
สวัสดีจ้าวันนี้หัวข้อของกระทู้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ เป็นเรื่องเล่าสยองขวัญในโรงเรียนของเราเองค่ะ
ทุกโรงเรียนมักจะมีเรื่องเล่าของสิ่งลี้ลับที่เล่าต่อๆกันมาจากรุ่นพี่บ้างจากอาจารย์บ้าง ชวนขนหัวลุกไปตามๆกัน บางคนก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง
โรงเรียนของเราก็มีเรื่องเล่าสยองขวัญที่เล่าต่อๆกันมานะแต่เราก็รู้ไม่ค่อยมากแต่ก็ชอบฟัง โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนชื่อดังในจังหวัด อายุของโรงเรียนก็100กว่าปีแล้ว เมื่อก่อนเป็นโรงเรียนหญิงล้วนแต่ปัจจุบันก็มีทั้งชาย-หญิง เราไม่ขอบอกชื่อโรงเรียนนะ
วันนี้มีเรื่องมาแชร์สัก4เรื่องละกัน
1.ปี2556เราสอบเข้าม.1ที่โรงเรียนนี้ได้เข้ามาก็ได้ยินเรื่องนี้โดยอัตโนมัติ เริ่มเลยละกันขอตั้งชื่อว่า
"เสาธงอาถรรพ์"เป็นที่เล่าขานเรื่อง เสาธงเคารพธงชาติ ของโรงเรียนเป็นเสาธงที่มีฐานใหญ่มาก
เสาก็ใหญ่อลังการเหมือนหอไอเฟลคิดว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในบรรดาโรงเรียนทั้งจังหวัดก็ว่าได้มั้ง
นักเรียนทุกคนน่าจะรู้เรื่องเล่านี้แต่ก็ไม่รู้ว่ารู้กันได้ไงนะเค้าว่ากันว่าทุกๆปีจะต้องมีรุ่นพี่ม.6เสียชีวิตไม่ก็เกิดอุบัติเหตุอะไรสักอย่าง อาจารย์มักจะเตือนรุ่นพี่ม.6ทุกรุ่นให้ระมัดระวังตัวก่อนจะเอนท์เข้ามหาลัยโดยส่วนมากรุ่นพี่ก็จะเชื่อกัน
สาเหตุที่อาจารย์ต้องเตือนอาจารย์เล่าว่าเมื่อก่อนโรงเรียนของเราไม่ได้ตั้งอยู่ที่ปัจจุบัน แต่พอรับนร.ชายเพิ่มเลยต้องขยายรร.จึงรร.มาอยู่ที่ปัจจุบัน และสร้างเสาธงของโรงเรียนขึ้นใหม่ แต่ไม่ได้ขอขมาเจ้าที่ก่อน หลังจากสร้างเสาธงเสร็จก็มักจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ตลอดส่วนมากจะเป็นรุ่นพี่ม.6นานเข้าพอรุ่นพี่เสียชีวิตติดต่อกันทุกปีๆเป็นที่แปลกใจจนต้องทำพิธีขอขมาอนุญาติสิ่งศักดิ์ศิษย์อย่างถูกต้องก็ไม่มีรุ่นพี่เสียชีวิตเลยนะเรื่องนี้ถ้าให้เรียกก็น่าจะเป็น"อาถรรพ์เสาธง"แหละ
2.เรื่อง"หาทางออกไม่เจอ"เป็นเรื่องของรุ่นพี่ม.6ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ตอนนั้นเราอยู่ม.1วันนั้นเป็นคาบวิชานาฎศิลป์ซึ่งต้องเดินไปเรียนอีกตึกนึงซึ่งในห้องนาฎศิลป์จะมีหุ่นอยู่2ตัวขนาดเท่าคนใส่ชุดสวยๆทุกครั้งเลย โดยหุ่นจะยืนแยกกันระหว่างหิ้งพ่อแก่(เด็กนาฎศิลป์น่าจะนึกออก)ทุกครั้งที่เดินผ่านห้องนาฎศิลป์เด็กทุกคนจะต้องยกมือไหว้พ่อแก่ทุกคน
วันนั้นตอนเข้าเรียนมีเพื่อนคนนึงนั่งเหม่อลอยมองออกไปข้างนอกอาจารย์เห็นอยู่ดีๆแกก็ทัก แล้วเล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟัง อาจารย์เล่าว่าหุ่น2ตัวนั้นเป็นหุ่นรุ่นพี่ที่เสียชีวิตแล้วแต่เราจำได้แค่หุ่นตัวแรกนะ หุ่นตัวที่2จำไม่ได้แล้วเพราะตั้งแต่เราอยู่ม.1อ่ะ
อาจารย์เล่าว่าวันนั้นถ้าจำไม่ผิดเป็นงานโรงเรียนซึ่งจะไม่มีการเรียนการสอนอาจารย์ก็จะอยู่ตามซุ้มของแต่ละวิชาไม่ค่อยสนใจเด็ก รุ่นพี่ม.6กลุ่มนี้เลยโดดเรียนออกมาประมาณ3-4คนมีทั้งชาย-หญิงโดยในกลุ่มมีพี่คนนึงเป็นเด็กนาฎศิลป์
พวกพี่เค้าขับรถยนต์ไปเที่ยวน้ำตกแห่งนึงในจังหวัด แต่ไปไม่ถึงก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตายทั้งคัน ตอนนั้นเป็นข่าวดังมากพอเวลาผ่านไปมีอยู่วันนึงมีรุ่นพี่ม.3เข้ามาเรียนวิชานาฎศิลป์ในห้อง พี่เค้ามีอาการเหม่อลอยมองออกไปนอกห้องเรียนอาการเดียวกับเพื่อนเรานี่แหละอยู่ดีๆก็ร้องไห้โฮออกมา
จนเพื่อนๆกับอาจารย์ตกใจแล้วอาจารย์ก็ถามว่า"เป็นอะไรร้องทำไม"จากนั้นรุ่นพี่ม.3ก็พูดว่า"อาจารย์ช่วยหนูด้วยหนูอยากกลับบ้านทางมันมืดไปหมดเลย"อาจารย์เลยถามว่า"เธอเป็นใครเธอใช่พี่..ใช่ไหม"จากนั้นพี่ม.3คนนั้นก็ร้องไห้ใหญ่เลยแต่อาจารย์ไม่เชื่อเลยถามเรื่องราวต่างๆในครอบครัวของพี่..เพราะคิดว่าพี่ม.3คนนั้นโกหกแต่พี่เค้ากลับตอบและเล่าได้ทุกเรื่องทั้งที่ไม่เคยรู้จักกับพี่..ที่เสียชีวิตเลยนะ
จนอาจารย์เชื่อจากนั้นอาจารย์ก็ถามว่า"อยากให้ช่วยอะไรทำไมต้องมาเข้าร่างน้อง"พี่..ที่อยู่ในร่างพี่ม.3ก็บอกว่า พี่เค้าหาทางกลับบ้านไม่ได้มันมืดไปหมดเค้าอยากเจอแม่กับป้าแต่พี่เค้าไปหาใครไม่ได้นึกออกแค่อาจารย์คนเดียวเลยอยากให้อาจารย์ช่วยพากลับบ้านไปหาแม่
จากนั้นอาจารย์เลยโทรหาแม่พี่ที่เสียชีวิตให้มาที่โรงเรียนแม่พี่เค้าก็เหมือนกับไม่เชื่อแต่ก็มาที่โรงเรียนมากับป้า2คนนะมาถึงพี่ม.3คนนั้นก็เรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่และเข้าไปกอดแม่เค้าก็ไม่เชื่อนะเลยถามว่าผู้หญิงที่มาด้วยอีกคนคือใครพี่ม.3คนนั้นก็ตอบว่าเป็นป้าคือพี่เค้าตอบได้ทุกอย่างจนแม่กับป้าเชื่อทีนี้ทั้งแม่กับป้าก็พากันร้องทั้งคู่ แล้วอาจารย์ก็ถามว่าทำไมถึงกลับบ้านไม่ได้พี่ม.3ก็ตอบกลับว่า"แม่ไม่ไปรับพี่เค้าพี่เค้ากลับไม่ได้"จนแม่พี่เค้านึกออกว่าตั้งแต่เสร็จงานศพก็ไม่ได้ไปเชิญดวง
วิญญาน ที่สถานที่เกิดอุบัติเหตุ พี่เค้าเลยกลับบ้านไม่ได้ทางมืดไปหมดเลย
