ฉากปลุกปล้ำ ไซร้ซอกคอซ้ายขวา หรือฉากรุมจับนางเอกก่อนที่จะทำอะไรมิดีมิร้ายนั้นเป็นฝันร้ายของฉันอย่างยิ่ง
ฉันเห็นมันในละครไทยหลายเรื่อง เป็นเวลากว่าสิบปี ทันทีที่ฉันเห็นมัน ก็จะนึกถึงเหตุการณ์สมัยเด็กทุกครั้ง
........เพราะฉะนั้นฉันจึงไม่ชอบดูละครหลังข่าวเท่าไรนัก
ตอนนี้ฉันอายุยี่สิบกว่าปี จบการศึกษา มีแฟนแบบจริงจังครั้งแรก และวางแผนจะแต่งงาน
ฉันจะมาเล่าเรื่องในสมัยอนุบาล ซึ่งสื่อละครในตอนนั้นถือว่ามีอิทธิพลต่อทุกครัวเรือน กระทั่ง 'เด็ก' ก็ได้รับอิทธิพลนั้นด้วย
ย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ฉันเป็นเด็กหญิงน่าตาน่ารัก ผมเปีย ผิวขาว ตาโต
ความโดดเด่นนี้ทำให้มีรุ่นพี่เข้ามากลั่นแกล้ง เช่น ดึงผม หยิกแขน เป็นประจำ
ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่ได้บอกใคร เพราะไม่กล้า สักพักคนพวกนั้นก็หายไปเอง
เมื่อฉันโดนเด็กผู้ชายในห้องล่วงเกินทางเพศ
ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นเวลาพักเที่ยง เด็กทุกคนก็จะเล่นกันตามประสา โดยจะสวมบทบาทในการ์ตูน หรือ 'ละคร' ที่ดู
ก็เล่นตามปกติ จนกระทั่งมีกลุ่มเด็กผู้ชายในห้องลากฉันเข้าไปในตู้นอน (ตู้ขนาดใหญ่และกว้าง)
กระชากเสื้อให้กว้างแล้วผลัดกันไซร้ซอกคอฉัน โดยวิธีที่พวกนั้นทำนั้นเหมือนกับในละครไม่มีผิด
แต่ด้วยความเป็นเด็ก พวกเขายังไม่รู้ว่าเซ็กส์คืออะไร จึงได้แค่จับกด ไซร้ซอกคอ และ จูบปาก
ฉันได้แต่ร้องไห้ให้ครูช่วย แต่ไม่มีใครผ่านมา ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ฉันโดน เพราะผ่านมานานมากแล้ว
จำได้ว่า เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน ฉันจะหลีกหนีพวกเด็กผู้ชายมาตลอด
พยายามจะบอกเรื่องนี้กับผู้ใหญ่ ผลที่ได้คือแค่ ดุ ตักเตือนนิดๆ แล้วก็ให้มันผ่านไป คงคิดว่าเด็กเล่นกันตามประสา
เมื่อฉันโดนเด็กผู้ชายล่วงเกินครั้งที่ 2
ผ่านมาถึงช่วงประถม ฉันก็โดนแบบนี้อีกแต่ฮาร์ดคอร์กว่าเดิม เพราะฝ่ายชายมีการถกกางเกงและนำอวัยวะเพศออกมา
ลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ข้างบ้านเข้ามาเล่นที่บ้านฉัน และพยายามโน้มน้าวให้ฉันถอดกระโปรง แต่ด้วยความไม่รู้ประสาอีกแหละ
ฉันจึงยอมถอดอย่างง่ายดาย เพื่อแลกกับแท่งไฟเย็น
แต่ผู้ปกครองมาพบเข้าพอดี จึงจับแยกกัน และโดนตีหนักทั้งคู่ ในตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าต้องโดนตีเพราะอะไร ก็แค่อยากได้ไฟเย็น
การล่วงละเมิดทางเพศครั้งที่ 3
ไม่ขอเล่ารายละเอียด เพราะมันโหดร้ายพอสมควร
เกือบโดนตบจากบรรดาเด็กผู้หญิง ตอนประถม
อันนั้นค่อนข้างไร้สาระ เพราะมีเด็กผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดในชั้นมาชอบฉัน
เมื่อฉันเติบโตและเริ่มพินิจเรื่องราวได้แล้ว ทำให้คิดว่า เพราะอะไรถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
อาจเป็นเพราะละครทีวีที่ดู หรืออาจเป็นเพราะผู้ปกครองลืมเก็บแผ่นหนัง AV จนลูกหลานมาเปิดดู (ในสมัยก่อน)
ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็โทษเพียงสื่อไม่ได้ ตัวอย่างที่เลวร้ายจากสังคม ล้วนเป็นสิ่งที่หล่อหลอมระดับคุณภาพของเด็กในอนาคต
ทำไมถึงมั่นใจนักว่าสิ่งที่ฉันได้รับนั้น มีผลพวงมากจากสื่อ?
