สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆ วันนี้มีรีวิว ชิคๆชิลๆมาให้อ่านกัน เราจะพาไปที่ บ้านช้างทูน ต.บ่อไร่ จ.ตราด ตามพวกเรามาครับ ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรที่น่าสนใจ ที่หมู่บ้านนี้ ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า กิจกรรมนี้เราได้รับความอนุเคราะห์จาก ททท. และพันทิปดอทคอม เป็นแม่งานในการจัดกิจกรรมขึ้นมา ภายไต้แนวคิด “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” 2คืน 3วัน สีสันตะวันออก
การเดินทางมาที่บ้านช้างทูน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราดครอบนี้พวกเราได้มาเรียนรู้ วิถีชีวิตของชุมชน หมู่บ้านช้างทูน ที่เคยได้ยินชื่อมานาน เลยเลือกที่จะมาเส้นทางนี้ให้เห็นกับตาตัวเอง และได้ลงมือ สัมภัสแบบลึกซึ้ง บ้านช้างทูน นี้อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดตราด ประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านที่เน้นเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ และเค้าบอกว่าที่หมู่บ้านช้างทูนแห่งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวชอง ที่ได้อพยพมาจากเขมร และได้มาตั้งรกรากอยู่ที่ทางตะวันออกของประเทศไทย แถวจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ชาวชองมีภาษาพูดและวัฒนธรรมของตัวเองที่เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะชุมชน
พวกเราเดินทางมาถึงที่ “นิเวศพิพิธภัณฑ์บ้านช้างทูน” หมู่บ้านช้างทูนช่วงเที่ยงพอดี ก็ได้เวลา อาหารพอดี ที่บ้านช้างทูนนี้ มีเมนูอาหารขึ้นชื่อ อยู่อย่างหนึ่งคือ แกงไก่กล้วยพระ กินกับข้าวเหนียวมูลห่อใบละป้าง" คือ การใช้ข้าวเหนียวมาทำเป็นข้าวเหนียวมูนในการกินแทนข้าวเหนียวธรรมดา แต่ก็เป็นอะไรที่ลงตัว อย่างบอกไม่ถูก เรียกได้ว่ากินกันจนลืมอิ่มไปเลย เพราะข้าวเหนียวอร่อยหอมหวานมากๆทานคู่กับ แกงไก่กล้วยพระ ใช้ส่วนแกนกลางของกล้วยพันธุ์ที่เรียกว่า กล้วยพระมาทำ
โดยเจ้ากล้วยพระนี้ เป็นกล้วยที่ต่างจากกล้วยทั่วไป คือ ไม่มีหน่อในการสืบพันธุ์ แต่ใช้เมล็ดในการสืบพันธุ์เท่านั้น ทำให้ขยายพันธุ์ได้ช้า ชาวบ้านนิยมนำหยวกกล้วยพระมาทำ “แกงไก่กล้วยพระ” กินกับ “ข้าวเหนียวมูลห่อใบละป้าง” เมนูเด็ดพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงของบ้านช้างทูน โดยกล้วยที่นำมาปรุงแกงไก่นี้จะใช้ กล้วยที่เริ่มสาว ยังไม่มีดอก ด้วยการตัดต้น ลอกกาบกล้วยชั้นนอกๆออก เหลือแต่แกนใน นำมาตัดเป็นชิ้นๆ ลอกเยื่อออก นำไปใส่แกงไก่ มีรสชาติอร่อย ผลสุกของกล้วยพระ มีรสหวานไม่เท่ากล้วยน้ำว้า และมีเมล็ดอยู่ภายในผลจำนวนมาก ปัจจุบัน ชาวไทยเชื้อสายชอง เริ่มเห็นความสำคัญของกล้วยพระ เกรงว่าการตัดต้นกล้วยมาใช้ประกอบอาหารกันมากๆ จะทำให้กล้วยพระสูญพันธุ์ จึงเอาเมล็ดกล้วยพระมาขยายพันธุ์และนำมาปลูกไว้ในหมู่บ้าน ให้มีพันธุ์สำหรับปรุงอาหารต่อไป
https://www.youtube.com/watch?v=1IblIf0HqUw
กิจกรรมที่เราจะได้สัมผัส แบบเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง วันนี้มี 3 อย่างด้วยกัน มาเริ่มที่กิจกรรมแรก การร่อนหาพลอยในลำธารของหมู่บ้านช้างทูน
แต่เดี๋ยว!!!!!!! ก่อนที่เราจะไปร่อนพลอย ต้องเจอกับสิ่งนี้ก่อน พาหนะในการเดินทางของเรา เป็นการนั่งพาหนะ ประจำถิ่นนั่นก็คือๆๆๆ "ซาเล้งเจอร์"ไปที่ลำธารกันเพื่อทำกิจกรรมร่อนพลอย
โดยเส้นทางที่เข้าไปถึงลำธารเพื่อร่อนหาพลอยของหมู่บ้านนั้น ค่อนข้างลุยนิดๆจึงต้องอาศัยรถ "ซาเล้งเจอร์" ในการเดินทาง ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่ง เส้นทางที่เราเข้าไป เป็น ทางดินลูกลัง บางช่วงเป็นทางโรยด้วยหินกรวด บางช่วงเป็นทางปูซีเมนต์ สลับกันเป็นระยะ จนถึงริมลำธาร
มาที่กิจกรรมแรกกันเลย การร่อนพลอยแดง และการทำสปาโคลนขาว กิจกรรมแรกกันก่อน การร่อนพลอย กลางสายน้ำตามแบบฉบับของชาวชองโบราณ
โดยวิธีการ หาว่าที่ไหนในน้ำจะมีพลอยแดง ให้ดูจากการร่อนในครั้งแรก ถ้ามีก้อนพลอยเล็กๆหรือ ขี้พลอยติดขึ้นมา กับกรวด หิน ดิน ทราย แสดงว่าบริเวณนั้นๆ มีพลอยอยู่ การร่อนพลอยของชาวชองแบบดั้งเดิม คือ ชาวบ้านจะนำตระแกรงมาตักเศษหิน เศษทรายในน้ำ แล้วนำขึ้นมาร่อนบนผิวน้ำ
หากโชคดีเราอาจจะได้ พลอยสีแดงเม็ดใหญ่กลับบ้านไปเป็นของที่ระลึกก็ได้นะ
กว่าพวกเรา จะร่อนได้พลอยแต่ละเม็ด เล่นเอา เย็นก้นกันเลย ต้องนั่งแช่น้ำที่ไหลมาจากบนเขา พัดเอาตะกอน ดิน หิน กรวย พลอย มากับน้ำ ถึงตรงนี้ แต่ก็เป็นความสนุก ของพวกเราที่ได้เห็นการร่อนหาพลอย แบบใกล้ชิด ขนาดนี้ แต่แลกกับสิ่งที่ได้รับและรอยยิ้มเมื่อร่อนเจอพลอย ก็ทำให้หายเหนื่อยไปได้ พวกเราลองขอร่อนพลอยดูบ้าง แรกๆก็จะยากนิดๆ แต่แลกกับสิ่งที่ได้มา เราก็ยิ้มออกเหมือนกัน พลอยก้อนแรกในชีวิต ที่ร่อนได้เองกับมือ
หลังจากร่อนพลอยเสร็จ ที่บ้านช้างทูน จ.ตราด ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกสนานให้เราได้ลองทำกันครับ นั่นก็คือ การทำ “สปาโคลนขาว” ความพิเศษของสปาแห่งนี้ คือ การนำโคลนจากแม่น้ำของหมู่บ้านที่มีแร่พลอยผสมอยู่ มาผสมกับผงขมิ้น, ผงไพร และมะขามเปียกเล็กน้อย แล้วนำมาพอกตามใบหน้า หรือลำตัว ทิ้งไว้ 10-15 นาที พอโคลนแห้งดี ก็ล้างให้สะอาด สปาโคลนขาวของชาวชองแห่งนี้ จะทำให้ผิวพรรณผ่องใส มีน้ำมีนวล และดูเปล่งประกาย และถ้าใครติดใจผงโคลนขาวจะซื้อผลิตภัณฑ์ไปฝากคนที่บ้านหรือเพื่อนๆ ที่หมู่บ้านก็มีขาย แถมยังเป็นการช่วยกระจายรายได้ให้คนในชุมชนอีกด้วย