พี่เค้าอยากกลับบ้านหลังจากนั้นอาจารย์ก็บอกว่า แม่เค้ารับรู้แล้วให้ออกจากร่างน้องได้แล้วน้องเค้าไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแต่ก่อนที่พี่เค้าจะไปพี่เค้าบอกว่าถ้าแม่เค้าไปรับดวงวิญญาน กลับมาแล้วเค้าขอมาอยู่กับอาจารย์ได้ไหม? อาจารย์ก็ตอบว่าได้ แต่ห้ามมาแกล้งน้องที่เข้ามาเรียนในห้อง พี่..ก็ตกลงแล้วก็ออกจากร่างพี่ม.3ไป พี่เค้าก็สลบไปเลยวันรุ่งขึ้นแม่กับป้าพี่..ก็ไปเชิญดวงวิญญานกลับบ้านและโทรมาบอกอาจารย์ว่าเชิญพี่..กลับบ้านแล้วนะ
ส่วนหุ่นตัวที่2เราจำเรื่องที่อาจารย์เล่าไม่ได้แต่รู้ว่าเป็นรุ่นพี่ที่เสียชีวิตแล้วมาขออยู่กับอาจารย์เป็นอิสลามแต่จำไม่ไดว่าเป็นอะไรตายแต่น่าแปลกคือถ้าใครลืมของหรืออะไรไว้ที่ห้องนาฎศิลป์เวลามาหาก็จะเจอทุกคนแต่ถ้าคนไหนหยิบของจากห้องนาฎศิลป์ออกไปโดยไม่บอกอาจารย์ก่อนไม่เกิน3วันต้องรีบเอามาคืนทุกคนเลย เชื่อว่าต้องเป็นหุ่นพี่2คนที่อยู่ในหุ่นคอยดูแลห้องนาฎศิลป์แน่นอนหลังจากฟังเรื่องราวอาจารย์ก็เลยบอกว่าทุกคนที่เข้ามาเรียนในห้องนาฎศิลป์จะต้องตั้งใจเรียนมีสมาธิอย่าให้จิตว่างเพราะมันง่ายต่อสิ่งที่เรามองไม่เห็นจะเข้าร่างได้
3.เป็นเรื่องที่เกิดกับเพื่อนในห้องเราเป็นเพื่อนในกลุ่มขอตั้งชื่อเรื่องว่า"ขอส่วนบุญ"ในกลุ่มเรามีกัน9คนมีเพื่อนคนนึงชื่อแป้ง บ้านเค้าอยู่ต่างอำเภอเลยต้องมาอยู่หอพักในเมือง
วันนั้นแป้งมาโรงเรียนพอเข้าแถวเสร็จก็ขึ้นห้องหน้าซีด จนพวกเราถามว่าเป็นอะไร แป้งเล่าว่าเมื่อคืนฝันร้ายฝันน่ากลัว พวกเราถามว่า"ฝันว่าอะไรเห็นหน้าซีดจัง" เค้าตอบว่าเมื่อคืนพี่สาวไม่ได้มานอนด้วยเค้านอนที่หอคนเดียวแล้วฝันว่ามีผู้ชายใส่ชุดขาวไม่เห็นหน้ามายืนปลายเตียงยืนอยู่พักนึงจนสะดุ้งตื่น
พวกเราก็บอกว่าอย่าคิดมากคืนนี้ก็สวดมนตร์ซะ
วันรุ่งขึ้นมาโรงเรียนแป้งก็มาเล่าให้พวกเราฟังอีกว่าเมื่อคืนไม่ใช่แค่ฝันนะพอเค้าหลับเหมือนมีอะไรมาทับหน้าอกหายใจไม่ออกเหมือนมีคนทับ เลยสวดมนตร์ก็ดีขึ้น มันเริ่มจะหนักขึ้นทุกคืนวันที่3พี่สาวก็ยังไม่ได้กลับมานอนที่หอเค้าก็ต้องนอนคนเดียวอีกเป็นคืนที่3
คืนนี้น่าจะหนักกว่า2คืนที่ผ่านมาคือทั้งมาให้เห็นทั้งอำและมาขอส่วนบุญ เช้าวันรุ่งขึ้นแป้งรีบมาเล่าให้พวกเราฟังปากสั่นตัวสั่นทุกครั้งที่เค้าเล่าถึงความฝันน้ำตาจะคลอเหมือนจะร้องไห้ทุกที ตอนนั้นถึงคาบวิชากฎหมายอาจารย์ก็เข้ามาสอนได้สักพักแป้งก็พูดเสียงดังว่า"กูมาทวงสัญญา"และมีท่าทางก้าวร้าวเหมือนผู้ชายทำเอาตกใจทั้งห้อง บังเอิญอาจารย์ที่สอนมีเซนท์เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับพอดี อาจารย์เลยให้แป้งมานั่งแล้วอาจารย์ก็จับมือทั้ง2ข้างแล้วถามว่า"เป็นใครมาจากไหนต้องการอะไร" เค้าก็ตอบว่า"กูไม่รู้"อาจารย์โทรหาลูกศิษย์อีกคนที่อยู่ม.5ให้ซื้อน้ำแดงมาให้แก้วนึงหลังจากได้กินน้ำแดงก็สงบลง อาจารย์ถามต่อว่าต้องการอะไรมาเข้าลูกศิษย์แกทำไมเค้าตอบว่า"มันไม่ทำตามสัญญา"อาจารย์เลยถามว่าสัญญาอะไร เค้าก็ตอบว่า"กูไม่รู้"ตอนนั้นแป้งมีอาการเหมือนผู้ชาย พอเพื่อนในกลุ่มเข้าไปนั่งใกล้ๆ ก็ไล่ก็จะออกมาหมดเป็นแบบนี้เกือบ2ชม.อาจารย์ก็เลยบอกว่าเอางี้ให้ออกจากร่างเพื่อนเราก่อนถ้าไม่ออกแกจะเอาเรื่องนะ วิญญานนั้นก็บอกว่าจะออกแต่ต้องไปทำบุญให้เค้าภายในวันนี้นะ อาจารย์เลยบอกว่าเลิกเรียนจะไปทำบุญแต่ถ้าไม่ยอมออกจากร่างก็จะไม่ไปทำบุญให้ จากนั้นแป้งก็กลับมาเหมือนเดิมเลิกเรียกพวกเราก็พากันไปทำบุญกัน
เช้าวันที่4แป้งก็มาเล่าว่าเห็นผู้ชายคนเดิมแต่ท่าทางดูดีกว่าครั้งแรก เหมือนจะมาบอกว่าได้รับบุญแล้วจากนั้นก็ไม่ฝันถึงอีกเลย อาจารย์บอกว่าแกรู้สึกพองขนตั้งแต่เข้ามาสอนแล้วแต่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนวิญญานดวงนั้นอาจจะเป็นดวงวิญญานแร่ร่อนตามหอพักที่แป้งพักอยู่เพราะทางเข้าหอท้ายซอยเป็นวัด เค้าอาจจะแค่มาขอส่วนบุญหรือแป้งอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เค้าสื่อสารว่าต้องการส่วนบุญเลยมาขอจากแป้งหลังจากทำบุญไปให้ก็ไม่ฝันถึงอีกเลย
4.เรื่อง"สักน้ำมัน"วันนั้นคาบอังกฤษเพื่อนผู้ชายคนนึงชื่อพี คืออาจารย์เรียกส่งงานแต่พีไม่ได้ทำมาส่งอาจารย์ก็ดุแล้วพลานไปเรื่องอื่นเพราะมันเป็นเด็กเกเรโดดเรียนประจำแกบ่นประมาณครึ่งชม.แล้วขอเบอร์มือถือแม่พีด้วย
พอหมดคาบอาจารย์ก็ออกไปพีก็ลุกขึ้นทำท่าเหมือนไมพอใจยืนขึ้นทำท่าเหมือนลิง(หนุมาน)เกาหัวกระโดดไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ โต้ะเรียนกระจัดกระจาย เพื่อนสนิทของพีเข้าไปลูบหลังอยู่หลายครั้งพร้อมกับเรียกชื่อพีย้ำหลายครั้งจนกลับมาปกติ
พวกเรางงทั้งห้องพวกเรามารู้ทีหลังว่าตอนช่วงโรงเรียนปิดเทอมกลับบ้านแล้วกลับไปเยี่ยมเพื่อนเก่าแต่ดันไป"สักน้ำมัน"โดยไม่บอกแม่และที่หนุมานเข้าตอนนั้นก็ไม่รู้ตัวเพราะอาจจะควบคุมสิ่งที่สักมาไม่ได้

เรื่องทั้งหมดที่เราเล่ามาทั้งได้ฟังมาจากอาจารย์ทั้งเห็นกับตาตัวเองถามว่ากลัวไหมก็กลัวนะและไม่อยากเห็นและพบเจออีก เรื่องเหล่านี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้คงจะมีอีกหลายเรื่องที่อาจารย์เค้ารู้แต่ไม่อยากเล่าให้นักเรียนฟังเพราะกลัวนักเรียนจะกลัวกันแหล่ะ

โรงเรียนของเพื่อนๆหล่ะมีเรื่องแบบนี้บ้างไหม?
