ก็อย่างที่ว่ากันอ่าเนาะ เงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้ แต่เกือบทุกอย่างที่เราอยากได้ก็ดันต้องใช้เงินซื้อทั้งน้านนน่ะ..(ว่าม๊ะ

)
สวัสดี เพื่อนๆชาวพันธ์ทิพย์ทุกคนนะคะ ทริปนี้ถือเป็นครั้งแรกสำหรับการไปต่างประเทศของเรา และ ก็เป็นการเขียนรีวิวกระทู้แรกของเราด้วย สำหรับ ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 4 คนค่ะ จริงๆแล้วเวียดนามไม่ได้เป็นประเทศแรกที่เราเลือกว่าจะออกทริปต่างประเทศ แต่ดันมี3ใน4คนน่ะซิที่อยากไปประเทศนี้ เพราะ มี2นางเพิ่งจะโดนแฟนเทไปและเพื่อตามรอย เพลงยังไม่พ้นขีดอัตราย ของพี่บอยเรานั่นเอง ส่วนอีกหนึ่งชายก็ชื่นชอบเมืองเก่าและกลิ่นอายแห่งความหลังของเมืองฮอยอัน และกับตัวเราเองนั้นก็นะ... เมื่อเพื่อนโดนเท..พาเซไปเวียดนามซิจ๊ะ นี้เลยค่ะ
เธอรู้บ้างไหม ต้องใช้เวลาเท่าไรกว่าจะลืมเธอ (ปล.ให้นึกถึงเสียงร้องพี่บอยเข้าไว้นะคะ)
.....มาค่ะ เริ่ม !!!
วันที่ 1 เริ่มต้น เดินทาง ดอนเมือง - โฮจิมินห์ - มุยเน่
ทริปนี้เราเดินทางไปกับสายการบินนกแอร์ไฟล์ทบินเที่ยวเวลา 07:35 ถึงโฮจิมินห์ 09:05 ใช้เวลาในการเดินทางโดยประมาณ 1 ชม. 30 นาที
หลังจากที่ถึงสนามบินโฮจิมินห์แล้ว สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกเลยคือแลกเงิน เวียดนามจะใช้เงิน VDN และ US แนะนำว่าควรแลกไว้ทั้งสองสกุลเงินค่ะ (1 บาท = 635 ดง) ค่าเงินอาจจะมีปรับเปลี่ยนตามสภาวะต่างๆแนะนำว่าก่อนไปต้องเช็คข้อมูลกันอีกทีจร้า หลังจากแลกเงินกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปต่อกันด้วยซื้อซิมเราซื้อซิมในราคา 200000 ดง/1ซิม ซื้อมา 3 ซิมค่ะ(เพราะเรากับแฟนแชร์เน็ตกันเล่นเลยซื้อแค่ซิมเดียวใส่เครื่องที่แฟนใช้เพราะคนนี้เขาขาดเน็ตไม่ได้

..ประหยัดไปอีก

) หลังจากแลกเงินซื้อซิมกันแล้วเราก็ออกไปตามหารถประจำ สาย 152 ตามที่อ่านรีวิวมาเพื่อที่จะไปย่านฟาร์มงูเหลา ซื้อตั๋วเดินทางไปยัง มุยเน่ รถเมล์สาย 152 ให้บริการตั้งแต่ประมาณ 06:00 น. ถึง 18:00 น.ของทุกวันรถจะออกทุก 15 นาทีราคา 5,000 VDN/คน บางกระทู้จะบอกว่าถ้ามีสัมภาระด้วยจะคิดเพิ่มอีก 5,000 VDN/ใบ แต่ของพวกเราวันนั้นรถโล่งค่ะเขาเลยไม่คิดในส่วนของกระเป๋า(แอบโชคดีเนาะ) หลังจากขึ้นรถแล้วเท่านั้นแหละ เราดันลืมซิมไทยที่เปลี่ยนไว้ที่เคาน์เตอร์เรากับแฟนเลยต้องลงจากรถเพื่อกลับไปเอาซิมแล้วให้2สาวไปรอที่จุดนัดพบก่อน โดนบ่นไปอิ๊กกกก ทำหน้าเศร้าวนไป 555++ และกว่าจะหาทางเข้าไปในตัวสนามบินกันเจอก็เล่นเดินจนเหงือตกกันเลย(แต่ก็ยังได้กลับมา)

