คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
คนชอบ iphone ส่วนมากก็จะใช้แต่ไอโฟนยาวๆไป
ถ้าไม่ใช่คนเล่นมือถือเปลี่ยนรุ่น ลองเล่นสารพัดค่ายแบบไม่อคติเป็นประจำจะไม่รู้ว่า android มันเปลี่ยนไปมาก 7.1.1 ตอนนี้บอกเลยว่าดีมากดีกว่า iphone ตัวล่าสุดด้วย(ประสบการจาก moto z)
ที่พากันบอกว่าอืดบ้าง ค้าง ห่วยแตก มีปัญหา บ้างก็ฟังมา อ่านมา หรือบ้างก็เจอมากับตัว แต่อยากจะบอกว่าไอ้ที่ดีๆมันก็มีครับ เยอะ ด้วย
ลองไปเล่นพวกรุ่นท็อปที่เป็น Pure android หรือไม่ก็ที่รอมมันคลีนๆ ปรับแต่งน้อย เช่น pixel moto sony ล่าสุดนี่ก็ htc nokia ดูก่อนเถอะ คือมันลื่นจนจะไปก่อนนิ้วแล้วครับ ระบบจัดการเรื่องพลังงานก็ดีไม่แตกต่างกับ iphone ครับ stanby ไว้แบตแทบไม่ลดเลย
ถ้าไม่ใช่คนเล่นมือถือเปลี่ยนรุ่น ลองเล่นสารพัดค่ายแบบไม่อคติเป็นประจำจะไม่รู้ว่า android มันเปลี่ยนไปมาก 7.1.1 ตอนนี้บอกเลยว่าดีมากดีกว่า iphone ตัวล่าสุดด้วย(ประสบการจาก moto z)
ที่พากันบอกว่าอืดบ้าง ค้าง ห่วยแตก มีปัญหา บ้างก็ฟังมา อ่านมา หรือบ้างก็เจอมากับตัว แต่อยากจะบอกว่าไอ้ที่ดีๆมันก็มีครับ เยอะ ด้วย
ลองไปเล่นพวกรุ่นท็อปที่เป็น Pure android หรือไม่ก็ที่รอมมันคลีนๆ ปรับแต่งน้อย เช่น pixel moto sony ล่าสุดนี่ก็ htc nokia ดูก่อนเถอะ คือมันลื่นจนจะไปก่อนนิ้วแล้วครับ ระบบจัดการเรื่องพลังงานก็ดีไม่แตกต่างกับ iphone ครับ stanby ไว้แบตแทบไม่ลดเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
1.การซ่อม
หลายๆคนไม่ได้เปลี่ยนมือถือเป็นว่าเล่นครับ เครื่องคาดหวังว่าจะใช้ไปได้ 5 ปี ไม่ใช่ใช้ไปได้ 6 เดือนถึง 1 ปี ใกล้หมดประกันขายทิ้งซื้อเครื่องใหม่ ปัญหาหลายปัญหาไม่ได้เกิดหลังใช้ไปได้ 1 วัน แต่มันเกิดหลังจากใช้ไปนานกว่า 1 ปี ตอนที่ช่วงประกันหมดแล้วครับ ส่วนการแก้ไขในกรณีประกันหมด iphone คือเดินไปหาร้านตู้ให้ซ่อมได้เลยครับ เดี๋ยวนี้ช่างที่ซ่อม iphone เก่งๆมีเยอะมาก samsung หรือยี่ห้ออื่นก็มีเยอะแต่ก็ต้องดูอีกว่ารุ่นไหนซ่อมเป็น รุ่นไหนซ่อมไม่เป็น ส่วน iphone มันคือมือถือเครื่องเดียวขายเป็นล้านเครื่อง ดังนั้นช่างได้มีโอกาสทำซ้ำจนชินมือแล้วล่ะครับ
