วัดถ้ำสุมณฑาภาวนา
วัดถ้ำสุมณฑาภาวนาหรือ วัดผาสุการาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี โดยวัดนั้นตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ป่าสงวนแห่งชาติ
วัดถ้ำสุมณฑาภาวนาหรือ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งอยู่ริมหน้าผา

ภายในบริเวณวัดมีศาลาตั้งอยู่ริมผาลักษณะเป็นอาคารยาวตามหน้าผามีถนนลาดยางขึ้นมาได้สะดวก

ภายในศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปต่างๆ บรรยากาศร่มรื่นมากครับ

และข้างๆศาลามีศาล เจ้าหญิง สุมณฑาอยู่

ตำนานนางสุมณฑา ... บนเทือกเขาภูพาน ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบะยาวอยู่ทางทิศประจิม ของหมู่บ้านผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เป็นดินแดนศักสิทธิ์ที่ชาวบ้านเล่าขานกันมาแต่โบราณกาล มีถ้ำลึกลับซึ่งเชื่อว่าเป็นเมืองของคนบังบดลับแลโบราณเรียกว่าถ้ำเม็ง หรือถ้ำเกวียนหักวันดีคืนดีวันพระเดือนหงายเต็มดวง บางทีจะมีเสียงผู้คนพูดคุยและหัวเราะกันชัดถ้อยชัดคำด้วยสำเนียงภาษาครึ่ง มนุษย์ครึ่งเทพบางคืนมีลำแสงประหลาด สาดประกายออกมาจากบริเวณนั้นและบางครั้งก็มีเสียงฆ้อง กลองเสียงพิณและเสียงแคนบรรเลงแว่วดังให้ได้ยินกันเสียงเยือกเย็นไพเราะ เสนาะหู
ส่วนที่มาของชื่อถ้ำสุมณฑานั้นได้มีการกล่าวถึงในวรรณคดีอีสานล้านช้าง ว่าพญากุมภัณธุ์ยักษ์ ออกไปหาอาหารบนเทือกเขาแห่งหนึ่งบนเขาภูพาน ได้เห็นพระนางสุมณฑา ซึ้งเป็นธิดาเดียวของพระยาขอม ผู้ครองเมืองจานนครราช
วันนั้นพระนางร้อนรุ่มพระทัยไม่เป็นสุขอยู่ในตำหนักปรารถนาจะเสด็จประพาสป่า เที่ยวเล่นจึงพร้อมด้วยบริวารสนมกำนัลติดตามไป พระนางก็บรรทมพักผ่อนอยู่ป่านั้นเอง ครั้นพญายักษ์ผ่านมาพบเข้าก็คิดจะจับนางสนมกินเป็นอาหารแต่เมื่อเข้าใกล้ได้ เห็นสิริโฉมของพระนางสุมณฑาเข้าจึงได้มีจิตปฎิพัทธ์รักใคร่เปลี่ยนใจไม่กินนางสนม แต่เป่ามนต์ให้หลับและลักลอบอุ้มเอาพระนางสุมณฑาพามาซ่อนไว้ในถ้ำที่ยอดภูผาหักแห่งนี้
เมื่อพระนางสุมณฑาตื่นขึ้นมาจากบรรทมรู้ตัวว่าอยู่ ในหมู่ล้อมของยักษ์บริวารพญายักษ์ พระนางตกใจกลัวยิ่งนักได้แต่สวดมนต์ภาวนาร่ายคาถาตามคัมภีร์พระเวทย์ลัทธิพราหมณ์ อ้อนว้อนเทวดาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้ร่างกายของพระนางร้อน เหมือนเปลวเพลิง มิให้พญายักษ์เข้าใกล้ได้ กุมภัณธุ์พญายักษ์ก็มิอาจเข้าใกล้ถึงกายของพระนางสุมณฑาได้จึงเพียงนั่งนอน เฝ้าอยู่หน้าถ้ำพร้อมกับบริวารยักษ์ คอยเก็บหาอาหารผลไม้ มาอุปัฎฐากให้พระนางสุมณฑาด้วยจิตใจจงรักภักดีมิได้ขาด

พระบิดาของพระนางสุมณฑาส่งทราบข่าวจึงให้เท้าทั้ง 6 เป็นเหล่าบุตรของมเหสีรองออกตามหาพระธิดาจนได้มาพบจึงทำศึกสู้รบกันเพื่อ แย่งพระนางแต่ก็ไม่สามารถชนะยักษ์ได้พระยาขอมจึงบัญชาท้าวทั้ง 3 ของมเหสีหลวงมีพระนามว่า พระศรีโหร์ พระสังข์ทอง และพระสังข์สินชัยไป ติดตามเอาพระนางกับคืนมาให้ได้ท้าวทั้งสามเป็นผู้มีฤทธิ์มีอำนาจก็ได้ทำศึกสู้กับพญายักษ์ต่างไม่มีใครแพ้ชนะจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยหล้าทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อพญายักษ์เผลอหลับไปพระสังข์สินชัยลอบเข้าไปพาพระนางสุมณฑาหนีกลับไปเมืองขอม ลำน้ำที่พระสังข์สินชัยพาพระนางล่องหนียักษ์นั้น ผู้เฒ่าผู้แก่กล่าวกันมาว่าคือ ร่องน้ำสงคราม เป็นแม่น้ำสายเดียวในประเทศไทยที่ยังคงความใสสะอาด บริสุทธิ์ต้นลำน้ำไหลลงมาจากภูผาลมทางด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านผาสุกอยู่