หลังจากให้เพื่อนไปรอที่จุดนัดพบแล้ว เรากับแฟนก็ตามไปสบทบทีหลังค่ะ... คือจะบอกก่อนว่าทริปนี้เราไปกันแบบกระเป๋าเดินทางจัดเต็มกันมาก ยิ่งเรากับแฟนคือ2ใบเลยเพราะกะว่าจะบินไปเชียงใหม่ทีเดียวเลย(เราอยู่กทม.ค่ะ) และเป็นเพราะไอ่กระเป๋าเดินทางที่ใหญ่และหนักกันนี้แหละ2สาวเลยโบกจักรยาน3ล้อรับจ้าง ด้วยเพราะกลัวว่ามันจะไกล ทั้งที่อยู่ตรงข้ามจุดจอดรถและข้ามทางม้าลายมาก็ถึงหล่ะ แต่เพราะความไม่รู้ หลังจากลงจากรถเมล์แล้ว 2นางโบกเลยจร้า เพื่อข้ามไปรอเรากับแฟนที่จุดนัดพบคือตลาดเบนถันซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พอถึงจุดหมายปุ๊ปลุงแกเรียกเก็บ 200000 ดงเลยจร้า ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300-315 บาทเลย(ซึ่งแพงมาก) แต่เพื่อนก็ต่อมาเหลือ 150000 ดง ส่วนเรากับแฟนคือลงจากรถมาแล้วเดินข้ามทางม้าลายมาเลยเพราะเห็นว่ามันใกล้นิดเดียวเดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงค่ะ(ที่เรารู้ว่าใกล้นิดเดียวเป็นเพราะลงรถปุ๊ปเราโทรเฟสหาเพื่อนก่อนเลยนางเลยบอกว่าใกล้นิดเดียวจากจุดลงรถ) คือจะบอกว่าวันแรกก็เล่นโหดกันเลยนะลุง

หลังจากมากันครบแล้วเราก็เดินไปย่านฟาร์มงูเหลากันค่ะ ซึ่งไม่ได้ไกลกันมาก ตรงนั้นจะมีเคาน์เตอร์บริษัททัวร์เรียงราย แต่เรามุ่งไปที่บริษัทเดียวเลยคือ เวียดซี ไปตามที่อ่านรีวิวมาเลย แต่กว่าจะหาบริษัทเจอก็ทำเอาบ่นกันไปหลายรอบเลยเหมือนกัน แต่จีพีเอสก็ช่วยได้ดีเลยทีเดียว พอถึงแล้วเราก็เข้าไปจองเลยค่ะ จองรถ ไป-กลับ (โฮจิมินห์ - มุยเน่) แล้วก็ จองโรงแรม+ทริปมุยเน่ไปด้วยเลย พวกเราไปนอน มุยเน่ 1 คืน กว่าจะจองเสร็จก็ใช้เวลาไปพอสมควรบวกกับภาษาอังกฤษพวกเราที่ได้กันแบบฟุตฟิตฟอไฟ ก็คือพอรู้เรื่องแค่นั้น และอีกอย่างคือตัดสินใจเรื่องโรงแรมไม่ได้สักที และแล้วเราก็ทำการจองเสร็จเรียบร้อยโดยออกเดินทางเวลา 14:00 น.ของวันนี้เลย เพราะเราจองทัวร์ที่มุยเน่ไว้เป็นช่วงเช้าของอีกวันคือดูพระอาทิตย์ขึ้น(Sun rise) ทัวร์มุยเน่ของที่นี้จะมี2แบบคือ 1.ดูพระอาทิตย์ขึ้น(Sun rise) กับ 2.ดูพระอาทิตย์ตก(Sunset) **ในทริปก็จะมีโปรแกรมอื่นๆเหมือนกันเลยค่ะต่างกันแค่Sun riseกับSunset เท่านั้น ^^

ระหว่างนั้นเรามีเวลาเกือบ2ชั่วโมงก่อนเดินทาง เราเลยฝากกระเป๋าแล้วไปหาอะไรกินกัน ...และนี้คือ... อาหารมื้อแรกที่เวียดนามเราฝากท้องไว้กับร้าน NHÀ HÀNG MÓN HUẾ อาหารจะเยอะกว่านี้คือหิวกันมากเพราะตั้งแต่มาถึงเพิ่งได้กินข้าวกันเลยสั่งกันมาแบบไม่คิดชีวิต พออาหารลงปุ๊ปทุกคนรีบกินกันภาพมันเลยออกมาเหลือแค่นี้ (ทันถ่ายแค่อาหารที่อยู่ตรงหน้าเลย)
และหลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินชมเมืองแถวนั้นกันนิดหนึ่งไม่ได้เดินเยอะมากเพราะเราคิดว่าหลังจากกลับจากมุยเน่แล้ว เราก็จะกลับมาพักโฮจิมินห์อยู่แล้วคืนหนึ่งเลยกะว่าค่อยเหมารวมวันนั้นเลย เลยรีบเดินแล้วรีบไปรอขึ้นรถเพราะเขาแจ้งให้ไปรอก่อนครึ่งชั่วโมง
และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นรถ จากโฮจิมินห์ - มุยเน่ ใช้เวลาโดยประมาณ 4-5 ชั่วโมงได้ นี้คือรถนอนที่เราจองไว้ค่ะ ลืมถ่ายตัวรถด้านนอกไว้
รถจะเป็นรถนอน 2ชั้น มีหมอนรองแต่ไม่มีผ้าห่มค่ะ เพราะเดินทางช่วงกลางวันแต่ถ้าเดินทางช่วงกลางคืนจะมีหมอนรองกับผ้าห่มให้ เราจะมีเลขที่นั่งของแต่ละคน ก่อนขึ้นรถทุกคนจะต้องถอนรองเท้าโดยคนขับจะมีถุงพลาสติกแจกให้คนละใบเอาไว้ใส่รองเท้าตัวเอง หลังจากรถออกไปได้แล้วประมาณ 2ชั่วโมงเศษรถจะมีจอดระหว่างทางให้เข้าห้องน้ำและซื้อของกินนับว่าครึ่งทางพอดีค่ะ
เบอเกอร์ตรงจุดจอดระหว่างทางค่ะ มันก็จะใหญ่ๆหน่อย ขนมปังแข็งๆหน่อย รสชาติก็จะเป็นแบบที่เราไม่คุ้นเคย แต่ก็กินได้ค่ะ
เราเป็นกลุ่มรองสุดท้ายที่ลงรถจนแอบคุยกันว่าเห้ย!!มันเลยเปล่าว่ะ.. คือเพราะพวกต่างชาตินักท่องเที่ยวเขาลงกันหมดแล้วส่วนที่เหลือก็จะเป็นคนเวียดนามหมดเลย จนต้องไปถามคนขับว่าเลยหรือเปล่า จนสักประมาณทุ่มเศษเราก็ถึงหน้าที่พักค่ะ จะบอกเลยว่ามุยเน่เป็นเมืองที่ติดทะเล เพราะฉะนั้นโรงแรมเกือบทั้งหมดและเกือบทุกโรงแรมจะติดทะเล คือฟินมาก
และที่เราจองไว้ก็คือนี้เลยค่ะ HOÀNG KIM GOL ĐẾN ด้านหน้าดูแบบทั่วไปแต่ด้านหลังคือฟินได้อีก
หลังจากเข้าห้องพักเก็บกระเป๋าแล้ว เราก็ออกไปหามื้อค่ำกินกันบวกกับเดินชมเมืองมุยเน่ไปเรื่อยๆ แต่แถวนั้นคือปิดร้านกันเร็วมากจะประมาณแถวชานเมืองบ้านเรา ร้านอาหารเหลือไม่กี่ร้าน บวกกับฝนตกโปรยปรายหน่อยๆ และนี้คือโฉมหน้าอาหารมื้อที่ 2 ของเราในเวียดนามไม่มีชื่อร้านนะคะเป็นร้านริมทางที่ก็ว่าจะปิดร้านแล้วเหมือนกันปิดไฟไปแล้วด้วย แต่คงเห็นหน้าตาอันหิวโหยของเราอีกทั้งทางข้างหน้าก็เริ่มมืดและไม่มีร้านเปิดกันแล้ว แม่ค้าเลยใจดีขายให้ค่ะ อาหารเวียดนามจะออกรสชาติจืดถึงชืดไปเลยค่ะ ถ้าคนติดกินรสจัดคงจะไม่ชอบอาหารสไตล์นี้เท่าไร มื้อนี้คือกินเท่าที่มีเลยเพราะสั่งอะไรไปก็หมดเกือบจะทุกอย่างแล้ว..
