สวัสดีค่ะ วันนี้มาแบบทุกข์ใจ ไม่รู้จะพึ่งที่ไหนดี
เรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา มันรวดเร็วมาก ทำเอาเราและครอบครัวช็อคไปตามๆกัน
เริ่มเรื่องคือ เมื่อช่วงวันแม่ที่ผ่านมา แม่เราเข้าโรงพยาบาลเพราะเลือดออกในกระเพาะ
ก็รักษาทั่วไป ไม่มีอะไรค่ะ
จนออกโรงพยาบาลตอนแรกก็มีอาการอ่อนเพลียตามประสาผู้ป่วย
เรากับพี่ก็ดูแลกันอย่างดี หาอะไรมาให้บำรุงเสมอ แม่ก็ดูอาการดีขึ้น ดูมีแรง มีชีวิตชีวา ร่าเริงขึ้น
แต่เริ่มพูดแปลกๆ เช่น เรื่องดวง บอกไปก่อนนี้เคยไปดูดวงมาเค้าว่างั้นว่างี้ แม่นมากๆเลย
หรือ พูดรีรันเรื่องในอดีต ทำบุญเจ้าที่ พูดถึงเรื่องบุญ เรื่องดวง เรื่องโชค บ่อยขึ้นๆ
ตอนแรก เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะก็เป็นลักษณะการพูดคุยกันปกติ
จนมา 3-4 วันก่อนหน้านี้ แกบอกแกอ่อนเพลีย แกจะบ่นตลอดๆว่า 'แม่เหนื่อยมากๆเลย แม่เหนื่อย'
เราก็สังเกตพฤติกรรม คือ แกไม่ค่อยกินข้าว เราก็พยายามทำให้ทาน นั่งทานเป็นเพื่อน
แต่ก็ทานได้นิดเดียว เราเลยเสริมกลูโคสให้ แกจะได้มีเรี่ยวแรงขึ้น
แกก็มีเรี่ยวแรงทำงานบ้านตามปกติได้ แต่หน้าก็ยังดูหมองๆ แล้วแกก็ยังบ่นเหมือนเดิมว่าเหนื่อย
ตอนนั้น เราเองก็ยังคิดว่าแกยังปกติดี อาจจะเป็นผลจากที่ป่วยที่ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูรึเปล่า
จนถึงจุดแตกมันอยู่ตรงที่ เรากับพี่ทะเลาะกับแม่ ทะเลาะกันแบบ .. เหมือนคุยกันคนละเรื่องเลย แกเริ่มโวยวาย
เรากับพี่ก็พยายามอธิบายว่า มันไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่แบบที่แม่คิด แม่ใจเย็นๆ แต่จู่ๆแกก็ฟูมฟายออกมา
แบบร้องไห้เหมือนเด็กเลย ไม่มีเค้าของแม่เราคนเดิมเลย ร้องจะกลับบ้านไปหาตากับยาย
(บ้านแม่เราอยู่ต่างอำเภอ แต่เราเอาแม่มาอยู่ด้วยเพราะจะได้ดูแลช่วงออกจาก รพ และตากับยายเราเสียแล้ว)
ฟูมฟายถึงขั้นทำตาขึงขัง ตะเบ็งเสียงว่าจะไปฆ่าพ่อเรา พ่อเราทำชีวิตเค้าพัง
(พ่อกับแม่เราเลิกกันนานแล้ว เรากับพี่ก็อยู่กับพ่อมาตั้งแต่เด็ก ก่อนหน้านี้ไม่ได้ผิดใจอะไรกัน ยังคอยช่วยเหลือกันอยู่)
วันนั้น เรากับพี่ช็อคมาก เราเห็นท่าไม่ดีเลยรีบลากพี่ออกจากห้องที่อยู่ไปอีกห้องไปสงบสติอารมณ์ก่อน ฝั่งแม่ก็สงบจนหลับไป
เรากับพี่ก็นั่งคุยกันว่า 'แม่เราเป็นอะไรไปแล้ว' 'เราจะทำยังไงกันดี'
เรากับพี่ก็ลงความเห็นว่า แม่อาจจะมีอาการป่วยทางจิต แต่เราไม่รู้
เลยคิดว่าจะพาแม่ไปหาจิตแพทย์ พร้อมกับหาหมอโรคกระเพาะในอาทิตย์หน้า
