ใช้น้ำถ่วงน้ำหนักแทนคอนกรีตในเครื่องซักผ้า

นักวิจัยจาก Nottingham Trent University
ได้พัฒนาวิธีการเฉพาะสำหรับใช้กับ
บริษัทผู้ผลิตเครื่องซักผ้า
เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
และจะประหยัดค่าขนส่งภายในอังกฤษ
คิดเป็นมูลค่า CO2 เกือบ 45,000 ตันต่อปี

ศาสตราจารย์ Amin Al-Habaibeh https://goo.gl/8kGERu
สำนักวิชาการสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์
ร่วมกับ Dylan Knight นักศึกษาระดับปริญญาเอก
วิทยาศาตร์บัณฑิต(เกียรตินิยม) การออกแบบผลิตภัณฑ์
BSc (Hons) Product Design

ได้ร่วมกันพัฒนารูปทรงพลาสติกข้างในกลวง
มีน้ำหนักไม่เกินกว่า 3 กิโลกรัม
ซึ่งภายในจะเติมน้ำให้เต็มได้ในภายหลัง
เพื่อใช้แทนก้อนคอนกรีตเดิมที่หนักมาก
ก้อนน้ำหนักที่วางในเครื่องซักผ้านี้
เพื่อช่วยลดการสั่นสะเทือนของเครื่องซักผ้า
ในระหว่างการซัก การปั่นหมาด และช่วงหยุด




ปัจจุบันผู้ผลิต/โรงงานผลิตเครื่องซักผ้า
จะใช้ก้อนคอนกรีตขนาดหนาที่มีน้ำหนักกว่า 25 กิโลกรัม
ซึ่งจะมีน้ำหนักราว 38.5 %  ของน้ำหนักรวม 65 กิโลกรัม
จะเหลือน้ำหนัก 40+3=43 กิโลกรัม
เผื่ออุปกรณ์อื่น ๆ รวม 50 กิโลกรัม
วางไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องซักผ้าสั่นสะเทือน
การใช้ก้อนคอนกรีตจะช่วยเพิ่มน้ำหนักเครื่องซักผ้า
และมีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ผ่านกระบวนการผลิตและการขนส่งคอนกรีตพร้อมเครื่องซักผ้า

Dylan Knight อายุ 22 ปีจาก Grove Park ในลอนดอน
ได้ทดสอบอุปกรณ์ดังกล่าวที่มีน้ำหนักเบาไม่เกินกว่า 3 กิโลกรัม
เมื่อนำมาบรรจุน้ำจนเต็มอุปกรณ์นี้แล้ว
และพบว่ามีประสิทธิภาพและน้ำหนัก
เทียบเท่ากับคอนกรีตที่เคยใช้กันในอดีต

" คอนกรีตเป็นสิ่งที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เพราะมีการปล่อย CO2 ออกมาเมื่อเริ่มกระบวนการผลิต
การใช้คอนกรีตเป็นสาเหตุอย่างหนึ่ง
ที่ทำให้เครื่องซักผ้ามีน้ำหนักมากในตอนขนย้าย

ภาชนะบรรจุน้ำจะว่างเปล่า(มีแต่อากาศ)
และจะเคิมน้ำเมื่อมีการติดตั้งเครื่องซักผ้าเรียบร้อยแล้ว
เราพบว่ามันทำงานได้ดีเท่า ๆ กับเครื่องที่ใช้ก้อนคอนกรีต
ช่วงที่ถังเหล็กรูปทรงกระบอกหมุนไปรอบ ๆ กับรอหยุด
และลดการสั่นสะเทือนของเครื่องซักผ้าได้อย่างดีเลยทีเดียว "



การออกแบบใหม่นี้  
จะลดน้ำหนักเครื่องซักผ้าลงได้ไม่น้อยกว่า 30%
ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิง
ในการขนส่งเครื่องซักผ้า
และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
เช่น การบาดเจ็บทางร่างกาย
เมื่อยกหรือติดตั้งผลิตภัณฑ์ในบ้าน

นักวิจัยได้ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงว่า
การลดน้ำหนักรถบรรทุกเครื่องซักผ้า
ขนได้ครั้งละ 2 เครื่องมีน้ำหนัก 100 กิโลกรัม
(จากแต่เดิม 2 เครื่องมีน้ำหนัก 130 กิโลกรัม)
สามารถประหยัดพลังงานและลด CO2 ได้ประมาณ 8.5 กรัม
และน้ำมันเชื้อเพลิง 0.35 ลิตรต่อระยะทางขนส่ง 100 กิโลเมตร