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่TT
ทุกโรงเรียนมักจะมีเรื่องเล่าของสิ่งลี้ลับที่เล่าต่อๆกันมาจากรุ่นพี่บ้างจากอาจารย์บ้าง ชวนขนหัวลุกไปตามๆกัน บางคนก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง
โรงเรียนของเราก็มีเรื่องเล่าสยองขวัญที่เล่าต่อๆกันมานะแต่เราก็รู้ไม่ค่อยมากแต่ก็ชอบฟัง โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนชื่อดังในจังหวัด อายุของโรงเรียนก็100กว่าปีแล้ว เมื่อก่อนเป็นโรงเรียนหญิงล้วนแต่ปัจจุบันก็มีทั้งชาย-หญิง เราไม่ขอบอกชื่อโรงเรียนนะ
วันนี้มีเรื่องมาแชร์สัก4เรื่องละกัน
1.ปี2556เราสอบเข้าม.1ที่โรงเรียนนี้ได้เข้ามาก็ได้ยินเรื่องนี้โดยอัตโนมัติ เริ่มเลยละกันขอตั้งชื่อว่า
"เสาธงอาถรรพ์"เป็นที่เล่าขานเรื่อง เสาธงเคารพธงชาติ ของโรงเรียนเป็นเสาธงที่มีฐานใหญ่มาก
เสาก็ใหญ่อลังการเหมือนหอไอเฟลคิดว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในบรรดาโรงเรียนทั้งจังหวัดก็ว่าได้มั้ง
นักเรียนทุกคนน่าจะรู้เรื่องเล่านี้แต่ก็ไม่รู้ว่ารู้กันได้ไงนะเค้าว่ากันว่าทุกๆปีจะต้องมีรุ่นพี่ม.6เสียชีวิตไม่ก็เกิดอุบัติเหตุอะไรสักอย่าง อาจารย์มักจะเตือนรุ่นพี่ม.6ทุกรุ่นให้ระมัดระวังตัวก่อนจะเอนท์เข้ามหาลัยโดยส่วนมากรุ่นพี่ก็จะเชื่อกัน
สาเหตุที่อาจารย์ต้องเตือนอาจารย์เล่าว่าเมื่อก่อนโรงเรียนของเราไม่ได้ตั้งอยู่ที่ปัจจุบัน แต่พอรับนร.ชายเพิ่มเลยต้องขยายรร.จึงรร.มาอยู่ที่ปัจจุบัน และสร้างเสาธงของโรงเรียนขึ้นใหม่ แต่ไม่ได้ขอขมาเจ้าที่ก่อน หลังจากสร้างเสาธงเสร็จก็มักจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ตลอดส่วนมากจะเป็นรุ่นพี่ม.6นานเข้าพอรุ่นพี่เสียชีวิตติดต่อกันทุกปีๆเป็นที่แปลกใจจนต้องทำพิธีขอขมาอนุญาติสิ่งศักดิ์ศิษย์อย่างถูกต้องก็ไม่มีรุ่นพี่เสียชีวิตเลยนะเรื่องนี้ถ้าให้เรียกก็น่าจะเป็น"อาถรรพ์เสาธง"แหละ
2.เรื่อง"หาทางออกไม่เจอ"เป็นเรื่องของรุ่นพี่ม.6ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ตอนนั้นเราอยู่ม.1วันนั้นเป็นคาบวิชานาฎศิลป์ซึ่งต้องเดินไปเรียนอีกตึกนึงซึ่งในห้องนาฎศิลป์จะมีหุ่นอยู่2ตัวขนาดเท่าคนใส่ชุดสวยๆทุกครั้งเลย โดยหุ่นจะยืนแยกกันระหว่างหิ้งพ่อแก่(เด็กนาฎศิลป์น่าจะนึกออก)ทุกครั้งที่เดินผ่านห้องนาฎศิลป์เด็กทุกคนจะต้องยกมือไหว้พ่อแก่ทุกคน