หลังจากวันนั้นมา แม่มีอาการเพ้อมากกว่าเดิม
เพ้อถึงโชคลาภ เพ้อถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถึงเจ้ากรรมนายเวร อยู่ตลอด
บางทีก็โวยจะไปหาหมอ คิดว่าตัวเองเจ็บป่วยนั่นนี่ (ซึ่งบางทีไม่ได้เป็นจริงๆ)
บางทีก็มีร้องไห้ฟูมฟาย ตัดพ้อนั่นตัดพ้อนี่ ทั้งๆที่ชีวิตครอบครัวเราก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลย
เราพยายามพูดปลอบปะโลม แต่ไม่เป็นผล ยิ่งทำให้ฟูมฟายมากขึ้นทุกครั้ง
เราเห็นท่าไม่ดี เลยตัดสินใจไม่รออาทิตย์หน้าแล้ว พาไปหาจิตแพทย์เย็นนั้นเลย
ตอนแรกพูดแกก็ยืนยันไม่ยอมไป ไม่ยอมรับในสภาวะตัวเอง จนต้องหลอกล่อไป ตอนนี้ได้รับยามาทานแล้ว
แต่เช้านี้ยังมีอาการเพ้อ เพ้อหนักกว่าเดิมซะอีก
"แกบอกมีคนจะมาทำร้ายแก มีคนทำของใส่แก ทุกคนโกหก ไม่ยอมบอกเรื่องแกโดนของ" ไปนู้นเลย
บอกตรงๆว่า เราเองยังปรับสภาพจิตใจเราที่เห็นแม่เป็นแบบนี้ไม่ได้ มันกระทันหันเกินไป
พยายามยอมรับมัน แต่มันเหนื่อย มันท้อมาก
เราเองก็กลายเป็นระแวงไปเลย ว่าแม่จะคิดอะไร จะทำอะไร
อยากให้แม่หายไวๆ ไม่รู้จะมีวิธีไหนช่วยได้บ้าง
ตอนนี้อยากทำทุกทางทั้งทางวิทยาศาสตร์ และทางธรรม
ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างคะ แล้วผ่านมันมาได้ยังไง
เป็นจิตเภท หรือ โดนคุณไสย์
เรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา มันรวดเร็วมาก ทำเอาเราและครอบครัวช็อคไปตามๆกัน
เริ่มเรื่องคือ เมื่อช่วงวันแม่ที่ผ่านมา แม่เราเข้าโรงพยาบาลเพราะเลือดออกในกระเพาะ
ก็รักษาทั่วไป ไม่มีอะไรค่ะ
จนออกโรงพยาบาลตอนแรกก็มีอาการอ่อนเพลียตามประสาผู้ป่วย
เรากับพี่ก็ดูแลกันอย่างดี หาอะไรมาให้บำรุงเสมอ แม่ก็ดูอาการดีขึ้น ดูมีแรง มีชีวิตชีวา ร่าเริงขึ้น
แต่เริ่มพูดแปลกๆ เช่น เรื่องดวง บอกไปก่อนนี้เคยไปดูดวงมาเค้าว่างั้นว่างี้ แม่นมากๆเลย
หรือ พูดรีรันเรื่องในอดีต ทำบุญเจ้าที่ พูดถึงเรื่องบุญ เรื่องดวง เรื่องโชค บ่อยขึ้นๆ
ตอนแรก เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะก็เป็นลักษณะการพูดคุยกันปกติ
จนมา 3-4 วันก่อนหน้านี้ แกบอกแกอ่อนเพลีย แกจะบ่นตลอดๆว่า 'แม่เหนื่อยมากๆเลย แม่เหนื่อย'
เราก็สังเกตพฤติกรรม คือ แกไม่ค่อยกินข้าว เราก็พยายามทำให้ทาน นั่งทานเป็นเพื่อน
แต่ก็ทานได้นิดเดียว เราเลยเสริมกลูโคสให้ แกจะได้มีเรี่ยวแรงขึ้น
แกก็มีเรี่ยวแรงทำงานบ้านตามปกติได้ แต่หน้าก็ยังดูหมองๆ แล้วแกก็ยังบ่นเหมือนเดิมว่าเหนื่อย
