สวัสดีค่ะทุกคน
สืบเนื่องมาจาก กำลังคิดชื่อกระทู้ไม่ออกพอดี
แล้วเจอรีวิว เวียดนามเหนือ กินหรู อยู่สบาย ฉบับคนไม่โดนโกง
โอ้ว เหมือนโดนชื่อกระทู้ตบหน้าดังผัวะ เราเลยขอเป็นโลกคู่ขนาน เวียดนามใต้ ฉบับคนโดนโกงละกันนะ 5555
ขอบคุณ จขกท สำหรับแรงบันดาลใจด้วยค่ะ อิอิ
อย่างที่รู้กันแหละ เวียดนามใครๆก็บอกว่าโดนโกง เป็นประเทศในตำนาน 55 ไอเราก็แบบมันจะแค่ไหนกั๊นนนน จะพยายามตั้งสติ
จะต้องสตรองให้ได้ มาดูกันค่ะว่าสติจะเหลือแค่ไหน บอกเลยว่าถึงกับ ตั้ง แฮชแทก #ทริปคนซวย2017 กันไปเลย 555555555
ตารางการเดินทาง
14/06/60 : โฮจิมินห์-ดาลัท (นอนบนรถ)
15/06/60 : ดาลัท
16/06/60 : ดาลัท - มุ่ยเน่
17/06/60 : มุ่ยเน่-โฮจิมินห์ (นอนบนรถ)
18/06/60 : โฮจิมินห์
19/06/60 :โฮจิมินห์- กรุงเทพฯ
จุดเริ่มต้นมาจากสายการบิน แอร์เอเชียออกโปร 0 บาทเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เราเจอตั๋ว กรุงเทพ-โฮจิมินห์ในราคาเที่ยวละ 750 บาท เดินทาง 14-19 มิถุนายน 2560 คือถูกมาก ไม่ได้คิดอะไรมากมาย หาสมาชิกได้ 4 คน อะจองงงง
แล้วเวลาก็ล่วงเลยไป 1 ปีพอดี ได้เวลาเดินทาง
Day 1
วันนี้เราเดินทางจากสนามบินดอนเมือง โดยสายการบิน Airasia FD 605 เวลา 7.45 น. ถือว่าเป็นเวลาดีมากๆเลยทีเดียว เป็นการแบกเป้มาหนึ่งใบด้วยใจที่ไม่พร้อม 55555 โนแพลน โนการจองใดๆ แต่ก็คิดๆไว้บ้างว่าจะไปไหนบ้าง เดินทางด้วยวิธีการใด อะไรประมาณนี้ ถึงจะไม่ได้แพลนแต่ก็อ่านรีวิวมาเยอะมาก เรียกได้ว่าทุกรีวิวในพันทิปอาจจะผ่านตาเราหมดแล้วแหละ แต่สมองจดจำมั้ยนั่นอีกเรื่องนึง 5555 แล้วจำได้ ? โดยทริปนี้เรามีผู้ร่วมเดินทาง 3 คน
ย้อนภาพไปคืนก่อนเดินทาง 1 ในสมาชิก ไลน์มาบอกว่า ไปไม่ได้แล้ว !!!!!! โอโห ไม่ทันได้เตรียมใจว่าจะโดนเท คือเฮิร์ทมากกกกกก 5555 ช่วยกันง้อมันทุกวิถีทาง ง้อหนักกว่าง้อแฟนก็ไม่ได้ผล หงอยสิ ทริปก็รวนนนนไปหมด (เพราะ 2 ชะนีขี่มอเตอไซค์ไม่เป็น) สุดท้ายก็เลยเหลือกันแค่ 3 คนคือ เรา แฟนเรา และเพื่อนเรา แหม่กลายเป็น ทริปเราสองสามคนที่แท้ทรู !!! 555
หลับแปบเดียว ก็เดินทางมาถึง โฮจิมินห์ ประมาณ 9 โมงกว่า ผ่าน ตม. ปกติ เดินลงบันไดเลื่อนมา ไปแลกเงินก่อนเลย