ประมาณการว่ามีเครื่องซักผ้า 3.5 ล้านเครื่อง
ที่ขายได้ทุกปีในสหราชอาณาจักร
หากมีการติดตั้งอุปกรณ์น้ำหนักเบาแบบใหม่นี้ทดแทนก้อนคอนกรีต
จะช่วยลด CO2 ประมาณ 44,625 ตันต่อปี
และลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ 183,750 ลิตร
เมื่อขนส่งในระยะทางเฉลี่ยเพียง 50 กิโลเมตร

(น้ำหนักคอนกรีตประมาณ 87.5 ตัน
แทนด้วยพลาสติคที่หนักประมาณ 10.5 ตัน
ส่วนน้ำหนักที่เหลือค่อยไปเติมน้ำแทน)

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนส่วนหนึ่งจาก
บริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ Tochi Tech Ltd
ที่กำลังทำงานร่วมกับนักวิจัยและนักศึกษามหาวิทยาลัย
เพื่อหาทางออกที่ค่อนข้างสร้างสรรค์
และมีความยั่งยืนในการผลิตเครื่องซักผ้า

ศาสตราจารย์ Al-Habaibeh

" แนวทางแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนนี้
ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน
และใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น
สำหรับการขนส่งเท่านั้น

แต่ยังก่อให้เกิดประโยชน์ที่คำนึงถึง
หลักสรีรศาสตร์ สุขภาพ และความปลอดภัย
สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องซักผ้าดังกล่าว

นี่เป็นตัวอย่างที่เยี่ยมยอดมาก
ในการรวมกระบวนการเรียนการสอน
และการค้นคว้าวิจัยของเรา
เข้ากับอุตสาหกรรมการผลิต
เพื่อแก้ไขปัญหาที่แท้จริง
และสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงาน "

งานวิจัยนี้ได้รับเงินสนับสนุนผ่านทาง
หน่วยงาน Enabling Innovation
ที่ Nottingham Trent University https://goo.gl/XjUiaS
ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนการวิจัยจาก
กองทุนเพื่อการพัฒนาภูมิภาคยูโร
European Regional Development Fund
ซึ่งเป็นโครงการให้เงินทุนสนับสนุน
เพื่อช่วย SMEs ใน Derbyshire และ Nottinghamshire
ในการพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

Siobhan Urquhart ผู้ประสานงานด้านนวัตกรรม
ของ Enabling Innovation กล่าวว่า

" โครงการนี้เป็นโอกาสอันดี
ที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกันระหว่างธุรกิจท้องถิ่น
และความเชี่ยวชาญภายในมหาวิทยาลัยของเรา
ซึ่งได้ให้ผลลัพธ์ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
และเป็นโครงการที่เราภูมิใจอย่างมากที่ได้มีส่วนร่วมในการนี้ "




เรียบเรียง/ที่มา

https://goo.gl/XjUiaS
https://goo.gl/CqMpqn
https://goo.gl/VocvAm
https://goo.gl/puoc8X



หมายเหตุ

มหาวิทยาลัยบางแห่งในอังกฤษ/สหรัฐอเมริกา
ถ้านักศึกษาสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีระดับเกียรตินิยม
มักจะอนุญาตให้เรียนต่อปริญญาเอกได้เลย  http://bit.ly/2v1WMEH
เพื่อนำมาร่วมงานในตำแหน่งทีมผู้ช่วยนักวิจัยร่วมกับอาจารย์
บางรายอาจจะลงเรียนระดับปริญญาโทบางรายวิชาควบคู่กันไป

(10 รายที่อายุน้อยมาก ที่จบปริญญาเอก http://bit.ly/1o7WBb9
บางรายได้รับอนุมัติเรียนไป/วิจัยไปร่วมกับอาจารย์เลย
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี)

อนึ่ง มีบางหลักสูตร/บางมหาวิทยาลัยในไทย
ที่เคยพยายามเปิดสอนประเภทเรียน 6 ปี (ตรีควบโท) http://bit.ly/2x8l8tz
แล้วได้ทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท (เลียนแบบต่างชาติ)
แต่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาไทย  
มีการอนุมัติน้อยมากตอนนี้มีเพียง 10 สาขาวิชา
เพราะต้องมั่นใจในคุณภาพการเรียนการสอนจริง ๆ

แต่ถ้าเรียน 6 ปีแล้วเทียบเท่าปริญญาโทก็มี เช่น
คณะแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชศาสตร์ สัตวแพทย์ เป็นต้น