..ขาเดินกลับห้องแวะซื้อหมวกเป็นที่ระลึกกันคนละใบ..
นี้คือรูปหน้าห้องพักเราเอง แบบไม่ทันได้ถ่ายรูปในห้องมาเลยคือถึงปุ๊ปออกไปกินข้าวกลับเข้ามาเปลี่ยนชุดว่ายน้ำลงสระกันก่อนเลยจร้า(ส่วนรูปตอนลงสระไม่ได้เอามาลงนะจ๊ะเดี๋ยวทุกคนจะคิดว่าพะยูนที่ไหนมาเล่นน้ำกัน

) ส่วนรูปนี้ก็มาถ่ายเอาวันรุ่งขึ้นอีกวันเพราะวันนี้เราถึงกันตอนช่วงมืดค่ำแล้ว
...มาฟินกันต่อหลังฉากเลยค่ะ อันนี้คือส่วนด้านหลังฝั่งที่ติดทะเลของที่พัก
และแล้วเวลาเล่นน้ำเราก็ล่วงเลยปาเข้าไป 4 ทุ่ม ทุกคนเตียมเข้าห้องอาบน้ำนอน แต่.. เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมไม่นอนกันพรุ่งนี้รถออก 04:25 น. นะคะ คืออาบน้ำเสร็จสาวๆมานั่งเม้าท์มอยต่อส่วน1ชายคนเดียวของเราก็ROVต่อไป ปาเข้าไปตี2 คือต้องไล่ทุกคนนอน(เกมส์บังคับมาก) แต่บอกเลยว่าไม่มีใครนอนทันทีหรอก ปิดไฟไล่ไปแต่แสงหน้าจอโทรศัพท์ก็ยังคงปรากฎกันต่อไป คืนแรกที่เวียดนามของเราบอกเลยว่านอนกันชั่วโมง-ชั่วโมงครึ่งได้จร้าาา นอนประมาณตี2กว่าได้ ตั้งปลุกตี3ครึ่ง สาวๆรีบลุกมาแต่งหน้าแต่งตัว(เป็นผู้หญิงนี่ลำบากเนาะ..ว่าม๊ะ) พอสาวตื่นแล้ว1หนุ่มเราก็จะนอนต่อไม่ได้เพราะทั้งห้องไฟสว่างจ้าอีกทั้งเสียงคุยกันดัง ปล.เราจองห้องพักแบบห้อง Family room ค่ะ

.....ไปต่อกันของวันที่2เลยนะ ป๊ะๆ
[CR] รีวิวเวียดนามกลาง-ใต้ (4คืน5วัน กับ โฮจิมินห์-มุยเน่-ฮอยอัน-เว้) #ใช้เงินซื้อความสุข เมื่อเพื่อนโดนเท..พาเซไปเวียดนาม
สวัสดี เพื่อนๆชาวพันธ์ทิพย์ทุกคนนะคะ ทริปนี้ถือเป็นครั้งแรกสำหรับการไปต่างประเทศของเรา และ ก็เป็นการเขียนรีวิวกระทู้แรกของเราด้วย สำหรับ ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 4 คนค่ะ จริงๆแล้วเวียดนามไม่ได้เป็นประเทศแรกที่เราเลือกว่าจะออกทริปต่างประเทศ แต่ดันมี3ใน4คนน่ะซิที่อยากไปประเทศนี้ เพราะ มี2นางเพิ่งจะโดนแฟนเทไปและเพื่อตามรอย เพลงยังไม่พ้นขีดอัตราย ของพี่บอยเรานั่นเอง ส่วนอีกหนึ่งชายก็ชื่นชอบเมืองเก่าและกลิ่นอายแห่งความหลังของเมืองฮอยอัน และกับตัวเราเองนั้นก็นะ... เมื่อเพื่อนโดนเท..พาเซไปเวียดนามซิจ๊ะ นี้เลยค่ะ
เธอรู้บ้างไหม ต้องใช้เวลาเท่าไรกว่าจะลืมเธอ (ปล.ให้นึกถึงเสียงร้องพี่บอยเข้าไว้นะคะ)
.....มาค่ะ เริ่ม !!!