หลายๆคนแนะนำมาว่า ให้นำเงิน USD ไปแลก VND (เงินดอง) ที่นู่น โดยเรทของร้านทองในเมืองจะถูกกว่าสนามบิน เราก็แลกนิดเดียว เพื่อซื้อซิมและเป็นค่ารถเข้าเมือง และตรงดิ่งไปซื้อซิมก่อนเลย ( ปกติเราชอบเที่ยวแบบไม่ซื้อซิม ตัดขาดโลก) แต่ทริปนี้รู้ตัวดีว่าไม่มีเน็ตกุต้องไม่รอดแน่ๆ 555555 ร้านซิมก็มีมากมาย เราก็ไม่รู้ว่าใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกเหมือนกัน เลยเจอร้านริมซ้ายสุด คนมุงๆเยอะ เลยตามกระแส 55 ได้ซิมมาใน ราคา 200 บาท ใช้เน็ตได้อย่างเดียว 7 วัน เน็ตแรงดีแบบเว่อวังอลังการ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้อัพรูป เชคอิน อัพเตตัส ดีกว่าไทยเยอะ 5555
ออกจากประตูสนามบินให้เลี้ยวขวานะคะ เราจะเดินทางด้วยรถเมล์เข้าเมืองกันค่ะ เป็นวิธีที่ถูกที่สุดแล้ว ออกไปก็จะเจอคนเดินมาคุยกับเรามากมายค่ะ แต่ไม่ต้องสนใจเดินไปให้ถึงชานชาลาสุดท้ายรถเมล์คันสีเขียว สาย 152 นั่นแหละขึ้นไปเลย ค่ารถ 5,000 ดอง ตีเป็นเงินไทย 8 บาท ขึ้นไปนั่งรออยู่พักนึงค่ะ แอร์ไม่เปิดให้ด้วยยย ร้อนมากกกกกก ร้อนกว่ากรุงเทพก็โฮจิมินห์นี่แหละค่า
สภาพในรถก็ประมาณนี้
ประมาณ 20 นาที เราก็เดินทางมาถึงฟามงูเหลา เราเลือกจะมาลงที่นี่เพื่อจัดการหาตั๋วรถไปดาลัทในคืนนี้ก่อน ตอนลงรถเมล์เดินตรงมาค่ะ ถึงแยกแรกให้เลี้ยวซ้าย จะเจอหลายบริษัท เราเดินถามหลายบริษัทอยู่นะ ราคาแต่ละที่ต่างกันหลัก 10 ถึงร้อยต้นๆ แต่เราเห็นรีวิวใครๆก็ไป Viet sea เราก็เลย vietsea ด้วย บวกกับหน้าร้านดูดีและพนักงานพูดภาษาอังกฤษรู้เรื่องที่สุดแล้ว 555 เราก็ได้ตั๋วรถรอบ 23.00 น. มาในราคา 380 บาท ฝากกระเป๋าและอาบน้ำที่นี่ได้
อะได้เวลาเที่ยวซะที วันนี้ก็กะเดินเล่นไปเรื่อยๆ เก็บไม่ครบช่างมันเพราะเรามีเวลาตั้ง 6 วัน
อยู่ในโฮจิมินห์ใช้เปิด GPS เดินอย่างเดียวเลยค่ะ ที่แรกที่จะไปคือ ตลาดเบนถัน ไปแลกเงินที่ร้านทองตรงข้ามตลาดกันก่อนค่ะ ระหว่างทางก็เดินหาของกิน เพราะหิวมาก บ่ายแล้ว จะกินก็สุ่มๆเอาเลย พอดีสุ่มเจอร้านเฝอ เข้าเลยค่ะ ดูกินง่ายที่สุดแล้ว เข้าไปถึงพนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ชี้ๆบอกไปว่าเหมือนโต๊ะข้างๆ 555


อร่อยดีค่ะ มีผักอะไรไม่รุ้ ฉุนๆเย็นๆ ให้ใส่
และมีขวดกะปิให้เติม (ไม่แน่ว่าคืออะไรแต่กลิ่นคือกะปิบ้านเราอะค่ะ ลองใส่ดูไม่ไหวอะ ไม่โอเครรรร 555)
ร้านอยู่ตรงถนนเส้นที่หันหน้าเข้าหาตลาดเบนถันเลยค่ะ มองตรงไปจะเจอวิวนี้ ร้านอยู่ซ้ายมือ ตรงมุมถนน


หลักจากเติมพลังเต็มที่ก็เดินต่อไปตลาดเบนถันแลกเงินที่นี่ค่ะ อยู่ตรงข้ามทางเข้าตลาด

หลังจากนั้นเราก็เดินเที่ยว หลงไปหลงมาเก็บแลนด์มาร์คไปเรื่อยๆค่ะ ที่แรกที่ไปคือ โบสถ์นอทเธอดาร์ม ระหว่างทางเดินก็จะเจอคนขายน้ำมะพร้าวหลายคนมาก นางก็เดินเข้ามาถาม where are you from? ก็ตอบไปว่า Thailand นางก็ทำเป็นคุยกับแฟนเราว่า You look like Vietnamese นะไรงี้ นางก็เอาหาบนางมาให้ลองแบก แล้วหันมาบอกเราว่า you can take a photo แหม่ๆ กรูอ่านรีวิวมา No thank u kaaa อย่ามาหลอกเอาตัง 55555555 แต่นางยังไม่หยุด นางเฉาะมะพร้าวยัดใส่มือพวกเราเลย เราถามว่าฟรีหรอ นางไม่พูด เฉาะลูกที่สอง และกำลังจะลูกที่สาม จนเราบอกว่าพอแล้วๆๆๆ กินไม่หมด และนางก็คิดเงิน เป็นเงินไทย 150 บาท โอ้ยยยยย แพงงงง แต่ก็ไม่รุ้อะ จ่ายๆมันไป มาวันแรก เวลต่ำขี้เกียจสู้ เริ่มทริปก็พลาดแระ หงุดหงิดมากจริงๆ และหงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีกเมื่อการเฉาะของนางทำได้เพียงดูดน้ำแล้วคือไง เนื้อไม่ให้กินหรออออ โมโห โยนทิ้งถังขยะไป 555555
จดจำเธอไปแสนนานนนน !!!!!

ตัดภาพมาเรื่องเที่ยวต่อ ถึงแล้ววววว โบถส์นอร์ทเธอดาม เราชอบนะ ใหญ่และสวยมาก
อะถ่ายวนไปให้ครบรอบโบสถ์ 555





แต่พอเข้าไปข้างในกลับเรียบง่าย ธรรมดา ไม่ได้สวยอลังการ เพื่อนเราหาข้อมูลมาได้ว่า ที่นี่ไม่มีการประดับกระจกเหมือนเช่นที่อื่น ก็เพราะได้รับความเสียหายจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเองค่ะ

ี่ต่อไป ก็คือไปรษณีย์กลางค่ะ อยู่ติดกับโบถส์เลยย เป็นไปรษณีย์ที่ปัจจุบันยังให้บริการอยู่นะคะ



ละก็เดินหลงมาหลงไป เดินจนปวดขา ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยเปื่อย
เก็บบรรยากาศบ้านเมืองโฮจิมินห์มาฝากค่ะ


รถเยอะมากกกกก ข้ามถนนทีหัวใจจะวายตาย มาวันแรกยังไม่ชินอะ


เดินมั่วไปเรื่อยๆ จนเดินมาเจอ ลุงโฮค่ะ


หันหลังให้ลุงโฮจะเจอลานแบบนี้เดินตรงมาเรื่อยๆอีกนิด จะเจอ the apartment café ค่ะ

เก๋ดีอะ เราชอบที่นี่มาก ไอเดียดี เป็นการเอาอพาร์ทเม้นเก่ามาดัดแปลง ร้านก็สวยๆทุกร้านเลยค่ะ ชอบร้านไหนเลือกเอาเลย

ทางเข้าหน้าตาเป็นแบบนี้นะ

เดินเข้าไปเลยค่ะ มันมีลิฟท์นะคะ แต่เราขึ้นบันได จะได้เดินดูไปเรื่อยๆ จำไม่ได้เหมือนกันว่ามีกี่ชั้น จำได้แค่ว่า เหนื่อยมาก 5555555
ขอเดินถ่ายรูปก่อนซักรอบ ใครสายคาเฟ่น่าจะชอบนะ




มีวิวให้ชม
สภาพตึกก็เหมือนหอเก่าๆอะค่ะ มีความบุฟผาราตรี ถ้าเดินตอนกลางคืนก็แอบหลอนนะคะ555

พอเดินครบทุกชั้นแล้วเราก็ใช้การสุ่มร้านที่จะนั่งเอานะ จบลงที่ร้านนี้

เพราะไม่มีคน และที่สำคัญคือติดแอร์ 555 ร้อนน เมนูเครื่องดื่มราคาเรทพอๆกับคาเฟ่ในไทยเลยค่ะ อาจจะถูกกว่าหน่อยนึง ส่วนเบียร์คือถูกมากกกก สั่งน้ำไป 2แก้ว เบียร์ 1 ขวด หมดไป 225 บาทค่ะ

บรรยากาศภายในร้านค่ะ

พื้นสวยดีจัง ชอบๆ


นั่งกันพอให้หายร้อน หลังจากนั้นก็เดินไปที่ริมน้ำค่ะ แต่ก็พบกับความว่างเปล่า555 มันไม่มีอะไรเลยอะ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาน่าตื่นเต้นกว่าอีก จะว่าสงบก็ไม่สงบนะ เพราะแตรรถดังมาก !
แต่ที่ตื่นเต้นกว่าคือ ถนนเส้นเลียบแม่น้ำคือ มันมาก รถเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว สรุปคือไปข้ามถนนเล่นนั่นเอง พูดถึงการข้ามถนนเวียดนามนี่เป็นที่กล่าวขานมาก เป็น 1ใน bucket list ของเราเหมือนกัน ได้มาลองละ สุดจริงๆ ถึงจะรู้สึกว่ามันน่ากลัวขนาดไหน แต่เราก็ยังรุ้สึกปลอดภัยมากกว่าข้ามถนนในกรุงเทพเยอะอะ จริงๆนะ ต้องมาลอง
ขากลับเดินผ่านไปเจอ ปั๊มน้ำมันอย่างเท่อะ อยู่โดดๆกลางถนน ดูเอาแต่ใจอะ55

ประมาณ 2 ทุ่มเราเดินกลับไป ที่ vietsea เพื่อที่จะอาบน้ำ แต่เอิ่มมม ไม่มีผ้าเช็ดตัว 55 ลืมคิดถึงจุดนี้ไป แค่จะบอกว่า อย่าลืมพกผ้าเช็ดตัวกันมาด้วยนะ
[CR] ทริป 6 วัน 5 คืน โฮจิมินห์-ดาลัท-มุ่ยเน่ (ฉบับคนโดนโกง!) เวียดนามใต้จ๋าป้าไม่รอด
สืบเนื่องมาจาก กำลังคิดชื่อกระทู้ไม่ออกพอดี
แล้วเจอรีวิว เวียดนามเหนือ กินหรู อยู่สบาย ฉบับคนไม่โดนโกง
โอ้ว เหมือนโดนชื่อกระทู้ตบหน้าดังผัวะ เราเลยขอเป็นโลกคู่ขนาน เวียดนามใต้ ฉบับคนโดนโกงละกันนะ 5555
ขอบคุณ จขกท สำหรับแรงบันดาลใจด้วยค่ะ อิอิ
อย่างที่รู้กันแหละ เวียดนามใครๆก็บอกว่าโดนโกง เป็นประเทศในตำนาน 55 ไอเราก็แบบมันจะแค่ไหนกั๊นนนน จะพยายามตั้งสติ
จะต้องสตรองให้ได้ มาดูกันค่ะว่าสติจะเหลือแค่ไหน บอกเลยว่าถึงกับ ตั้ง แฮชแทก #ทริปคนซวย2017 กันไปเลย 555555555
14/06/60 : โฮจิมินห์-ดาลัท (นอนบนรถ)
15/06/60 : ดาลัท
16/06/60 : ดาลัท - มุ่ยเน่
17/06/60 : มุ่ยเน่-โฮจิมินห์ (นอนบนรถ)
18/06/60 : โฮจิมินห์
19/06/60 :โฮจิมินห์- กรุงเทพฯ
จุดเริ่มต้นมาจากสายการบิน แอร์เอเชียออกโปร 0 บาทเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เราเจอตั๋ว กรุงเทพ-โฮจิมินห์ในราคาเที่ยวละ 750 บาท เดินทาง 14-19 มิถุนายน 2560 คือถูกมาก ไม่ได้คิดอะไรมากมาย หาสมาชิกได้ 4 คน อะจองงงง
แล้วเวลาก็ล่วงเลยไป 1 ปีพอดี ได้เวลาเดินทาง
Day 1
วันนี้เราเดินทางจากสนามบินดอนเมือง โดยสายการบิน Airasia FD 605 เวลา 7.45 น. ถือว่าเป็นเวลาดีมากๆเลยทีเดียว เป็นการแบกเป้มาหนึ่งใบด้วยใจที่ไม่พร้อม 55555 โนแพลน โนการจองใดๆ แต่ก็คิดๆไว้บ้างว่าจะไปไหนบ้าง เดินทางด้วยวิธีการใด อะไรประมาณนี้ ถึงจะไม่ได้แพลนแต่ก็อ่านรีวิวมาเยอะมาก เรียกได้ว่าทุกรีวิวในพันทิปอาจจะผ่านตาเราหมดแล้วแหละ แต่สมองจดจำมั้ยนั่นอีกเรื่องนึง 5555 แล้วจำได้ ? โดยทริปนี้เรามีผู้ร่วมเดินทาง 3 คน
ย้อนภาพไปคืนก่อนเดินทาง 1 ในสมาชิก ไลน์มาบอกว่า ไปไม่ได้แล้ว !!!!!! โอโห ไม่ทันได้เตรียมใจว่าจะโดนเท คือเฮิร์ทมากกกกกก 5555 ช่วยกันง้อมันทุกวิถีทาง ง้อหนักกว่าง้อแฟนก็ไม่ได้ผล หงอยสิ ทริปก็รวนนนนไปหมด (เพราะ 2 ชะนีขี่มอเตอไซค์ไม่เป็น) สุดท้ายก็เลยเหลือกันแค่ 3 คนคือ เรา แฟนเรา และเพื่อนเรา แหม่กลายเป็น ทริปเราสองสามคนที่แท้ทรู !!! 555
หลับแปบเดียว ก็เดินทางมาถึง โฮจิมินห์ ประมาณ 9 โมงกว่า ผ่าน ตม. ปกติ เดินลงบันไดเลื่อนมา ไปแลกเงินก่อนเลย
หลายๆคนแนะนำมาว่า ให้นำเงิน USD ไปแลก VND (เงินดอง) ที่นู่น โดยเรทของร้านทองในเมืองจะถูกกว่าสนามบิน เราก็แลกนิดเดียว เพื่อซื้อซิมและเป็นค่ารถเข้าเมือง และตรงดิ่งไปซื้อซิมก่อนเลย ( ปกติเราชอบเที่ยวแบบไม่ซื้อซิม ตัดขาดโลก) แต่ทริปนี้รู้ตัวดีว่าไม่มีเน็ตกุต้องไม่รอดแน่ๆ 555555 ร้านซิมก็มีมากมาย เราก็ไม่รู้ว่าใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกเหมือนกัน เลยเจอร้านริมซ้ายสุด คนมุงๆเยอะ เลยตามกระแส 55 ได้ซิมมาใน ราคา 200 บาท ใช้เน็ตได้อย่างเดียว 7 วัน เน็ตแรงดีแบบเว่อวังอลังการ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้อัพรูป เชคอิน อัพเตตัส ดีกว่าไทยเยอะ 5555
ออกจากประตูสนามบินให้เลี้ยวขวานะคะ เราจะเดินทางด้วยรถเมล์เข้าเมืองกันค่ะ เป็นวิธีที่ถูกที่สุดแล้ว ออกไปก็จะเจอคนเดินมาคุยกับเรามากมายค่ะ แต่ไม่ต้องสนใจเดินไปให้ถึงชานชาลาสุดท้ายรถเมล์คันสีเขียว สาย 152 นั่นแหละขึ้นไปเลย ค่ารถ 5,000 ดอง ตีเป็นเงินไทย 8 บาท ขึ้นไปนั่งรออยู่พักนึงค่ะ แอร์ไม่เปิดให้ด้วยยย ร้อนมากกกกกก ร้อนกว่ากรุงเทพก็โฮจิมินห์นี่แหละค่า
สภาพในรถก็ประมาณนี้
ประมาณ 20 นาที เราก็เดินทางมาถึงฟามงูเหลา เราเลือกจะมาลงที่นี่เพื่อจัดการหาตั๋วรถไปดาลัทในคืนนี้ก่อน ตอนลงรถเมล์เดินตรงมาค่ะ ถึงแยกแรกให้เลี้ยวซ้าย จะเจอหลายบริษัท เราเดินถามหลายบริษัทอยู่นะ ราคาแต่ละที่ต่างกันหลัก 10 ถึงร้อยต้นๆ แต่เราเห็นรีวิวใครๆก็ไป Viet sea เราก็เลย vietsea ด้วย บวกกับหน้าร้านดูดีและพนักงานพูดภาษาอังกฤษรู้เรื่องที่สุดแล้ว 555 เราก็ได้ตั๋วรถรอบ 23.00 น. มาในราคา 380 บาท ฝากกระเป๋าและอาบน้ำที่นี่ได้
อะได้เวลาเที่ยวซะที วันนี้ก็กะเดินเล่นไปเรื่อยๆ เก็บไม่ครบช่างมันเพราะเรามีเวลาตั้ง 6 วัน
อยู่ในโฮจิมินห์ใช้เปิด GPS เดินอย่างเดียวเลยค่ะ ที่แรกที่จะไปคือ ตลาดเบนถัน ไปแลกเงินที่ร้านทองตรงข้ามตลาดกันก่อนค่ะ ระหว่างทางก็เดินหาของกิน เพราะหิวมาก บ่ายแล้ว จะกินก็สุ่มๆเอาเลย พอดีสุ่มเจอร้านเฝอ เข้าเลยค่ะ ดูกินง่ายที่สุดแล้ว เข้าไปถึงพนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ชี้ๆบอกไปว่าเหมือนโต๊ะข้างๆ 555
และมีขวดกะปิให้เติม (ไม่แน่ว่าคืออะไรแต่กลิ่นคือกะปิบ้านเราอะค่ะ ลองใส่ดูไม่ไหวอะ ไม่โอเครรรร 555)
ร้านอยู่ตรงถนนเส้นที่หันหน้าเข้าหาตลาดเบนถันเลยค่ะ มองตรงไปจะเจอวิวนี้ ร้านอยู่ซ้ายมือ ตรงมุมถนน
หลักจากเติมพลังเต็มที่ก็เดินต่อไปตลาดเบนถันแลกเงินที่นี่ค่ะ อยู่ตรงข้ามทางเข้าตลาด
