อง เฟื่องผลงาน
       ฝากตำนาน ปลาหิน คู่ถิ่นไทย”
       
       บทกลอนจาก พิพิธภัณฑ์ปลาหิน

ลุงกิตติ สินอุดม

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000088353

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=kseT6QH-p
ราชาปลาทู วาสนา สิทธิเวช

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่