ทุกวันนี้ก็จะเห็นได้ว่าเด็กนนั้นพยายามที่จะสอบเข้า รร ที่มีชื่อเสียงมากมาย ซึ่งคนที่สอบเค้าได้ก็ดีไป ถ้าพูดง่ายๆคือเราเอาเด็กโรงเรียนชมพูฟ้ากับโรงเรียนบ้านหนองคลองบึง(นามสมมุติ) มายืนกันสองคน เเน่นอนครับคนก็ต้องให้ความสนใจกับโรงเรียนชมพูฟ้ามากกว่า ผมเลยมีเเนวความคิดที่ว่า "จะเป็นยังไง้ถาเด็กมัธยมต้นเเละปลายทุกคนเรียน รร. ที่มีเนื้อหาการสอนเดียวกัน" โดยจะมีการดำเนินงานดังนี้ ซึ่งปัจจุบันผมเห็นว่า เนื้อหานั้นก็ไม่ได้เเลจะเห็นว่าวัดความฉลาดตรงไหน มันก็เเค่วัดว่าทักษะการทำโจทย์มีมากเเค่ไหน,ไปเรียนพิเศษมาเยอะหรือเปล่าหรือเรียนก่อนล่วงหน้ามารึยัง ซึ่งที่จริงเเล้วชีวิตจริงเราไม่ได้ทำโจทย์นะครับ เเต่เรานำเนื้อหาส่วนนั้นเนี่ยมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น
1.ดันเด็กที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา Ex.เด็กที่อยู่กลุ่มธุรกันดารยากที่จะเข้าถึงตามป่าเขาประเภทนี้ มาเข้าระบบให้หมดโดยจัดหาที่อยู่ส่วนกลางให้เเละมี
ทุกอย่างเพรียบพร้อมโดยใช้ทุนของรัฐบาลเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนของเด็กกลุ่มนี้
2.ทำโรงดรียนต่างจังหวัดทุกโรงเรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ อทิเช่น สาธรณูปโภค,บุคลากร,อุปกรณ์การเรียน เเละอื่นๆ ให้เทียบเท่ากับ รร ในตัว
เมือง
3.
CLIMAX I !!! ทำตำราเรียนที่ใช้ทั่วกันทั้งประเทศโดยออกกฎว่า ห้ามสอนเกินหรือสอนขาดต้องสอนเฉพาะใน นส เล่มนี้เท่านั้น
4.
CLIMAX II !!! การคัดเลือกครั้งต่อไปจะใช้เป็นการเกลี่ยเด็ก คือ จากที่บาง รร มีเเต่เด็กเก่ง ก็จะต้องมีทั้งเก่งทั้งอ่อนรวมอยู่ใน รร เดียวกัน นั่นหมายความว่า ต่อให้เด็กสอบได้ O-net 100 เต็มก็มิได้หมายความว่าเด็กจะได้เรียน รร ชมพูฟ้า เเละในขณะเดียวกันเด็กที่ได้ต่ำท่สุดก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้เรียนที่ๆเเย่ที่สุด
5. ข้อสอบกลางภาคเเละปลายภาคจะออกโดยกระทรวงเท่านั้น!!!
6.ทำเนื้อหาที่ค่อนข้างได้ใช้ในชีวิตประจำวันหรือมีประโยชน์ต่ออาชีพนั้นๆในระดับพื้นฐานไม่ลึกจนเกินไป
จุดประสงค์***
1. จะลดข้อกังขาที่ว่า "อุ้ยเด็กคนนี้เรียน รร.xเก่งมากเเน่ๆเลย" "เด็กคนนี้เรียน รร.y อุ่ยไม่ได้เรื่องหรอก"
2. เพื่อให้มาตรฐานความรู้ทั้งเด็กในเเละนอกตัวเมืองมีความรู้ที่เท่ากัน ไม่เหลือมล้ำกัน
เนื่องจากว่า รร. เดี่ยวนี้ชอบยกเนื้อหาที่ไม่ใช่เนื้อหาในหลักสูตร เห็นได้จากข้อสอบๆเข้า รร.ดังๆ ที่นำเนื้อหาที่ไม่ได้เรียนอยู่ในระดับชั้นนั้มาออก
เช่นสอบ ป.6 ออก ม.1 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับคนที่ไม่เคยเรียนมาก่อน ก็จะทำข้อสอบไม่ได้ ซึ่งถ้าพูดกันตามตรง ข้อสอบนั่นเอื้อให้เด็กที่เรียน
พิเศษมาอย่างมาก เด็กที่เรียนเเต่ ใน รร ไม่มีทางทำได้เเน่นอน
3. เปลี่ยนความคิดของเด็ก จาดที่เมื่อก่อนถ้าเด็ก รร ต่างกันนเจอกันก็คงจะเเบบ"โหว รร นี้เลยเหรอวะ

ละ" เด็กก็จะตัดส่วนนี้ไปเพราะจะคิดว่า"รร.x
ละไงวะ ก็เรียนเหมือนกัน"
การศึกษาปัจจุบัน เก่งจริงหรือเเค่เรียนก่อน
1.ดันเด็กที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา Ex.เด็กที่อยู่กลุ่มธุรกันดารยากที่จะเข้าถึงตามป่าเขาประเภทนี้ มาเข้าระบบให้หมดโดยจัดหาที่อยู่ส่วนกลางให้เเละมี
ทุกอย่างเพรียบพร้อมโดยใช้ทุนของรัฐบาลเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนของเด็กกลุ่มนี้
2.ทำโรงดรียนต่างจังหวัดทุกโรงเรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ อทิเช่น สาธรณูปโภค,บุคลากร,อุปกรณ์การเรียน เเละอื่นๆ ให้เทียบเท่ากับ รร ในตัว
เมือง
3. CLIMAX I !!! ทำตำราเรียนที่ใช้ทั่วกันทั้งประเทศโดยออกกฎว่า ห้ามสอนเกินหรือสอนขาดต้องสอนเฉพาะใน นส เล่มนี้เท่านั้น
4. CLIMAX II !!! การคัดเลือกครั้งต่อไปจะใช้เป็นการเกลี่ยเด็ก คือ จากที่บาง รร มีเเต่เด็กเก่ง ก็จะต้องมีทั้งเก่งทั้งอ่อนรวมอยู่ใน รร เดียวกัน นั่นหมายความว่า ต่อให้เด็กสอบได้ O-net 100 เต็มก็มิได้หมายความว่าเด็กจะได้เรียน รร ชมพูฟ้า เเละในขณะเดียวกันเด็กที่ได้ต่ำท่สุดก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้เรียนที่ๆเเย่ที่สุด
5. ข้อสอบกลางภาคเเละปลายภาคจะออกโดยกระทรวงเท่านั้น!!!
6.ทำเนื้อหาที่ค่อนข้างได้ใช้ในชีวิตประจำวันหรือมีประโยชน์ต่ออาชีพนั้นๆในระดับพื้นฐานไม่ลึกจนเกินไป
จุดประสงค์***
1. จะลดข้อกังขาที่ว่า "อุ้ยเด็กคนนี้เรียน รร.xเก่งมากเเน่ๆเลย" "เด็กคนนี้เรียน รร.y อุ่ยไม่ได้เรื่องหรอก"
2. เพื่อให้มาตรฐานความรู้ทั้งเด็กในเเละนอกตัวเมืองมีความรู้ที่เท่ากัน ไม่เหลือมล้ำกัน
เนื่องจากว่า รร. เดี่ยวนี้ชอบยกเนื้อหาที่ไม่ใช่เนื้อหาในหลักสูตร เห็นได้จากข้อสอบๆเข้า รร.ดังๆ ที่นำเนื้อหาที่ไม่ได้เรียนอยู่ในระดับชั้นนั้มาออก
เช่นสอบ ป.6 ออก ม.1 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับคนที่ไม่เคยเรียนมาก่อน ก็จะทำข้อสอบไม่ได้ ซึ่งถ้าพูดกันตามตรง ข้อสอบนั่นเอื้อให้เด็กที่เรียน
พิเศษมาอย่างมาก เด็กที่เรียนเเต่ ใน รร ไม่มีทางทำได้เเน่นอน
3. เปลี่ยนความคิดของเด็ก จาดที่เมื่อก่อนถ้าเด็ก รร ต่างกันนเจอกันก็คงจะเเบบ"โหว รร นี้เลยเหรอวะ
ละไงวะ ก็เรียนเหมือนกัน"