2.App หลายๆอันทำงานได้ดีมากบน ios แต่ทำงานได้ดีบ้างแย่บ้างแล้วแต่บนเครื่องแอนดรอย ถ้าคุณได้เคยอ่านข่าว Google ได้ซื้อ Macbook ให้พนักงานทุกคนใช้ ไม่ใช่เพื่ออวดรวย แต่เพื่อให้พัฒนาแอพบน ios ทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ว่าแค่มีก็ดีแล้ว และการแก้ครั้งนึงของ App ใหญ่ๆ เช่น Google mail, Google photo, Youtube, Facebook ฯลฯ ส่งผลกับคนหลายสิบล้านบน ios เช่น App อันนี้เจอบัคบน ios พอเขาแก้บัคนั้นเสร็จ สามารถบอกได้ครับว่าบัคนั้นจะหายไปถ้าใช้แอป version เดียวกัน"ทุกเครื่อง" ส่วนมือถือแอนดรอยถ้าเขาแก้บัคให้มือถือ samsung แล้วแต่เขาลืมไม่ได้แก้บัคในมือถือ lg ด้วยก็ทำใจไปครับ เพราะมือถือแอนดรอยมันมีหลากหลายมากปีนึงออกเป็นพันๆรุ่น แก้นิดนึงก็ต้องแก้ให้ครบพันรุ่นครับ มีความรู้สึกไม่ต่างไปจากเมียน้อย เป็นเมียน้อยต้องอดทน ส่วนคนที่ใช้ ios ให้ความรู้สึกว่าจะถูกปฏิบัติเป็นเมียหลวงตราบเท่าที่ยังอยู่บน ios ล่าสุด
3.เวลาซื้อเครื่องใหม่แพงๆมา มันให้ความรู้สึกอยากลองอะไรใหม่ๆ ในระหว่างที่เราก็ไม่อยากทำอะไรเก่าๆ ซ้ำๆ บ่อยๆใช่มั้ยครับ ตรงส่วนนี้ ios ประสบการณ์ out of the box ทำมาดีมาก สิ่งที่ Apple มีคือ Apple ID ทำงานครอบ Google Account อีกทีครับ บนAndroid Google Account ทำอย่างมากคือจะดาวโหลด App ที่เคยมีมาในเครื่องและติดตั้งลงไปใหม่ใช่มั้ยครับ สมมติมี 100 App มันก็จะติดตั้งทั้ง 100 App ลงไป สิ่งที่ Apple ID คือนอกจะดาวโหลด App ที่เราเคยติดตั้งลงไปแล้ว ยังจำการ Login ที่เราเคย login ไปแล้วทำให้เราไม่ต้อง login อีกรอบครับ คุณลองคิดดูนะว่าผมมี Google Account ใน App google ไม่ต่ำกว่า 10 บัญชี และอีก 100 กว่า App ถ้าผมใช้ Android เป็นเครื่องหลักผมก็ต้อง login ทั้ง 10 บัญชีใหม่ทุกครั้งและ login ใน 100 กว่า App ทุกครั้งที่ reset เครื่องครับ หลายๆบัญชีผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ารหัสผ่านคืออะไร กว่าจะเปิดหาเจอ เสียเวลามากครับ ดังนั้น ios เหมาะที่จะใช้เป็นเครื่องหลักมากๆ
4.มีอุปกรณ์เสริมรองรับไปทั่ว และทำงานครบทุกฟังชั่นด้วย (เพราะปีนึงมันมี 1-2 รุ่นให้แก้ไขปัญหา ไม่ใช่มีพร้อมกันเป็นพันรุ่น)
ไม่รู้คุณเคยลองไหม หูฟังบลูทูธของผม (บลูทูธธรรมดา 4.0) Plantronic Backbeat Pro เวลาเอามาใส่หูมันจะ Detect หูให้เอง ถ้ายกออกก็เหมือนกด Pause ให้เอง เวลากด Play มันจะเล่นเพลงบน App Music ให้เอง ฟังชั่นทั้งหมดบน Samsung ของผมทำไม่ได้ทั้งการ Detectหู และเวลาการกด Play มือถือ Samsung งงนิ่งครับไม่รู้ว่าผมต้องการให้มันทำอะไร ยิ่ง Airpod (w1 chip) นี่ทำให้ผมให้เลิกฟังเพลงบน Samsung เลยครับ ใช้งานบน ios (ทั้ง ipad และ iphone) สะดวกกว่าเยอะ ซึ่งผมคาดหวังสิ่งแบบนี้กับมือถือ Sony เหมือนกัน แต่ Sony ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอยากย้ายจาก iphone ไปใช้มือถือ Sony
5.การออกแบบและอัพเดทระบบปฏิบัติการ
Apple ออกแบบ ios ขึ้นมา แล้วก็คุมการผลิตมือถือที่โรงงานจีนให้เป็นไปตามมาตราฐานของ Apple แต่พออัพเดทไปเรื่อยๆ เครื่องก็จะช้า แต่ Apple เป็นคนผลิตเองย่อมรีดความสามารถเครื่องออกมาได้เยอะครับ Samsung ก็เช่นกันครับ เอาแอนดรอยไปโมซะจน Google อึ้งหลายที พออัพเดทไปเรื่อยๆ เครื่องก็จะช้าเหมือนกัน แต่ก็มีลูกเล่นที่ยี่ห้ออื่นไม่มีเช่น Samsung Pay, Bixby, Knox ฯลฯ ส่วน Pure Android มันคือการทำรอมให้รองรับเครื่องเป็นพันรุ่นข้อดีคือเครื่องจะไม่ช้าลงแต่ว่าทำลูกเล่นซอร์ฟแวร์ออกมาหวือหวาไม่ได้ เดี๋ยวจะอดอัพเดท ผมมองว่า Pure Android ไม่ต่างไปจากการติดตั้งระบบ Windows ลง PC ครับ คือมันรองรับอุปกรณ์เยอะมากแต่มันก็เหมือนๆกัน ต่างกันแค่ภายนอก Ramและความแรง cpu
ถ้าถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน คือมันแล้วแต่คนชอบครับ คือตราบใดที่ Apple ให้อัพเกรดระบบปฏิบัติการ เครื่องนั้นก็จะอัพเดทได้ครับสามารถคาดการล่วงหน้าได้ด้วยว่าจะอัพเดทได้กี่ปี เช่นมือถือของคุณคือ iphone 7 รองรับ ios 11 ดังนั้น ต่อให้ถึง ios 14 คุณก็ยังอัพเดทได้ครับ เผลอๆ ได้ ios 15 ด้วย และอีกอย่างคือ ios ทุกรุ่นอัพเดทได้พร้อมกันในวันเดียวกันครับ คือ iphone se ถ้า ไปได้ถึง ios 14 "ก็จะได้รับการอัพเดทพร้อมกันกับ iphone 7 ในวันเดียวกัน" ครับ ไม่มีการเกี่ยงเรื่องเรือธงได้ไปต่อ รุ่นอื่นลอยแพ ต่างจาก Samsung ครับ มีกระทู้ถามว่ามือถือรุ่นนั้นของ Samsung ในปีเดียวกันมีบางรุ่นได้รับการอัพเดทแล้ว แต่ทำไมรุ่นนี้ยังไม่ได้รับการอัพเดทล่ะ เมื่อไรจะได้? ส่วนมือถือ Pure Android ตื่นเต้นทุกครั้งเพราะจะได้รับการอัพเดทไวแต่ก็ยังไม่ใช่ในวันเดียวกันอยู่ดี ต้องรอทางค่ายมือถืออัพเดทให้ แต่ยังไงคงไม่ต้องรอข้ามปีแบบ samsung
เขียนแค่นี้ก่อนละกันครับ รู้สึกเริ่มเขียนยาวเกินและเริ่มรู้สึกเห็นความจุกจิกของตัวเอง เอาง่ายๆ ios มันทำให้คนที่เรื่องมากอย่างผมทำอะไรง่ายขึ้น สบายใจขึ้นเยอะครับ ตอนแรกที่เขียนผมก็สบายๆ พอมาเขียนเทียบละรู้สึกเหมือนทำไม Android ถึงไม่ก๊อบ Apple สักที อยากใช้ของดีๆราคาถูกๆเหมือนกันนะ ผมเชื่อว่าคนออกแบบ ios เป็นคนเรื่องมาก ดังนั้นย่อมเข้าใจคนเรื่องมากครับ (ระบบ ios มีความปราณีตสูงมาก) ฝากอีกนิดนะครับ Androidก๊อบApple ผมเชื่อว่าหลายๆคนมีแต่คนเห็นด้วยครับ แต่ทำไมพอ Appleก๊อบAndroid เครื่องอื่นแล้วมีแต่คนด่า งงแหะ
video เพิ่มเติม
พูดถึงเรื่องความชอบ-ไม่ชอบ



พูดถึงเรื่องระบบ Android กับ iOS

หลายๆคนไม่ได้เปลี่ยนมือถือเป็นว่าเล่นครับ เครื่องคาดหวังว่าจะใช้ไปได้ 5 ปี ไม่ใช่ใช้ไปได้ 6 เดือนถึง 1 ปี ใกล้หมดประกันขายทิ้งซื้อเครื่องใหม่ ปัญหาหลายปัญหาไม่ได้เกิดหลังใช้ไปได้ 1 วัน แต่มันเกิดหลังจากใช้ไปนานกว่า 1 ปี ตอนที่ช่วงประกันหมดแล้วครับ ส่วนการแก้ไขในกรณีประกันหมด iphone คือเดินไปหาร้านตู้ให้ซ่อมได้เลยครับ เดี๋ยวนี้ช่างที่ซ่อม iphone เก่งๆมีเยอะมาก samsung หรือยี่ห้ออื่นก็มีเยอะแต่ก็ต้องดูอีกว่ารุ่นไหนซ่อมเป็น รุ่นไหนซ่อมไม่เป็น ส่วน iphone มันคือมือถือเครื่องเดียวขายเป็นล้านเครื่อง ดังนั้นช่างได้มีโอกาสทำซ้ำจนชินมือแล้วล่ะครับ
2.App หลายๆอันทำงานได้ดีมากบน ios แต่ทำงานได้ดีบ้างแย่บ้างแล้วแต่บนเครื่องแอนดรอย ถ้าคุณได้เคยอ่านข่าว Google ได้ซื้อ Macbook ให้พนักงานทุกคนใช้ ไม่ใช่เพื่ออวดรวย แต่เพื่อให้พัฒนาแอพบน ios ทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ว่าแค่มีก็ดีแล้ว และการแก้ครั้งนึงของ App ใหญ่ๆ เช่น Google mail, Google photo, Youtube, Facebook ฯลฯ ส่งผลกับคนหลายสิบล้านบน ios เช่น App อันนี้เจอบัคบน ios พอเขาแก้บัคนั้นเสร็จ สามารถบอกได้ครับว่าบัคนั้นจะหายไปถ้าใช้แอป version เดียวกัน"ทุกเครื่อง" ส่วนมือถือแอนดรอยถ้าเขาแก้บัคให้มือถือ samsung แล้วแต่เขาลืมไม่ได้แก้บัคในมือถือ lg ด้วยก็ทำใจไปครับ เพราะมือถือแอนดรอยมันมีหลากหลายมากปีนึงออกเป็นพันๆรุ่น แก้นิดนึงก็ต้องแก้ให้ครบพันรุ่นครับ มีความรู้สึกไม่ต่างไปจากเมียน้อย เป็นเมียน้อยต้องอดทน ส่วนคนที่ใช้ ios ให้ความรู้สึกว่าจะถูกปฏิบัติเป็นเมียหลวงตราบเท่าที่ยังอยู่บน ios ล่าสุด
3.เวลาซื้อเครื่องใหม่แพงๆมา มันให้ความรู้สึกอยากลองอะไรใหม่ๆ ในระหว่างที่เราก็ไม่อยากทำอะไรเก่าๆ ซ้ำๆ บ่อยๆใช่มั้ยครับ ตรงส่วนนี้ ios ประสบการณ์ out of the box ทำมาดีมาก สิ่งที่ Apple มีคือ Apple ID ทำงานครอบ Google Account อีกทีครับ บนAndroid Google Account ทำอย่างมากคือจะดาวโหลด App ที่เคยมีมาในเครื่องและติดตั้งลงไปใหม่ใช่มั้ยครับ สมมติมี 100 App มันก็จะติดตั้งทั้ง 100 App ลงไป สิ่งที่ Apple ID คือนอกจะดาวโหลด App ที่เราเคยติดตั้งลงไปแล้ว ยังจำการ Login ที่เราเคย login ไปแล้วทำให้เราไม่ต้อง login อีกรอบครับ คุณลองคิดดูนะว่าผมมี Google Account ใน App google ไม่ต่ำกว่า 10 บัญชี และอีก 100 กว่า App ถ้าผมใช้ Android เป็นเครื่องหลักผมก็ต้อง login ทั้ง 10 บัญชีใหม่ทุกครั้งและ login ใน 100 กว่า App ทุกครั้งที่ reset เครื่องครับ หลายๆบัญชีผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ารหัสผ่านคืออะไร กว่าจะเปิดหาเจอ เสียเวลามากครับ ดังนั้น ios เหมาะที่จะใช้เป็นเครื่องหลักมากๆ
4.มีอุปกรณ์เสริมรองรับไปทั่ว และทำงานครบทุกฟังชั่นด้วย (เพราะปีนึงมันมี 1-2 รุ่นให้แก้ไขปัญหา ไม่ใช่มีพร้อมกันเป็นพันรุ่น)
ไม่รู้คุณเคยลองไหม หูฟังบลูทูธของผม (บลูทูธธรรมดา 4.0) Plantronic Backbeat Pro เวลาเอามาใส่หูมันจะ Detect หูให้เอง ถ้ายกออกก็เหมือนกด Pause ให้เอง เวลากด Play มันจะเล่นเพลงบน App Music ให้เอง ฟังชั่นทั้งหมดบน Samsung ของผมทำไม่ได้ทั้งการ Detectหู และเวลาการกด Play มือถือ Samsung งงนิ่งครับไม่รู้ว่าผมต้องการให้มันทำอะไร ยิ่ง Airpod (w1 chip) นี่ทำให้ผมให้เลิกฟังเพลงบน Samsung เลยครับ ใช้งานบน ios (ทั้ง ipad และ iphone) สะดวกกว่าเยอะ ซึ่งผมคาดหวังสิ่งแบบนี้กับมือถือ Sony เหมือนกัน แต่ Sony ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอยากย้ายจาก iphone ไปใช้มือถือ Sony
5.การออกแบบและอัพเดทระบบปฏิบัติการ
Apple ออกแบบ ios ขึ้นมา แล้วก็คุมการผลิตมือถือที่โรงงานจีนให้เป็นไปตามมาตราฐานของ Apple แต่พออัพเดทไปเรื่อยๆ เครื่องก็จะช้า แต่ Apple เป็นคนผลิตเองย่อมรีดความสามารถเครื่องออกมาได้เยอะครับ Samsung ก็เช่นกันครับ เอาแอนดรอยไปโมซะจน Google อึ้งหลายที พออัพเดทไปเรื่อยๆ เครื่องก็จะช้าเหมือนกัน แต่ก็มีลูกเล่นที่ยี่ห้ออื่นไม่มีเช่น Samsung Pay, Bixby, Knox ฯลฯ ส่วน Pure Android มันคือการทำรอมให้รองรับเครื่องเป็นพันรุ่นข้อดีคือเครื่องจะไม่ช้าลงแต่ว่าทำลูกเล่นซอร์ฟแวร์ออกมาหวือหวาไม่ได้ เดี๋ยวจะอดอัพเดท ผมมองว่า Pure Android ไม่ต่างไปจากการติดตั้งระบบ Windows ลง PC ครับ คือมันรองรับอุปกรณ์เยอะมากแต่มันก็เหมือนๆกัน ต่างกันแค่ภายนอก Ramและความแรง cpu
