ห้วงเวลาแห่งเทพนิยาย : Beauty and the Boss โฉมงามกับเจ้านายอสูร บทที่ 2

กระทู้สนทนา
ขอบคุณคุณ GTW คุณ Na(นะ) คุณ Lady Star 919 ที่เข้ามาอ่านนะคะ

คุณ ปลาดาวค้างฟ้า  -- ฉบับถัดไปมาอย่างรวดเร็วค่า ^^

คุณ GTW -- เพิ่งทราบว่าอาจารย์จีอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นด้วย แต่เรื่องที่พูดถึงไม่เคยได้ยินเลยลองไปหาดู เจอภาพแล้วแทบกรี๊ด (น่ากลัวอ่ะ) มิน่าไม่รู้จัก ไม่ใช่สไตล์ที่อ่านเลยค่ะ กลัวอ่านแล้วฝันร้าย >__< ส่วนคำสาปฟาโรห์สนุกค่ะ แต่เก็บขึ้นหิ้งเช่นกัน ความจำเสื่อมบ่อยมากจนคนอ่านแทบจะความจำเสื่อมตามแครอลไปแล้วอ่ะ

ลิ้งค์ตอนก่อนหน้านี้ค่ะ

บทที่ 1 http://pantip.com/topic/36820863

===========================================

3 ตุลาคม


ขอบใจสำหรับจดหมายสามหน้ากระดาษของโกโตะนะจ๊ะ

ตอนได้รับจดหมายจากโกโตะ งามแปลกใจมากที่เจอจดหมายหนาขนาดนี้ พอเปิดดูถึงได้รู้ว่าโกโตะตอบจดหมายของงามทั้งสองฉบับเลย

ดีใจนะจ๊ะที่โกโตะชอบหนังสือรวมภาพที่งามส่งไปให้ อุตส่าห์หวังไว้เลยนะเนี่ยว่าจะได้เจอภาพหนังสือนอนตะแคงในตู้ปณ. เสียอีก แต่กลายเป็นว่ามีแค่ใบแจ้งให้ไปรับที่ข้างในไปรษณีย์เสียนี่...ไม่สนุกเลย

ตอนเปิดซองจดหมาย งามได้กลิ่นหอมฟุ้งพุ่งมาจากกระดาษเลยจ้ะ โกโตะฉีดน้ำหอมกระหน่ำยิ่งกว่างามอีกนะนี่

เพิ่งรู้ว่าโกโตะชอบน้ำหอมกลิ่นสปอร์ตแบบนี้ นึกว่าโกโตะจะชอบกลิ่นดอกไม้หวานๆ เสียอีก โกโตะแมนกว่าที่งามคิดไว้มากเลย รู้สึกว่าตั้งแต่งามหายตัวไปสองปี โกโตะกลายเป็นคนแปลกหน้าไปเสียแล้ว แต่ไม่เป็นไรจ้ะ ถือว่าเราต้องเริ่มทำความรู้จักกันอีกครั้งหนึ่งเนอะ บางทีช่วงเวลาที่เราห่างกันก็มีเรื่องราวจะมาเล่าสู่กันฟังเยอะแยะเชียว

เรื่องซองจดหมายนั่น โกโตะให้เหตุผลแบบเดียวกับ The Boss เป๊ะ (งามแปลงเอาจ้ะ เมื่อมี The Beast…เจ้าชายอสูรแล้วไซร้ ทำไมจะมี The Boss เจ้านายอสูรอีกสักคนไม่ได้...หึ หึ) ถ้าซองใหม่เอี่ยมกับเห็นเทปใสไร้รอยขีดข่วนแสดงว่ายังไม่มีใครทำอะไรกับเอกสารข้างในทั้งนั้น

ก็สมเหตุสมผลอยู่นะโกโตะ แต่งามเห็นด้วยกับวิธีนี้ก็เฉพาะเอกสารลับเฉพาะเท่านั้น ถ้าไม่ใช่ความลับแล้วทำไมจะต้องมาใส่ใจกับใครสักคนแกะมันออก เพราะไม่มีผลอะไรเลย อย่างเช่น จดหมายเชิญไปร่วมเล่นกอล์ฟ หรืองานเลี้ยงเปิดตัวสินค้าทำนองนั้น

งามคัดง้างเรื่องนี้กับ The Boss ไปแล้วจ้ะ งามเริ่มเรียนรู้แล้วว่า ไม่มีประโยชน์อะไรกับการนั่งทำงานงกๆ แล้วเก็บความไม่พอใจไว้ให้แน่นอก คนเรายังไงก็ต้องทำงานด้วยกันก็ต้องปรับกันไป ไม่มีอะไรบัญญัติสักหน่อยว่าคนเป็นลูกน้องจะต้องปรับรับสภาพหัวหน้าเสมอไป หรือถ้าไม่พอใจงามมากๆ ก็แค่ไม่ต้องทำงานต่อ งามก็ถือว่าไม่ผิดอะไรต่อแม่ของงามด้วย จริงไหมจ๊ะ

พอ The Boss ได้ยินงามเถียงแบบนั้น พี่แกก็ทำหน้าตึงใส่ทันที แล้วก็บอกว่าเรื่องนี้เขาตัดสินเองว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ เขามีเหตุผลกับการกระทำของตัวเองเสมอ นี่เป็นความขัดแย้งแบบเปิดเผยครั้งแรกของเราสองคน (ปกติงามได้แต่แย้งเขาในใจ) เสร็จก็ให้งามกลับมาทำงานตามเดิม แล้วก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีก

งามไม่คิดจะพูดถึงมันอีกเหมือนกัน รู้สึกเรื่องที่ถกเถียงช่างเป็นเรื่องไร้สาระมากจ้ะ งามไม่จำเป็นต้องท้วงหรอกเพราะเงินค่าซองจิ๊บจ๊อยนั่นไม่ใช่เงินของงามเสียหน่อย สุดท้ายงามก็เลยปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นไปตามที่มันเป็น ไม่อยากเอาตัวขวางน้ำเชี่ยว...ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าแม่น้ำหญ่ายเอาแต่ใจเป็นที่สุด!

อย่างที่โกโตะว่า ทุกคนมีเหตุผลของแต่ละคน ตราบใดที่เราไม่ทราบว่าเขาคิดอะไรในใจก็ไม่ควรไปต่อว่าหรือตำหนิ งามเลยพยายามเอาอคติที่มีต่อเขาออกไปให้หมดแล้วมานั่งพิจารณาให้ถ่องแท้ แต่สิ่งที่ได้ก็คือ งามก็ยังอุตส่าห์มีเรื่องให้บ่นเขาในใจอยู่ดี อาจไม่ใช่เรื่องเหตุผลในหัวเขา แต่เป็นเรื่องที่เขาไม่ให้งามรับรู้สิ่งที่เขาคิดหรือสิ่งที่เขาต้องการต่างหาก

คนเราทำงานด้วยกัน มานั่งอมพะนำกัน หรือไม่ก็คิดว่าอีกฝ่ายเป็นนักทายใจที่หยั่งรู้ไปเสียทุกอย่าง แล้วแบบนี้จะรู้เรื่องหรือเปล่า ยิ่งงามต้องทำงานเป็นผู้ช่วยเขาแบบนี้ด้วยแล้ว งามนั่งทางในไม่ได้นี่ถึงจะได้เข้าใจเขาไปเสียทุกเรื่อง เขาคงลืมไปว่างามทำงานให้เขาไม่ถึงสองเดือนแท้ๆ เฮ้อ!

ปล่อยเรื่อง The Boss ไปดีกว่า งามไม่อยากหงุดหงิดอีก ยังไงก็ยังหนีไม่พ้นจนกว่าความอดทนของงามจะหมดลงจริงๆ

สำหรับเรื่องคินดะอิจิที่โกโตะบอก งามไม่เคยคิดถึงในแง่นั้นมาก่อนเลยจ้ะ งามจึงได้คำตอบทันทีว่าทำไมถึงหดหู่นักจนพาลจะวางหนังสือตั้งหลายครั้งหลายครา เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยว่า หนังสือสืบสวนสอบสวน เป็นเรื่องที่เขียนเพื่อให้คนอ่านสงสัยทุกคนรอบตัว ทุกคนมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนร้าย บรรยากาศรอบตัวต้องไม่ปกติสุขแน่ๆ

จะมีอะไรที่ทำให้ใครคนหนึ่งต้องการปลิดชีวิตคนนอกจากความแค้น และความเกลียดชัง

งามไม่เคยเสพงานเขียนที่อุดมไปด้วยความรู้สึกติดลบแบบนี้เลยจ้ะ หนังสือเล่มอื่นๆ อย่างมากก็มีความอิจฉาริษยา หรืออาจจะมีความแค้น แต่ไม่เคยรู้สึกถึงความมืดมนเท่ากับเรื่องสืบสวนสอบสวนเลย

เริ่มต้นเปิดเรื่องของฆาตกรรมในตระกูลอินุงามิ ตัวละครแต่ละตัวต่างก็เกลียดกันไปหมดจนงามไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือคนที่อยู่ในวงศ์วานเดียวกัน แล้วยิ่งไม่อยากเชื่อว่าจะมีใครเขียนพินัยกรรมเลือดที่เป็นชนวนให้เกิดเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ ถ้าไม่เกลียดชังคนที่มีชีวิตอยู่ขนาดนั้น แน่นอนว่าคนเขียนคงต้องสร้างแรงจูงใจให้เกิดการฆ่าล้างเกิดขึ้น ซึ่งนั่นทำให้งามรู้สึก...Sick...กับเรื่องเกินจะรับไหว

แต่โกโตะอาจจะถูกก็ได้ หนังสือทั่วไปมักจะตีแผ่ความดีงามซึ่งแท้จริงแล้วเหรียญมีสองด้าน เราไม่มีวันจะได้พบความดีงามตลอดเวลาในชีวิตจริง บางครั้งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ทางอ้อมที่จะได้เรียนรู้เบื้องลึก ความดำมืดในจิตใจของคน งามอาจจะเด็กกว่าโกโตะมากที่คิดว่าบางครั้งเราได้สัมผัสความรู้สึกแง่ลบอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแสวงหาประสบการณ์ทางอ้อมอย่างที่โกโตะว่าก็ได้มั้ง