หลังจากนั้นเราก็เดินเที่ยว หลงไปหลงมาเก็บแลนด์มาร์คไปเรื่อยๆค่ะ ที่แรกที่ไปคือ โบสถ์นอทเธอดาร์ม ระหว่างทางเดินก็จะเจอคนขายน้ำมะพร้าวหลายคนมาก นางก็เดินเข้ามาถาม where are you from? ก็ตอบไปว่า Thailand นางก็ทำเป็นคุยกับแฟนเราว่า You look like Vietnamese นะไรงี้ นางก็เอาหาบนางมาให้ลองแบก แล้วหันมาบอกเราว่า you can take a photo แหม่ๆ กรูอ่านรีวิวมา No thank u kaaa อย่ามาหลอกเอาตัง 55555555 แต่นางยังไม่หยุด นางเฉาะมะพร้าวยัดใส่มือพวกเราเลย เราถามว่าฟรีหรอ นางไม่พูด เฉาะลูกที่สอง และกำลังจะลูกที่สาม จนเราบอกว่าพอแล้วๆๆๆ กินไม่หมด และนางก็คิดเงิน เป็นเงินไทย 150 บาท โอ้ยยยยย แพงงงง แต่ก็ไม่รุ้อะ จ่ายๆมันไป มาวันแรก เวลต่ำขี้เกียจสู้ เริ่มทริปก็พลาดแระ หงุดหงิดมากจริงๆ และหงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีกเมื่อการเฉาะของนางทำได้เพียงดูดน้ำแล้วคือไง เนื้อไม่ให้กินหรออออ โมโห โยนทิ้งถังขยะไป 555555
จดจำเธอไปแสนนานนนน !!!!!
ตัดภาพมาเรื่องเที่ยวต่อ ถึงแล้ววววว โบถส์นอร์ทเธอดาม เราชอบนะ ใหญ่และสวยมาก
อะถ่ายวนไปให้ครบรอบโบสถ์ 555
แต่พอเข้าไปข้างในกลับเรียบง่าย ธรรมดา ไม่ได้สวยอลังการ เพื่อนเราหาข้อมูลมาได้ว่า ที่นี่ไม่มีการประดับกระจกเหมือนเช่นที่อื่น ก็เพราะได้รับความเสียหายจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเองค่ะ
ี่ต่อไป ก็คือไปรษณีย์กลางค่ะ อยู่ติดกับโบถส์เลยย เป็นไปรษณีย์ที่ปัจจุบันยังให้บริการอยู่นะคะ
ละก็เดินหลงมาหลงไป เดินจนปวดขา ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยเปื่อย
เก็บบรรยากาศบ้านเมืองโฮจิมินห์มาฝากค่ะ
เก๋ดีอะ เราชอบที่นี่มาก ไอเดียดี เป็นการเอาอพาร์ทเม้นเก่ามาดัดแปลง ร้านก็สวยๆทุกร้านเลยค่ะ ชอบร้านไหนเลือกเอาเลย
ขอเดินถ่ายรูปก่อนซักรอบ ใครสายคาเฟ่น่าจะชอบนะ
สภาพตึกก็เหมือนหอเก่าๆอะค่ะ มีความบุฟผาราตรี ถ้าเดินตอนกลางคืนก็แอบหลอนนะคะ555
แต่ที่ตื่นเต้นกว่าคือ ถนนเส้นเลียบแม่น้ำคือ มันมาก รถเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว สรุปคือไปข้ามถนนเล่นนั่นเอง พูดถึงการข้ามถนนเวียดนามนี่เป็นที่กล่าวขานมาก เป็น 1ใน bucket list ของเราเหมือนกัน ได้มาลองละ สุดจริงๆ ถึงจะรู้สึกว่ามันน่ากลัวขนาดไหน แต่เราก็ยังรุ้สึกปลอดภัยมากกว่าข้ามถนนในกรุงเทพเยอะอะ จริงๆนะ ต้องมาลอง
ขากลับเดินผ่านไปเจอ ปั๊มน้ำมันอย่างเท่อะ อยู่โดดๆกลางถนน ดูเอาแต่ใจอะ55
ประมาณ 2 ทุ่มเราเดินกลับไป ที่ vietsea เพื่อที่จะอาบน้ำ แต่เอิ่มมม ไม่มีผ้าเช็ดตัว 55 ลืมคิดถึงจุดนี้ไป แค่จะบอกว่า อย่าลืมพกผ้าเช็ดตัวกันมาด้วยนะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น