สวัสดียามเย็น ที่ฝนตกแทบจะทุกเย็นครับ
จบไปแล้วนะครับ กับ ซีเกมส์ครั้งนี้ เรารักษาแชมป์ ไว้ได้
ขอแสดงความยินดี กับทุกคนที่เกี่ยวข้องครับ ทั้งสต๊าฟโค๊ช สมาคม รวมถึงกองเชียที่อยู่มาเลเซีย และก็เชียอยู่ทางบ้าน ทุกท่านมีส่วนร่วมในความสำเร็จครั้งนี้ทุกคนครับ
----------------------------
บอลเด็กจบไป บอลผู้ใหญ่กำลังมา กับเกมส์ฟุตบอลโลก อีก 2 นัดที่เหลือ ในการพบกับ อิรัก และ ออสเตรเลีย ซึ่งตอนนี้ก็ประกาศรายชื่อออกมาแล้ว ก็คล้ายๆชุดเดิม เพิ่มเติม มี wonder kids โผล่มา 1 หน่อ
วันนี้ K-License สาขา ฝั่งธน เลยอยากเชิญชวนมาวิเคราะห์ เรื่องแผนการเล่น ที่จะพบกับทั้ง2 ทีม
วันนี้ เอาใกล้ตัวก่อน กับการเปิดบ้านเจอกับ อิรัก
ไทยกับอิรัก ถือว่าหมดลุ้น ในการไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องสภาพจิตใจคงไม่ต่างกันมากเพราะหมดลุ้น แต่ถึงอย่างนั้น อิรัก ห็เป็นทีมที่น่ากลัวสำหรับไทยอยู่ดี ( นัดแรกที่บ้านเขาโดนจัดหนักป 4 ลูก)
ประเมิณคู่แข่ง
อิรัก หลังจากยุครีบูท เล่นน่ากลัวเหลือใจ สายเลือดใหม่ก็เล่นได้ดุดันและทุ่มเท ทั้งโค๊ชคนใหม่ รอฏีย์ เชนไนชิล ก็ดึงความสามารถของผู้เล่นดาวรุ่งพวกนี้ออกมาได้เต็มที่
แผนการเล่นของอิรัก ยังคงยึดมั่นในระบบ 4-4-2 การคลองบอลปละการเข้าทำยังเน้นเจาะทางปีก ที่ลากเลื้อยได้สุดติ่ง เช่น อาลี อัดนาน ที่หลายๆคนรู้จัก ทางด้านซ้าย และอีกคนที่ลากเลื้อยและเปิดบอลได้เยี่ยมไม่แพ้กัน นั่นคือ อามัด ยาซีน ซึ่ง 2 คนนี้ ยังมีทีเด็ดในเรื่องยิงไกลทั้งคู่
ถึงจะเป็นบอลเจาะทางปีก แต่ก็ไม่ใช่บอลโยนบอมซะทีเดียว อิรักชุดนี้ มีการเข้าทำที่หลากหลาย เพราะการที่มีกองกลาง ที่ออกบอลได้แม่น ทำให้ อิรักสามารถสร้างสรรค์ เกมส์ได้ทั้งแนวลึกและแนวกว้าง นั่นคือจุดเด่นในแนวรุก
แต่แนวรับของอิรักถือว่ายังเป็นปัญหาพอควร เนื่องจากการเล่น4-4-2 ที่เน้นการกระจายโซน ทำให้มีพื้นที่ ระหว่างกองหลังและกองกลางพอควร อีกทั้ง คู่กลางของอิรักเป็นตัวทำเกมส์ ทั้งคู่ ทำให้พื้นที่ตรงนั้นกว้างขึ้นอีก ดังนั้นอิรักจึงโดนเจาะเสียประตู จากการเข้าทำตรงกลางได้
คู่เซนเตอของอิรัก แม้จะมีทั้งความแข็งแกร่งและความเร็ว ทั้งยังจัดการลูกคลอสได้ดี แต่ยังมีจะงหวะเข้าพลวดเยอะอยู่