ทริปนี้เราเดินทางไปกับสายการบินนกแอร์ไฟล์ทบินเที่ยวเวลา 07:35 ถึงโฮจิมินห์ 09:05 ใช้เวลาในการเดินทางโดยประมาณ 1 ชม. 30 นาที
หลังจากที่ถึงสนามบินโฮจิมินห์แล้ว สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกเลยคือแลกเงิน เวียดนามจะใช้เงิน VDN และ US แนะนำว่าควรแลกไว้ทั้งสองสกุลเงินค่ะ (1 บาท = 635 ดง) ค่าเงินอาจจะมีปรับเปลี่ยนตามสภาวะต่างๆแนะนำว่าก่อนไปต้องเช็คข้อมูลกันอีกทีจร้า หลังจากแลกเงินกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปต่อกันด้วยซื้อซิมเราซื้อซิมในราคา 200000 ดง/1ซิม ซื้อมา 3 ซิมค่ะ(เพราะเรากับแฟนแชร์เน็ตกันเล่นเลยซื้อแค่ซิมเดียวใส่เครื่องที่แฟนใช้เพราะคนนี้เขาขาดเน็ตไม่ได้
หลังจากให้เพื่อนไปรอที่จุดนัดพบแล้ว เรากับแฟนก็ตามไปสบทบทีหลังค่ะ... คือจะบอกก่อนว่าทริปนี้เราไปกันแบบกระเป๋าเดินทางจัดเต็มกันมาก ยิ่งเรากับแฟนคือ2ใบเลยเพราะกะว่าจะบินไปเชียงใหม่ทีเดียวเลย(เราอยู่กทม.ค่ะ) และเป็นเพราะไอ่กระเป๋าเดินทางที่ใหญ่และหนักกันนี้แหละ2สาวเลยโบกจักรยาน3ล้อรับจ้าง ด้วยเพราะกลัวว่ามันจะไกล ทั้งที่อยู่ตรงข้ามจุดจอดรถและข้ามทางม้าลายมาก็ถึงหล่ะ แต่เพราะความไม่รู้ หลังจากลงจากรถเมล์แล้ว 2นางโบกเลยจร้า เพื่อข้ามไปรอเรากับแฟนที่จุดนัดพบคือตลาดเบนถันซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พอถึงจุดหมายปุ๊ปลุงแกเรียกเก็บ 200000 ดงเลยจร้า ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300-315 บาทเลย(ซึ่งแพงมาก) แต่เพื่อนก็ต่อมาเหลือ 150000 ดง ส่วนเรากับแฟนคือลงจากรถมาแล้วเดินข้ามทางม้าลายมาเลยเพราะเห็นว่ามันใกล้นิดเดียวเดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงค่ะ(ที่เรารู้ว่าใกล้นิดเดียวเป็นเพราะลงรถปุ๊ปเราโทรเฟสหาเพื่อนก่อนเลยนางเลยบอกว่าใกล้นิดเดียวจากจุดลงรถ) คือจะบอกว่าวันแรกก็เล่นโหดกันเลยนะลุง
