เมื่อวันก่อนนั่งเคลียร์ไฟล์รูป แล้วพบภาพที่ถ่ายมุมต่างๆ ของบ้านที่อยู่ปัจจุบัน ไล่เรียงมาตั้งแต่มาดูบ้าน ทำสัญญา จนเริ่มต่อเติม จนถึงวันนี้สามปีกว่าแล้ว โซนหนึ่งในบ้านที่เราชอบมากๆ ก็ยังอยู่ดี และมีพัฒนาการทางด้านพรรณพืชเจริญงอกงามมากมาย ^^  จึงอยากแชร์ไอเดียต่อสำหรับคนที่กำลังแต่งบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังริม (หรืออยากจัดสวนใหม่บ้างไรบ้าง)


บ้านเราเป็นทาวน์เฮ้าส์ซอยสุดท้ายของโครงการ เลยได้พื้นที่เพิ่มหลังบ้านอีกหน่อย คือความกว้าง (หน้ากว้างทาวน์เฮ้าส์) 6.5 เมตร ลึก 4 เมตร ซึ่งบ้านแถวเดียวกันกับบ้านเรา ก็จะก่ออิฐกั้นเป็นครัว หรือไม่ก็ปลูกต้นไม้เพิ่มเป็นพื้นที่สวนหลังบ้านกันไป

    

โครงการนี้ เขาลงเสาเข็มหลักถึงตรงส่วนที่ปูกระเบื้องนั่นด้วย ทำให้ฐานรากแข็งแรงดีอยู่แล้ว ตอนแรกเราเองก็ว่าจะก่อผนัง ทำหลังคา สำหรับเป็นส่วนครัว เหมือนที่บ้านอื่นๆ เขาทำกัน (จริงๆ ก็ไม่ชอบหรอก แต่ก็ไม่มีไอเดียบรรเจิดไปมากกว่านั้น -_-“)


แต่แล้วก็มีผู้ออกแบบรายหนึ่งที่เพื่อนแนะนำให้รู้จัก นางเล่าว่าปกติเขารับงานบ้านเดี่ยวหรือไม่ก็แต่งโรงแรมร้านค้าไปเลย แต่หลังจากที่(บังคับให้)เพื่อนช่วยอ้อนไปหลายรอบ เราก็ได้คุยกับเขา เมื่อถ่ายรูปพื้นที่ส่งให้ดู เขาก็ให้ความหวังกลับมาว่า สามารถต่อเติมมุมนี้ให้ดูสวยแพง(ในราคาไม่แพง – ตามโจทย์เจ้าของบ้าน ^^)ได้ โดยจะลองออกแบบมาให้เราดูก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยมาว่ากันเรื่องราคา(พูดคำนี้แล้วรู้สึกใจมันหวิวหวิว)


สามวันผ่านไป(ไวเวอร์ชอบที่สุด) แบบร่างนี้ก็ส่งมาในไลน์ เห็นแล้วตกหลุมรักทันที ผู้ออกแบบบอกว่า ผนังและหลังคาส่วนที่ต่อเติม หากทำเป็นกระจกทั้งหมด จะช่วยให้ทาวน์เฮ้าส์ดูโปร่งกว้าง  OMG! นี่ทาวน์เฮาส์หลังน้อยของเรา จะมีกลาสเฮ้าส์กับเขาด้วยหรือนี่

แล้วก็มาถึงสิ่งนั้น ... ตัวเลขหลังแสนลอยวนเวียนในหัว กัดฟันถามไปให้จบจบว่างบเท่าไหร่ ย้ำว่าต้องไม่บานปลายด้วยนะคะ ขอเจ็บรอบเดียว (ในใจคิดสองแสนจะพอมั้ยว้า เอาฟระ พี่จะสู้เพื่อกลาสเฮ้าส์หลังน้อยนี้ T_T)

แล้วเราก็ต้องกรีดร้องอีกรอบเมื่อเห็นใบเสนอราคา เพราะมันถูกกว่าที่เราประเมินไว้เกือบครึ่ง!!! ถามย้ำให้ชัวร์ว่างบจะไม่บานปลายแน่ๆ นะคะคุณ เมื่อพูดคุยกันเป็นหลักฐานชัดเจนแล้ว ก็เริ่มเลยสิคะ อย่ารีรอค่ะ!!!