ถ้าถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน คือมันแล้วแต่คนชอบครับ คือตราบใดที่ Apple ให้อัพเกรดระบบปฏิบัติการ เครื่องนั้นก็จะอัพเดทได้ครับสามารถคาดการล่วงหน้าได้ด้วยว่าจะอัพเดทได้กี่ปี เช่นมือถือของคุณคือ iphone 7 รองรับ ios 11 ดังนั้น ต่อให้ถึง ios 14 คุณก็ยังอัพเดทได้ครับ เผลอๆ ได้ ios 15 ด้วย และอีกอย่างคือ ios ทุกรุ่นอัพเดทได้พร้อมกันในวันเดียวกันครับ คือ iphone se ถ้า ไปได้ถึง ios 14 "ก็จะได้รับการอัพเดทพร้อมกันกับ iphone 7 ในวันเดียวกัน" ครับ ไม่มีการเกี่ยงเรื่องเรือธงได้ไปต่อ รุ่นอื่นลอยแพ ต่างจาก Samsung ครับ มีกระทู้ถามว่ามือถือรุ่นนั้นของ Samsung ในปีเดียวกันมีบางรุ่นได้รับการอัพเดทแล้ว แต่ทำไมรุ่นนี้ยังไม่ได้รับการอัพเดทล่ะ เมื่อไรจะได้? ส่วนมือถือ Pure Android ตื่นเต้นทุกครั้งเพราะจะได้รับการอัพเดทไวแต่ก็ยังไม่ใช่ในวันเดียวกันอยู่ดี ต้องรอทางค่ายมือถืออัพเดทให้ แต่ยังไงคงไม่ต้องรอข้ามปีแบบ samsung
เขียนแค่นี้ก่อนละกันครับ รู้สึกเริ่มเขียนยาวเกินและเริ่มรู้สึกเห็นความจุกจิกของตัวเอง เอาง่ายๆ ios มันทำให้คนที่เรื่องมากอย่างผมทำอะไรง่ายขึ้น สบายใจขึ้นเยอะครับ ตอนแรกที่เขียนผมก็สบายๆ พอมาเขียนเทียบละรู้สึกเหมือนทำไม Android ถึงไม่ก๊อบ Apple สักที อยากใช้ของดีๆราคาถูกๆเหมือนกันนะ ผมเชื่อว่าคนออกแบบ ios เป็นคนเรื่องมาก ดังนั้นย่อมเข้าใจคนเรื่องมากครับ (ระบบ ios มีความปราณีตสูงมาก) ฝากอีกนิดนะครับ Androidก๊อบApple ผมเชื่อว่าหลายๆคนมีแต่คนเห็นด้วยครับ แต่ทำไมพอ Appleก๊อบAndroid เครื่องอื่นแล้วมีแต่คนด่า งงแหะ
video เพิ่มเติม
พูดถึงเรื่องความชอบ-ไม่ชอบ



พูดถึงเรื่องระบบ Android กับ iOS

แสดงความคิดเห็น
ขอเหตุผลเจ๋งๆหน่อยสิครับ ที่ว่างบ 3 หมื่นบาท ทำไมต้องซื้อ iphone
note 2 มือถือจากแอนดรอยที่เริ่มใช้ครั้งแรก ซื้อทีต้องซื้อเป็นคู่เพราะไม่งั้นภรรยาจะงอล
แต่ note 2 ยังอยู่ดีมีสุขถึงทุกวันนี้แต่ไม่ได้ใช้เก็บลงลัง ก็ยอมรับครับว่าแอนดอยสมัยนั้นกากมาก เดี๋ยวค้าง เดี๋ยวแฮ้ง จาก note 2 ก็เล่นมาเรื่อยๆทั้งมือถือ imobile / samsung / sony แต่ก็คล้ายๆกันหมด เคยคิดครับว่า iphone กุเทพที่สุดล่ะจะไม่กลับไปเล่นแอนดอยอีก
พิมพ์ๆอยู่ดีๆวิญญาญ จ้อบเข้าสิงครับ ขออภัย....ชาวแอนดรอยที่พูดแบบตรงๆมันคือแอนดรอยในยุคบุกเบิกที่กากมากกกกกก ยอมรับเลย แล้วหลายรุ่นหลายยี่ห้อมากที่ออกมาแบบว่าใครใช้ apple แล้วลองมาเล่นจะรู้สึกกลัวเลยว่า
ภาพล่าง iphone 7 plus ซื้อให้ตนเองและภรรยาวันวางขายปีที่แล้ว ทุกวันนี้ยังคงใช้อยู่ แต่ยอมรับเลยว่าวันนึงแตะไม่กี่ครั้งนอกจากโทร รับสาย และ....
แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่แร่ะครับ ผมก็ไม่รู้นะว่าผมออกจากห่างจาก apple มาได้ยังไงผมมาเล่นแอนดรอยอีกทีแบบจริงจังล่ะจะได้บรรลุกันไปเลยในช่วงของ note 3 ยังคงมีปัญหาเล็กน้อยนานๆค้างที / note 4 ดีไปหมด เสียอย่างเดียวเจือกทำตกแตก / note 5 ใช้ลื่นมาก ขายทิ้งเพราะใส่เมมเพิ่มไม่ได้ แต่ก็ยังไปยุคนรู้จักให้ซื้อมาใช้ มา s7 และ s8 รู้สึกมันลื่นมาก ปัญหานั่นนี่ที่หลายคนเจอ แต่ผมไม่เคยเจอเลยสังสัยเพราะดวงผมท่าจะดีนะ แต่ตอนที่ซื้อ iphone 7 plus วันเปิดตัววันแรกเจอปัญหาเลยลำโพงแตก จนต้องกลับไปเปลี่ยนเครื่อง (หากไม่เชื่อก็ค้นกระทู้เก่าผมได้เลย) จนถึงทุกวันนี้ถ้าได้แตะพวกมือถือเรือธงนี่ส่วนมากจะไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่เรื่องความลิ่น แต่ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่จะเป็นเรื่อง Hardware มากกว่าซึ่งก็แล้วแต่ดวง แต่สิ่งที่เล่นแอนดรอยแล้วสนุกนั่นค้ือมันปรับแต่งได้มาก มันตรงใจคนที่ชอบแสวงหาอะไรใหม่ๆเล่น แต่ถ้าเล่น iphone ผมก็ยังไม่รู้จะเล่นไรกับมันได้มากมายอะไร บางคนอ่านจะเล่นได้เยอะนะแต่ผมเป็นคนชอบปรับแต่งเครื่องเหมือนพวกบ้าคอมเสียมากกว่า แอนดรอยมันเลยตอบโจทเสียมากกว่าและคิดว่าคนที่ใช้แอนดรอยส่วนใหญ่คงคิดแบบผมใช่ป่ะ
ไม่กี่วันนี้ลอง mi max 2 มาเล่น เจอฟังชั่นนี้เข้า เออ มีไลน์เยอะยัดเข้าไปให้หมด มี social กี่ตัวโคลนได้สบายๆแถมโึคลนได้ทุก app เจ๋งเว้ยเห้ย ไม่ต้องไปลง app ไรเสริมให้มันหนักเครื่องหรือเปลืองแบต
LG G6 เครื่องเกาหลี ไปสอยมาลองดูเพราะในเมืองไทย LG ไม่ทำตลาด เอามาลองถ่ายภาพในโหมดมุมกว้างที่ กว้างได้ดีมาก แต่ข้อเสียคือภาพสวยสู้มือถือเรือธงค่ายอื่นไม่ได้เลย กับแบ็ตหมดไว แต่ก็ยังมีอะไรให้เล่นเยอะแยะ ไว้รีวิวให้อ่าน กำลังรอขายไปลุ้น v30 ว่าจะต่างกันไหม
แต่จะว่าดีก็ไม่ใช่เสียทีเดียวแอนดรอยบางรุ่นก็ทำให้เราผิดหวังกันมาแล้วอย่างเช่น LG G4 ซึ่งทุกวันนี้ไม่รู้แม่คุณจะตื่นมาชมโลกอีกครั้งตอนไหนเหลือไว้เป็นเพียงความหลัง เครื่องซื้อมาใช้ได้ 1 เดือน เหมือนเอาเงิน 2 หมื่นกว่าบาทไปทิ้ง มารู้ตัวอีกทีว่าช่วงนั้นศูนย์รับซ่อมฟรี คือผ่านมาเป็นปีเครื่องหมดประกันไปแล้ว
สรุปแล้วผมอยากบอกเลยว่า ..... บอกก่อนไม่ได้อวยค่ายไหนทั้งนั้น พ่อแม่ไม่เคยถือหุ้นมีแต่เสียตังตามกิเลสตัวเอง แค่อยากบอกว่าแอนดรอยแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อมันมีอะไรให้เราเล่นได้เรื่อยๆตลอด เหมาะกับคนขี้เบื่อ อยากใช้ smart phone ให้มัน smart จริงๆผมก็ว่ายังไงผมก็ยังจับแอนดรอยเสียมากกว่า iphone นะ ผมก็เลยไม่รู้ว่าทำไมคนถึงชอบแนะนำว่าราคาเท่านี้ไป iphone เถอะ ยังไงเงินใครเงินมัน กระเป๋าใครกระเป๋ามันอย่าไปคิดแทนกันเลยครับ ที่ผมจะพิมพ์บอกก็มีแค่นี้แร่ะจากใจคนที่ชอบใช้แอนดรอย