สวัสดีครับทุกคนวันนีผมมาแบ่งปันประสบการณ์การขอ Working and Holiday Australia 2016 และ WHS New Zealand 2017 ครับ
อ่านมาอาจจะยัง งงๆ ใช่ครับ ตอนนี้ผมถือสองวีซ่านี้แล้ว (เพิ่งได้รับ Grant ของ WHS New Zealand มาสดๆ เมื่อวานตอนบ่าย)
และตอนนี้ผมยังอยู่ประเทศไทยอยู่ครับ ฮ่าๆ เรื่องทั้งหมด ก็เกิดจากทั้งโชค ความบังเอิญ ต่างๆ นาๆ มากมาย จนมาได้ถือสองวีซ่าพร้อมกันแบบ งงๆ
มาเริ่มกันเลยนะครับ ฮ่าๆ
ตอนปี 2015 ผมเริ่ม คุยกับเพื่อนสมัยมัธยมที่เคยไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียแล้วว่า อยากจะไป WAH ของออสมากๆ เราก็เริ่มคุยกันตั้งแต่สอบ IELTS จนมาถึงวันที่กดโควต้าผ่านเว็บ ดย. โดย การกดโควต้าผ่านเว็บ ดย. จะมีขึ้นประมาณ ทุกๆ เดือน มิถุนายน ของทุกๆ ปีครับ โดยออสเตรเลียจะกำหนดตัวจริง 500 คน และตัวสำรองประมาณ 200 คนครับ ซึ่งวันที่กดของออสเตรเลียเมื่อปี 2016 ก็ล่มแบบประวัติการณ์ WAH ครับเริ่มปล่อยกด 9 โมงแล้วเว็บล่มประมาณ 2-3 ชั่วโมง จนในที่สุดผมกดได้ลำดับที่ 400 กว่าๆ เกือบไม่รอด ติดตัวจริงมาได้ครับ
หลังจากผ่านด่านกดโควต้า แล้ว ด่านต่อไปคือด่านการยื่นเอกสารกับทาง VFS เพื่อเอกสารจะไปพิจารณาผ่านสถานทูตอีกทีนึง ของออสเตรเลียค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องเงินมากครับ หลักฐานการเงินที่ยื่นคือมีเงินมากกว่า 5000AUD ในบัญชี และมีที่มา เขียนอธิบายอย่างชัดเจนว่าการเคลื่อนไหว ของเงินในแต่ละครั้ง เกิดจากอะไร ซึ่งตอนแรกผมกังวลมาก เพราะผมมีเงินไม่ถึงในวันที่กดได้ ผมก็คิดไปคิดมา จะให้ญาติมาสปอนเซอร์ แต่ ญาติก็ห่างมากๆ แล้ว ไม่สามารถทำ Family Tree อย่างละเอียด และชัดเจนได้ สุดท้าย ผมเลยใช้วิธีประหยัดเงินเดือนครับ ฮ่าๆ เนื่องจากใบรับรองของ ดย. จะสิ้นอายุวันที่ 31 ธันวาคม ผมเลยใช้เงินเดือนแต่ละเดือนน้อยมาก และให้เงินทบ แต่ละเดือน จนเกิน 5000AUD ตอนนั้นประมาณ 150,000 บาทครับ ผมได้ใบรับรองกรกฎา แต่ยื่น Application เดือนตุลาคม เป็นการรอคอยที่แสนยาวนานมาก ผมยื่นเอกสารทั้งหมดพร้อม Slip เงินเดือน เอกสารรับรองเงินเดือนและการทำงาน เอกสาร กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตอนนั้นผมยื่นประมาณต้น เดือน ตุลาคม ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 10-14 วันทำการ แต่ของผมออกค่อนข้างช้า เพราะมีเหตุการณ์ที่คนไทยไม่อยากให้เกิดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม ทีผ่านมา จนทำให้กลุ่มของผม Pending ไปช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายผมก็ได้ Working and Holiday Visa Australia มาครอบครอง โดยวันสุดท้ายที่สามารถเดินทางไปถึงออสเตรเลียได้ คือกลางเดือนตุลาคม ปีนี้ครับ ซึ่งในตอนแรกกะจะรอไปต้นปี รอได้รับ Bonus แล้วค่อยไป แต่ก็ดึงดันมาจนถึงตอนนี้ (แต่จะบิน กันยานี้แล้วครับ