**** ข้อสังเกตุ อิรักมีการเช้าทำหลากหลายมาก ทั้งพอถ่ายเลือดใหม่ เอาพวกชุด ที่ไปโอลิมปิกเข้ามาเสริม จะเห็นได้ว่า ทีมเวิร์คก็พัฒนาขึ้นมากเช่นกัน แต่แนวรับบริเวณกลางสนาม ยังคงเป็นจุดบอดเล็กๆ
**********
ส่วนทีมชาติไทย
ตัวผู้เล่นค่อนข้างสมบูรณ์ โดยขาดเพียง กลางรับ50ล้าน ธนบูรณ์ เจ-สารัช ??? (มุขนี้ขอสักหน่อย 555)
ซึ่งล่าสุดได้มีการอุ่นเครื่องกับ ออลสตาร์ไทยลีคไป เห็นว่ามีการซ้อมแผน 3-4-3 เข้ามาด้วย เพท่อเป็นทางเลือกทางแทคติก
ไทยในยุคราเยวัช นั้นเปลี่ยนแทคติกการเล่นบอลไทยไปพอควร จาก 4-3-3 ที้ใช้กลางรับ 1 ตัว เป็น complete midfild อย่างสารัช ตอนนี้เปลี้ยนมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 โดยใช้ กลางคู่ที่ยืนหน้กองหลัง 2 ตัว เป็นตัว stoper เล่รเน้นรับ อย่าง ธนบูรณ์ 1 คน และ MC แบบB2B อย่างฐิติพันธ์ ที่โชวฟอร์มได้โดดเด่น ทั้งเกมส์ ในKings cup และบอลโลกนัดเจอ UAE
ซึ่งในนัดนี้ ราเยวัช จะได้ขุมกำลัง ในแนวรุกกลับมาครบสมบูรณ์ ครั้งแรก ทั้ง มุ้ย เจ โด และการเติมดาวรุ่งอย่าง เจ้า เชกซ์ ของ บรร เข้าไปเป็นทางเลือก ทำให้แนวทางการเล่น ค่อนข้างที่จะหลากหลายกว่านัดก่อนๆ แน่นอน
แม้จุดเด่นทีมชาติไทยชุดนี้จะอยู่ที่เกมส์รับ แต่เกมส์รุกในนัดก่อนๆยังคงขาดมิติ การมี เจ มุ้ย โด เข้ามา น่าจะเพิ่มมิติ ตรงนี้ได้ แต่ก็อย่าลืมว่า การขาดไปของน๊อตชิ้นใหญ่ที่ช่วยขันเกมส์รับ อย่าง ตั้ม ธนบูรณ์ ราเยวัช จะหยอดใครลงมาเติม
###########
วิเคราะห์แผนการเล่นที่น่าจะใช้
....... แม้จะมีการซ้อมแผน 3-4-3 และให้สัมภาษณ์ว่า การใช้กองหลัง 3 คนน่าจะเหมาะกับทีมชาติไทย แต่ถ้าดูจากระยะเวลาเตรียมทีมและ แนวทางการเล่นตอนนี้แล้ว การเล่นระบบเดิม ในรูปแบบ 4-2-3-1 น่าจะเป็น แผนที่เพลเซฟที่สุด ทั้งในเรื่องเกมส์รับ และการปรับไปเล่นรุก และถ้ามาในแผนนี้ กองกลางที่น่าจะลงทำหน้าที่แทนตั้ม น่าจะเป็น วัฒนา ถ้าเจ้าตัวทำผลงานในการซ้อมได้ดี
ส่วนอีก2ตำแหน่งที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงคือ กลางรุก และกองหน้า ซึ่งคาดว่า มุ้ยและเจ น่าจะได้ลงเป็นตัวจริง แทนที่ อดิศักดิ์ และสรรวัช ซึ่งการได้มุ้ยกลับมานั้นเพิ่มมิติในการจัดตัวผู้เล่นแนวรุกอย่างมาก เพราะมุ้ยเป็นกองหน้า ที่ลงมาเล่นเป็นตัว playmaker ได้ ทั้งยังช่วยเล่นเกมส์รับได้ดีอีกด้วย
*** ใจอยากเห็น 3 แนวรุกเป็น
อุ้ม ------ ก๊อฟ-------มุ้ย
-------------เจ-------------
แต่ก็ต้องยอมรับว่า การจะขันแนวรับให้แน่นก่อน จ่าเย็น มงคล ยังคบเป็นจิ๊กซอที่ขาดไม่ได้ อีกอย่างแผนที่ผมอยากให้จัดนั้น ผมคิดว่า ก๊อฟต้องโดดเดี่ยวแน่ๆ เนื่องจากมุ้ยจะเด่น หากได้เล่นคู่กับแนวรุกที่สอดเข้าไปในเขตโทษได้เก่ง เพราะมุ้ยเองนั้นมีไสตล์ลงมา คอนโทรลยอลด้วยตัวเอง
ส่วนในเรื่องแทคติก (คหสต)
ในเรื่องเกมส์รับ
ไทยต้องเน้นการหยุดการเล่นเลี้ยงกินตัวของ อิรักในทันที ถึงจะเสียลูกตั้งเตะในระยะ 30 หลาบ่อยๆ ก็ต้องยอม ไม่งั้น 2 กองน้าของ อิรักจะทำการวิ่งตัดไลน์ ให้หัวปั่น การยืนโซนเราจะแตกแน่นอน
ไทยชุดนี้จัดการกับลูกคลอสได้ค่อนข้างดี ดังนั้น การบีบให้ อิรักเล่นบอลทางกว้าง ใฟ้เขาสวิชบอล หรือคลอสเข้ามา ก็น่าเป็นตัวเลือกของแผนเกมส์รับ
***** คาดว่าแบ๊คขวา อาจจะยังใช้ อดิศรอยู่เพื่อเพิ่มความชัวในเกมส์รับ แต่การมีโด นั่งสำรองก็ดีเหมือนกัน ในเรื่องการปรับแผน เมื่อต้องการให้แบ๊คร่วมเติมเกมส์รุก
นั้นนี้เป็นอีกบทพิสูจน์ ที่ว่าแนวรับไทยแข็งขึ้นแล้ว จะต่อกรกับทีมที่มีเกมส์รุกที่ ดุดัน และหลากหลายแบบ อิรักได้ไหม ....... ในยามที่ขาด ธนบูรณ์ แบบนี้ด้วย
ส่วนเกมส์รุก
แม้จะเพิ่งรวมตัวซ้อมกับเพื่อน ไม่นาน ทั้ง เจ มุ้ย โด แต่ก็ไม่น่ามีปัญหาในเรื่องทีมเวิค การประสานงานต่างๆในแนวรุกไม่น่ามีปัญหา
และอย่างที่บอก จุดอ่อนของ 4-4-2 ในรูปแบบของอิรัก คือ พื้นที่ระหว่างกองหลังและกองกลางของเขา รวมถึงการเข้าบอลที่โฉ่งฉ่างในบางจังหวะของ คู่เซ็นเตอร์ ดังนั้น ถ้านัดนี้ ไทยเน้นเจาะในแนวลึก โดยเจ เป็นศูนย์บัญาเกมส์ และต้องมีกองหน้า ที่ ฝังตัวอยู่ในพื้นที่อันตราย เราน่าจะเห็นอะไรดีๆในเกมส์รุกของไทย
และแผนการเล่น 3-4-3 จะเป็นทีเด็ดหรือไม่ ใครจะได้มีโอกาศลงสนาม เรามาร่วมวิเคราะห์แล้วก็ลุ้นไปด้วยกันนะครับ
#######
เอาละครับ จบไปแล้ว กับ K-License ทำงานวิเคราะเกมส์ ก่อนไทย พบ อิรัก
เพื่อนๆ ในห้องบอล คิดเห็นอย่างไร ก็ร่วมแสดงความคิดเห็น ได้นะครับ
### K-License- มาถกกันเล่นๆ แผนการเล่น ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ###
จบไปแล้วนะครับ กับ ซีเกมส์ครั้งนี้ เรารักษาแชมป์ ไว้ได้
ขอแสดงความยินดี กับทุกคนที่เกี่ยวข้องครับ ทั้งสต๊าฟโค๊ช สมาคม รวมถึงกองเชียที่อยู่มาเลเซีย และก็เชียอยู่ทางบ้าน ทุกท่านมีส่วนร่วมในความสำเร็จครั้งนี้ทุกคนครับ
----------------------------
บอลเด็กจบไป บอลผู้ใหญ่กำลังมา กับเกมส์ฟุตบอลโลก อีก 2 นัดที่เหลือ ในการพบกับ อิรัก และ ออสเตรเลีย ซึ่งตอนนี้ก็ประกาศรายชื่อออกมาแล้ว ก็คล้ายๆชุดเดิม เพิ่มเติม มี wonder kids โผล่มา 1 หน่อ
วันนี้ K-License สาขา ฝั่งธน เลยอยากเชิญชวนมาวิเคราะห์ เรื่องแผนการเล่น ที่จะพบกับทั้ง2 ทีม
วันนี้ เอาใกล้ตัวก่อน กับการเปิดบ้านเจอกับ อิรัก
ไทยกับอิรัก ถือว่าหมดลุ้น ในการไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องสภาพจิตใจคงไม่ต่างกันมากเพราะหมดลุ้น แต่ถึงอย่างนั้น อิรัก ห็เป็นทีมที่น่ากลัวสำหรับไทยอยู่ดี ( นัดแรกที่บ้านเขาโดนจัดหนักป 4 ลูก)
ประเมิณคู่แข่ง
อิรัก หลังจากยุครีบูท เล่นน่ากลัวเหลือใจ สายเลือดใหม่ก็เล่นได้ดุดันและทุ่มเท ทั้งโค๊ชคนใหม่ รอฏีย์ เชนไนชิล ก็ดึงความสามารถของผู้เล่นดาวรุ่งพวกนี้ออกมาได้เต็มที่
แผนการเล่นของอิรัก ยังคงยึดมั่นในระบบ 4-4-2 การคลองบอลปละการเข้าทำยังเน้นเจาะทางปีก ที่ลากเลื้อยได้สุดติ่ง เช่น อาลี อัดนาน ที่หลายๆคนรู้จัก ทางด้านซ้าย และอีกคนที่ลากเลื้อยและเปิดบอลได้เยี่ยมไม่แพ้กัน นั่นคือ อามัด ยาซีน ซึ่ง 2 คนนี้ ยังมีทีเด็ดในเรื่องยิงไกลทั้งคู่
ถึงจะเป็นบอลเจาะทางปีก แต่ก็ไม่ใช่บอลโยนบอมซะทีเดียว อิรักชุดนี้ มีการเข้าทำที่หลากหลาย เพราะการที่มีกองกลาง ที่ออกบอลได้แม่น ทำให้ อิรักสามารถสร้างสรรค์ เกมส์ได้ทั้งแนวลึกและแนวกว้าง นั่นคือจุดเด่นในแนวรุก
แต่แนวรับของอิรักถือว่ายังเป็นปัญหาพอควร เนื่องจากการเล่น4-4-2 ที่เน้นการกระจายโซน ทำให้มีพื้นที่ ระหว่างกองหลังและกองกลางพอควร อีกทั้ง คู่กลางของอิรักเป็นตัวทำเกมส์ ทั้งคู่ ทำให้พื้นที่ตรงนั้นกว้างขึ้นอีก ดังนั้นอิรักจึงโดนเจาะเสียประตู จากการเข้าทำตรงกลางได้
คู่เซนเตอของอิรัก แม้จะมีทั้งความแข็งแกร่งและความเร็ว ทั้งยังจัดการลูกคลอสได้ดี แต่ยังมีจะงหวะเข้าพลวดเยอะอยู่