วันนั้นตอนเข้าเรียนมีเพื่อนคนนึงนั่งเหม่อลอยมองออกไปข้างนอกอาจารย์เห็นอยู่ดีๆแกก็ทัก แล้วเล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟัง อาจารย์เล่าว่าหุ่น2ตัวนั้นเป็นหุ่นรุ่นพี่ที่เสียชีวิตแล้วแต่เราจำได้แค่หุ่นตัวแรกนะ หุ่นตัวที่2จำไม่ได้แล้วเพราะตั้งแต่เราอยู่ม.1อ่ะ
อาจารย์เล่าว่าวันนั้นถ้าจำไม่ผิดเป็นงานโรงเรียนซึ่งจะไม่มีการเรียนการสอนอาจารย์ก็จะอยู่ตามซุ้มของแต่ละวิชาไม่ค่อยสนใจเด็ก รุ่นพี่ม.6กลุ่มนี้เลยโดดเรียนออกมาประมาณ3-4คนมีทั้งชาย-หญิงโดยในกลุ่มมีพี่คนนึงเป็นเด็กนาฎศิลป์
พวกพี่เค้าขับรถยนต์ไปเที่ยวน้ำตกแห่งนึงในจังหวัด แต่ไปไม่ถึงก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตายทั้งคัน ตอนนั้นเป็นข่าวดังมากพอเวลาผ่านไปมีอยู่วันนึงมีรุ่นพี่ม.3เข้ามาเรียนวิชานาฎศิลป์ในห้อง พี่เค้ามีอาการเหม่อลอยมองออกไปนอกห้องเรียนอาการเดียวกับเพื่อนเรานี่แหละอยู่ดีๆก็ร้องไห้โฮออกมา
จนเพื่อนๆกับอาจารย์ตกใจแล้วอาจารย์ก็ถามว่า"เป็นอะไรร้องทำไม"จากนั้นรุ่นพี่ม.3ก็พูดว่า"อาจารย์ช่วยหนูด้วยหนูอยากกลับบ้านทางมันมืดไปหมดเลย"อาจารย์เลยถามว่า"เธอเป็นใครเธอใช่พี่..ใช่ไหม"จากนั้นพี่ม.3คนนั้นก็ร้องไห้ใหญ่เลยแต่อาจารย์ไม่เชื่อเลยถามเรื่องราวต่างๆในครอบครัวของพี่..เพราะคิดว่าพี่ม.3คนนั้นโกหกแต่พี่เค้ากลับตอบและเล่าได้ทุกเรื่องทั้งที่ไม่เคยรู้จักกับพี่..ที่เสียชีวิตเลยนะ
จนอาจารย์เชื่อจากนั้นอาจารย์ก็ถามว่า"อยากให้ช่วยอะไรทำไมต้องมาเข้าร่างน้อง"พี่..ที่อยู่ในร่างพี่ม.3ก็บอกว่า พี่เค้าหาทางกลับบ้านไม่ได้มันมืดไปหมดเค้าอยากเจอแม่กับป้าแต่พี่เค้าไปหาใครไม่ได้นึกออกแค่อาจารย์คนเดียวเลยอยากให้อาจารย์ช่วยพากลับบ้านไปหาแม่
จากนั้นอาจารย์เลยโทรหาแม่พี่ที่เสียชีวิตให้มาที่โรงเรียนแม่พี่เค้าก็เหมือนกับไม่เชื่อแต่ก็มาที่โรงเรียนมากับป้า2คนนะมาถึงพี่ม.3คนนั้นก็เรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่และเข้าไปกอดแม่เค้าก็ไม่เชื่อนะเลยถามว่าผู้หญิงที่มาด้วยอีกคนคือใครพี่ม.3คนนั้นก็ตอบว่าเป็นป้าคือพี่เค้าตอบได้ทุกอย่างจนแม่กับป้าเชื่อทีนี้ทั้งแม่กับป้าก็พากันร้องทั้งคู่ แล้วอาจารย์ก็ถามว่าทำไมถึงกลับบ้านไม่ได้พี่ม.3ก็ตอบกลับว่า"แม่ไม่ไปรับพี่เค้าพี่เค้ากลับไม่ได้"จนแม่พี่เค้านึกออกว่าตั้งแต่เสร็จงานศพก็ไม่ได้ไปเชิญดวง
วิญญาน ที่สถานที่เกิดอุบัติเหตุ พี่เค้าเลยกลับบ้านไม่ได้ทางมืดไปหมดเลย
