คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
มีครบ3พี่น้องครับ D D2 D3 เป็น half frame คือใช้เนื้อฟิล์มทีละครึ่งเดียว
ใช้ฟิล์ม135 ส่วนใหญ่ถ่ายได้36ใบ แต่ half frame จะได้สองเท่าเป็น72ใบ
ระบบกล้องเป็นกลไกไม่ต้องใช้ถ่าน การปรับค่ากล้อง manual ล้วน
กระบอกเลนส์มีให้บิดทั้งรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์
ถ้าวัดแสงยังใช้งานได้
D ไม่ต้องใส่ถ่าน เป็นเซเลเนียม ทำงานตลอดเวลา
D2 D3 เป็น CdS ต้องใส่ถ่าน ตามสเปคเป็นถ่านปรอท 1.35v เลิกผลิตไปแล้ว
ใส่ถ่านกระดุม alkaline lr44 1.5v หากระดาษฟอยล์พับแล้วหนุนแก้ขัดได้ เพี้ยนนิดหน่อย
กดปุ่มเล็กๆด้านหลัง เข็มวัดแสงจะทำงาน
เขี่ย ASA ที่เดือยใต้กระบอกเลนส์ ให้ตรงกับ ISO ฟิล์มที่ใช้
หมุนเข็มชี้เลขนับฟิล์มไปที่ 72
ยกกล้องเล็ง ดูค่าที่เข็มวัดแสงชี้ ได้เท่าไหร่ก็ไปบิดหมุนรูรับแสงและชัตเตอร์
ให้เลขในช่องกระบอกเลนส์ตรงกับเลขค่าแสง ก็จะถ่ายได้ภาพแสงพอดี
สมมติใส่ฟิล์ม 200 เข็มวัดแสงชี้ที่ 11
ค่าชัตเตอร์ 500 ค่าเอฟ 2 จะได้ภาพระยะชัดบางๆ (หน้าชัดหลังเบลอ)
หยุดความเคลื่อนไหววัตถุได้
หรือ
ค่าชัตเตอร์ 30 ค่าเอฟ 8 จะได้ภาพระยะชัดกว้างๆ (ชัดตั้งแต่ใกล้ๆไปถึงไกลๆ)
วัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวจะเบลอๆ
มีอีกหลายค่าที่ถ่ายได้ค่าแสง 11 เหมือนกัน ถ้าเลือกได้เลข 11 แล้ว
จับวงแหวนทั้งคู่แล้วบิดพร้อมกันเลยก็ได้
การโฟกัสเราต้องกะเอง ว่าวัตถุที่อยากให้ชัดอยู่ห่างกล้องเท่าไหร่
เช่นถ่ายคนโคลสอัพก็เมตรนึง ครึ่งตัวเมตรครึ่ง คนเป็นกลุ่มก็สามเมตร
ในช่องมอง ก็เล็งจัดให้สิ่งที่จะถ่ายอยู่ในเส้นกรอบด้วย
ที่ระยะโคลสอัพ ต้องเผื่อไปทางเฉียงซ้ายบนอีกนิดนึง
ที่เส้นกรอบจะมีติ่งเล็กๆบอกอยู่ ไม่งั้นภาพจริงจะแหว่ง เพราะช่องที่เรามอง
มันไม่ได้ตรงกับช่องที่เลนส์ส่องจริง (ระยะ Parallax)
ใช้ฟิล์ม135 ส่วนใหญ่ถ่ายได้36ใบ แต่ half frame จะได้สองเท่าเป็น72ใบ
ระบบกล้องเป็นกลไกไม่ต้องใช้ถ่าน การปรับค่ากล้อง manual ล้วน
กระบอกเลนส์มีให้บิดทั้งรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์
ถ้าวัดแสงยังใช้งานได้
D ไม่ต้องใส่ถ่าน เป็นเซเลเนียม ทำงานตลอดเวลา
D2 D3 เป็น CdS ต้องใส่ถ่าน ตามสเปคเป็นถ่านปรอท 1.35v เลิกผลิตไปแล้ว
ใส่ถ่านกระดุม alkaline lr44 1.5v หากระดาษฟอยล์พับแล้วหนุนแก้ขัดได้ เพี้ยนนิดหน่อย
กดปุ่มเล็กๆด้านหลัง เข็มวัดแสงจะทำงาน
เขี่ย ASA ที่เดือยใต้กระบอกเลนส์ ให้ตรงกับ ISO ฟิล์มที่ใช้
หมุนเข็มชี้เลขนับฟิล์มไปที่ 72
ยกกล้องเล็ง ดูค่าที่เข็มวัดแสงชี้ ได้เท่าไหร่ก็ไปบิดหมุนรูรับแสงและชัตเตอร์
ให้เลขในช่องกระบอกเลนส์ตรงกับเลขค่าแสง ก็จะถ่ายได้ภาพแสงพอดี
สมมติใส่ฟิล์ม 200 เข็มวัดแสงชี้ที่ 11
ค่าชัตเตอร์ 500 ค่าเอฟ 2 จะได้ภาพระยะชัดบางๆ (หน้าชัดหลังเบลอ)
หยุดความเคลื่อนไหววัตถุได้
หรือ
ค่าชัตเตอร์ 30 ค่าเอฟ 8 จะได้ภาพระยะชัดกว้างๆ (ชัดตั้งแต่ใกล้ๆไปถึงไกลๆ)
วัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวจะเบลอๆ
มีอีกหลายค่าที่ถ่ายได้ค่าแสง 11 เหมือนกัน ถ้าเลือกได้เลข 11 แล้ว
จับวงแหวนทั้งคู่แล้วบิดพร้อมกันเลยก็ได้
การโฟกัสเราต้องกะเอง ว่าวัตถุที่อยากให้ชัดอยู่ห่างกล้องเท่าไหร่
เช่นถ่ายคนโคลสอัพก็เมตรนึง ครึ่งตัวเมตรครึ่ง คนเป็นกลุ่มก็สามเมตร
ในช่องมอง ก็เล็งจัดให้สิ่งที่จะถ่ายอยู่ในเส้นกรอบด้วย
ที่ระยะโคลสอัพ ต้องเผื่อไปทางเฉียงซ้ายบนอีกนิดนึง
ที่เส้นกรอบจะมีติ่งเล็กๆบอกอยู่ ไม่งั้นภาพจริงจะแหว่ง เพราะช่องที่เรามอง
มันไม่ได้ตรงกับช่องที่เลนส์ส่องจริง (ระยะ Parallax)
แสดงความคิดเห็น
มีใครเคยใช้กล้อง olympus pen D ไหมครับ
มีใครพอมีแหล่งข้อมูลหรือวิดิโอสอนใช้งาน ภาษาไทยหรือภาษาอังกฟษบ้างไหมครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