[CR] บินไป Okinawa ไม่เช่ารถขับ ไม่ซื้อทัวร์ ก็เที่ยวได้

ฮัลโหล Okinawa




ด้วยความที่ช่วงนี้ สายการบิน  Peach โปรโมชั่นบ่อยและถี่เหลือเกิน
เราก็บังเอิญเจอตั๋ว ได้ในราคาไปกลับ โอกินาว่า แค่ 4,100 บาท

ซึ่งตอนซื้อตั๋ว ไอ้เราก็เมาๆ กำลังมึนๆ กรึ่มๆ เลยแหละ เห็นว่าตั๋วโปร  เห็นว่าช่วงเวลาเดินทางดี เลยกดจ่ายตังค์เรียบร้อยจ่ะ
ตื่นเช้ามารู้ตัวอีกทีว่า อ่าววววววว มีตั๋วไปโอกินาว่าซะงั้น  ประหลาดใจประหลาดใจ

ต้องบอกเลยว่า โอกินาว่า ไม่มีลิส หรือข้อมูลในหัวเราเลยว่าอยากไป หรือมีเที่ยวไหนบ้าง
เอาหล่ะ เมื่อมีตั๋วแล้ว ก็เตรียมการเดินทางด้วยการหาข้อมูล
ตอนแรก เราก็นึกว่าด้วยความเป็นญี่ปุ่น การเดินทางภายในประเทศไปที่เที่ยวต่างๆ
จะสะดวกมีรถไฟหลากหลายสายเหมือนกับที่เคยๆไปมา
สำหรับ Okinawa แล้ว ผิดจ้าา
เครื่องบินไป Okinawa จะไปลงที่ Naha ซึ่งจากสนามบินออกมาเราสามารถนั่งรถไฟออกมาได้
แต่รถไฟของ Naha เป็นสายสั้นๆ มีเพียง 15 สถานีเท่านั้น
ซึ่งครอบคลุมแค่เพียงการเดินทางในเมืองสั้นๆ ของ Naha เท่านั้น

การท่องเที่ยวตามสถานที่ส่วนใหญ่จึงนิยมเที่ยวด้วยการ เช่ารถขับสะดวกสุด หรือ
หากอยากไปเที่ยวตามที่สำคัญๆ เขาก็มี One day trip หลายบริษัทอยู่ให้เลือกใช้บริการกัน

แต่สำหรับเราแล้ว
- ไม่อยากเช่ารถขับ เพราะขี้เกียจขับ และมีปัญหากะการขับรถ ตปท เพราะกลัวจะผิดทาง ผิดกฏบ้านเมืองเขา
- ไม่อยากซื้อ One day trip เพราะ พอซื้อเป็นทัวร์ ไม่ชอบที่ต้องมีเวลาจำกัด

เราเลยตั้งใจ ไปลุยเอาดาปหน้า เพราะคิดว่าคงต่อรถไฟ ต่อบัสไปเที่ยวที่ต่างๆ ได้แหละหน่า
เลยอยากมาเล่าสู่กันฟัง ถึงวิธีการเดินทางที่เราไปมา เผื่อเป็นประโยชน์ให้ใครที่ มีความเรื่องมากไม่เช่ารถ ไม่ซื้อทัวร์แบบเราไว้เป็นข้อมูล ^^


ป๊าดดดดดดดด เกริ่นมาตั้งนาน ยังไม่ได้เริ่มเดินทางซะที จุ๊บๆจุ๊บๆ





ทริปนี้ เราไป 11-16 สค 60
ความตั้งใจทริปนี้คือ เที่ยวเรื่อยๆ ใช้เงินไม่มาก เพราะเป็นทริปปุบปับ ที่ไม่ได้อยู่ในลิสที่ตั้งใจไว้ก่อน



เริ่มออกเดินด้วยสายการบิน Peach เวลา 1.55 น. จาก สุวรรณภูมินะครับ
ที่นั่งบนเครื่อง ฝั่งละ 3 ที่นั่ง เหมือนแอร์เอเชียบ้านเรา  ช่วงพื้นที่วางขาก็พอๆกับช่วงขาพอดี ถือว่ารวมๆ โอเคครับ
บินแค่ 4 ชั่วโมงครึ่ง แปปเดียว

อ่อๆ อย่างที่รู้กันเรื่องความเสี่ยงของการเท ของสายการบินนี้
เราก็เลยซื้อประกันภัยเดินทาง ไม่ถึง 400 บาท ครอบคลุมระยะเวลาทั้งทริป 6 วัน หากเครื่องดีเลย์ หรือยกเลิกบินเราสามารถเครมเงินประกันได้ด้วยครับ
แนะนำให้หาซื้อครับ เพื่อความสบายใจ