พี่เค้าอยากกลับบ้านหลังจากนั้นอาจารย์ก็บอกว่า แม่เค้ารับรู้แล้วให้ออกจากร่างน้องได้แล้วน้องเค้าไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแต่ก่อนที่พี่เค้าจะไปพี่เค้าบอกว่าถ้าแม่เค้าไปรับดวงวิญญาน กลับมาแล้วเค้าขอมาอยู่กับอาจารย์ได้ไหม? อาจารย์ก็ตอบว่าได้ แต่ห้ามมาแกล้งน้องที่เข้ามาเรียนในห้อง พี่..ก็ตกลงแล้วก็ออกจากร่างพี่ม.3ไป พี่เค้าก็สลบไปเลยวันรุ่งขึ้นแม่กับป้าพี่..ก็ไปเชิญดวงวิญญานกลับบ้านและโทรมาบอกอาจารย์ว่าเชิญพี่..กลับบ้านแล้วนะ
ส่วนหุ่นตัวที่2เราจำเรื่องที่อาจารย์เล่าไม่ได้แต่รู้ว่าเป็นรุ่นพี่ที่เสียชีวิตแล้วมาขออยู่กับอาจารย์เป็นอิสลามแต่จำไม่ไดว่าเป็นอะไรตายแต่น่าแปลกคือถ้าใครลืมของหรืออะไรไว้ที่ห้องนาฎศิลป์เวลามาหาก็จะเจอทุกคนแต่ถ้าคนไหนหยิบของจากห้องนาฎศิลป์ออกไปโดยไม่บอกอาจารย์ก่อนไม่เกิน3วันต้องรีบเอามาคืนทุกคนเลย เชื่อว่าต้องเป็นหุ่นพี่2คนที่อยู่ในหุ่นคอยดูแลห้องนาฎศิลป์แน่นอนหลังจากฟังเรื่องราวอาจารย์ก็เลยบอกว่าทุกคนที่เข้ามาเรียนในห้องนาฎศิลป์จะต้องตั้งใจเรียนมีสมาธิอย่าให้จิตว่างเพราะมันง่ายต่อสิ่งที่เรามองไม่เห็นจะเข้าร่างได้
3.เป็นเรื่องที่เกิดกับเพื่อนในห้องเราเป็นเพื่อนในกลุ่มขอตั้งชื่อเรื่องว่า"ขอส่วนบุญ"ในกลุ่มเรามีกัน9คนมีเพื่อนคนนึงชื่อแป้ง บ้านเค้าอยู่ต่างอำเภอเลยต้องมาอยู่หอพักในเมือง
วันนั้นแป้งมาโรงเรียนพอเข้าแถวเสร็จก็ขึ้นห้องหน้าซีด จนพวกเราถามว่าเป็นอะไร แป้งเล่าว่าเมื่อคืนฝันร้ายฝันน่ากลัว พวกเราถามว่า"ฝันว่าอะไรเห็นหน้าซีดจัง" เค้าตอบว่าเมื่อคืนพี่สาวไม่ได้มานอนด้วยเค้านอนที่หอคนเดียวแล้วฝันว่ามีผู้ชายใส่ชุดขาวไม่เห็นหน้ามายืนปลายเตียงยืนอยู่พักนึงจนสะดุ้งตื่น
พวกเราก็บอกว่าอย่าคิดมากคืนนี้ก็สวดมนตร์ซะ
วันรุ่งขึ้นมาโรงเรียนแป้งก็มาเล่าให้พวกเราฟังอีกว่าเมื่อคืนไม่ใช่แค่ฝันนะพอเค้าหลับเหมือนมีอะไรมาทับหน้าอกหายใจไม่ออกเหมือนมีคนทับ เลยสวดมนตร์ก็ดีขึ้น มันเริ่มจะหนักขึ้นทุกคืนวันที่3พี่สาวก็ยังไม่ได้กลับมานอนที่หอเค้าก็ต้องนอนคนเดียวอีกเป็นคืนที่3
คืนนี้น่าจะหนักกว่า2คืนที่ผ่านมาคือทั้งมาให้เห็นทั้งอำและมาขอส่วนบุญ เช้าวันรุ่งขึ้นแป้งรีบมาเล่าให้พวกเราฟังปากสั่นตัวสั่นทุกครั้งที่เค้าเล่าถึงความฝันน้ำตาจะคลอเหมือนจะร้องไห้ทุกที ตอนนั้นถึงคาบวิชากฎหมายอาจารย์ก็เข้ามาสอนได้สักพักแป้งก็พูดเสียงดังว่า"กูมาทวงสัญญา"และมีท่าทางก้าวร้าวเหมือนผู้ชายทำเอาตกใจทั้งห้อง บังเอิญอาจารย์ที่สอนมีเซนท์เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับพอดี อาจารย์เลยให้แป้งมานั่งแล้วอาจารย์ก็จับมือทั้ง2ข้างแล้วถามว่า"เป็นใครมาจากไหนต้องการอะไร" เค้าก็ตอบว่า"กูไม่รู้"อาจารย์โทรหาลูกศิษย์อีกคนที่อยู่ม.5ให้ซื้อน้ำแดงมาให้แก้วนึงหลังจากได้กินน้ำแดงก็สงบลง อาจารย์ถามต่อว่าต้องการอะไรมาเข้าลูกศิษย์แกทำไมเค้าตอบว่า"มันไม่ทำตามสัญญา"อาจารย์เลยถามว่าสัญญาอะไร เค้าก็ตอบว่า"กูไม่รู้"ตอนนั้นแป้งมีอาการเหมือนผู้ชาย พอเพื่อนในกลุ่มเข้าไปนั่งใกล้ๆ ก็ไล่ก็จะออกมาหมดเป็นแบบนี้เกือบ2ชม.อาจารย์ก็เลยบอกว่าเอางี้ให้ออกจากร่างเพื่อนเราก่อนถ้าไม่ออกแกจะเอาเรื่องนะ วิญญานนั้นก็บอกว่าจะออกแต่ต้องไปทำบุญให้เค้าภายในวันนี้นะ อาจารย์เลยบอกว่าเลิกเรียนจะไปทำบุญแต่ถ้าไม่ยอมออกจากร่างก็จะไม่ไปทำบุญให้ จากนั้นแป้งก็กลับมาเหมือนเดิมเลิกเรียกพวกเราก็พากันไปทำบุญกัน
เช้าวันที่4แป้งก็มาเล่าว่าเห็นผู้ชายคนเดิมแต่ท่าทางดูดีกว่าครั้งแรก เหมือนจะมาบอกว่าได้รับบุญแล้วจากนั้นก็ไม่ฝันถึงอีกเลย อาจารย์บอกว่าแกรู้สึกพองขนตั้งแต่เข้ามาสอนแล้วแต่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนวิญญานดวงนั้นอาจจะเป็นดวงวิญญานแร่ร่อนตามหอพักที่แป้งพักอยู่เพราะทางเข้าหอท้ายซอยเป็นวัด เค้าอาจจะแค่มาขอส่วนบุญหรือแป้งอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เค้าสื่อสารว่าต้องการส่วนบุญเลยมาขอจากแป้งหลังจากทำบุญไปให้ก็ไม่ฝันถึงอีกเลย
4.เรื่อง"สักน้ำมัน"วันนั้นคาบอังกฤษเพื่อนผู้ชายคนนึงชื่อพี คืออาจารย์เรียกส่งงานแต่พีไม่ได้ทำมาส่งอาจารย์ก็ดุแล้วพลานไปเรื่องอื่นเพราะมันเป็นเด็กเกเรโดดเรียนประจำแกบ่นประมาณครึ่งชม.แล้วขอเบอร์มือถือแม่พีด้วย
พอหมดคาบอาจารย์ก็ออกไปพีก็ลุกขึ้นทำท่าเหมือนไมพอใจยืนขึ้นทำท่าเหมือนลิง(หนุมาน)เกาหัวกระโดดไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ โต้ะเรียนกระจัดกระจาย เพื่อนสนิทของพีเข้าไปลูบหลังอยู่หลายครั้งพร้อมกับเรียกชื่อพีย้ำหลายครั้งจนกลับมาปกติ
พวกเรางงทั้งห้องพวกเรามารู้ทีหลังว่าตอนช่วงโรงเรียนปิดเทอมกลับบ้านแล้วกลับไปเยี่ยมเพื่อนเก่าแต่ดันไป"สักน้ำมัน"โดยไม่บอกแม่และที่หนุมานเข้าตอนนั้นก็ไม่รู้ตัวเพราะอาจจะควบคุมสิ่งที่สักมาไม่ได้