)
มาถึง WHS 2017 ที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือนครับ
ตอนแรกไม่คิดจะกดของนิวซีแลนด์ แต่แค่มีแผนว่า จะต่อ 2nd WAH ของ Australia แล้วเก็บเงินเรียนปริญญาโทที่นิวซีแลนด์แทน ซึ่งของปีนี้ วันกดโควต้าของนิวซีแลนด์ นั้นมีสองวัน วันแรกคือเว็บล่ม จึงเลื่อนมาอีกวัน ซึ่ง วันแรกที่เกิดการเว็บล่มนั้นผมก็อ่านข่าวสารจากในกลุ่มปกติอยู่บนเตียง ไม่คิดว่าจะกดอยู่แล้วหละ แต่ในเช้าของกำหนดการที่เลื่อนออกมานั้น ผมต้องมาทำงานตอนเช้า ก็เผลอนึกครึ้มอกครึ้มใจลองเข้าไปกดดูโดยไม่มีการเตรียมตัวอะไรทั้งสิ้น ทั้งข้อมูล ผลสอบ กดเข้าไป แต่เหตุการณ์ที่ผมคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น ผมสามารถกดได้โควต้าได้อย่างไหลลื่น ไม่มีการล่ม เหมือนเข้า Google หาข้อมูลปกติ เสร็จภายใน 5 นาที ขึ้นลำดับเลข 15/150 ผมเองก็นั่งเอ๋อ บอกเพื่อนเพื่อนก็ตกใจ ว่า บทมันจะได้ก็ได้นะ ผมเลยเอาวะ! โอกาสมาแล้วก็ต้องคว้า หาข้อมูลทุกอย่างอีกรอบ เรื่องเอกสาร และโชคดี ที่ของ New Zealand ค่อนข้างไม่ละเอียดเท่าของ Australia ครับ ต้องการเงินในบัญชีเยอะกว่า แต่ไม่เคร่งเรื่องที่มาของเงินมากนัก (แต่อยากให้มีนะครับ สำหรับรุ่นต่อๆ ไป เป็นการเซฟตัวเราเอง)
เมื่อขึ้นตอนทกอย่างเสร็จสิ้น เดินทางไปรับใบรับรอง รอวันที่ 20 กรกฎาคม กดสมัครวีซ่าผ่าน
https://www.immigration.govt.nz/new-zealand-visas อีกรอบหนึ่ง คัดจาก 150 เหลือ 100 คน และผมก็ผ่านเป็น 100 ตัวจริงได้อย่างราบรื่นครับ หลังจากนั้น ให้ยื่นเอกสารที่สถานทูตภายใน 14 วันหลังจากยื่นจ่ายเงินผ่านเว็บอิมแล้ว โดยต้องไป X Ray ปอด, ขอหลักฐานทางการศึกษา, ผลสอบ IELTS และหลักฐานทางการเงิน ของผมไปยื่นเอกสารวันที่ 27 กรกฎาคม ครับ หลังจากอ่านที่เพื่อนๆ ในกลุ่มที่เริ่มยื่นกันแล้ว ส่วนใหญ่ก็ 1-2 วันรู้ผล ผมก็เลยจองตั๋วเครื่องบิน ไปออสเตรเลียวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ ในขั้นตอนการ X-Ray ปอด ผมไปยื่นเอกสารผ่าน IOM และหลังจากนั้นเดินไป X-Ray ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ซึ่งตอนนั้นผมเป็นคนเดียวที่โดน X-Ray สองรอบผม แล้วก็ใจไม่ดีแล้วจนสุดท้ายผมได้ออกมาจากห้อง X-Ray และกลับไปยัง IOM เพื่อยื่นฟิล์มให้กับทีมแพทย์ IOM แต่ของผมนั้นต้องโดนแพทย์ IOM เรียกเข้าพบ
"เนื่องจากผลปอดมีการ Note โดยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลมาว่า เยื่อหุ้มปอดหนา แพทย์ทาง IOM ชี้แจงว่า ปริมาณมันน้อยมาก และเนื้อปอดดูไม่มีปัญหาอะไรเลย หมอว่าปกติ แต่ทางนั้นเค้า Note มาแล้ว หมอทำอะไรให้ไม่ได้ ก็แล้วแต่ การพิจารณาของสถานทูต"
ผมเมื่อได้ยินคุณหมอจาก IOM พูดมาว่าปกติ ผมก็เลยสบายใจว่าคงไม่มีอะไรแล้วมั้ง แต่ไม่ใช่ครับ ... หลังจากออกจาก IOM ผมเดินทางไป M Tower All Season Place เพื่อยื่นเอกสารต่อทางสถานทูตทันที เราะอยากให้ผมวีซ่าออกเร็วที่สุด ผมก็กลับมาทำงานไม่ได้คิดอะไร จนคนในกลุ่มที่ยื่นวันเดียวกันผม เริ่มได้วีซ่ากันแล้ว บางคนยื่นเช้า ออกบ่าย ผมก็ใจไม่ดี จนวันที่ 1 สิงหาคม ผมได้รับอีเมลล์แจ้งมาว่า
เหมือนฟ้าถล่ม 555555 คนอื่นรอ 1 วันผมกลายเป็นรอ 1 เดือนแต่ที่พลาดก็คือผมต้องเลื่อนไฟร์ทไปออสเตรเลียไปเดือนกันยายน แล้วผมก็ใช้ชีวิต 1 เดือนด้วยความลุ้นระทึกอยู่ทุกวัน จนเข้าสัปดาห์ที่ 3 วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ผมลองเมลล์กลับไปถามว่า จะได้ผลทันต้นเดือนกันยายนมั้ย ทางทีมงานบอกว่า รับปากไม่ได้ เพราะปกติใช้เวลา 4-6 Weeks หรือมากกว่านั้น ผมก็ใจแป้วแล้ว ต้องเลื่อนไฟร์ทอีกหรือเปล่านะ แต่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ตอนเวลาประมาณบ่ายสอง ผมได้รับ E-mail ฉบับนี้มาขณะนั่งอยู่ในร้านกาแฟ
ตอนนั้นดีใจมากจนคนในร้านตกใจ และโล่งอกมากเหมือนยกภูเขาออกจากอก ฮ่าๆ
และในที่สุดผมก็ได้ WHS New Zealand มาครอบครองครับ โดยต้องเดินทางไป New Zealand ก่อน 24 สิงหาคม ปีหน้า ซึ่งผมก็จะไป ออสเตรเลีย ก่อนครับ
จบแล้วครับ เรื่องราวของผม ตอนแรกผมบอกกับเพื่อนเล่นๆ ว่า จะมารีวิวลงพันทิปเลย ถ้า วีซ่านิวซีแลนด์ผ่าน และเมื่อผ่านแล้วเลยมารีวิวประสบการณ์ครับ ถ้ามีโอกาสก็จะมารีวิวประสบการณ์ทั้งใน Australia และ New Zealand ให้อ่านกันนะครับ ฮ่าๆ
สำหรับในที่สนใจโครงการ WAH Australia กับ WHS New Zealand
สามารถติดตามข่าวสารได้ทาง
Facebook Page : Thaiwahclub
Web :
http://www.thaiwahclub.com หรือ
http://www.allaboutwah.com
ซึ่งมีพี่ที่คอยให้ความช่วยเหลือและข้อมูลดีดีอยู่นะครับไม่ใช่แค่เรื่อง WAH หรือ WHS แต่รวมไปถึงเรื่องการเรียนด้วยครับ
