ประสบการณ์ผ่าตาปลา

กระทู้สนทนา

ผมเป็นตาปลาที่ใต้ฝ่าเท้าหลังจากกลับมาจากภาคสนาม ตอนแรกๆมันเห็นเป็นแค่อาการพองจากการเสียดสีธรรมดาๆ แต่ประมาณ7-8วันต่อมามันก็ยังไม่หาย เลยไปหาเภสัชที่คลินิกใกล้ๆบ้าน เขาก็บอกว่าเป็นตาปลา แล้วก็แนะนำยาcollomak กับพลาสเตอร์ปิดตาปลาที่เป็นรูคล้ายโดนัทของscholl มาใช้ ผมใช้ทั้งสองอย่างอยู่เกือบเดือนอาการดูจะไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไหร่เวลาเดินแล้วรู้สึกเจ็บมากขึ้นๆ จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกมีสองทางเลือกคือทายากับจี้ด้วยไฟฟ้า ในใจก็คิดว่าจี้ด้วยไฟฟ้าคงจะหายเร็วกว่าจึงบอกกับหมอว่าจะจี้ออก หมอก็จัดแจงเขียนใบนัดวันมา
พอถึงวันผ่าหมอนัดเวลา9โมงเป๊ะผมก็ไปนั่งรอ ก็ยื่นบัตรพยาบาลก็ให้ชุดมาเปลี่ยน วัดความดันเสร็จก็ไปรอหน้าห้องผ่าตัด เวลานั้นคือมันดูน่ากลัวความคิดฟุ้งซ่านมากๆ พอเข้าห้องผ่าตัดขึ้นเตียงพยาบาลก็เอาอะไรบางอย่างมาแปะตรงขาอ่อนแล้วเอาผ้าปิดตาไว้ สักพักก็จับเท้าที่เป็นตาปลาเช็ดน้ำยา แล้วก็แทงเข็มยาชาเข้ามาน่าจะแถวบริเวณรอบๆตาปลา ความรู้สึกแบบจี๊ดแล่นมาถึงสันหลังพยาบาลต้องช่วยกดขาไว้ ฉีนยาชาประมาณ2-3เข็มไม่แน่ใจแต่รู้ว่าเจ็บมากทุกเข็มสักพักตรงที่เป็นตาปลาจนถึงนิ้วหัวแม่เท้าก็หมดความรู้สึก ตามมาด้วยกลิ่นไหม้ๆและรู้สึกอุ่นๆที่ฝ่าเท้า ประมาณ15-30นาทีก็เสร็จ พยาบาลเดินพยุงออกจากห้องผ่าตัด จ่ายยาแก้ปวดแล้วบอกพรุ่งนี้ให้มาทำแผลจนกว่าแผลจะหาย

สภาพก่อนไปหาหมอ

หลังจากไปหาหมอแล้วนัดวันผ่า มันเหมือนจะหายนะแต่มันไม่หาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันแรกที่เปิดแผล[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่5หลังจากผ่า[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
10วันหลังผ่า[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
13วันหลังผ่า ตรงเหลืองๆคือผงยาทีซีไมซิน แม่ผมเอามาโรย ตอนโรยมันแสบมากๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
17วันหลังผ่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
30วันหลังผ่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัจจุบัน 25/08/60
ผมผ่าวันที่7กรกฎาคม2560
ทุกวันที่ไปล้างแผลมันเจ็บมากผ้าก๊อสมันจะติดกับแผลต้องดึงให้เลือดออกทุกวัน โชคดีที่ไม่ต้องคว้านเนื้อตายออก
ช่วงมกราคมปีหน้าผมต้องไปภาคสนามปีสุดท้าย ผมจะดูแลเท้าให้ดีที่สุด ถ้าเป็นอีกผมคงเลือกทายาดีกว่า เพราะจี้ด้วยไฟฟ้ามันเจ็บตอนฉีดยาชา และตอนทำแผลทุกวัน
เดินลำบากไปหลายอาทิตย์เลย

แก้ไขข้อความเมื่อ