งามขอเลือกหนีจากความเป็นจริง แล้วอ่านหนังสือที่ทำให้เรารู้สึกเป็นสุขเสียคงดีกว่า

งามใจอ่อนกว่าโกโตะมากเลยใช่ไหมจ๊ะ

บางทีอ่านจดหมายของโกโตะแล้ว งามคิดว่าโกโตะเข้าใจความรู้สึกของงามมากกว่าที่ตัวเองรู้เสียอีก แล้วก็ขอบใจนะจ๊ะที่อุตส่าห์แนะนำเรื่องเชอร์ล็อค โฮมส์ให้ ถึงโกโตะจะพยายามบอกว่า แนวของโฮมส์จะต่างกับแนวคินดะอิจิโดยสิ้นเชิง มีเสน่ห์และไม่น่ากลัวเท่า แต่ตอนนี้งามอยู่ในอาการหลอนเหลือเกิน คงต้องขอหลบไปทำใจอีกสักพักหนึ่งเลยแหละจ้ะ

โกโตะคงได้เห็นดอกไม้แห้งที่งามส่งแนบมา งามอัดใส่หนังสือเอาไว้ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่จ้ะ ตอนนี้แห้งเป็นรูปเป็นร่างสวยเชียว ชื่อว่าดอก ‘กาซาเนีย’ จ้ะ งามเพิ่งเริ่มทำดอกไม้แห้งก็ตอนที่ไปเรียนนี่เอง ดอกไม้เมืองหนาวสีสันสวยดีจัง ยิ่งตอนฤดูใบไม้ผลิจะยิ่งสวยมากกว่าปกติ สำหรับงามแล้วเห็นฤดูหนาวเหมือนฤดูสวดศพเลย มีแต่ขาวกับดำน่าเบื่อ ปกติงามจะชอบขี่จักรยานมากก็มีแต่หน้าหนาวนี่แหละที่น่าเบื่อที่สุด พอเห็นใบไม้ผลิแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีเลย

ดอกกาซาเนียดอกนี้งามเก็บใจช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิเข้าฤดูร้อนของปีแรกที่งามใช้ชีวิตที่นั่น วันนั้นอากาศดีมากจ้ะ แทบไม่หนาวเลย งามชอบสีมากคงเพราะวันนั้นแดดดีเหลือเกิน สะท้อนจนกลายเป็นสีสดใส งามเก็บมาหลายดอกเลยแล้วก็วางอัดใส่หนังสืออย่างดี ก็เลยแบ่งให้โกโตะได้ชื่นชมด้วย แต่สภาพดอกคงดูไม่ค่อยออกแล้วว่าเป็นอย่างไร งามก็เลยส่งรูปดอกจริงของมันมาให้ดู

แต่รูปนี้ไม่ใช่ผลงานของงามหรอกนะจ๊ะ เจ้าของกล้องหนุ่มผมทองเขารู้ว่างามชอบดอกนี้เลยให้รูปมาเป็นของกำนัล งามก็เลยจัดการส่งมาให้โกโตะดูว่าฝีมือเขาเป็นยังไง

การได้เห็นดอกไม้สดๆ ขึ้นในสถานที่ที่ถูกควรแบบนี้ให้ความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ งามรำคาญใจมากเวลาได้ช่อดอกไม้มาเป็นของขวัญ ดอกไม้ก็ควรอยู่ในที่ของมัน หากมันจะโรยรามันก็ควรจะอยู่ใกล้ต้นของมันสิ ทำไมต้องไปพรากมันจากต้นก่อนเวลาอันควรด้วยนะ ทิ้งไว้กับต้นก็ทำให้สดสวยอยู่ได้นาน พอถูกเด็ดออกมาแล้วก็เฉาอยู่กับแจกัน...ไม่ใช่เรื่องเลยสักนิดเดียว

คนรอบข้างจะรู้เรื่องนี้ เขาก็เลยมักจะถ่ายรูปมาให้เป็นของขวัญมากกว่าเป็นรูปดอกไม้ งามก็เลยมีภาพดอกไม้เยอะแยะเชียว แต่เพิ่งจะทำดอกไม้แห้งก็คราวนี้เองจ้ะ เป็นผลิตผลจากดอกไม้ที่ร่วงหล่นบนดินตามธรรมชาติ หวังว่าโกโตะคงไม่ถือกับเรื่องนี้นะจ๊ะ



จากสาวน้อยผู้อยากเต้นระบำกลางทุ่งดอกไม้ (ถ้าไม่กลัวใครเขาว่าบ้าเสียก่อน)

ปล. ที่จริงงามก็อยากจะลองวาดดอกนี้เองดู แต่ฝีมือเรื่องวาดภาพที่ไม่ใช่การ์ตูนของงามมันสุดแสนจะไม่ได้เรื่องเลย พูดถึงเรื่องนี้ เมื่อไรโกโตะจะส่งรูปมาให้งามดูบ้างล่ะจ๊ะ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่