เรื่องค่าแรงขั้นต่ำตามทฤษฎี คือการ ลดการเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างจนเกินไป แต่ไม่ใช่จะสามารถทำให้ ลูกจ้างไม่รู้สึกถูกเอา
รัดเอาเปรียบได้ทั้งหมด เพราะบางคนบอกค่าแรงขั้นต่ำต้อง วันล่ะ 500 บ. บางคนบอกค่าแรงขั้นต่ำต้องเท่าประเทศพัฒนาอย่าง สิงค์โปร์
อย่างอเมริกา โดยที่ไม่ได้เทียบรายได้ หรือ GDP ของประเทศตัวเองเลย ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำนั้นถูกกำหนดมาเพื่อคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถ
พิเศษอะไรได้ค่าแรงเท่านั้นเท่านี้ สำหรับประเทศไทย 300 บ. ในขณะที่ ช่างทั่วไป ตอนนี้ 80-90% คือได้ค่าแรง 400-500 ต่อวันกันอยู่แล้ว
การที่คนเรียกร้องให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องการบิดเบือนอัตราเร่งของค่าครองชีพ ที่จะพุ่งสูงไปมากกว่ายิ่งทำให้คนมีภาระเป็น
หนี้มากยิ่งขึ้น และก็จะมีปัญหาการแย่งงานของต่างด้าวตามมาให้เรียกร้องแก้ไขกันอีก
ซึ่งที่คนที่มีความรู้ระดับนึง ที่มาเรียกร้องค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น จริงๆต้องเรียกร้องเรื่องเงินเดือนขั้นต่ำมากขึ้นกว่า 15,000 บ./เดือน ถึงจะจริงกว่า
ซึ่ง 15,000 ตีแบบง่ายๆ 15,000/30= 500 บ./วัน ซึ่งมันสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่ 200 บ./วัน อยู่แล้ว การเรียกร้องค่าแรงขั้นต่ำมากกว่า 300 บ.
จึงเกิดปัญหา การเข้ามาแย่งแรงงานจากคนต่างด้าวและปัญหาค่าครองชีพที่มีอัตราเร่งที่สูงกว่าความเป็นจริง เพราะรายได้จากการดึงเงินรายได้
จากต่างประเทศ โต ตามค่าแรงขั้นต่ำไม่ทันจึงเกิดภาวะ ค่าครองชีพสูงกว่ารายได้ตลอดมา แต่ก็ยังมีคนสนับสนุนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำโดยไม่ดูพื้นฐาน
จริงๆ โดยคิดแค่มีรายได้เพิ่มเท่ากับมีเงินใช้มากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าค่าของเงินที่ได้มานั้นมูลค่าลดลง เท่ากับส่งเสริมการแบ่งชนชั้นคนทั้งโดยรู้ตัวและไม่
รู้ตัว
โครงสร้างของประเทศที่พัฒนาแล้วที่ดี คือ ต้องเป็นรูป โอ่ง คือ ชนชั้นบน และชนชั้นล่างน้อย แต่คนชนชั้นกลางของประเทศมาก แต่ที่
ประเทศกำลังเดินไปนี้จะเป็น โครงสร้างรูปพิรมิด คือ ชนชั้นบนเล็ก แต่ฐานชั้นล่างกว้างมาก ซึ่งสิ่งที่คนพันธุทิพย์ควรจะเรียกร้องคือ เงินเดือนขั้นต่ำ
มากกว่า 15,000/เดือน ไม่ใช่ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บ. เพราะถ้าคนชนชั้นล่างสุด สามารถอยู่ใน Comfort Zone ได้อย่างสบายโดยไม่ต้องพัฒนาตัวเอง
เช่นมีวิชาการเชื่อมเพิ่มขึ้นหรือมีความรู้มากขึ้น เพื่อให้ได้ค่าแรงที่สูงขึ้นจะเกิดการหยุดพัฒนา ณ ตอนนั้นเศรษฐกิจประเทศจะอันตรายอย่างมาก
ตำราทฤษฎี ฝรั่งเขาเรียนไว้เอามาคิด วิเคราะห์ แยกแยะต่อ ไม่ใช่แค่ท่องจำและใช้ตามตัวหนังสือไม่กี่บรรทัด แล้วจะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจประเทศได้ด้วย หนังสือไม่กี่คำโดยไม่มีการปรับใช้ให้เหมาะสม
เด็กไทยถูกสอนให้ท่องจำเป็นหลัก ถูกสอนให้ คิด วิเคราะห์น้อย เด็กส่วนนึงเลยไม่อยากเรียนส่งผลให้มี วลีว่า เด็กไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัด
ปัญหาการเรียนการสอนที่วัดผลแต่การท่องจำ โดยไม่ค่อยวัดผลจากการคิด วิเคราะห์
รัดเอาเปรียบได้ทั้งหมด เพราะบางคนบอกค่าแรงขั้นต่ำต้อง วันล่ะ 500 บ. บางคนบอกค่าแรงขั้นต่ำต้องเท่าประเทศพัฒนาอย่าง สิงค์โปร์
อย่างอเมริกา โดยที่ไม่ได้เทียบรายได้ หรือ GDP ของประเทศตัวเองเลย ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำนั้นถูกกำหนดมาเพื่อคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถ
พิเศษอะไรได้ค่าแรงเท่านั้นเท่านี้ สำหรับประเทศไทย 300 บ. ในขณะที่ ช่างทั่วไป ตอนนี้ 80-90% คือได้ค่าแรง 400-500 ต่อวันกันอยู่แล้ว
การที่คนเรียกร้องให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องการบิดเบือนอัตราเร่งของค่าครองชีพ ที่จะพุ่งสูงไปมากกว่ายิ่งทำให้คนมีภาระเป็น
หนี้มากยิ่งขึ้น และก็จะมีปัญหาการแย่งงานของต่างด้าวตามมาให้เรียกร้องแก้ไขกันอีก
ซึ่งที่คนที่มีความรู้ระดับนึง ที่มาเรียกร้องค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น จริงๆต้องเรียกร้องเรื่องเงินเดือนขั้นต่ำมากขึ้นกว่า 15,000 บ./เดือน ถึงจะจริงกว่า
ซึ่ง 15,000 ตีแบบง่ายๆ 15,000/30= 500 บ./วัน ซึ่งมันสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่ 200 บ./วัน อยู่แล้ว การเรียกร้องค่าแรงขั้นต่ำมากกว่า 300 บ.
จึงเกิดปัญหา การเข้ามาแย่งแรงงานจากคนต่างด้าวและปัญหาค่าครองชีพที่มีอัตราเร่งที่สูงกว่าความเป็นจริง เพราะรายได้จากการดึงเงินรายได้
จากต่างประเทศ โต ตามค่าแรงขั้นต่ำไม่ทันจึงเกิดภาวะ ค่าครองชีพสูงกว่ารายได้ตลอดมา แต่ก็ยังมีคนสนับสนุนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำโดยไม่ดูพื้นฐาน
จริงๆ โดยคิดแค่มีรายได้เพิ่มเท่ากับมีเงินใช้มากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าค่าของเงินที่ได้มานั้นมูลค่าลดลง เท่ากับส่งเสริมการแบ่งชนชั้นคนทั้งโดยรู้ตัวและไม่
รู้ตัว
โครงสร้างของประเทศที่พัฒนาแล้วที่ดี คือ ต้องเป็นรูป โอ่ง คือ ชนชั้นบน และชนชั้นล่างน้อย แต่คนชนชั้นกลางของประเทศมาก แต่ที่
ประเทศกำลังเดินไปนี้จะเป็น โครงสร้างรูปพิรมิด คือ ชนชั้นบนเล็ก แต่ฐานชั้นล่างกว้างมาก ซึ่งสิ่งที่คนพันธุทิพย์ควรจะเรียกร้องคือ เงินเดือนขั้นต่ำ
มากกว่า 15,000/เดือน ไม่ใช่ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บ. เพราะถ้าคนชนชั้นล่างสุด สามารถอยู่ใน Comfort Zone ได้อย่างสบายโดยไม่ต้องพัฒนาตัวเอง
เช่นมีวิชาการเชื่อมเพิ่มขึ้นหรือมีความรู้มากขึ้น เพื่อให้ได้ค่าแรงที่สูงขึ้นจะเกิดการหยุดพัฒนา ณ ตอนนั้นเศรษฐกิจประเทศจะอันตรายอย่างมาก
ตำราทฤษฎี ฝรั่งเขาเรียนไว้เอามาคิด วิเคราะห์ แยกแยะต่อ ไม่ใช่แค่ท่องจำและใช้ตามตัวหนังสือไม่กี่บรรทัด แล้วจะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจประเทศได้ด้วย หนังสือไม่กี่คำโดยไม่มีการปรับใช้ให้เหมาะสม
เด็กไทยถูกสอนให้ท่องจำเป็นหลัก ถูกสอนให้ คิด วิเคราะห์น้อย เด็กส่วนนึงเลยไม่อยากเรียนส่งผลให้มี วลีว่า เด็กไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัด