เช้าของวันอาทิตย์อีกวัน วันนี้เพื่อนโด่งคุยกันตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะพาไปเที่ยวอีกหนึ่งสถานที่ที่คนยังไม่เคยรู้จัก นั่นก็คือ “ศูนย์วัฒนธรรมไทดำ” พวกเราก็เลยถามด้วยน้ำเสียงเหมือนตกใจเล็กน้อยว่า ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่นอกเหนือจากถนนคนเดินอีกเหรอ เพื่อก็เลยบอกว่าใช่ และก็ยังมีอีกหลายแห่งเลยก็ว่าได้ เอาไว้ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวให้ทั่วเลย พวกเราก็เลยตอบตกลงด้วยเสียงที่พูดขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน
จากที่พักที่แม่น้ำมีแก่ง เพื่ออาสาขับรถเองเพื่อพาพวกเราเดินทางไปยังสถานที่ว่านี้ ระยะทางจากตัวเชียงคานไปยังศูนย์วัฒนธรรมไทดำประมาณ 17 กิโลเมตร ก็ถือว่าไม่ไกลมากนัก้าคิดจะไปเที่ยว ว่ามั้ย? ก็ขับผ่านหมู่บ้าน ผ่านทุ่งนาข้าวไปเรื่อยๆ ถนนหนทางก็ถือว่าโอเครในระดับหนึ่ง อากาศค่อนข้างจะร้อนพอสมควร แต่พวกเรานั่งรถ Ford Everest ที่จัดได้ว่าเป็นรถที่แอร์เย็นฉ่ำที่สุดใรบรรดารถยนต์ทั่วๆ ไป น่าน ขอเชียร์นิดนึงนะ ขับไปใกล้ๆ จะถึงก็จะมีป้ายบอกให้เห็นอยู่ พวกเราขับถึงศูนย์วัฒนธรรมไทดำเกือบๆห้าโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่แดดร่มลมตกพอดี
ศูนย์วัฒนธรรมไทดำหรือหมู่บ้านไทดำ ตั้งอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลยแต่เดิมชาวไทดำอพยพมาจากเมืองเชียงขวาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2448 โดยได้มาตั้งถิ่นฐานอยู่รวมกันที่บ้านนาป่าหนาด และในปัจจุบันยังมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำ มีบ้านที่สร้างขึ้นตามแบบเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชาวไทดำ รวมทั้งเครื่องใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอดีต และยังมีการรวมกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองของชาวบ้าน
พวกเราเดินเข้าไปชมยังบริเวณภายในศูนย์ฯ ซึ่งชาวบ้านไทดำกำลังทอผ้าอยู่ใต้ถุนบ้าน มองเห็นกรอได้ตางสีที่วางอยู่สวงยงาม เส้นด้ายขึงเป็นทางอย่างเป็นระเบียบ ก็ยังแปลกใจอยู่ว่ามันจะถูกทอให้เป็นลายต่างๆ นาๆ ได้อย่างไร อันนี้แอบงงอยู่เหมือน แต่ก็ช่างมันเถอะ มันคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านหละ เอาเป็นว่าทอออกมาสวยก็แล้วกัน เราเดินชมไปพร้อมกับคุยทักทายชาวบ้านกันไป ที่นี่ก็จะพูดภาษาไทยนั่นแหละ แต่ภาษาเขียนนี่นะสิ พวกเราอ่านกันไม่ออกเลย มึนหัวไปหมด มันเป็นภาษาเขียนโดยเฉพาะของชาวไทดำเท่านั้นเอง ก็ได้แต่เดาๆ กันไป ถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็อะนะ
บ้านเรือนและการแต่งตัวรวมไปถึงเครื่องถักทอ ดูแล้วก็คล้ายๆ กับชาวเขาในทางภาคเหนือ หลังคาบ้านจะมุงด้วยหญ้าแฝก ด้านบนหลังคาที่เป็นจั่วก็จะทำเป็นไม้กาแล อันนี้คล้ายๆ ทางภาคเหนือ ผมคิดว่านะ
พวกเราเดินชมรอบๆ ศูนย์วัฒนธรรมไทดำร่วมๆ ครึ่งชั่วโมง การเดินทางไปเที่ยวต่อยังบ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำที่อยู่ใกล้ๆ กันก็เริ่มขึ้น ใช้เวลาได้ไม่นานมากนักก็ถึงที่หมาย บรรยากในยามนี้ดูเงียบสงบ อากาศในยามนี้มันเหมาะกับการเดินชื่นชมของสถานที่ได้เป็นอย่างดี สถานที่แห่งนี้มีเนื้อที่ไม่มากนัก สร้างขึ้นมาเป็นศูนย์เรียนรู้และวางโชว์สิ่งของเครื่องใช้ รวมไปถึงการจำหน่ายของที่ระลึกและของกินของใช้ให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยือน มีอุปกรณ์ทำการเกษตรหลากหลายชนิดแขวนอยู่ตามยุ้งข้าว มีเกวียนที่ใช้งานวางอยู่ด้วย บรรยากาศก็ดูเป็นกันเองแบบเงียบๆ ตามวิถีชาวไทดำ
เดินช้อปของที่ระลึกติดไม้ติดมือกันไปเล็กๆ น้อยๆ กันพอประมาณ เมื่อเดินอ้อมไปทางด้านหลังก็จะเจอกับที่พักที่เป็นโฮมสเตย์ โดยคิดค่าบริการต่อคืนพร้อมกับอาหารสองมื้อ คนละ 4-5 ร้อยเท่านั้นเอง บริเวณโอมสเตย์จะอยู่ติดกับผืนนาข้าวของชาวไทดำ พื้นนาสีเขียวมองไปจนสุดตาโดยมีฉากหลังเป็นภูเขา ดูแล้วเหมือนภาพวาดจริงๆ ยิ่งเมื่อเราถ่ายภาพตอนเย็นๆ ที่ท้องฟ้าไม่มีเมฆด้วยแล้ว งดงามมากๆ บอกเลย
จากที่พักแล้วเดินอ้อมไปทางด้านขวาก็จะไปเจอกับกังหันวิดน้ำ อันนี้ชาวไทดำเอาไว้ผันน้ำเข้านาข้าว ที่บริเวณพวกเราเลยถือโอกาสถ่ายรูปสร้างภาพกันซะด้วยเลย ก็มันหาดูได้ยากนี่ครับจะรออะไร พวกเราใช้เวลาอยู่ที่บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำเพียงแค่ 20 นาทีก็ได้เวลาเดินทางกลับที่พักที่อยู่ที่เชียงคาน
เป็นอันว่าภารกิจการนำเที่ยวของเพื่อเสร็จสิ้นลง ท่ามกลางบรรยากาศในตอนเย็นๆ ที่กำลังสดชื่น วันนี้ก็ถือได้ว่าพวกเราได้มาแวะเที่ยวยังสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนยังไม่ได้รู้จัก ก็ต้องขอบคุณเพื่อนโด่งที่พาพวกเราได้มาเที่ยวและได้รู้จักกับชาวบ้านไทดำ ได้เรียนรู้ ได้ศึกษา รวมไปถึงวิถีชีวิตและความเป็นของชาวไทดำ ทริปนี้นอกจากจะได้เที่ยวแล้ว ยังได้ความรู้เยอะเลย
..................The End..................
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 1
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 2
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 4
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 5
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 6
ติดตามต่อได้ที่ >
เที่ยว ฟิน กิน ช้อป ไปกับ จอยน์ อะ ไลฟ์ และ >
จอยน์ อะ ไลฟ์ ไทยแลนด์ ดอท คอม
[SR] เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 3
เช้าของวันอาทิตย์อีกวัน วันนี้เพื่อนโด่งคุยกันตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะพาไปเที่ยวอีกหนึ่งสถานที่ที่คนยังไม่เคยรู้จัก นั่นก็คือ “ศูนย์วัฒนธรรมไทดำ” พวกเราก็เลยถามด้วยน้ำเสียงเหมือนตกใจเล็กน้อยว่า ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่นอกเหนือจากถนนคนเดินอีกเหรอ เพื่อก็เลยบอกว่าใช่ และก็ยังมีอีกหลายแห่งเลยก็ว่าได้ เอาไว้ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวให้ทั่วเลย พวกเราก็เลยตอบตกลงด้วยเสียงที่พูดขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน
จากที่พักที่แม่น้ำมีแก่ง เพื่ออาสาขับรถเองเพื่อพาพวกเราเดินทางไปยังสถานที่ว่านี้ ระยะทางจากตัวเชียงคานไปยังศูนย์วัฒนธรรมไทดำประมาณ 17 กิโลเมตร ก็ถือว่าไม่ไกลมากนัก้าคิดจะไปเที่ยว ว่ามั้ย? ก็ขับผ่านหมู่บ้าน ผ่านทุ่งนาข้าวไปเรื่อยๆ ถนนหนทางก็ถือว่าโอเครในระดับหนึ่ง อากาศค่อนข้างจะร้อนพอสมควร แต่พวกเรานั่งรถ Ford Everest ที่จัดได้ว่าเป็นรถที่แอร์เย็นฉ่ำที่สุดใรบรรดารถยนต์ทั่วๆ ไป น่าน ขอเชียร์นิดนึงนะ ขับไปใกล้ๆ จะถึงก็จะมีป้ายบอกให้เห็นอยู่ พวกเราขับถึงศูนย์วัฒนธรรมไทดำเกือบๆห้าโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่แดดร่มลมตกพอดี
ศูนย์วัฒนธรรมไทดำหรือหมู่บ้านไทดำ ตั้งอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลยแต่เดิมชาวไทดำอพยพมาจากเมืองเชียงขวาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2448 โดยได้มาตั้งถิ่นฐานอยู่รวมกันที่บ้านนาป่าหนาด และในปัจจุบันยังมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำ มีบ้านที่สร้างขึ้นตามแบบเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชาวไทดำ รวมทั้งเครื่องใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอดีต และยังมีการรวมกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองของชาวบ้าน
