คนจบปริญญาออกมามากขึ้นจนมีคนตกงานเต็มไปหมด แถมระบบการจ้างงานต่างๆก็มีการปรับเปลี่ยนกันไปหมด กลายเป็นจ้างเอาร์สอร์ตแทนที่จะจ้างพนักกงานประจำ ความหลากหลายของต่ำแหน่งงานน้อยลงนอกจากงานที่ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะด้านอย่างหมอ หรือวิศวะ งานอย่างอื่นเหลือแค่งานเซลล์ต่างๆ ที่เน้นให้ทำยอดระยะสั้นๆ พอทำยอดไม่ได้ก็ให้ออกเพื่อจ้างคนใหม่ คนตกงานมากขึ้นคนก็แห่ไปขายของจนสินค้าล้นตลาดเกิดสงครามตัดราคากัน
แถมวัฒนธรรมบริโภคนิยมต่างๆก็รุนแรงขึ่น เนื่องจากโซเชียลมีเดีย จากาสมัยก่อนที่เคยอวดเครื่องประดับแต่งกายกลายเป็นการอวด ของกินราคาแพงแทน หลายคนยอมเสียเงินแพงๆเพื่อกินหรู เพื่ออวดเพื่อนบนเฟสบุ๊ค หรือIG ผมไปเดินห้างมาโอเคขึ้นเดินเยอะมากแต่ซื้อน้อยมาก ที่ซื้อจริงๆคือของกินราคาแพงร้านราคาแพงแปลกๆ
ซึ่งผมมองว่ามันเป็นยุคธุรกิจตั๊กแตน ยุคที่ธุรกิจมาเร็วไปเร็ว การจ้างงานก็มาเร็วไปเร็ว และใช้งานแบบมาเร็วไปเร็ว แต่กลับทิ้งความเสียหายมากไว้เบื้องหลัง
ภาวะsupple ล้นตลาดจากที่คนหันมาขายของเพื่อหวังรวยเร็วๆ ระบบการจ้างงานเอาร์ซอร์ตที่ใช้คนทิ้งขว้าง ลัทธิบริโภคนิยมที่รุนแรง
ข้าวที่ตั๊กแตนกินก็คือ เงินของคนรุ่นเก่า เงินของพ่อแม่ เบบี้บูม และเจนx เงินที่เจนYเอามาถลุงกับร้านกาแฟ และธุรกิจออนไลย์ เงินที่เจนZเอามาซื้อไอโฟนและปิงชู ซึ่งทำให้เงินเก็บของเจนเก่าๆหมดลง และยังมีหนี้ที่ไปกู้ยืมมาให้ลูกทำธุรกิจอีก
สิ่งที่ตามมานอกจากหนี้ก็คือความเหลื่อมล้ำที่มากขึ้น อัตราการจ้างงานที่น้อยลง ก็คือการกระจายรายได้ที่ลดลง แต่นักธุรกิจครีมกิโลและนักเรียนมัธยมก็ยังบ้าซื้อปิงซูจากร้านของคนรวย เงินมันก็เลยเข้ากระเป๋านรวยเรื่อยๆ ต่อให้เจนYจับทางธุรกิจถูกขายดีจนรายได้หลักแสนภายในไม่กี่เดือน แต่ภายในไม่กี่เดือนคนก็เลิกซื้อของเช่นกัน ภาระที่ตามมาก็คือต้องแบกรับค่าเช่าที่ ค่าวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งสุดท้ายเงินที่ได้มาก็เข้ากระเป๋าคนรวยหมดอยู่ดี เพราะไม่ว่าจะที่ห้างที่เราเช่า ของที่เราซื้อมาก็เป็นของคนรวย เราเช่าห้างของเซนทัล ซื้อไก่จากCP ซือของจากแจ๊คหมามาขาย รวมจ่ายค่าโฆษณาให้เฟซบุ๊ค เงินทั้งหมดก็จะเข้ากระเป๋าคนรวยหมด