วันแรก
เดินทางถึงสนามบินนาฮะ กรอกเอกสาร ( ทางสายการบินมีแจกบนเครื่องครับ )
ผ่าน ตม. เข้าประเทศตามปกติ
ตอนเราไป เราโดนด่านศุลกากรขอค้นกระเป๋าด้วยจ้า งงไปหมด
ไปญี่ปุ่นตั้งหลายรอบ ไม่เคยมีปัญหาตอนเข้าประเทศ
แต่ครั้งนี้โดนเฉยเลย อาจเพราะหน้าตาดูเป็นเด็กติดยาหรือยังไงก็ไม่รู้ครับ ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้


ออกจากอาคารสนามบิน ต้องต่อ Shuttle bus มายังอาคารอีกอาคารหนึ่ง
ซึ่งเป็น Domestic Terminal เพื่อขึ้นรถไฟออกจากสนามบินเข้าเมืองครับ
ที่  Domestic Terminal บริเวณ ชั้น 1 จะมี Visitor Information อยู่
ซึ่งเราแนะนำว่า ให้ถามข้อมูลการเดินทางต่างๆ รถบัสสายต่างๆ ได้จากตรงนี้ ได้เลย
( ตอนเราไป พอไปถึง ยังง่วงๆ เอ๋อๆ อยู่ไม่ทันถามอะไร รีบตรงดิ่งเข้าที่พักเลย )


Visitor Information



แผนผัง พื้นที่บริเวณชั้น 1 : จุดฟ้าๆ คือ Visitor Information
ออกประตู 4 Bus stop หมายเลข 2 คือที่ขึ้นรถบัสไป Churaumi Aquarium
ออกประตู 3 Bus stop หมายเลข 4 คือที่ขึ้น Shuttle bus กลับไปอาคารสนามบินขากลับประเทศไทย



และข้างๆกัน มีเคาเตอร์ Travel Agency Information อยู่ซึ่งขายบัตรเข้า Churaumi Aquarium ราคาพิเศษ
ลองแวะถามกันดูนะครับ ( เราก็พลาดอีกเช่นเคย มาเห็นเอาตอนจะกลับแล้ว 555 เลยเก็บมาเป็นข้อมูลเผื่อเพื่อนๆที่กำลังจะไป )


เคาเตอร์ Travel Agency Information



ออกจากสนามบิน ขึ้นรถไฟ เพื่อเข้าเมืองได้เลยครับ
ค่ารถไฟอยู่ที่ประมาณ 200-300 เยน ต่อเที่ยวครับ


สถานีรถไฟต่างๆ ภายใน Naha ทั้งหมดมี 15 สถานีครับ


ที่พักวันแรก เราพัก Guest House ชื่อ Sora House เป็น Guest House เล็กๆ แต่สะอาด และดูโอเค มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งเล่น และในห้องนอนรวม มีห้องละ 6 เตียง อยู่ใกล้สถานี Miebashi เพียงแค่ 150 เมตร ราคาคืนละ 1,800 เยน
เนื่องจากอากาศช่วงตอนที่เราไป ร้อนมาก เรียกว่าร้อนกว่าเมืองไทยอีก แค่ออกแดดแปปเดียวเหงื่อก็ไหลตั้งแต่หัวยันตาตุ่มแล้ว บ่ายๆนี้เราจึงเลือกงีบตากแอร์อยู่ที่ Guest Houst สบายใจกว่า








ช่วงเย็นๆ เราไป Makishi Market เดินจาก สถานี Makishi ประมาณ 700 เมตร ที่มีจะมีของอาหารทะเล ของสดขายหลายร้าน
และพื้นที่ชั้น 2 ของตลาดมีร้านอาหารหลายร้านไว้คอยปรุงอาหารจำหน่ายอีกด้วยครับ






หอยนางรมอร่อยม๊ากกกก เราชี้เลือกที่ร้าน แล้วคุณป้าคนขายแกะให้กินสดๆกันเลย



พอช่วงค่ำ เราเดินเล่นแถวๆ Guest Houst มีร้านอาหารหลายร้านให้เลือกนั่งชิล
แต่ร้านที่เราเลือกนั่ง บรรยากาศดูโอเค คนญี่ปุ่นเลือกนั่งกันเยอะ แต่ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ
มีแต่รูปและเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ เราเลยใช้วิธีเสี่ยงโชคกับอาหารมื้อนี้เอา ผลที่ได้เป็นอย่างภาพที่เห็นครับ








เป็นรวมของทอด เครื่องในหมูต้มในซุปมิโซะ กินกับเบียร์เย็นๆ อร่อยดีครับ




วันต่อมา เราย้ายที่พัก เนื่องจาก Sora House เต็ม
เราได้ที่พักชื่อ Stella Resort เป็น Guest Houst ห้องรวม 6 ที่นอนเป็นล็อกๆ
มีม่านใครม่านมันคนละ 1 ช่อง Stella Resort อยู่ย่าน kokusai Street มีของขาย และร้านของกินเพียบ
เดินมาจาก สถานี Makishi ประมาณ 700 เมตร เราว่าที่นี่สะดวก
แต่ดูไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ ห้องน้ำมีน้อย แต่นอนได้แหละ ราคาคืนละ 1,180 เยน


ทางเข้าห้องพักครับ จะมีห้องย่อยๆ แยกชายหญิง หลายห้องด้วยกัน
บรรยากาศดูแบบ เท่เค้าล้อเล่นหลิ่วตา





โอเค๊ นอนด้ายยยยย !!!!



มื้อเที่ยงวันนี้เราฝากท้องกับร้านอาหารง่ายๆ แถวๆนั้น เป็น Okinawa noodle
ซึ่งจริงๆ เราเจอได้หลายร้านที่ขาย เป็นเหมือนแบบ เส้นราเมง กับน้ำซุปและมีหมูสามชั้นด้วย รสชาติโอเคแหละ กินได้ฮะ






บ่ายนี้เราไปเที่ยวที่ Shurijo Castle วิธีการเดินทางโดนรถไฟได้เลย
เราซื้อ Yui Rail 1 day Ticket ราคา 800 เยน สามารถใช้นั่งรถไฟแบบไม่จำกัดเที่ยวได้ 24 ชม. ครับ



เรานั่งรถไฟ ไปลงที่สถานที่ Shuri และเดินต่อไปอีกหน่อย
เอาจริงๆ ก็ไม่หน่อยนะ เป็นกิโลอยู่ และอากาศตอนนั้นร้อนมาก ถึงร้อนที่สุด
บริเวณแถวๆสถานีรถไฟ มีร้านเช่าจักรยานด้วยนะครับ หากใครขี้เกียจเดิน
หรืออยากปั่นจักรยานชมเมืองก็สามารถเช่าขี่ได้ แต่อากาศตอนนั้น ไม่เหมาะกับการขี่จักรยานจริงๆ

พื้นที่รอบๆของ บริเวณก่อนเข้าชมปราสาท จะมีจุดต่างๆ ให้สะสมแสตมป์ และสามารถรับของที่ระลึกได้






เราชอบญี่ปุ่นในความน่ารักของการที่ สถานที่ท่องเที่ยวที่ต่างๆ ชอบมีกิจกรรมให้สแตมป์ที่แตกต่างกันไป
ใครชอบอย่าลืมเตรียมสมุดโน๊ตส่วนตัวของตัวเองไปเก็บตราสแตมป์นะฮะ ^^



ค่าเข้าชม Shurijo Castle ปกติคนละ 820 เยน แต่ว่า บัตร Yui Rail 1 day Ticket
สามารถแสดงใช้เป็นส่วนลดค่าเข้าได้เหลือ 660 เยนครับ


ตอนไป เสียดายจัง หน้าปราสาทกำลังซ่อมแซมครับ





การแสดงบริเวณหน้าปราสาท มีเป็นรอบๆครับ





อากาศร้อนๆแบบนี้ ได้ไอศครีมมะม่วง ชื่นใจมากครับ


ช่วงเย็น เราไปเดินดูทะเลที่อยู่ใน Naha กันครับ
เรานั่งรถไฟไปลงสถานี Kencho Mae ( ในป้ายบนรถไฟ และที่สถานีจะเขียนว่า Prefectural Office )
เดินประมาณ 1 กิโลเมตร ไปยังชายหาดชื่อ Naminoue Beach
บรรยากาศแถวนั้นเป็นกึ่งสวนสาธารณะ มีชายหาดเล็กๆ
และมีพื้นที่ให้ลงเล่นน้ำได้ มีคนญี่ปุ่นพาเด็กๆ มาเล่นน้ำได้
โดยรวมๆเราว่า ถ้าอากาศไม่ร้อนมาก ช่วงเย็นๆ หาซื้อของกินมานั่งปิกนิคถือว่าได้บรรยากาศดีครับ





ค่ำนี้ เราหาอาหารกินแถวๆที่พักครับ ย่าน kokusai Street ครับ
เพราะว่าแถวนี้ ตามตรอกเล็ก ตรอกน้อยต่างๆ มีหลายร้านให้เลือกนั่งได้เลย
บรรยากาศดีหลายร้าน และราคาไม่แพงมากครับ
คืนนี้ เราย้ายไป 3 ร้านด้วยกัน เพราะอยากลองนั่งหลายๆแบบครับ





ยิ้มยิ้มยิ้ม  เดี๋ยวอีก 4 วันที่เหลือ ไว้มาเล่าต่อนะครับ
ชื่อสินค้า:   okinawa , Japan , โอกินาว่า , ญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่