จขกท ทำงานมาสักพัก เก็บเงินแทบไม่ได้เลยค่ะ
เป็นงานสายสาธารณสุข รวมเบี้ยทุกอย่างสตาร์ทสามหมื่นกว่าๆ
รายรับถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน (แต่งานเราดีตรงค่อนข้างสบายค่ะ)
ก็ใช้จ่ายไปตามปกติ แบ่งให้ที่บ้านส่วนนึง ที่บ้านไม่ได้ลำบากอะไร (ทำงานสายเดียวกัน)
ตอนแรก จขกท ก็วางแผนไว้อย่างดี ว่าเดือนๆนึง หลังจากที่หักส่วนที่ให้ที่บ้าน จะเก็บเท่าไหร่ ใช้เท่าไหร่
พอเวลาผ่านมา ส่วนที่กำหนดไว้ว่าเป็นเงินเก็บต่อเดือน ก็ค่อยๆ กลายเป็นส่วนที่เอาไปซื้อของต่างๆ ที่อยากได้ กินอาหารที่อยากกิน เที่ยว ตปท
แม้แต่ส่วนที่ฝากประจำไว้ ก็ถอนออกมาแทบไม่เหลือ ทั้งที่ยังไม่ถึงกำหนดระยะเวลาฝากด้วยซ้ำ
เรื่องลงทุน ไม่ได้คิด เพราะแค่คิด เงินก็หายไปกับวัตถุแล้วค่ะ 55 (อีกอย่างที่บ้านมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการลงทุนค่ะ แค่พูดเล่นๆ ว่าจะเล่นหุ้น ก็โดนทั้งพ่อแม่ค้อนแล้ว)
แต่ก็พยายามแก้ไขมาเป็นระยะ อะไรที่ผ่อนๆ อยู่ ก็ผ่อนหมดไปหลายชิ้น หลายอย่างก็กำลังจะหมด และพยายามสะกดใจไว้ไม่ให้อยากได้อีก (ไม่รู้จะทำได้กี่เดือน) คิดว่าอีกไม่กี่เดือนตัวเลขในบัญชีน่าจะกลับมาเป็นเขียวแล้ว หลังจากที่แดง หรือคงที่มาตลอดค่ะ
ความจริง จขกท ก็รู้ว่ามันไม่ดี ที่ฟุ่มเฟือย เก็บเงินไม่ได้ แต่ด้วยที่คิดว่างานค่อนข้างมั่นคง ฐานะที่บ้านค่อนข้างมั่นคง (ถึงจะไม่รวย) มันเลยเพาะนิสัยเสียไปว่า จะใช้ยังไงก็ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาได้อีก เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจนัก
แต่ตอนนี้ก็เริ่มใส่ใจแล้วค่ะ พอได้รู้ว่าเพื่อนที่จบรุ่นเดียวกัน มีเงินเก็บหลายแสน หรือบางคนก็ถึงล้านแล้ว
(เรามีไม่ถึงแสนค่ะ น้อยกว่าช่วงแรกๆ ที่ทำงาน ตอนนั้นยังมีโร้ดแม็บอยู่ 55 ก็เก็บได้ถึงแสนกว่าๆ เลย ก่อนจะเสียคนไป)
มันเป็นทำให้กลับมามองตัวเองแบบอนาถๆ แต่ก็ยังเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินไม่ได้ค่ะ
จขกท อาจจะแปลกเอง เป็นคนที่เฉยๆ เวลามองเงินในบัญชีมันเพิ่มขึ้น
แต่จะมีความสุข เวลาได้มองของที่ตัวเองซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ยิ่งแพงยิ่งหวง
มีความสุขเวลาได้กินอาหารดีๆ อร่อยๆ
ก็ยังแก้ไม่ได้สักทีค่ะ ค่อยๆ แก้กันไป
เลยผุดความคิดขึ้นมาอย่างว่า ไหนๆ ถ้าเราเป็นคนชอบสะสมวัตถุ (หนี้สิน) อยู่แล้ว จะดีมั้ยถ้าเราลองเอาเงินไปลงกับที่อยู่อาศัยดู (ทรัพย์สิน)
ไม่ได้เพื่อเก็งกำไร ไม่ได้เพื่ออยู่อาศัย (เพราะอยู่กับพ่อแม่อยู่แล้วค่ะ) แต่เพื่อเก็บเงิน ไม่เอาไปลงกับวัตถุที่เสื่อมค่า แต่ก็ไม่น่าเบื่อเหมือนให้เงินอยู่ในบัญชีวิ่งไปเฉยๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกเอามาใช้มาก เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะออมทรัพย์ หุ้นสหกรณ์ ฝากประจำ ถ้าจขกท อยากได้อะไร ก็หาทางเอาออกมาได้เสมอ (วิธีพวกฝากประจำไม่เวิร์ค)
ในขณะเดียวกันสังเกตว่า ช่วงไหนที่มีภาระผ่อนเยอะมาก จะประหยัดส่วนอื่นๆ ไปโดยอัตโนมัติ เช่น งดกินหรู หรือชะลอการซื้อของใหม่ๆ เพื่อให้เดือนนั้นๆ ผ่านไปได้ก่อน
นิสัยนี้น่าจะเอามาใช้กับการผ่อนบ้านได้มั้ย ยิ่งผ่อนสูง เราก็จะประหยัดส่วนอื่นๆ ไปเองโดยอัตโนมัติ
สุดท้ายเมื่อผ่อนครบ แม้เราจะไม่มีเงิน แต่ก็มีบ้าน (หรือคอนโด) น่าจะดีกว่าเอาไปใช้ซื้อของอย่างอื่นค่ะ
หรือพอมีแนวทางไหนแนะนำด้วยจะขอบคุณมากค่ะ
ทำงานมาสักพักเก็บเงินแทบไม่ได้ ลงทุนก็ไม่เป็น แก้โดยซื้อบ้านหรือคอนโดเลยดีมั้ยคะ?
เป็นงานสายสาธารณสุข รวมเบี้ยทุกอย่างสตาร์ทสามหมื่นกว่าๆ
รายรับถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน (แต่งานเราดีตรงค่อนข้างสบายค่ะ)
ก็ใช้จ่ายไปตามปกติ แบ่งให้ที่บ้านส่วนนึง ที่บ้านไม่ได้ลำบากอะไร (ทำงานสายเดียวกัน)
ตอนแรก จขกท ก็วางแผนไว้อย่างดี ว่าเดือนๆนึง หลังจากที่หักส่วนที่ให้ที่บ้าน จะเก็บเท่าไหร่ ใช้เท่าไหร่
พอเวลาผ่านมา ส่วนที่กำหนดไว้ว่าเป็นเงินเก็บต่อเดือน ก็ค่อยๆ กลายเป็นส่วนที่เอาไปซื้อของต่างๆ ที่อยากได้ กินอาหารที่อยากกิน เที่ยว ตปท
แม้แต่ส่วนที่ฝากประจำไว้ ก็ถอนออกมาแทบไม่เหลือ ทั้งที่ยังไม่ถึงกำหนดระยะเวลาฝากด้วยซ้ำ
เรื่องลงทุน ไม่ได้คิด เพราะแค่คิด เงินก็หายไปกับวัตถุแล้วค่ะ 55 (อีกอย่างที่บ้านมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการลงทุนค่ะ แค่พูดเล่นๆ ว่าจะเล่นหุ้น ก็โดนทั้งพ่อแม่ค้อนแล้ว)
แต่ก็พยายามแก้ไขมาเป็นระยะ อะไรที่ผ่อนๆ อยู่ ก็ผ่อนหมดไปหลายชิ้น หลายอย่างก็กำลังจะหมด และพยายามสะกดใจไว้ไม่ให้อยากได้อีก (ไม่รู้จะทำได้กี่เดือน) คิดว่าอีกไม่กี่เดือนตัวเลขในบัญชีน่าจะกลับมาเป็นเขียวแล้ว หลังจากที่แดง หรือคงที่มาตลอดค่ะ
ความจริง จขกท ก็รู้ว่ามันไม่ดี ที่ฟุ่มเฟือย เก็บเงินไม่ได้ แต่ด้วยที่คิดว่างานค่อนข้างมั่นคง ฐานะที่บ้านค่อนข้างมั่นคง (ถึงจะไม่รวย) มันเลยเพาะนิสัยเสียไปว่า จะใช้ยังไงก็ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาได้อีก เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจนัก
แต่ตอนนี้ก็เริ่มใส่ใจแล้วค่ะ พอได้รู้ว่าเพื่อนที่จบรุ่นเดียวกัน มีเงินเก็บหลายแสน หรือบางคนก็ถึงล้านแล้ว
(เรามีไม่ถึงแสนค่ะ น้อยกว่าช่วงแรกๆ ที่ทำงาน ตอนนั้นยังมีโร้ดแม็บอยู่ 55 ก็เก็บได้ถึงแสนกว่าๆ เลย ก่อนจะเสียคนไป)
มันเป็นทำให้กลับมามองตัวเองแบบอนาถๆ แต่ก็ยังเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินไม่ได้ค่ะ
จขกท อาจจะแปลกเอง เป็นคนที่เฉยๆ เวลามองเงินในบัญชีมันเพิ่มขึ้น
แต่จะมีความสุข เวลาได้มองของที่ตัวเองซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ยิ่งแพงยิ่งหวง
มีความสุขเวลาได้กินอาหารดีๆ อร่อยๆ
ก็ยังแก้ไม่ได้สักทีค่ะ ค่อยๆ แก้กันไป
เลยผุดความคิดขึ้นมาอย่างว่า ไหนๆ ถ้าเราเป็นคนชอบสะสมวัตถุ (หนี้สิน) อยู่แล้ว จะดีมั้ยถ้าเราลองเอาเงินไปลงกับที่อยู่อาศัยดู (ทรัพย์สิน)
ไม่ได้เพื่อเก็งกำไร ไม่ได้เพื่ออยู่อาศัย (เพราะอยู่กับพ่อแม่อยู่แล้วค่ะ) แต่เพื่อเก็บเงิน ไม่เอาไปลงกับวัตถุที่เสื่อมค่า แต่ก็ไม่น่าเบื่อเหมือนให้เงินอยู่ในบัญชีวิ่งไปเฉยๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกเอามาใช้มาก เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะออมทรัพย์ หุ้นสหกรณ์ ฝากประจำ ถ้าจขกท อยากได้อะไร ก็หาทางเอาออกมาได้เสมอ (วิธีพวกฝากประจำไม่เวิร์ค)
ในขณะเดียวกันสังเกตว่า ช่วงไหนที่มีภาระผ่อนเยอะมาก จะประหยัดส่วนอื่นๆ ไปโดยอัตโนมัติ เช่น งดกินหรู หรือชะลอการซื้อของใหม่ๆ เพื่อให้เดือนนั้นๆ ผ่านไปได้ก่อน
นิสัยนี้น่าจะเอามาใช้กับการผ่อนบ้านได้มั้ย ยิ่งผ่อนสูง เราก็จะประหยัดส่วนอื่นๆ ไปเองโดยอัตโนมัติ
สุดท้ายเมื่อผ่อนครบ แม้เราจะไม่มีเงิน แต่ก็มีบ้าน (หรือคอนโด) น่าจะดีกว่าเอาไปใช้ซื้อของอย่างอื่นค่ะ
หรือพอมีแนวทางไหนแนะนำด้วยจะขอบคุณมากค่ะ