ซึ่งตอนนี้อะไรๆก็ชัดมากแล้ว คิดว่าสิ้นปีนี้หลังพระราชพิธีร.9 เราอาจเห็นสิ่งที่เป็นซากนาข้าวเผยขึ้นมา แต่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรืออาจจะยังไม่เกิดขึ้นแต่มันก็จะเกิดขึ้นแน่นอนถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร
เศรษฐกิจตั๊กแตน
แถมวัฒนธรรมบริโภคนิยมต่างๆก็รุนแรงขึ่น เนื่องจากโซเชียลมีเดีย จากาสมัยก่อนที่เคยอวดเครื่องประดับแต่งกายกลายเป็นการอวด ของกินราคาแพงแทน หลายคนยอมเสียเงินแพงๆเพื่อกินหรู เพื่ออวดเพื่อนบนเฟสบุ๊ค หรือIG ผมไปเดินห้างมาโอเคขึ้นเดินเยอะมากแต่ซื้อน้อยมาก ที่ซื้อจริงๆคือของกินราคาแพงร้านราคาแพงแปลกๆ
ซึ่งผมมองว่ามันเป็นยุคธุรกิจตั๊กแตน ยุคที่ธุรกิจมาเร็วไปเร็ว การจ้างงานก็มาเร็วไปเร็ว และใช้งานแบบมาเร็วไปเร็ว แต่กลับทิ้งความเสียหายมากไว้เบื้องหลัง
ภาวะsupple ล้นตลาดจากที่คนหันมาขายของเพื่อหวังรวยเร็วๆ ระบบการจ้างงานเอาร์ซอร์ตที่ใช้คนทิ้งขว้าง ลัทธิบริโภคนิยมที่รุนแรง
ข้าวที่ตั๊กแตนกินก็คือ เงินของคนรุ่นเก่า เงินของพ่อแม่ เบบี้บูม และเจนx เงินที่เจนYเอามาถลุงกับร้านกาแฟ และธุรกิจออนไลย์ เงินที่เจนZเอามาซื้อไอโฟนและปิงชู ซึ่งทำให้เงินเก็บของเจนเก่าๆหมดลง และยังมีหนี้ที่ไปกู้ยืมมาให้ลูกทำธุรกิจอีก
สิ่งที่ตามมานอกจากหนี้ก็คือความเหลื่อมล้ำที่มากขึ้น อัตราการจ้างงานที่น้อยลง ก็คือการกระจายรายได้ที่ลดลง แต่นักธุรกิจครีมกิโลและนักเรียนมัธยมก็ยังบ้าซื้อปิงซูจากร้านของคนรวย เงินมันก็เลยเข้ากระเป๋านรวยเรื่อยๆ ต่อให้เจนYจับทางธุรกิจถูกขายดีจนรายได้หลักแสนภายในไม่กี่เดือน แต่ภายในไม่กี่เดือนคนก็เลิกซื้อของเช่นกัน ภาระที่ตามมาก็คือต้องแบกรับค่าเช่าที่ ค่าวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งสุดท้ายเงินที่ได้มาก็เข้ากระเป๋าคนรวยหมดอยู่ดี เพราะไม่ว่าจะที่ห้างที่เราเช่า ของที่เราซื้อมาก็เป็นของคนรวย เราเช่าห้างของเซนทัล ซื้อไก่จากCP ซือของจากแจ๊คหมามาขาย รวมจ่ายค่าโฆษณาให้เฟซบุ๊ค เงินทั้งหมดก็จะเข้ากระเป๋าคนรวยหมด
ซึ่งตอนนี้อะไรๆก็ชัดมากแล้ว คิดว่าสิ้นปีนี้หลังพระราชพิธีร.9 เราอาจเห็นสิ่งที่เป็นซากนาข้าวเผยขึ้นมา แต่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรืออาจจะยังไม่เกิดขึ้นแต่มันก็จะเกิดขึ้นแน่นอนถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร