[CR] เวิร์คให้สุด แล้วหยุดที่ี "Walt Disney World" 2017 : เกริ่นนำ การเตรียมตัว แถมวันแรกที่ Disney Spring



                    สวัสดีครับ วันนี้ก็จะมารีวิวสวนสนุก(+รีสอร์ท)ของ Disney ที่ Orlando ซึ่งบอกเลยว่าตอนแรกเกือบจะไม่ได้ไปแล้ว มีโอกาสน้อยมากๆ ทั้งอยู่ไกล ค่าใช้จ่ายสูง แถมต้องใช้เวลาหลายวันถ้าอยากเก็บให้หมด ตอนแรกก็ไม่ได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับที่นี่ รู้จักแค่ Disneyland แถวบ้านเรา คือที่ฮ่องกงกับญี่ปุ่น (ซึ่งไปแล้วก็ชอบมากๆ) แต่ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาเจอเอเจ้นที่รับไป Work and Travel ที่สวนสนุกนี้เลย น่าสนใจมากๆ เลยสมัครไป ถึงสุดท้ายจะไม่ผ่านตอนสอบสัมภาษณ์ แต่ไปได้งานอื่นที่ New York แทน แต่ยังไงก็อยากไปอยู่ดี มาถึงที่ที่เป็น Original ของดิสนีย์ซะที เลยต้องไปทำการบ้านมาก่อน ทั้งจากกระทู้พันทิปที่มีคนเคยไป และจากในเวปอื่นๆ

                    เรื่องประวัตินี่อาจจะไม่ค่อยได้เขียนเท่าไหร่เพราะจำไม่ค่อยได้ด้วย ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ประสบการณ์การไปเที่ยวที่นู่นว่าได้เจออะไรมาบ้าง ค่าใช้จ่ายจริงๆ ก็จะมีค่าเข้าปาร์ควันละ 105 ดอล กับค่าที่พัก(ใช้ส่วนลดของเพื่อนที่ทำงานที่นั่น) ตกคืนละประมาณ 99 ดอล ซึ่งพอหารกันกับเพื่อนสามคนแล้วจะตกคนละไม่แพงมาก แถมได้สิทธิ์พิเศษเพราะพักที่โรงแรมเค้าแล้วก็คุ้มมากๆ เดี๋ยวจะลงรายละเอียดไว้ด้านล่าง

                    เรื่องเครื่องเล่นในสวนสนุกที่นี่ จะมีระบบ Fastpass ซึ่งเหมือนกับการจองคิวเครื่องเล่นไว้ พอถึงเวลา (ภายในช่วง 1 ชม.ที่ระบุไว้) ก็สามารถเข้าไปเล่นได้โดยไม่ต้องต่อแถว Standby ปกติ ทำให้ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก แทนที่จะต้องต่อแถวรอเล่นเป็นชั่วโมง ก็สามารถเข้าไปเล่นได้เลยโดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที สำหรับที่นี่เราสามารถจองได้ 3 เครื่องเล่นล่วงหน้าถึง 30 วันโดยจะต้องมีตั๋วเข้าปาร์คแล้วนำมาเชื่อมในแอพ (แต่ถ้าใครพักที่โรงแรมเค้าด้วย จะจองได้ 60 วันล่วงหน้า ทำให้มีโอกาสเลือกเครื่องเล่น แถมเวลาดีๆได้สะดวกขึ้น) แถมถ้าเล่นครบทั้งสามอย่างแล้ว ทันทีที่แตะบัตรเข้าเครื่องเล่นอย่างที่สามก็จะสามารถจอง Fastpass เครื่องเล่นต่อไปได้ทันที แต่ครั้งนี้จะเป็นทีละอย่างละ ต้องรอเล่นอันนี้ก่อนถึงกดจองอันต่อไปได้

    สำหรับใครที่สนใจพักในนั้น เรามาดูกันว่าจะได้อะไรบ้าง
1. Magic Band ไว้ใช้เข้าสวนสนุกแทนการพกบัตร, แตะที่เครื่องเพื่อเข้าช่อง Fastpass, ใช้จ่ายเงินภายในปาร์คได้ ซึ่งพอวันเช็คเอ้าถึงจะตัดเงินจริงๆ (เช็คยอดค่าใช้จ่ายได้ในแอพ), เป็น Room Key ใช้เข้าห้องพักได้เลย, ใช้ sync รูปที่ได้จากในปาร์คทั้งจากหลังเล่นเครื่องเล่น และช่างภาพ



2. ในบางวันจะมี Extra Magic Hour คือสามารถเข้าปาร์คได้ก่อนคนทั่วไป 1 ชั่วโมง หรืออยู่ต่อหลังปาร์คปิดต่อเป็นเวลา 2 ชั่วโมง (อย่างเช่นปิด 4 ทุ่ม เราก็สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ต่อถึงเที่ยงคืน)
3. Magic Express คือรถรับส่งมาที่พักจากสนามบิน รวมทั้งยังขนกระเป๋ามาให้ถึงห้องอีกด้วย วิธีการคือหลังจากลงทะเบียนแล้ว จะมี tag กระเป๋าส่งมา ให้เราเอาแท็กนั้นผูกกับกระเป๋าที่เราจะโหลด แล้วพอเครื่องลงที่ออแลนโดเราก็เดินออกมาเลย ไม่ต้องรอกระเป๋า เพื่อมาขึ้นรถไปดิสนีย์เวิร์ล แถมขากลับสนามบินก็ยังมีรถรับส่งด้วย แถมบริการตลอด 24 ชั่วโมง
4. รถรับส่งจากโรงแรมไปทุกพาร์ค อันนี้ก็คุ้มมาก เพราะมีบริการตลอดเลย

                    ทีนี้ก็มาเริ่มกันได้ หลังจากจองที่พักเรียบร้อยแล้ว เข้าไปในแอพ Disney World (ใน iOS เหมือนจะต้องเปลี่ยนสโตรเป็น US ก่อนนะ) ก็จะสามารถเลือกสีของ Magic Band ได้ แล้วเค้าก็จะส่งมาให้ (ตอนนั้นมีที่อยู่เป็น US เลยได้ของไวมาก ไม่ถึงสองอาทิตย์) คิดว่าถ้าใส่เป็นที่อยู่ในไทยก็ไม่น่าต่างกัน แต่ต้องรีบหน่อย อาจจะซัก 1 เดือนก่อนวันเที่ยว เพราะถ้าส่งไม่ทัน เค้าจะให้ไปรับที่สนามบินแทน รวมทั้งไปลงทะเบียน Magic Express เพื่อที่จะได้รับแท็กกระเป๋า

หน้าตาแท็กก็จะประมาณนี้ ตอนแรกได้แค่ของคนละอันเลยรีเควสเพิ่มไป ไม่ถึงสัปดาห์เค้าก็ส่งมาให้เพิ่ม



                    ส่วนเรื่องจอง Fastpass นั้น หลังจากที่ได้ซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกเรียบร้อยแล้วก็ให้เค้าไปในแอพ กดในเมนูเลือก Fastpass ได้เลย จะมีให้เลือกทั้งเครื่องเล่น และเวลา เราก็เลือกไปตามที่ต้องการ แต่แนะนำว่าให้เลือกให้เช้าที่สุด เพราะจะได้เล่นครบ 3 อย่างไวๆ หลังจากนั้นจะได้จองอันต่อไปต่อได้ ส่วนหน้าตาตอนเลือกแล้วจะประมาณนี้ จะมีบอกเวลาให้ว่าเราสามารถเข้าได้กี่โมง



ปล. รูปบางช่วงอาจจะไม่ได้ถ่ายมานะครับ แต่จะพยายามหารูปมาให้ จะได้ไม่ขาดตอน
ปล2. Wifi ที่นี่มีให้บริการแทบทั่วทุกพื้นที่เลย ดีมากๆ
ปล3. เรื่องการวางแผนเล่นเครื่องเล่นสำคัญอยู่นะ เดี๋ยวจะมารวบรวมไว้ให้ด้วย บางทีก็เอาเท่าที่มันว่างให้จองก็ได้ เพราะพอเอาเข้าจริงบางอันอาจจะคนน้อยตอนนั้นพอดี ก็โชคดีไป






สำหรับก่อนการเดินทางนั้น เค้าก็แนะนำให้แพคกระเป๋าโดยอย่าลืมเอา Magic Band ติดไปกับเป้ด้วย อย่าติดไปกับกระเป๋าที่โหลดขึ้นเครื่อง ไม่งั้นกว่าจะได้ใช้ Magic Band จะต้องรอเอากระเป๋าก่อน และอย่าลืมนำแท็กกระเป๋าของดิสนีย์ไปติดกับกระเป๋าที่จะโหลด เพราะเค้าจะได้เอากระเป๋าจากสนามบินไปให้ถึงห้องได้ถูก

เมื่อเครื่องลงแล้ว เราก็เดินออกมาที่ Main Terminal ได้เลย โดยจะต้องผ่านรถไฟเชื่อมต่อจาก Terminal อื่นไปก่อน ตอนเห็นแวบแรกรู้สึกว่ามันเท่มากๆ



พอใกล้ถึง ก็จะมีป้ายบอกทางไป Disney's Magic Express ก็เดินไปตามนั้นได้เลย



พอถึงแล้ว เค้าก็จะมีเจ้าหน้าที่อยู่เป็นจุดๆ เราก็แค่ไปเอาเมจิกแบนสแกน แล้วระบบก็จะจัดมาให้ว่าต้องต่อแถวไหน อย่างผมพักที่ Pop Century resort เค้าก็จะให้ไปต่อแถว 7 เพราะในแถวนั้นมีแต่คนที่พักที่เดียวกัน ตอนไปส่งก็จะสะดวกมากๆ ไม่ต้องแวะที่อื่นเลย ถึงภายในไม่เกิน 1 ชม. ในระหว่างทางก็จะมีจอทีวีในรถ เป็นวิดีโอแนะนำสถานที่ต่างๆ การเตรียมตัว

อันนี้ใกล้ถึงแล้ว คนขับก็จะบอกว่าเข้าเขตแล้วนะ ตอนนั้นยิ่งตื่นเต้นมากกก



อันนี้คือ Art of animation resort เป็นจุดแวะแรกก่อนถึงที่พักผม เพราะมันติดกันเลย แวะส่งคนประมาณครึ่งรถก่อน



และแล้วก็มาถึงโรงแรมที่เราจะพักกัน อาจจะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปด้านในโรงแรมนะครับ มาถึงก็รีบเดินไปที่ห้องเลย

โรงแรมนี้ตกแต่งในธีมยุคต่างๆ ทั้ง '50 ไปจนถึง '90



ตอนไปถึงรถก็มาส่งเราตรงหน้าทางเข้ารีสอร์ทเลย ยิ่งถ้าเราเชคอินออนไลน์เรียบร้อยแล้ว เค้าก็จะส่งรายละเอียดมาให้ทางอีเมล ว่าพักห้องอะไร ไปถึงจะได้ไม่เสียเวลาตรง lobby สามารถเดินไปที่ห้อง แล้วแตะ magic band เปิดประตูเข้าห้องได้เลย



หลังจากเหนื่อยมาตั้งแต่เช้า เพราะเพิ่งขึ้นเครื่องมาจากนิวยอร์ค เลยขอพักซักหน่อย  ซักพักไมเกิน 3 ชั่วโมงก็มีคนเอากระเป๋ามาให้ตามที่เราโหลดขึ้นเครื่อง ถือว่าไวอยู่นะ หลังจากนั้นก็ได้ตัดสินใจจะไป Disney Spring ก่อนเป็นที่แรก เพราะเริ่มเข้าปาร์คพรุ่งนี้ แล้ววันนี้ยังพอมีเวลาอยู่อีกหน่อย

วิธีไปก็ง่ายมาก จะมีบัสจากหน้าโรงแรมเลย เขียนป้ายว่าไปที่นู่นที่นี่ ไม่เกิน 20 นาทีก็ถึง



สำหรับ Disney Spring นั้นจะเหมือนเป็นแหล่งรวมร้านค้าต่างๆ ทั้งร้านอาหาร และช็อปหลายๆแบรน รวมถึงขายของ Disney ด้วย

ไปถึงก็จะมาไฮไลท์หลักๆเป็นร้านโค้ก ซึ่งก็ได้รวมโค้กหลายๆรสชาติทั่วโลกเอาไว้ ก็แปลกดี โดยจะเสิร์ฟมาเป็นถาด มีทั้งหมด 16 รส ราคาประมาณ 10 ดอล



แถมมีบอกด้วยว่าอันไหนเป็นอันไหน บางรสก็รู้สึกแปลกมาก ไม่อร่อยเลย 5555



หลังจากนั้นก็เดินเล่นอีกนิดหน่อย ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่เลยกลับมาที่โรงแรมเลย เพราะต้องเก็บแรงไว้ พรุ่งนี้ออกแต่เช้า แล้วก็เราสามารถตั้ง Morning Call ได้ผ่านระบบโทรศัพท์ได้เลย พอถึงเวลาปลุก ตอนเรารับสายก็จะได้ยินเสียง Mickey Mouse เป็นอะไรที่น่ารักมากกก

สำหรับตอนต่อไปจะแยกไปอีกกระทู้นะครับ https://pantip.com/topic/36821245
ชื่อสินค้า:   Walt Disney World Resort in Orlando, Florida
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่