**** ข้อสังเกตุ อิรักมีการเช้าทำหลากหลายมาก ทั้งพอถ่ายเลือดใหม่ เอาพวกชุด ที่ไปโอลิมปิกเข้ามาเสริม จะเห็นได้ว่า ทีมเวิร์คก็พัฒนาขึ้นมากเช่นกัน แต่แนวรับบริเวณกลางสนาม ยังคงเป็นจุดบอดเล็กๆ
**********
ส่วนทีมชาติไทย
ตัวผู้เล่นค่อนข้างสมบูรณ์ โดยขาดเพียง กลางรับ50ล้าน ธนบูรณ์ เจ-สารัช ??? (มุขนี้ขอสักหน่อย 555)
ซึ่งล่าสุดได้มีการอุ่นเครื่องกับ ออลสตาร์ไทยลีคไป เห็นว่ามีการซ้อมแผน 3-4-3 เข้ามาด้วย เพท่อเป็นทางเลือกทางแทคติก
ไทยในยุคราเยวัช นั้นเปลี่ยนแทคติกการเล่นบอลไทยไปพอควร จาก 4-3-3 ที้ใช้กลางรับ 1 ตัว เป็น complete midfild อย่างสารัช ตอนนี้เปลี้ยนมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 โดยใช้ กลางคู่ที่ยืนหน้กองหลัง 2 ตัว เป็นตัว stoper เล่รเน้นรับ อย่าง ธนบูรณ์ 1 คน และ MC แบบB2B อย่างฐิติพันธ์ ที่โชวฟอร์มได้โดดเด่น ทั้งเกมส์ ในKings cup และบอลโลกนัดเจอ UAE
ซึ่งในนัดนี้ ราเยวัช จะได้ขุมกำลัง ในแนวรุกกลับมาครบสมบูรณ์ ครั้งแรก ทั้ง มุ้ย เจ โด และการเติมดาวรุ่งอย่าง เจ้า เชกซ์ ของ บรร เข้าไปเป็นทางเลือก ทำให้แนวทางการเล่น ค่อนข้างที่จะหลากหลายกว่านัดก่อนๆ แน่นอน
แม้จุดเด่นทีมชาติไทยชุดนี้จะอยู่ที่เกมส์รับ แต่เกมส์รุกในนัดก่อนๆยังคงขาดมิติ การมี เจ มุ้ย โด เข้ามา น่าจะเพิ่มมิติ ตรงนี้ได้ แต่ก็อย่าลืมว่า การขาดไปของน๊อตชิ้นใหญ่ที่ช่วยขันเกมส์รับ อย่าง ตั้ม ธนบูรณ์ ราเยวัช จะหยอดใครลงมาเติม
###########
วิเคราะห์แผนการเล่นที่น่าจะใช้
....... แม้จะมีการซ้อมแผน 3-4-3 และให้สัมภาษณ์ว่า การใช้กองหลัง 3 คนน่าจะเหมาะกับทีมชาติไทย แต่ถ้าดูจากระยะเวลาเตรียมทีมและ แนวทางการเล่นตอนนี้แล้ว การเล่นระบบเดิม ในรูปแบบ 4-2-3-1 น่าจะเป็น แผนที่เพลเซฟที่สุด ทั้งในเรื่องเกมส์รับ และการปรับไปเล่นรุก และถ้ามาในแผนนี้ กองกลางที่น่าจะลงทำหน้าที่แทนตั้ม น่าจะเป็น วัฒนา ถ้าเจ้าตัวทำผลงานในการซ้อมได้ดี
ส่วนอีก2ตำแหน่งที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงคือ กลางรุก และกองหน้า ซึ่งคาดว่า มุ้ยและเจ น่าจะได้ลงเป็นตัวจริง แทนที่ อดิศักดิ์ และสรรวัช ซึ่งการได้มุ้ยกลับมานั้นเพิ่มมิติในการจัดตัวผู้เล่นแนวรุกอย่างมาก เพราะมุ้ยเป็นกองหน้า ที่ลงมาเล่นเป็นตัว playmaker ได้ ทั้งยังช่วยเล่นเกมส์รับได้ดีอีกด้วย
*** ใจอยากเห็น 3 แนวรุกเป็น
อุ้ม ------ ก๊อฟ-------มุ้ย
-------------เจ-------------
แต่ก็ต้องยอมรับว่า การจะขันแนวรับให้แน่นก่อน จ่าเย็น มงคล ยังคบเป็นจิ๊กซอที่ขาดไม่ได้ อีกอย่างแผนที่ผมอยากให้จัดนั้น ผมคิดว่า ก๊อฟต้องโดดเดี่ยวแน่ๆ เนื่องจากมุ้ยจะเด่น หากได้เล่นคู่กับแนวรุกที่สอดเข้าไปในเขตโทษได้เก่ง เพราะมุ้ยเองนั้นมีไสตล์ลงมา คอนโทรลยอลด้วยตัวเอง
ส่วนในเรื่องแทคติก (คหสต)
ในเรื่องเกมส์รับ
ไทยต้องเน้นการหยุดการเล่นเลี้ยงกินตัวของ อิรักในทันที ถึงจะเสียลูกตั้งเตะในระยะ 30 หลาบ่อยๆ ก็ต้องยอม ไม่งั้น 2 กองน้าของ อิรักจะทำการวิ่งตัดไลน์ ให้หัวปั่น การยืนโซนเราจะแตกแน่นอน
ไทยชุดนี้จัดการกับลูกคลอสได้ค่อนข้างดี ดังนั้น การบีบให้ อิรักเล่นบอลทางกว้าง ใฟ้เขาสวิชบอล หรือคลอสเข้ามา ก็น่าเป็นตัวเลือกของแผนเกมส์รับ
***** คาดว่าแบ๊คขวา อาจจะยังใช้ อดิศรอยู่เพื่อเพิ่มความชัวในเกมส์รับ แต่การมีโด นั่งสำรองก็ดีเหมือนกัน ในเรื่องการปรับแผน เมื่อต้องการให้แบ๊คร่วมเติมเกมส์รุก
นั้นนี้เป็นอีกบทพิสูจน์ ที่ว่าแนวรับไทยแข็งขึ้นแล้ว จะต่อกรกับทีมที่มีเกมส์รุกที่ ดุดัน และหลากหลายแบบ อิรักได้ไหม ....... ในยามที่ขาด ธนบูรณ์ แบบนี้ด้วย
ส่วนเกมส์รุก
แม้จะเพิ่งรวมตัวซ้อมกับเพื่อน ไม่นาน ทั้ง เจ มุ้ย โด แต่ก็ไม่น่ามีปัญหาในเรื่องทีมเวิค การประสานงานต่างๆในแนวรุกไม่น่ามีปัญหา
และอย่างที่บอก จุดอ่อนของ 4-4-2 ในรูปแบบของอิรัก คือ พื้นที่ระหว่างกองหลังและกองกลางของเขา รวมถึงการเข้าบอลที่โฉ่งฉ่างในบางจังหวะของ คู่เซ็นเตอร์ ดังนั้น ถ้านัดนี้ ไทยเน้นเจาะในแนวลึก โดยเจ เป็นศูนย์บัญาเกมส์ และต้องมีกองหน้า ที่ ฝังตัวอยู่ในพื้นที่อันตราย เราน่าจะเห็นอะไรดีๆในเกมส์รุกของไทย
และแผนการเล่น 3-4-3 จะเป็นทีเด็ดหรือไม่ ใครจะได้มีโอกาศลงสนาม เรามาร่วมวิเคราะห์แล้วก็ลุ้นไปด้วยกันนะครับ
#######
เอาละครับ จบไปแล้ว กับ K-License ทำงานวิเคราะเกมส์ ก่อนไทย พบ อิรัก
เพื่อนๆ ในห้องบอล คิดเห็นอย่างไร ก็ร่วมแสดงความคิดเห็น ได้นะครับ