กิจกรรมที่ 2 สปาสุ่มไก่ มาเที่ยวชุมชนบ้านช้างทูน จังหวัดตราด ต้องห้ามพลาดกับการทำ “สปาสุ่มไก่ หรือ สปา เดอชอง” ตำรับโบราณที่ใช้สมุนไพรไทย และไม้หอมนานาชนิด เช่น มะขาม ขมิ้น ไม้เทพธาโร เกลือ น้ำมันกฤษณา มาอบตัวในสุ่มไก่ 10 – 15 นาที จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ฟื้นฟูสภาพอวัยวะภายในให้แข็งแรงกระชับ แล้วยังคลายปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดีเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ ที่เลือกใช้วัสดุจากท้องถิ่นมาทำให้เกิดรายได้ และยังเป็นเอกลักษณ์ของบ้านช้างทูนอีกด้วย
แค่ได้ลองเข้าไป ไม่ถึง 15นาที เราก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นสมุนไพร และไอร้อนที่หมุนวน อยู่ในสุ่ม รู้สึกฟินมากๆกับกิจกรรมนี้
ระหว่างที่เรากำลังฟินกับการทำ สปาสุ่มไก่ เพื่อนๆของเราก็ขมักเขม้น กับการ สานนก และปลา โดยคุณยายเจ้าถิ่น มาลงมือสอนทำแบบประชิดตัวต่อตัวกันเลย สนุกและเพลินดี กับกิจกรรมนี้
ฝีมือใช้ได้ ไม่รู้เพราะคุณยายช่วยหรือ พรสวรรค์ของเพื่อนเรา 5555
หลังจากสบายตัวแล้วก็ ได้เวลาหาความสดชื่น กับกิจกรรมที่ 3 ปิดท้าย นั่นก็คือ การทำยาดมสมุนไพรแบบบุฟเฟต์ คือเราชอบกลิ่นไหน ก็สามารถปรุงได้ด้วยมือของเราเอง เรียกว่าทำกันแบบ บุฟเฟ่ต์กันเลย อยากใส่อะไรมากน้อยตามใจเรา
โดยสมุนไพรที่นำมาใช้ทำยาดมก็คือ ดอกจัน กระวาน กานพลู พริกไทย ดีปลี หัวบัว และพิมเสน เมนทอล การบูร แถม ป้าๆน้าๆในชุมชนนั้นยังให้เราจดจำสูตรเพื่อไปลองทำเองเป็นอาชีพเสริมแบบไม่หวงสูตรกันเลยที่เดียว
เป็นอันเสร็จสิ้นหลังจากทำกิจกรรมเรียบร้อย พวกเราก็กราบลา ลุงๆน้าๆป้าๆ เพื่อเดินทางออกจากหมู่บ้านช้างทูนกันในช่วงเย็นๆเพื่อเสาะหา สถานที่สุดเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้งกันที่อื่นต่อ และจะมีกิจกรรม อะไรที่ไหนต่อไป รับรองสนุกมันส์ตื่นเต้นแน่นอน โปรดติดตามนะครับ
ฝากกระทู้ พากล้องท่องป่า ปลายฝน ต้นหนาว ดูดาว สันหนอกวัว"
VVV
VV
V
https://pantip.com/topic/35888927/
ติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวสนุกๆแบบ ชิคๆ ชิลๆ ได้ที่
>>>>>แฟนเพจ พากล้องท่องเที่ยว<<<<<
VVV
VV
V
https://www.facebook.com/Parklongtongtiew/
[SR] ท่องเที่ยววิถีไทย ตราด " หมู่บ้านช้างทูน " ยาดมบุฟเฟ่ต์ นั่งเก๋ๆร่อนพลอย เหงื่อไหลย้อยสปาสุ่มไก มันคืออะไร ?? ทำไมต้องมา
สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆ วันนี้มีรีวิว ชิคๆชิลๆมาให้อ่านกัน เราจะพาไปที่ บ้านช้างทูน ต.บ่อไร่ จ.ตราด ตามพวกเรามาครับ ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรที่น่าสนใจ ที่หมู่บ้านนี้ ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า กิจกรรมนี้เราได้รับความอนุเคราะห์จาก ททท. และพันทิปดอทคอม เป็นแม่งานในการจัดกิจกรรมขึ้นมา ภายไต้แนวคิด “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” 2คืน 3วัน สีสันตะวันออก
การเดินทางมาที่บ้านช้างทูน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราดครอบนี้พวกเราได้มาเรียนรู้ วิถีชีวิตของชุมชน หมู่บ้านช้างทูน ที่เคยได้ยินชื่อมานาน เลยเลือกที่จะมาเส้นทางนี้ให้เห็นกับตาตัวเอง และได้ลงมือ สัมภัสแบบลึกซึ้ง บ้านช้างทูน นี้อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดตราด ประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านที่เน้นเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ และเค้าบอกว่าที่หมู่บ้านช้างทูนแห่งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวชอง ที่ได้อพยพมาจากเขมร และได้มาตั้งรกรากอยู่ที่ทางตะวันออกของประเทศไทย แถวจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ชาวชองมีภาษาพูดและวัฒนธรรมของตัวเองที่เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะชุมชน
พวกเราเดินทางมาถึงที่ “นิเวศพิพิธภัณฑ์บ้านช้างทูน” หมู่บ้านช้างทูนช่วงเที่ยงพอดี ก็ได้เวลา อาหารพอดี ที่บ้านช้างทูนนี้ มีเมนูอาหารขึ้นชื่อ อยู่อย่างหนึ่งคือ แกงไก่กล้วยพระ กินกับข้าวเหนียวมูลห่อใบละป้าง" คือ การใช้ข้าวเหนียวมาทำเป็นข้าวเหนียวมูนในการกินแทนข้าวเหนียวธรรมดา แต่ก็เป็นอะไรที่ลงตัว อย่างบอกไม่ถูก เรียกได้ว่ากินกันจนลืมอิ่มไปเลย เพราะข้าวเหนียวอร่อยหอมหวานมากๆทานคู่กับ แกงไก่กล้วยพระ ใช้ส่วนแกนกลางของกล้วยพันธุ์ที่เรียกว่า กล้วยพระมาทำ
โดยเจ้ากล้วยพระนี้ เป็นกล้วยที่ต่างจากกล้วยทั่วไป คือ ไม่มีหน่อในการสืบพันธุ์ แต่ใช้เมล็ดในการสืบพันธุ์เท่านั้น ทำให้ขยายพันธุ์ได้ช้า ชาวบ้านนิยมนำหยวกกล้วยพระมาทำ “แกงไก่กล้วยพระ” กินกับ “ข้าวเหนียวมูลห่อใบละป้าง” เมนูเด็ดพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงของบ้านช้างทูน โดยกล้วยที่นำมาปรุงแกงไก่นี้จะใช้ กล้วยที่เริ่มสาว ยังไม่มีดอก ด้วยการตัดต้น ลอกกาบกล้วยชั้นนอกๆออก เหลือแต่แกนใน นำมาตัดเป็นชิ้นๆ ลอกเยื่อออก นำไปใส่แกงไก่ มีรสชาติอร่อย ผลสุกของกล้วยพระ มีรสหวานไม่เท่ากล้วยน้ำว้า และมีเมล็ดอยู่ภายในผลจำนวนมาก ปัจจุบัน ชาวไทยเชื้อสายชอง เริ่มเห็นความสำคัญของกล้วยพระ เกรงว่าการตัดต้นกล้วยมาใช้ประกอบอาหารกันมากๆ จะทำให้กล้วยพระสูญพันธุ์ จึงเอาเมล็ดกล้วยพระมาขยายพันธุ์และนำมาปลูกไว้ในหมู่บ้าน ให้มีพันธุ์สำหรับปรุงอาหารต่อไป
https://www.youtube.com/watch?v=1IblIf0HqUw
กิจกรรมที่เราจะได้สัมผัส แบบเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง วันนี้มี 3 อย่างด้วยกัน มาเริ่มที่กิจกรรมแรก การร่อนหาพลอยในลำธารของหมู่บ้านช้างทูน
แต่เดี๋ยว!!!!!!! ก่อนที่เราจะไปร่อนพลอย ต้องเจอกับสิ่งนี้ก่อน พาหนะในการเดินทางของเรา เป็นการนั่งพาหนะ ประจำถิ่นนั่นก็คือๆๆๆ "ซาเล้งเจอร์"ไปที่ลำธารกันเพื่อทำกิจกรรมร่อนพลอย
โดยเส้นทางที่เข้าไปถึงลำธารเพื่อร่อนหาพลอยของหมู่บ้านนั้น ค่อนข้างลุยนิดๆจึงต้องอาศัยรถ "ซาเล้งเจอร์" ในการเดินทาง ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่ง เส้นทางที่เราเข้าไป เป็น ทางดินลูกลัง บางช่วงเป็นทางโรยด้วยหินกรวด บางช่วงเป็นทางปูซีเมนต์ สลับกันเป็นระยะ จนถึงริมลำธาร
มาที่กิจกรรมแรกกันเลย การร่อนพลอยแดง และการทำสปาโคลนขาว กิจกรรมแรกกันก่อน การร่อนพลอย กลางสายน้ำตามแบบฉบับของชาวชองโบราณ
โดยวิธีการ หาว่าที่ไหนในน้ำจะมีพลอยแดง ให้ดูจากการร่อนในครั้งแรก ถ้ามีก้อนพลอยเล็กๆหรือ ขี้พลอยติดขึ้นมา กับกรวด หิน ดิน ทราย แสดงว่าบริเวณนั้นๆ มีพลอยอยู่ การร่อนพลอยของชาวชองแบบดั้งเดิม คือ ชาวบ้านจะนำตระแกรงมาตักเศษหิน เศษทรายในน้ำ แล้วนำขึ้นมาร่อนบนผิวน้ำ
หากโชคดีเราอาจจะได้ พลอยสีแดงเม็ดใหญ่กลับบ้านไปเป็นของที่ระลึกก็ได้นะ
กว่าพวกเรา จะร่อนได้พลอยแต่ละเม็ด เล่นเอา เย็นก้นกันเลย ต้องนั่งแช่น้ำที่ไหลมาจากบนเขา พัดเอาตะกอน ดิน หิน กรวย พลอย มากับน้ำ ถึงตรงนี้ แต่ก็เป็นความสนุก ของพวกเราที่ได้เห็นการร่อนหาพลอย แบบใกล้ชิด ขนาดนี้ แต่แลกกับสิ่งที่ได้รับและรอยยิ้มเมื่อร่อนเจอพลอย ก็ทำให้หายเหนื่อยไปได้ พวกเราลองขอร่อนพลอยดูบ้าง แรกๆก็จะยากนิดๆ แต่แลกกับสิ่งที่ได้มา เราก็ยิ้มออกเหมือนกัน พลอยก้อนแรกในชีวิต ที่ร่อนได้เองกับมือ
หลังจากร่อนพลอยเสร็จ ที่บ้านช้างทูน จ.ตราด ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกสนานให้เราได้ลองทำกันครับ นั่นก็คือ การทำ “สปาโคลนขาว” ความพิเศษของสปาแห่งนี้ คือ การนำโคลนจากแม่น้ำของหมู่บ้านที่มีแร่พลอยผสมอยู่ มาผสมกับผงขมิ้น, ผงไพร และมะขามเปียกเล็กน้อย แล้วนำมาพอกตามใบหน้า หรือลำตัว ทิ้งไว้ 10-15 นาที พอโคลนแห้งดี ก็ล้างให้สะอาด สปาโคลนขาวของชาวชองแห่งนี้ จะทำให้ผิวพรรณผ่องใส มีน้ำมีนวล และดูเปล่งประกาย และถ้าใครติดใจผงโคลนขาวจะซื้อผลิตภัณฑ์ไปฝากคนที่บ้านหรือเพื่อนๆ ที่หมู่บ้านก็มีขาย แถมยังเป็นการช่วยกระจายรายได้ให้คนในชุมชนอีกด้วย
กิจกรรมที่ 2 สปาสุ่มไก่ มาเที่ยวชุมชนบ้านช้างทูน จังหวัดตราด ต้องห้ามพลาดกับการทำ “สปาสุ่มไก่ หรือ สปา เดอชอง” ตำรับโบราณที่ใช้สมุนไพรไทย และไม้หอมนานาชนิด เช่น มะขาม ขมิ้น ไม้เทพธาโร เกลือ น้ำมันกฤษณา มาอบตัวในสุ่มไก่ 10 – 15 นาที จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ฟื้นฟูสภาพอวัยวะภายในให้แข็งแรงกระชับ แล้วยังคลายปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดีเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ ที่เลือกใช้วัสดุจากท้องถิ่นมาทำให้เกิดรายได้ และยังเป็นเอกลักษณ์ของบ้านช้างทูนอีกด้วย
แค่ได้ลองเข้าไป ไม่ถึง 15นาที เราก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นสมุนไพร และไอร้อนที่หมุนวน อยู่ในสุ่ม รู้สึกฟินมากๆกับกิจกรรมนี้
ระหว่างที่เรากำลังฟินกับการทำ สปาสุ่มไก่ เพื่อนๆของเราก็ขมักเขม้น กับการ สานนก และปลา โดยคุณยายเจ้าถิ่น มาลงมือสอนทำแบบประชิดตัวต่อตัวกันเลย สนุกและเพลินดี กับกิจกรรมนี้
ฝีมือใช้ได้ ไม่รู้เพราะคุณยายช่วยหรือ พรสวรรค์ของเพื่อนเรา 5555
หลังจากสบายตัวแล้วก็ ได้เวลาหาความสดชื่น กับกิจกรรมที่ 3 ปิดท้าย นั่นก็คือ การทำยาดมสมุนไพรแบบบุฟเฟต์ คือเราชอบกลิ่นไหน ก็สามารถปรุงได้ด้วยมือของเราเอง เรียกว่าทำกันแบบ บุฟเฟ่ต์กันเลย อยากใส่อะไรมากน้อยตามใจเรา
โดยสมุนไพรที่นำมาใช้ทำยาดมก็คือ ดอกจัน กระวาน กานพลู พริกไทย ดีปลี หัวบัว และพิมเสน เมนทอล การบูร แถม ป้าๆน้าๆในชุมชนนั้นยังให้เราจดจำสูตรเพื่อไปลองทำเองเป็นอาชีพเสริมแบบไม่หวงสูตรกันเลยที่เดียว
เป็นอันเสร็จสิ้นหลังจากทำกิจกรรมเรียบร้อย พวกเราก็กราบลา ลุงๆน้าๆป้าๆ เพื่อเดินทางออกจากหมู่บ้านช้างทูนกันในช่วงเย็นๆเพื่อเสาะหา สถานที่สุดเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้งกันที่อื่นต่อ และจะมีกิจกรรม อะไรที่ไหนต่อไป รับรองสนุกมันส์ตื่นเต้นแน่นอน โปรดติดตามนะครับ
ฝากกระทู้ พากล้องท่องป่า ปลายฝน ต้นหนาว ดูดาว สันหนอกวัว"
VVV
VV
V
https://pantip.com/topic/35888927/
ติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวสนุกๆแบบ ชิคๆ ชิลๆ ได้ที่
>>>>>แฟนเพจ พากล้องท่องเที่ยว<<<<<
VVV
VV
V
https://www.facebook.com/Parklongtongtiew/
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น