ถัดมาจะมีบันไดให้ได้ขึ้นไปชมวิวสวยๆของวัดด้วย
[CR] วัดถ้ำสุมณฑาภาวนา (วัดผาสุการาม)
วัดถ้ำสุมณฑาภาวนาหรือ วัดผาสุการาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี โดยวัดนั้นตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ป่าสงวนแห่งชาติ
วัดถ้ำสุมณฑาภาวนาหรือ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งอยู่ริมหน้าผา
ภายในบริเวณวัดมีศาลาตั้งอยู่ริมผาลักษณะเป็นอาคารยาวตามหน้าผามีถนนลาดยางขึ้นมาได้สะดวก
ภายในศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปต่างๆ บรรยากาศร่มรื่นมากครับ
และข้างๆศาลามีศาล เจ้าหญิง สุมณฑาอยู่
ตำนานนางสุมณฑา ... บนเทือกเขาภูพาน ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบะยาวอยู่ทางทิศประจิม ของหมู่บ้านผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เป็นดินแดนศักสิทธิ์ที่ชาวบ้านเล่าขานกันมาแต่โบราณกาล มีถ้ำลึกลับซึ่งเชื่อว่าเป็นเมืองของคนบังบดลับแลโบราณเรียกว่าถ้ำเม็ง หรือถ้ำเกวียนหักวันดีคืนดีวันพระเดือนหงายเต็มดวง บางทีจะมีเสียงผู้คนพูดคุยและหัวเราะกันชัดถ้อยชัดคำด้วยสำเนียงภาษาครึ่ง มนุษย์ครึ่งเทพบางคืนมีลำแสงประหลาด สาดประกายออกมาจากบริเวณนั้นและบางครั้งก็มีเสียงฆ้อง กลองเสียงพิณและเสียงแคนบรรเลงแว่วดังให้ได้ยินกันเสียงเยือกเย็นไพเราะ เสนาะหู
ส่วนที่มาของชื่อถ้ำสุมณฑานั้นได้มีการกล่าวถึงในวรรณคดีอีสานล้านช้าง ว่าพญากุมภัณธุ์ยักษ์ ออกไปหาอาหารบนเทือกเขาแห่งหนึ่งบนเขาภูพาน ได้เห็นพระนางสุมณฑา ซึ้งเป็นธิดาเดียวของพระยาขอม ผู้ครองเมืองจานนครราช
วันนั้นพระนางร้อนรุ่มพระทัยไม่เป็นสุขอยู่ในตำหนักปรารถนาจะเสด็จประพาสป่า เที่ยวเล่นจึงพร้อมด้วยบริวารสนมกำนัลติดตามไป พระนางก็บรรทมพักผ่อนอยู่ป่านั้นเอง ครั้นพญายักษ์ผ่านมาพบเข้าก็คิดจะจับนางสนมกินเป็นอาหารแต่เมื่อเข้าใกล้ได้ เห็นสิริโฉมของพระนางสุมณฑาเข้าจึงได้มีจิตปฎิพัทธ์รักใคร่เปลี่ยนใจไม่กินนางสนม แต่เป่ามนต์ให้หลับและลักลอบอุ้มเอาพระนางสุมณฑาพามาซ่อนไว้ในถ้ำที่ยอดภูผาหักแห่งนี้
เมื่อพระนางสุมณฑาตื่นขึ้นมาจากบรรทมรู้ตัวว่าอยู่ ในหมู่ล้อมของยักษ์บริวารพญายักษ์ พระนางตกใจกลัวยิ่งนักได้แต่สวดมนต์ภาวนาร่ายคาถาตามคัมภีร์พระเวทย์ลัทธิพราหมณ์ อ้อนว้อนเทวดาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้ร่างกายของพระนางร้อน เหมือนเปลวเพลิง มิให้พญายักษ์เข้าใกล้ได้ กุมภัณธุ์พญายักษ์ก็มิอาจเข้าใกล้ถึงกายของพระนางสุมณฑาได้จึงเพียงนั่งนอน เฝ้าอยู่หน้าถ้ำพร้อมกับบริวารยักษ์ คอยเก็บหาอาหารผลไม้ มาอุปัฎฐากให้พระนางสุมณฑาด้วยจิตใจจงรักภักดีมิได้ขาด
พระบิดาของพระนางสุมณฑาส่งทราบข่าวจึงให้เท้าทั้ง 6 เป็นเหล่าบุตรของมเหสีรองออกตามหาพระธิดาจนได้มาพบจึงทำศึกสู้รบกันเพื่อ แย่งพระนางแต่ก็ไม่สามารถชนะยักษ์ได้พระยาขอมจึงบัญชาท้าวทั้ง 3 ของมเหสีหลวงมีพระนามว่า พระศรีโหร์ พระสังข์ทอง และพระสังข์สินชัยไป ติดตามเอาพระนางกับคืนมาให้ได้ท้าวทั้งสามเป็นผู้มีฤทธิ์มีอำนาจก็ได้ทำศึกสู้กับพญายักษ์ต่างไม่มีใครแพ้ชนะจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยหล้าทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อพญายักษ์เผลอหลับไปพระสังข์สินชัยลอบเข้าไปพาพระนางสุมณฑาหนีกลับไปเมืองขอม ลำน้ำที่พระสังข์สินชัยพาพระนางล่องหนียักษ์นั้น ผู้เฒ่าผู้แก่กล่าวกันมาว่าคือ ร่องน้ำสงคราม เป็นแม่น้ำสายเดียวในประเทศไทยที่ยังคงความใสสะอาด บริสุทธิ์ต้นลำน้ำไหลลงมาจากภูผาลมทางด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านผาสุกอยู่
ถัดมาจะมีบันไดให้ได้ขึ้นไปชมวิวสวยๆของวัดด้วย