จบแค่นี้แล้วครับ ขอบคุณที่ตามอ่านนะครับ
[CR] REVIEW การขอ VISA WAH AUSTRALIA 2016 และ WHS New Zealand 2017
อ่านมาอาจจะยัง งงๆ ใช่ครับ ตอนนี้ผมถือสองวีซ่านี้แล้ว (เพิ่งได้รับ Grant ของ WHS New Zealand มาสดๆ เมื่อวานตอนบ่าย)
และตอนนี้ผมยังอยู่ประเทศไทยอยู่ครับ ฮ่าๆ เรื่องทั้งหมด ก็เกิดจากทั้งโชค ความบังเอิญ ต่างๆ นาๆ มากมาย จนมาได้ถือสองวีซ่าพร้อมกันแบบ งงๆ
มาเริ่มกันเลยนะครับ ฮ่าๆ
ตอนปี 2015 ผมเริ่ม คุยกับเพื่อนสมัยมัธยมที่เคยไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียแล้วว่า อยากจะไป WAH ของออสมากๆ เราก็เริ่มคุยกันตั้งแต่สอบ IELTS จนมาถึงวันที่กดโควต้าผ่านเว็บ ดย. โดย การกดโควต้าผ่านเว็บ ดย. จะมีขึ้นประมาณ ทุกๆ เดือน มิถุนายน ของทุกๆ ปีครับ โดยออสเตรเลียจะกำหนดตัวจริง 500 คน และตัวสำรองประมาณ 200 คนครับ ซึ่งวันที่กดของออสเตรเลียเมื่อปี 2016 ก็ล่มแบบประวัติการณ์ WAH ครับเริ่มปล่อยกด 9 โมงแล้วเว็บล่มประมาณ 2-3 ชั่วโมง จนในที่สุดผมกดได้ลำดับที่ 400 กว่าๆ เกือบไม่รอด ติดตัวจริงมาได้ครับ
หลังจากผ่านด่านกดโควต้า แล้ว ด่านต่อไปคือด่านการยื่นเอกสารกับทาง VFS เพื่อเอกสารจะไปพิจารณาผ่านสถานทูตอีกทีนึง ของออสเตรเลียค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องเงินมากครับ หลักฐานการเงินที่ยื่นคือมีเงินมากกว่า 5000AUD ในบัญชี และมีที่มา เขียนอธิบายอย่างชัดเจนว่าการเคลื่อนไหว ของเงินในแต่ละครั้ง เกิดจากอะไร ซึ่งตอนแรกผมกังวลมาก เพราะผมมีเงินไม่ถึงในวันที่กดได้ ผมก็คิดไปคิดมา จะให้ญาติมาสปอนเซอร์ แต่ ญาติก็ห่างมากๆ แล้ว ไม่สามารถทำ Family Tree อย่างละเอียด และชัดเจนได้ สุดท้าย ผมเลยใช้วิธีประหยัดเงินเดือนครับ ฮ่าๆ เนื่องจากใบรับรองของ ดย. จะสิ้นอายุวันที่ 31 ธันวาคม ผมเลยใช้เงินเดือนแต่ละเดือนน้อยมาก และให้เงินทบ แต่ละเดือน จนเกิน 5000AUD ตอนนั้นประมาณ 150,000 บาทครับ ผมได้ใบรับรองกรกฎา แต่ยื่น Application เดือนตุลาคม เป็นการรอคอยที่แสนยาวนานมาก ผมยื่นเอกสารทั้งหมดพร้อม Slip เงินเดือน เอกสารรับรองเงินเดือนและการทำงาน เอกสาร กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตอนนั้นผมยื่นประมาณต้น เดือน ตุลาคม ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 10-14 วันทำการ แต่ของผมออกค่อนข้างช้า เพราะมีเหตุการณ์ที่คนไทยไม่อยากให้เกิดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม ทีผ่านมา จนทำให้กลุ่มของผม Pending ไปช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายผมก็ได้ Working and Holiday Visa Australia มาครอบครอง โดยวันสุดท้ายที่สามารถเดินทางไปถึงออสเตรเลียได้ คือกลางเดือนตุลาคม ปีนี้ครับ ซึ่งในตอนแรกกะจะรอไปต้นปี รอได้รับ Bonus แล้วค่อยไป แต่ก็ดึงดันมาจนถึงตอนนี้ (แต่จะบิน กันยานี้แล้วครับ
มาถึง WHS 2017 ที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือนครับ
ตอนแรกไม่คิดจะกดของนิวซีแลนด์ แต่แค่มีแผนว่า จะต่อ 2nd WAH ของ Australia แล้วเก็บเงินเรียนปริญญาโทที่นิวซีแลนด์แทน ซึ่งของปีนี้ วันกดโควต้าของนิวซีแลนด์ นั้นมีสองวัน วันแรกคือเว็บล่ม จึงเลื่อนมาอีกวัน ซึ่ง วันแรกที่เกิดการเว็บล่มนั้นผมก็อ่านข่าวสารจากในกลุ่มปกติอยู่บนเตียง ไม่คิดว่าจะกดอยู่แล้วหละ แต่ในเช้าของกำหนดการที่เลื่อนออกมานั้น ผมต้องมาทำงานตอนเช้า ก็เผลอนึกครึ้มอกครึ้มใจลองเข้าไปกดดูโดยไม่มีการเตรียมตัวอะไรทั้งสิ้น ทั้งข้อมูล ผลสอบ กดเข้าไป แต่เหตุการณ์ที่ผมคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น ผมสามารถกดได้โควต้าได้อย่างไหลลื่น ไม่มีการล่ม เหมือนเข้า Google หาข้อมูลปกติ เสร็จภายใน 5 นาที ขึ้นลำดับเลข 15/150 ผมเองก็นั่งเอ๋อ บอกเพื่อนเพื่อนก็ตกใจ ว่า บทมันจะได้ก็ได้นะ ผมเลยเอาวะ! โอกาสมาแล้วก็ต้องคว้า หาข้อมูลทุกอย่างอีกรอบ เรื่องเอกสาร และโชคดี ที่ของ New Zealand ค่อนข้างไม่ละเอียดเท่าของ Australia ครับ ต้องการเงินในบัญชีเยอะกว่า แต่ไม่เคร่งเรื่องที่มาของเงินมากนัก (แต่อยากให้มีนะครับ สำหรับรุ่นต่อๆ ไป เป็นการเซฟตัวเราเอง)
เมื่อขึ้นตอนทกอย่างเสร็จสิ้น เดินทางไปรับใบรับรอง รอวันที่ 20 กรกฎาคม กดสมัครวีซ่าผ่าน https://www.immigration.govt.nz/new-zealand-visas อีกรอบหนึ่ง คัดจาก 150 เหลือ 100 คน และผมก็ผ่านเป็น 100 ตัวจริงได้อย่างราบรื่นครับ หลังจากนั้น ให้ยื่นเอกสารที่สถานทูตภายใน 14 วันหลังจากยื่นจ่ายเงินผ่านเว็บอิมแล้ว โดยต้องไป X Ray ปอด, ขอหลักฐานทางการศึกษา, ผลสอบ IELTS และหลักฐานทางการเงิน ของผมไปยื่นเอกสารวันที่ 27 กรกฎาคม ครับ หลังจากอ่านที่เพื่อนๆ ในกลุ่มที่เริ่มยื่นกันแล้ว ส่วนใหญ่ก็ 1-2 วันรู้ผล ผมก็เลยจองตั๋วเครื่องบิน ไปออสเตรเลียวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ ในขั้นตอนการ X-Ray ปอด ผมไปยื่นเอกสารผ่าน IOM และหลังจากนั้นเดินไป X-Ray ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ซึ่งตอนนั้นผมเป็นคนเดียวที่โดน X-Ray สองรอบผม แล้วก็ใจไม่ดีแล้วจนสุดท้ายผมได้ออกมาจากห้อง X-Ray และกลับไปยัง IOM เพื่อยื่นฟิล์มให้กับทีมแพทย์ IOM แต่ของผมนั้นต้องโดนแพทย์ IOM เรียกเข้าพบ
