โรคที่ยังหาคำตอบไม่ได้!!? อาการหลังสงคราม และ SHELL SHOCK คืออะไร?

อาการประหลาดหลังจากสงครามคืออะไร? มีจริง? แล้วอาการเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้น

เรามาดูกันพร้อมๆกันเลย

โรค หรือ อาการแปลกประหลาด ที่ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ในปัจจุบัน หรือที่รู้จักกันในชื่อ SHELL SHOCK

สำหรับท่านที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ


คลิกดูคลิปได้เลยจ้า

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


สำหรับท่านที่ชอบอ่านเชิญต่อเลยจ้า

สงครามเปลี่ยนมนุษย์ เรื่องจริงของโรคปริศนาจากสงคราม
โหดร้ายยิ่งกว่าตาย!!

ความรุนแรงที่สุดอย่างสงคราม นับว่าสร้างความเสียหายให้กับชีวิตมนุษย์
อย่างน่าสะพรึง และนี่คือเรื่องจริงของ สงครามเปลี่ยนมนุษย์ ผลพวงที่หลายคน
ไม่เคยรู้
แม้ประวัติศาสตร์จะสอนให้เราเห็นผลลัพธ์ของการใช้อาวุธเข้าทำร้ายกัน
ในสงครามมามาก แต่ทุกวันนี้ สงครามก็ยังไม่เคยหมดไปจากโลก
และความรุนแรงยังคงเกิดขึ้น

แต่สงครามไม่ได้ทิ้งไว้เฉพาะบาดแผลหรือความพิการบนร่างกาย
แต่ภายในจิตใจ การทำงานของระบบประสาท มันก็ส่งผลเข้าไปเปลี่ยน
คนแข็งแรงให้กลายเป็นผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้


มันถูกเรียกว่า โรคประสาทสงคราม หรือ War Neurosis
แต่ชื่อที่เกิดขึ้นครั้งแรกจริงๆ ต้องย้อนไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
ผลทางระบบประสาทที่น่าสะพรึงถูกเปิดเผยขึ้นครั้งแรก
มันถูกเรียกว่า Shell Shock โรคที่ทำให้ทหารผ่านศึก
มีอาการทางประสาท ซึมเศร้า หลุดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว
อาการทางกายภาพ คือ ชักกระตุกรุนแรง ตาถลน ไม่สามารถควบคุม
ตนเองได้ และอาจถึงเป็นใบ้และหูหนวก

แต่เดิมเชื่อว่า เกิดจากการโดนคลื่นอัดกระแทกของปืนใหญ่หรืออาวุธสงคราม
แต่ภายหลังจึงได้ทราบว่า มันเกี่ยวกับภาวะจิตใจที่กดดันอย่างหนัก
แต่ก็ยังไม่มีการชี้สาเหตุที่แน่ชัด และกลายเป้นโรคปริศนาในเวลานั้น
ตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดครั้งหนึ่งคือ สมรภุมิซ็อม ในฝรั่งเศษ เมื่อทหารเสีย
ชีวิตถึง 19,000 นาย ผ่านไป5วันจำนวนเพิ่มเป็นหลายแสน น่าเศร้า
ที่จำนวนทหารมากมาย ต้องเกณฑ์จากประชาชนที่ไม่เคยผ่านการฝึก
และไม่เคยเห็นความรุนแรง

และมันก็ทำให้เหล่าทหาร เริ่มแสดงอาการ Shell Shockออกมา
การแพทย์ในสมัยนั้น ไม่สามารถทำอะไรได้ จวบจนภายหลังถึงพอจะพบ
หนทางรักษา นั้นคือทหารที่แสดงอาการ ต้องได้รับการปฐมพยาบาล
อย่างเร่งด่วน โดยทหารที่ป่วยจะต้องได้รับการพัก ให้อาหาร
ให้ความสบายใจใกล้แนวรบอย่างทันท่วงที และต้องได้กำลังใจจากเพื่อนร่วมรบ
เพื่อคาดหวังให้เขากลับมาทำหน้าที่ได้
แปลกที่การรักษาใกล้แนบรบและให้ความคาดหวังว่าเขาจะกลับมา
จับปืนได้ กลับรักษาคนกลุ่มนี้ได้เร็วกว่าการส่งกลับ แต่มีจำนวนมากที่ไม่สามารถ
กู้วิกฤติทางจิตใจได้ และต้องกลายเป็นสภาพแบบนั้นตลอดไป


จากกระแสภาพยนตร์เรื่อง Dunkirk (ดันเคิร์ก) ทำให้พี่น้องนึกถึงภาพๆ หนึ่ง
ที่เรามักจะเห็นกันผ่านตาในอินเทอร์เน็ต เป็นภาพที่ถูกตั้งชื่อว่า
"Shell Shocked Soldier"
ซึ่งเรียกว่าเป็นภาพที่ถ่ายไว้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
และน่าจะถือว่าเป็นภาพที่ฮือฮามากที่สุด เพราะเบื้องหลังอันน่าเศร้าของมัน

ภาพนี้ถ่ายไว้ตอนต้นสงครามโลกครั้งที่ 1 ในการรบที่เรียกว่า
"Battler of the Somme" หรือ "Somme Offensive"
เป็นการรบระหว่างทหารอังกฤษและฝรั่งเศส กับทหารเยอรมัน


สิ่งที่ทำให้คนสะเทือนใจเมื่อเห็นภาพถ่ายนี้ คือรอยยิ้มของทหารที่อยู่ด้านซ้ายของรูป
ถ้าเราไม่รู้อะไร เราอาจคิดว่านี่เป็นภาพของทหารที่ยังมีความหวังกลางสมรภูมิ
แต่ความจริงแล้วนี่คือภาพของทหารที่ได้รับผลกระทบจากอาการ Shell Shock
ซึ่งเป็นคำนิยามที่ทหารตั้งขึ้นมา


ทหารหลายนายที่มีอาการ Shell Shock และพยายามหนีจากสมรภูมิ
กลับถูกกล่าวหาว่าขี้ขลาด ทิ้งเพื่อนร่วมชาติ ทิ้งหน้าที่ บ้างถูกยิงทิ้งเนื่องจากละเมิดวินัยทหาร
บ้างถูกขังเดี่ยว หรือรักษาด้วยการใช้ไฟฟ้าช็อต
เพราะสมัยนั้นคนยังไม่รู้ว่านี่เป็นอาการทางจิตที่เกิดขึ้นจริง
หลังสงครามจึงมีการศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้ และทางการแพทย์สรุปให้เรียกอาการนี้ว่า
"War Neurosis" หรืออาการทางประสาทที่มีผลจากสงคราม
รัฐบาลอังกฤษจึงต้องออกมาขอโทษครอบครัว
ของทหารที่ถูกตัดสินโทษเพราะอาการ Shell Shock

ในคลิปที่จะให้ดูเป็นคลิปสังเกตอาการผู้ป่วยที่มีอาการ Shell Shock
และรักษาโดยนายแพทย์ชื่อ อาเธอร์ เฮิร์สต์ ซึ่งเป็นแพทย์เพียงคนเดียวในตอนนั้น
ที่เชื่อว่าคนพวกนี้ไม่ได้ขี้ขลาด และต้องรักษาให้ถูกวิธี เขารับทหารที่มีอาการนี้เข้ามารักษา
และกว่า 90% ก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงนายทหารรายนี้
ที่ได้รับการรักษาจนเดินได้เป็นปกติในระดับหนึ่งด้วย

ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โรคนี้จะถูกเรียก Shell Shock
และสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียก War Fatigue
ในสงครามอื่นๆ เช่นเวียดนาม เกาหลี อิรัก โรคนี้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
ในสงครามปัจจุบัน เรียก PTSD ซึ่ง ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเฉพาะกับทหารเท่านั้น

Post-traumatic stress disorder
หรือเรียกสั้น ๆ ว่า PTSD (พี. ที. เอส. ดี)
จากการสำรวจของกรมการทหารผ่านศึกในสหรัฐอเมริกา
พบว่ามีผู้ป่วยถูกวินิจฉัยเป็น PTSD มากถึงแปดล้านคนต่อปี
โดยผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นโรคมากกว่าผู้ชาย
และในปัจจุบัน สาเหตุของ PTSD ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของการเกิดโรคนี้
แต่พอจะบอกได้ถึงปัจจัยเสี่ยง ดังนี้
1 การติดต่อทางพันธุกรรม
2ความผิดปกติทางสมองของแต่ละบุคคล
3ประสบการณ์ที่สะเทือนขวัญและส่งผลต่อจิตใจตั้งแต่วัยเด็ก
4 สุภาพจิต ที่อาจเป็นอาการแทรกซ้อนจากโรคซึมเศร้า
5ลักษณะบุคลิกเดิม:มองโลกในแง่ร้าย มีปัญหาในการจัดการกับความเครียดของตนเอง
จะอย่างไรก็ตาม
ระดับความเลวร้ายของสงครามโลกนั้น เราคงได้แค่คะเนจากการอ่านบันทึกประวัติศาสตร์
ดูภาพยนตร์ แต่คงเทียบกันไม่ได้กับคนที่ได้ไปอยู่ตรงนั้น ได้ยินเสียงระเบิดอยู่ข้างหู
รับรู้ถึงแรงสะเทือนใต้ฝ่าเท้า และสายตาจับจ้องอยู่ที่เพื่อนทหารคนแล้วคนเล่าที่จากไป
ที่เลวร้ายกว่าคือความจริงที่ว่า ทหารหลายนายที่รอดชีวิตกลับมา
นอกจากจิตใจจะบอบช้ำจากสงครามแล้ว ยังถูกรัฐบาลและคนในสังคมทอดทิ้ง ไม่ไยดีอะไรเลยด้วย

ติดตามเรื่องราวของพวกเราได้ที่
FB :https://www.facebook.com/whymanradio/

Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCUIMDl5cY-tynJIlP9cpR7A
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่