ตอนนั้น เราเองก็ยังคิดว่าแกยังปกติดี อาจจะเป็นผลจากที่ป่วยที่ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูรึเปล่า
จนถึงจุดแตกมันอยู่ตรงที่ เรากับพี่ทะเลาะกับแม่ ทะเลาะกันแบบ .. เหมือนคุยกันคนละเรื่องเลย แกเริ่มโวยวาย
เรากับพี่ก็พยายามอธิบายว่า มันไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่แบบที่แม่คิด แม่ใจเย็นๆ แต่จู่ๆแกก็ฟูมฟายออกมา
แบบร้องไห้เหมือนเด็กเลย ไม่มีเค้าของแม่เราคนเดิมเลย ร้องจะกลับบ้านไปหาตากับยาย
(บ้านแม่เราอยู่ต่างอำเภอ แต่เราเอาแม่มาอยู่ด้วยเพราะจะได้ดูแลช่วงออกจาก รพ และตากับยายเราเสียแล้ว)
ฟูมฟายถึงขั้นทำตาขึงขัง ตะเบ็งเสียงว่าจะไปฆ่าพ่อเรา พ่อเราทำชีวิตเค้าพัง
(พ่อกับแม่เราเลิกกันนานแล้ว เรากับพี่ก็อยู่กับพ่อมาตั้งแต่เด็ก ก่อนหน้านี้ไม่ได้ผิดใจอะไรกัน ยังคอยช่วยเหลือกันอยู่)
วันนั้น เรากับพี่ช็อคมาก เราเห็นท่าไม่ดีเลยรีบลากพี่ออกจากห้องที่อยู่ไปอีกห้องไปสงบสติอารมณ์ก่อน ฝั่งแม่ก็สงบจนหลับไป
เรากับพี่ก็นั่งคุยกันว่า 'แม่เราเป็นอะไรไปแล้ว' 'เราจะทำยังไงกันดี'
เรากับพี่ก็ลงความเห็นว่า แม่อาจจะมีอาการป่วยทางจิต แต่เราไม่รู้
เลยคิดว่าจะพาแม่ไปหาจิตแพทย์ พร้อมกับหาหมอโรคกระเพาะในอาทิตย์หน้า
หลังจากวันนั้นมา แม่มีอาการเพ้อมากกว่าเดิม
เพ้อถึงโชคลาภ เพ้อถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถึงเจ้ากรรมนายเวร อยู่ตลอด
บางทีก็โวยจะไปหาหมอ คิดว่าตัวเองเจ็บป่วยนั่นนี่ (ซึ่งบางทีไม่ได้เป็นจริงๆ)
บางทีก็มีร้องไห้ฟูมฟาย ตัดพ้อนั่นตัดพ้อนี่ ทั้งๆที่ชีวิตครอบครัวเราก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลย
เราพยายามพูดปลอบปะโลม แต่ไม่เป็นผล ยิ่งทำให้ฟูมฟายมากขึ้นทุกครั้ง
เราเห็นท่าไม่ดี เลยตัดสินใจไม่รออาทิตย์หน้าแล้ว พาไปหาจิตแพทย์เย็นนั้นเลย
ตอนแรกพูดแกก็ยืนยันไม่ยอมไป ไม่ยอมรับในสภาวะตัวเอง จนต้องหลอกล่อไป ตอนนี้ได้รับยามาทานแล้ว
แต่เช้านี้ยังมีอาการเพ้อ เพ้อหนักกว่าเดิมซะอีก
"แกบอกมีคนจะมาทำร้ายแก มีคนทำของใส่แก ทุกคนโกหก ไม่ยอมบอกเรื่องแกโดนของ" ไปนู้นเลย
บอกตรงๆว่า เราเองยังปรับสภาพจิตใจเราที่เห็นแม่เป็นแบบนี้ไม่ได้ มันกระทันหันเกินไป
พยายามยอมรับมัน แต่มันเหนื่อย มันท้อมาก
เราเองก็กลายเป็นระแวงไปเลย ว่าแม่จะคิดอะไร จะทำอะไร
อยากให้แม่หายไวๆ ไม่รู้จะมีวิธีไหนช่วยได้บ้าง
ตอนนี้อยากทำทุกทางทั้งทางวิทยาศาสตร์ และทางธรรม
ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างคะ แล้วผ่านมันมาได้ยังไง