หลังจากมากันครบแล้วเราก็เดินไปย่านฟาร์มงูเหลากันค่ะ ซึ่งไม่ได้ไกลกันมาก ตรงนั้นจะมีเคาน์เตอร์บริษัททัวร์เรียงราย แต่เรามุ่งไปที่บริษัทเดียวเลยคือ เวียดซี ไปตามที่อ่านรีวิวมาเลย แต่กว่าจะหาบริษัทเจอก็ทำเอาบ่นกันไปหลายรอบเลยเหมือนกัน แต่จีพีเอสก็ช่วยได้ดีเลยทีเดียว พอถึงแล้วเราก็เข้าไปจองเลยค่ะ จองรถ ไป-กลับ (โฮจิมินห์ - มุยเน่) แล้วก็ จองโรงแรม+ทริปมุยเน่ไปด้วยเลย พวกเราไปนอน มุยเน่ 1 คืน กว่าจะจองเสร็จก็ใช้เวลาไปพอสมควรบวกกับภาษาอังกฤษพวกเราที่ได้กันแบบฟุตฟิตฟอไฟ ก็คือพอรู้เรื่องแค่นั้น และอีกอย่างคือตัดสินใจเรื่องโรงแรมไม่ได้สักที และแล้วเราก็ทำการจองเสร็จเรียบร้อยโดยออกเดินทางเวลา 14:00 น.ของวันนี้เลย เพราะเราจองทัวร์ที่มุยเน่ไว้เป็นช่วงเช้าของอีกวันคือดูพระอาทิตย์ขึ้น(Sun rise) ทัวร์มุยเน่ของที่นี้จะมี2แบบคือ 1.ดูพระอาทิตย์ขึ้น(Sun rise) กับ 2.ดูพระอาทิตย์ตก(Sunset) **ในทริปก็จะมีโปรแกรมอื่นๆเหมือนกันเลยค่ะต่างกันแค่Sun riseกับSunset เท่านั้น ^^
ระหว่างนั้นเรามีเวลาเกือบ2ชั่วโมงก่อนเดินทาง เราเลยฝากกระเป๋าแล้วไปหาอะไรกินกัน ...และนี้คือ... อาหารมื้อแรกที่เวียดนามเราฝากท้องไว้กับร้าน NHÀ HÀNG MÓN HUẾ อาหารจะเยอะกว่านี้คือหิวกันมากเพราะตั้งแต่มาถึงเพิ่งได้กินข้าวกันเลยสั่งกันมาแบบไม่คิดชีวิต พออาหารลงปุ๊ปทุกคนรีบกินกันภาพมันเลยออกมาเหลือแค่นี้ (ทันถ่ายแค่อาหารที่อยู่ตรงหน้าเลย)
และหลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินชมเมืองแถวนั้นกันนิดหนึ่งไม่ได้เดินเยอะมากเพราะเราคิดว่าหลังจากกลับจากมุยเน่แล้ว เราก็จะกลับมาพักโฮจิมินห์อยู่แล้วคืนหนึ่งเลยกะว่าค่อยเหมารวมวันนั้นเลย เลยรีบเดินแล้วรีบไปรอขึ้นรถเพราะเขาแจ้งให้ไปรอก่อนครึ่งชั่วโมง
รถจะเป็นรถนอน 2ชั้น มีหมอนรองแต่ไม่มีผ้าห่มค่ะ เพราะเดินทางช่วงกลางวันแต่ถ้าเดินทางช่วงกลางคืนจะมีหมอนรองกับผ้าห่มให้ เราจะมีเลขที่นั่งของแต่ละคน ก่อนขึ้นรถทุกคนจะต้องถอนรองเท้าโดยคนขับจะมีถุงพลาสติกแจกให้คนละใบเอาไว้ใส่รองเท้าตัวเอง หลังจากรถออกไปได้แล้วประมาณ 2ชั่วโมงเศษรถจะมีจอดระหว่างทางให้เข้าห้องน้ำและซื้อของกินนับว่าครึ่งทางพอดีค่ะ
เราเป็นกลุ่มรองสุดท้ายที่ลงรถจนแอบคุยกันว่าเห้ย!!มันเลยเปล่าว่ะ.. คือเพราะพวกต่างชาตินักท่องเที่ยวเขาลงกันหมดแล้วส่วนที่เหลือก็จะเป็นคนเวียดนามหมดเลย จนต้องไปถามคนขับว่าเลยหรือเปล่า จนสักประมาณทุ่มเศษเราก็ถึงหน้าที่พักค่ะ จะบอกเลยว่ามุยเน่เป็นเมืองที่ติดทะเล เพราะฉะนั้นโรงแรมเกือบทั้งหมดและเกือบทุกโรงแรมจะติดทะเล คือฟินมาก
และที่เราจองไว้ก็คือนี้เลยค่ะ HOÀNG KIM GOL ĐẾN ด้านหน้าดูแบบทั่วไปแต่ด้านหลังคือฟินได้อีก
หลังจากเข้าห้องพักเก็บกระเป๋าแล้ว เราก็ออกไปหามื้อค่ำกินกันบวกกับเดินชมเมืองมุยเน่ไปเรื่อยๆ แต่แถวนั้นคือปิดร้านกันเร็วมากจะประมาณแถวชานเมืองบ้านเรา ร้านอาหารเหลือไม่กี่ร้าน บวกกับฝนตกโปรยปรายหน่อยๆ และนี้คือโฉมหน้าอาหารมื้อที่ 2 ของเราในเวียดนามไม่มีชื่อร้านนะคะเป็นร้านริมทางที่ก็ว่าจะปิดร้านแล้วเหมือนกันปิดไฟไปแล้วด้วย แต่คงเห็นหน้าตาอันหิวโหยของเราอีกทั้งทางข้างหน้าก็เริ่มมืดและไม่มีร้านเปิดกันแล้ว แม่ค้าเลยใจดีขายให้ค่ะ อาหารเวียดนามจะออกรสชาติจืดถึงชืดไปเลยค่ะ ถ้าคนติดกินรสจัดคงจะไม่ชอบอาหารสไตล์นี้เท่าไร มื้อนี้คือกินเท่าที่มีเลยเพราะสั่งอะไรไปก็หมดเกือบจะทุกอย่างแล้ว..
..ขาเดินกลับห้องแวะซื้อหมวกเป็นที่ระลึกกันคนละใบ..
นี้คือรูปหน้าห้องพักเราเอง แบบไม่ทันได้ถ่ายรูปในห้องมาเลยคือถึงปุ๊ปออกไปกินข้าวกลับเข้ามาเปลี่ยนชุดว่ายน้ำลงสระกันก่อนเลยจร้า(ส่วนรูปตอนลงสระไม่ได้เอามาลงนะจ๊ะเดี๋ยวทุกคนจะคิดว่าพะยูนที่ไหนมาเล่นน้ำกัน
...มาฟินกันต่อหลังฉากเลยค่ะ อันนี้คือส่วนด้านหลังฝั่งที่ติดทะเลของที่พัก
และแล้วเวลาเล่นน้ำเราก็ล่วงเลยปาเข้าไป 4 ทุ่ม ทุกคนเตียมเข้าห้องอาบน้ำนอน แต่.. เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมไม่นอนกันพรุ่งนี้รถออก 04:25 น. นะคะ คืออาบน้ำเสร็จสาวๆมานั่งเม้าท์มอยต่อส่วน1ชายคนเดียวของเราก็ROVต่อไป ปาเข้าไปตี2 คือต้องไล่ทุกคนนอน(เกมส์บังคับมาก) แต่บอกเลยว่าไม่มีใครนอนทันทีหรอก ปิดไฟไล่ไปแต่แสงหน้าจอโทรศัพท์ก็ยังคงปรากฎกันต่อไป คืนแรกที่เวียดนามของเราบอกเลยว่านอนกันชั่วโมง-ชั่วโมงครึ่งได้จร้าาา นอนประมาณตี2กว่าได้ ตั้งปลุกตี3ครึ่ง สาวๆรีบลุกมาแต่งหน้าแต่งตัว(เป็นผู้หญิงนี่ลำบากเนาะ..ว่าม๊ะ) พอสาวตื่นแล้ว1หนุ่มเราก็จะนอนต่อไม่ได้เพราะทั้งห้องไฟสว่างจ้าอีกทั้งเสียงคุยกันดัง ปล.เราจองห้องพักแบบห้อง Family room ค่ะ