เนื่องจากเราบอกผู้ออกแบบไปว่า จะให้หมา 2 ตัวมาอยู่ในสวนหลังบ้านด้วย เขาก็เลยออกแบบให้ก่อปูนตรงผนังช่วงล่าง ป้องกันหมากระโจนใส่กระจก บาดเจ็บระนาว(แค่คิดก็เสียวใส้) แต่แล้วก็เปลี่ยนใจย้ายน้องหมา ไปอยู่หน้าบ้านแทน ก็เลยเปลี่ยนจากผนังปูนช่วงล่าง เป็นกระจกทั้งหมด จะได้ดูสวยขึ้นไปอีกกก(คิดเอาเอง อวยบ้านตัวเองทั้งสิ้น)

ช่างกระจกมีความทำงานเก็บละเอียดมาก เรื่อยๆ มาเรียงๆ วนเวียนมาทำทีละนิดทีละหน่อยรวมแล้ว 10 วัน (แบบไม่ต่อเนื่อง) สรุปว่ากว่าจะเสร็จก็ 1 เดือนพอดี แต่ช้าหน่อยก็คอยได้ เพราะผลลัพธ์ออกมาแบบ(เราคิดเองว่า)ดีงาม ถูกใจเจ้าของบ้านที่สุด


เมื่อตัวเรือนกระจกเสร็จ งานสวนก็มาต่อทันที เราเลือกเอาต้นไทรเกาหลี และไทรอินโด สูง 3 เมตร มาลงเลย (ไม่อยากรอโต ใจร้อน) พร้อมต้นไม้ไทยๆ อย่าง พยอม ประยงค์ (บ่งบอกวัยได้ประมาณหนึ่ง) ส่วนพื้นก็ปูอิฐมอญ สลับหินกรวดบ้าง ตามแต่ที่เราชอบ  #มันก็จะดูมั่วๆ หน่อย




ส่วนผนัง ก็ไปเลือกกระเบื้องที่บุญถาวรเอง เลือกอยู่ครึ่งวัน (สำหรับการปูผนังประมาณ 10 ตารางเมตร -_-“)  #คนรักบ้านจะเข้าใจในจุดนี้


จากนั้นก็ติดชั้นสแตนเลสจาก ikea สำหรับวางเครื่องครัวจาก ikea เช่นกัน


หันกลับมาจัดสวนตามชอบกันบ้าง พอดีบ้านเก่าเรามีโต๊ะไม้สัก ที่วางในบ้านแล้วดูไม่เข้ากับอะไรทั้งสิ้น ก็เลยยกมาแต่งสวนซะเลย (เพราะเข้าใจเอาเองว่า ปลวกไม่กินไม้สัก และไม้เก่าทนน้ำทนฝนได้ ซึ่งก็จริงนะคะ เราตั้งแบบนี้มา 3 ปีกว่าแล้ว สภาพก็ยังสวยดูดีอยู่

จากโต๊ะเครื่องแป้ง ก็กลายมาเป็นที่วางต้นไม้ได้   


เราชอบงาน DIY มากๆ ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องการจัดสวนจัดดอกไม้นี่อย่าให้โม้ อวดด้วยภาพรัวรัวเลยดีกว่า
***แนะนำพิกัดซื้อดอกไม้ ราคาไม่แพง 1.โครงการหลวง อตก.  2.ตลาดต้นไม้บางใหญ่ และ 3.ปากคลองตลาดใหม่ ตรงช่วงตัดถนนราชพฤกษ์  








อีกข้อดี คือเรามีกิจกรรมให้ลูกร่วมทำด้วยได้    

ปลูกฝังให้ลูกรักการปลูกเหมือนแม่ ได้ผลดีมาก ลูกเราชมสวนแทบทุกวัน โดยมีแม่คอยส่งตลอดๆ

พี่เลี้ยงลูก ก็ดูจะแฮปปี้กับสวนนี้มาก เธอนั่งเบรคฟาสในสวนทุกวันเลยเชียว


นั่งมองจากในบ้าน ความสุขที่ไม่ต้องเสาะหาที่ไหนไกล เป็นแบบนี้นี่เอง


และนี่คือภาพปัจจุบัน หลังจากต้นไม้เติบโตเต็มสวน (ตอนนี้ถูกห้ามไปตลาดต้นไม้อีกหกเดือนเป็นอย่างน้อย 555)

หวังว่าจะเป็นไอเดียให้เพื่อนๆ ได้บ้างนะคะ  เรามั่นใจค่ะ ว่าพื้นที่เล็ก – ใหญ่ หรือแม้แต่เงินในกระเป๋า ไม่ได้ทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ที่สุด  

“ความใส่ใจ” ต่างหาก ที่จะทำให้ทุกๆ มุมน่าอยู่ขึ้นได้

เราเชื่ออย่างนี้ค่ะ ^^