อันนี้ตอบง่ายมาก เพราะเด็กพวกนั้นอายุยังไม่ถึง 9 ขวบ กลับบ้านไปก็ดูละครกับพ่อแม่ รวมถึงตัวฉันด้วย
รวมถึงการปฏิบัติกับซอกคอซ้ายขวาสลับกัน ของเด็กๆ พวกนั้น ไม่ต่างจากในละคร (ฮ่าๆ)
เพราะในชีวิตจริง การเมคเลิฟมันก็ไม่ได้แข็งกระด้างขนาดนั้น
สุดท้ายนี้
การเพิกเฉยของผู้ใหญ่ทำให้ฉันเสียใจมาก
เด็กผู้ชายพวกนั้น ฉันทราบข่าวมาว่ามีลูกตอนอายุน้อย
เรื่องผ่านมานานมากแล้ว ฉันไม่ติดใจอะไร แต่กลับจำได้ดี
ฉันกลัวการมีลูก แต่ก็ไม่ได้รังเกียจผู้ชาย
อยากเล่าสู่กันฟัง และอยากทราบความคิดเห็น
ขอบพระคุณสำหรับพื้นที่นี้ ทำให้ฉันโล่งใจเมื่อได้พิมพ์เรื่องในอดีต
จากใจอดีต 'เด็กหญิง' ที่เคยตกเป็น 'เหยื่อ' ของเหยื่อ จากสื่อ
ฉันเห็นมันในละครไทยหลายเรื่อง เป็นเวลากว่าสิบปี ทันทีที่ฉันเห็นมัน ก็จะนึกถึงเหตุการณ์สมัยเด็กทุกครั้ง
........เพราะฉะนั้นฉันจึงไม่ชอบดูละครหลังข่าวเท่าไรนัก
ตอนนี้ฉันอายุยี่สิบกว่าปี จบการศึกษา มีแฟนแบบจริงจังครั้งแรก และวางแผนจะแต่งงาน
ฉันจะมาเล่าเรื่องในสมัยอนุบาล ซึ่งสื่อละครในตอนนั้นถือว่ามีอิทธิพลต่อทุกครัวเรือน กระทั่ง 'เด็ก' ก็ได้รับอิทธิพลนั้นด้วย
ย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ฉันเป็นเด็กหญิงน่าตาน่ารัก ผมเปีย ผิวขาว ตาโต
ความโดดเด่นนี้ทำให้มีรุ่นพี่เข้ามากลั่นแกล้ง เช่น ดึงผม หยิกแขน เป็นประจำ
ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่ได้บอกใคร เพราะไม่กล้า สักพักคนพวกนั้นก็หายไปเอง
เมื่อฉันโดนเด็กผู้ชายในห้องล่วงเกินทางเพศ
ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นเวลาพักเที่ยง เด็กทุกคนก็จะเล่นกันตามประสา โดยจะสวมบทบาทในการ์ตูน หรือ 'ละคร' ที่ดู
ก็เล่นตามปกติ จนกระทั่งมีกลุ่มเด็กผู้ชายในห้องลากฉันเข้าไปในตู้นอน (ตู้ขนาดใหญ่และกว้าง)
กระชากเสื้อให้กว้างแล้วผลัดกันไซร้ซอกคอฉัน โดยวิธีที่พวกนั้นทำนั้นเหมือนกับในละครไม่มีผิด
แต่ด้วยความเป็นเด็ก พวกเขายังไม่รู้ว่าเซ็กส์คืออะไร จึงได้แค่จับกด ไซร้ซอกคอ และ จูบปาก
ฉันได้แต่ร้องไห้ให้ครูช่วย แต่ไม่มีใครผ่านมา ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ฉันโดน เพราะผ่านมานานมากแล้ว
จำได้ว่า เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน ฉันจะหลีกหนีพวกเด็กผู้ชายมาตลอด
พยายามจะบอกเรื่องนี้กับผู้ใหญ่ ผลที่ได้คือแค่ ดุ ตักเตือนนิดๆ แล้วก็ให้มันผ่านไป คงคิดว่าเด็กเล่นกันตามประสา
เมื่อฉันโดนเด็กผู้ชายล่วงเกินครั้งที่ 2
ผ่านมาถึงช่วงประถม ฉันก็โดนแบบนี้อีกแต่ฮาร์ดคอร์กว่าเดิม เพราะฝ่ายชายมีการถกกางเกงและนำอวัยวะเพศออกมา
ลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ข้างบ้านเข้ามาเล่นที่บ้านฉัน และพยายามโน้มน้าวให้ฉันถอดกระโปรง แต่ด้วยความไม่รู้ประสาอีกแหละ
ฉันจึงยอมถอดอย่างง่ายดาย เพื่อแลกกับแท่งไฟเย็น
แต่ผู้ปกครองมาพบเข้าพอดี จึงจับแยกกัน และโดนตีหนักทั้งคู่ ในตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าต้องโดนตีเพราะอะไร ก็แค่อยากได้ไฟเย็น
การล่วงละเมิดทางเพศครั้งที่ 3
ไม่ขอเล่ารายละเอียด เพราะมันโหดร้ายพอสมควร
เกือบโดนตบจากบรรดาเด็กผู้หญิง ตอนประถม
อันนั้นค่อนข้างไร้สาระ เพราะมีเด็กผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดในชั้นมาชอบฉัน
เมื่อฉันเติบโตและเริ่มพินิจเรื่องราวได้แล้ว ทำให้คิดว่า เพราะอะไรถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
อาจเป็นเพราะละครทีวีที่ดู หรืออาจเป็นเพราะผู้ปกครองลืมเก็บแผ่นหนัง AV จนลูกหลานมาเปิดดู (ในสมัยก่อน)
ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็โทษเพียงสื่อไม่ได้ ตัวอย่างที่เลวร้ายจากสังคม ล้วนเป็นสิ่งที่หล่อหลอมระดับคุณภาพของเด็กในอนาคต
ทำไมถึงมั่นใจนักว่าสิ่งที่ฉันได้รับนั้น มีผลพวงมากจากสื่อ?
อันนี้ตอบง่ายมาก เพราะเด็กพวกนั้นอายุยังไม่ถึง 9 ขวบ กลับบ้านไปก็ดูละครกับพ่อแม่ รวมถึงตัวฉันด้วย
รวมถึงการปฏิบัติกับซอกคอซ้ายขวาสลับกัน ของเด็กๆ พวกนั้น ไม่ต่างจากในละคร (ฮ่าๆ)
เพราะในชีวิตจริง การเมคเลิฟมันก็ไม่ได้แข็งกระด้างขนาดนั้น
สุดท้ายนี้
การเพิกเฉยของผู้ใหญ่ทำให้ฉันเสียใจมาก
เด็กผู้ชายพวกนั้น ฉันทราบข่าวมาว่ามีลูกตอนอายุน้อย
เรื่องผ่านมานานมากแล้ว ฉันไม่ติดใจอะไร แต่กลับจำได้ดี
ฉันกลัวการมีลูก แต่ก็ไม่ได้รังเกียจผู้ชาย
อยากเล่าสู่กันฟัง และอยากทราบความคิดเห็น
ขอบพระคุณสำหรับพื้นที่นี้ ทำให้ฉันโล่งใจเมื่อได้พิมพ์เรื่องในอดีต