พวกเราเดินเข้าไปชมยังบริเวณภายในศูนย์ฯ ซึ่งชาวบ้านไทดำกำลังทอผ้าอยู่ใต้ถุนบ้าน มองเห็นกรอได้ตางสีที่วางอยู่สวงยงาม เส้นด้ายขึงเป็นทางอย่างเป็นระเบียบ ก็ยังแปลกใจอยู่ว่ามันจะถูกทอให้เป็นลายต่างๆ นาๆ ได้อย่างไร อันนี้แอบงงอยู่เหมือน แต่ก็ช่างมันเถอะ มันคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านหละ เอาเป็นว่าทอออกมาสวยก็แล้วกัน เราเดินชมไปพร้อมกับคุยทักทายชาวบ้านกันไป ที่นี่ก็จะพูดภาษาไทยนั่นแหละ แต่ภาษาเขียนนี่นะสิ พวกเราอ่านกันไม่ออกเลย มึนหัวไปหมด มันเป็นภาษาเขียนโดยเฉพาะของชาวไทดำเท่านั้นเอง ก็ได้แต่เดาๆ กันไป ถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็อะนะ
บ้านเรือนและการแต่งตัวรวมไปถึงเครื่องถักทอ ดูแล้วก็คล้ายๆ กับชาวเขาในทางภาคเหนือ หลังคาบ้านจะมุงด้วยหญ้าแฝก ด้านบนหลังคาที่เป็นจั่วก็จะทำเป็นไม้กาแล อันนี้คล้ายๆ ทางภาคเหนือ ผมคิดว่านะ
พวกเราเดินชมรอบๆ ศูนย์วัฒนธรรมไทดำร่วมๆ ครึ่งชั่วโมง การเดินทางไปเที่ยวต่อยังบ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำที่อยู่ใกล้ๆ กันก็เริ่มขึ้น ใช้เวลาได้ไม่นานมากนักก็ถึงที่หมาย บรรยากในยามนี้ดูเงียบสงบ อากาศในยามนี้มันเหมาะกับการเดินชื่นชมของสถานที่ได้เป็นอย่างดี สถานที่แห่งนี้มีเนื้อที่ไม่มากนัก สร้างขึ้นมาเป็นศูนย์เรียนรู้และวางโชว์สิ่งของเครื่องใช้ รวมไปถึงการจำหน่ายของที่ระลึกและของกินของใช้ให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยือน มีอุปกรณ์ทำการเกษตรหลากหลายชนิดแขวนอยู่ตามยุ้งข้าว มีเกวียนที่ใช้งานวางอยู่ด้วย บรรยากาศก็ดูเป็นกันเองแบบเงียบๆ ตามวิถีชาวไทดำ
เดินช้อปของที่ระลึกติดไม้ติดมือกันไปเล็กๆ น้อยๆ กันพอประมาณ เมื่อเดินอ้อมไปทางด้านหลังก็จะเจอกับที่พักที่เป็นโฮมสเตย์ โดยคิดค่าบริการต่อคืนพร้อมกับอาหารสองมื้อ คนละ 4-5 ร้อยเท่านั้นเอง บริเวณโอมสเตย์จะอยู่ติดกับผืนนาข้าวของชาวไทดำ พื้นนาสีเขียวมองไปจนสุดตาโดยมีฉากหลังเป็นภูเขา ดูแล้วเหมือนภาพวาดจริงๆ ยิ่งเมื่อเราถ่ายภาพตอนเย็นๆ ที่ท้องฟ้าไม่มีเมฆด้วยแล้ว งดงามมากๆ บอกเลย
จากที่พักแล้วเดินอ้อมไปทางด้านขวาก็จะไปเจอกับกังหันวิดน้ำ อันนี้ชาวไทดำเอาไว้ผันน้ำเข้านาข้าว ที่บริเวณพวกเราเลยถือโอกาสถ่ายรูปสร้างภาพกันซะด้วยเลย ก็มันหาดูได้ยากนี่ครับจะรออะไร พวกเราใช้เวลาอยู่ที่บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำเพียงแค่ 20 นาทีก็ได้เวลาเดินทางกลับที่พักที่อยู่ที่เชียงคาน
เป็นอันว่าภารกิจการนำเที่ยวของเพื่อเสร็จสิ้นลง ท่ามกลางบรรยากาศในตอนเย็นๆ ที่กำลังสดชื่น วันนี้ก็ถือได้ว่าพวกเราได้มาแวะเที่ยวยังสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนยังไม่ได้รู้จัก ก็ต้องขอบคุณเพื่อนโด่งที่พาพวกเราได้มาเที่ยวและได้รู้จักกับชาวบ้านไทดำ ได้เรียนรู้ ได้ศึกษา รวมไปถึงวิถีชีวิตและความเป็นของชาวไทดำ ทริปนี้นอกจากจะได้เที่ยวแล้ว ยังได้ความรู้เยอะเลย
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 1
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 2
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 4
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 5
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 6
ติดตามต่อได้ที่ > เที่ยว ฟิน กิน ช้อป ไปกับ จอยน์ อะ ไลฟ์ และ > จอยน์ อะ ไลฟ์ ไทยแลนด์ ดอท คอม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น