"เนื่องจากผลปอดมีการ Note โดยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลมาว่า เยื่อหุ้มปอดหนา แพทย์ทาง IOM ชี้แจงว่า ปริมาณมันน้อยมาก และเนื้อปอดดูไม่มีปัญหาอะไรเลย หมอว่าปกติ แต่ทางนั้นเค้า Note มาแล้ว หมอทำอะไรให้ไม่ได้ ก็แล้วแต่ การพิจารณาของสถานทูต"
ผมเมื่อได้ยินคุณหมอจาก IOM พูดมาว่าปกติ ผมก็เลยสบายใจว่าคงไม่มีอะไรแล้วมั้ง แต่ไม่ใช่ครับ ... หลังจากออกจาก IOM ผมเดินทางไป M Tower All Season Place เพื่อยื่นเอกสารต่อทางสถานทูตทันที เราะอยากให้ผมวีซ่าออกเร็วที่สุด ผมก็กลับมาทำงานไม่ได้คิดอะไร จนคนในกลุ่มที่ยื่นวันเดียวกันผม เริ่มได้วีซ่ากันแล้ว บางคนยื่นเช้า ออกบ่าย ผมก็ใจไม่ดี จนวันที่ 1 สิงหาคม ผมได้รับอีเมลล์แจ้งมาว่า
เหมือนฟ้าถล่ม 555555 คนอื่นรอ 1 วันผมกลายเป็นรอ 1 เดือนแต่ที่พลาดก็คือผมต้องเลื่อนไฟร์ทไปออสเตรเลียไปเดือนกันยายน แล้วผมก็ใช้ชีวิต 1 เดือนด้วยความลุ้นระทึกอยู่ทุกวัน จนเข้าสัปดาห์ที่ 3 วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ผมลองเมลล์กลับไปถามว่า จะได้ผลทันต้นเดือนกันยายนมั้ย ทางทีมงานบอกว่า รับปากไม่ได้ เพราะปกติใช้เวลา 4-6 Weeks หรือมากกว่านั้น ผมก็ใจแป้วแล้ว ต้องเลื่อนไฟร์ทอีกหรือเปล่านะ แต่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ตอนเวลาประมาณบ่ายสอง ผมได้รับ E-mail ฉบับนี้มาขณะนั่งอยู่ในร้านกาแฟ
ตอนนั้นดีใจมากจนคนในร้านตกใจ และโล่งอกมากเหมือนยกภูเขาออกจากอก ฮ่าๆ
และในที่สุดผมก็ได้ WHS New Zealand มาครอบครองครับ โดยต้องเดินทางไป New Zealand ก่อน 24 สิงหาคม ปีหน้า ซึ่งผมก็จะไป ออสเตรเลีย ก่อนครับ
จบแล้วครับ เรื่องราวของผม ตอนแรกผมบอกกับเพื่อนเล่นๆ ว่า จะมารีวิวลงพันทิปเลย ถ้า วีซ่านิวซีแลนด์ผ่าน และเมื่อผ่านแล้วเลยมารีวิวประสบการณ์ครับ ถ้ามีโอกาสก็จะมารีวิวประสบการณ์ทั้งใน Australia และ New Zealand ให้อ่านกันนะครับ ฮ่าๆ
สำหรับในที่สนใจโครงการ WAH Australia กับ WHS New Zealand
สามารถติดตามข่าวสารได้ทาง
Facebook Page : Thaiwahclub
Web : http://www.thaiwahclub.com หรือ http://www.allaboutwah.com
ซึ่งมีพี่ที่คอยให้ความช่วยเหลือและข้อมูลดีดีอยู่นะครับไม่ใช่แค่เรื่อง WAH หรือ WHS แต่รวมไปถึงเรื่องการเรียนด้วยครับ
จบแค่นี้แล้วครับ ขอบคุณที่ตามอ่านนะครับ